|
"น้องอ้อ" ซิวน.ส.ไทย "น้ำผึ้ง" ตัวเต็งวูบคาเวที ถูกหามส่งรพ.ด่วน
"น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ นางสาวไทยประจำปี 2550
'น้องมีนา' รองอันดับ 1 (ซ้าย) และ "น้องอ้อ"
เปิดเวทีเฟ้นหาสาวงามมานานนับเดือนสำหรับการประกวดความงามเวที ''นางสาวไทย ประจำปี 2550'' ซึ่งล่าสุดเวทีแห่งศักดิ์ศรีสตรีไทยนี้ ก็ได้จัดให้มีการประกวดในรอบตัดสินกันไปแล้ว เมื่อค่ำคืนวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องรอยัล จิวเวลรี่ อิมแพค เมืองทองธานี ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคัก ซึ่งทางกองสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ทีไอทีวี และ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ วิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้ดำเนินการประกวด ก็ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติหลากหลายสาขาอาชีพ มาร่วมเป็นสักขีพยานในการค้นหาทูตวัฒนธรรมคนที่ 43 ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
โดยการประกวดเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. ด้วยการปรากฏตัวของ 2 พิธีกร ได้แก่ ''นุ้ย'' สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นางสาวไทยประจำปี 2544 และวิลลี่ แมคอินทอช ดาราและพิธีกรชื่อดัง ที่ออกมาแนะนำตัว พร้อมกับเปิดเวทีด้วยบทเพลงบรรเลงพระราชนิพนธ์ ''ลมหนาว'' สลับการบรรเลงดนตรีสด ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่การใช้ขิมติดแสงระยิบระยับ พร้อมกับเครื่องกังวานต่างๆ โดยเฉพาะกลองโทน ซึ่งก็แสดงถึงความยิ่งใหญ่สมกับปีมหามงคลของประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี
จากนั้นก็เป็นการเปิดตัวงามทั้ง 18 คน ในชุดราตรีสั้น ภายใต้การแสดงชุดประกายแห่งแผ่นดิน กับบทเพลง '' ไส้พระจันทร์'' ตามด้วย VTR ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ ของผู้เข้าประกวด ต่อมาสาวงามในชุดราตรียาว ก็ปรากฏโฉมอีกครั้ง พร้อมกับการแสดง ''ประกายแห่งแผ่นดิน 2'' ที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและหนักแน่นด้วยเสียงกลองทัด สลับด้วยเสียงสีไวโอลิน ก่อนที่ ''หมิง'' ชาลิสา บุญครองทรัพย์ นางสาวไทย ประจำปี 2545 ซึ่งมารับหน้าที่พิธีกรภาคสนาม จะพาไปชม VTR กิจกรรมสัมมนา รณรงค์เกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อน และการประดิษฐ์กระเป๋าผ้าสไตล์ส่วนตัว ของผู้เข้าประกวดในปีนี้
ช่วงต่อมาถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานในค่ำคืนนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อทางกองประกวดได้รวบรวมอดีตนางสาวไทยปีต่างๆ มาถ่ายทอดความรู้สึกผ่านโชว์ที่ใช้ชื่อชุดว่า ''บุญของแผ่นดิน'' ประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ ''สายฝน'' ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่กับฉากสุดอลังการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส ครบรอบ 80 พรรษา นอกจากนี้การแสดงชุดดังกล่าวยังเป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อกระตุ้นเตือนให้คนไทยหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสพิเศษนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา พิธีกรก็ได้ประกาศรางวัลพิเศษต่างๆ ประกอบไปด้วย นางงามผิวสวย โดยผลิตภัณฑ์สก๊อต คอลลาเจน อี ซึ่งผู้ที่ได้รางวัลในปีนี้ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 14 ''น้องมีนา'' ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา, Miss Healthy โดย คังเซน เคนโก ได้แก่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ , Miss Prefect โดยเครื่องเล่นดีวีดี และ Home Theater AJ ได้แก่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ , Miss Think Positive โดยเครื่องสำอาง BSC Cosmetology ได้แก่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 "น้องกุ้งนาง" พิชามญชุ์ เขียวทอง ,นางงามมิตรภาพ โดย เจเล่ ไลท์ ได้แก่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ และ นางงามบุคลิกภาพ โดยผลิตภัณฑ์ BSC ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ได้แก่ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 "น้องกุ้งนาง" พิชามญชุ์ เขียวทอง
หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีการสำคัญกับการประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย เพราะเหล่าสาวงามตัวเต็งต่างหลุดเข้ามาสู่รอบนี้กันหลายคน ประกอบไปด้วยหมายเลข 13 "น้องเดือน" มณฑาทิพย์ ใจห้าว , หมายเลข 14 ''น้องมีนา'' ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา, หมายเลข 3 "น้องน้ำผึ้ง" ชมพูนุช ลออรวรรณากร, หมายเลข 5 "น้องซี" มันตรินี ตรีชัชวาลวงศ์, หมาย 18 "น้องกุ้งนาง" พิชามญชุ์ เขียวทอง, หมายเลข 8 "น้องขวัญ" ขวัญ ศรีสำรวล, หมายเลข 7 "น้องปอม" เปมิกา วรผลึก, หมายเลข 17 "น้องจ๋า" ภัทราภรณ์ กันยะมี , หมายเลข 6 "น้องเฟิร์น" เกวรินทร์ จิตตั้งตรง และหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์
คั่นเวลาแห่งความตื่นเต้นกับบทเพลงของสาวเสียงสวย คุณนันทิดา อัศวเหม ที่มาพร้อมกับบทเพลง ต้นไม้ของพ่อ และ เพลงทรายกับทะเล ก่อนที่สาวงามที่เข้ารอบทั้ง 10 คนจะต้องเลือกซองคำถามจากคณะกรรมการ โดยคำถามทั้งหมดในปีนี้ ก็เป็นไปตามคอนเซปต์ของการประกวด ที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ''Global warming'' ทั้งหมด ซึ่งผู้เข้าประกวดที่ฝ่าด่านผ่านมาถึงรอบนี้ได้ ต่างก็งัดความรู้ความสามารถ โชว์กึ๋นกันแบบเต็มที่ เรียกว่าทุกคนสามารถตอบโจทย์ของเวทีนางสาวไทยที่ว่า งามล้ำค่า กัลยาเทิดแผ่นดิน ได้ดีเลยทีเดียว
การประกวดในช่วงสุดท้าย เริ่มจากการฉาย VTR เก็บตัวสาวงามที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ก่อนจะมีการประกาศรางวัลสำคัญอีก 2 ตำแหน่ง นั่นคือ รางวัลขวัญใจประชาชน โดยเครื่องดื่มตราช้าง ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมโหวตขวัญใจของพวกเขาทาง SMS ซึ่งรางวัลขวัญใจประชาชนก็ตกเป็นของผู้เข้าประกวดหมายเลข 7 "น้องปอม" เปมิกา วรผลึก และที่ขาดไม่ได้อีกรางวัล คือขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน โดยสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้สื่อฯ ทุกแขนงก็เทคะแนนให้ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 "น้องน้ำผึ้ง" ชมพูนุช ลออรวรรณากร คว้ารางวัลไปนอนกอดแบบไร้คู่แข่ง
และช่วงเวลาแห่งความระทึกใจก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ เมื่อพิธีกรบนเวทีประกาศผลสาวงามที่ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ซึ่งประกอบไปด้วยหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ , หมายเลข 3 "น้องน้ำผึ้ง" ชมพูนุช ลออรวรรณากร และหมายเลข 14 ''น้องมีนา'' ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ก่อนที่สาวงามทั้ง 3 คนต้องตอบคำถามเดียวกัน เพื่อดูปฏิภาณไหวพริบ โดยมีตู้เก็บเสียงให้กับอีก 2 สาวงามที่ยืนรอตอบคำถาม ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบกัน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างตอบคำถามได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 "น้องน้ำผึ้ง" ชมพูนุช ลออรวรรณากร เกิดอาการเครียดลงกระเพาะ จนไม่สามารถตอบคำถามของพิธีกรได้ ถึงขั้นเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาล สร้างความตกใจให้ผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก
แต่การประกวดยังต้องดำเนินต่อไป โดยนางงามอีกสองคนที่เหลือสามารถตอบคำถามได้ตามปกติ จากนั้นก็เป็นการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ ''เจี๊ยบ'' ลลนา ก้องธรนินทร์ นางสาวไทยประจำปี 2549 ซึ่งออกมากล่าวอำลาตำแหน่งพร้อมส่งมอบหน้าที่ทูตวัฒนธรรมให้กับสาวงามคนต่อไป โดยมีการฉาย VTR ภารกิจนางสาวไทยตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของเจ้าตัวด้วย
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย เมื่อพิธีกรได้ประกาศผลสาวงามที่จะมาดำรงตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2550 ซึ่งรางวัลแห่งเกียรติยศบนเวทีแห่งศักดิ์ศรีสตรีไทยในปีนี้ก็ตกเป็นของผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 "น้องอ้อ" อังคณณา ตรีรัตนาทิพย์ สาวสวยวัย 22 ปี เจ้าของสัดส่วน 33-24-36 สูง 172 ซม. น้ำหนัก 50 กก. ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะพานิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนรองอันดับ 1 ตกเป็นของหมายเลข 14 ''น้องมีนา'' ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 24 ปี สูง 173 ซม. น้ำหนัก 53 กก. จบการศึกษาปริญญาตรี คณะ Media and communications The University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย และรองอันดับ 2 ได้แก่หมายเลข 3 "น้องน้ำผึ้ง" ชมพูนุช ลออรวรรณากร อายุ 20 ปี สูง 168 ซม. น้ำหนัก 49 กก.ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โดยรางวัลที่นางสาวไทยปี 2550 จะได้รับนั้นมีมูลค่ารวมกันกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย เงินสดมูลค่า 1 ล้านบาท, มงกุฎเพชร, สายสะพาย, ถ้วยรางวัล, รถยนต์ CHEVROLET CAPTIVA มูลค่า 1.5 ล้านบาท, เครื่องประดับเพชรมูลค่า 200,000 บาท, กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคลจาก AIA มูลค่า 1 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์สก๊อต คอลลาเจน อี ดื่มฟรีตลอด 1 ปี, เครื่องสำอาง BSC Cosmetology, ชุดเครื่องเล่น DVD และ Home Theater และรางวัลอื่นๆ จากผู้สนับสนุนการประกวดอีกมากมายด้วย
ผลการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2550
ตำแหน่งนางสาวไทย 2550 ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 1 อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ ชื่อเล่น อ้อ อายุ22ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังศึกษา ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กรุงเทพมหานคร เธอจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมมงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศและรถยนต์ CHEVROLET CAPTIVA มูลค่า 1.5 ล้านบาท รวมมูลค่าของรางวัลที่นางสาวไทยได้รับทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาท นอกจากนี้เธอยังคว้าตำแหน่งรางวัลพิเศษมาครองอีกถึง 3 รางวัล ได้แก่ ตำแหน่ง นางงามมิตรภาพ, ตำแหน่ง Miss Perfect และ ตำแหน่ง Miss Healthy
ตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับ 1 ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 14 ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ชื่อเล่น มีนา อายุ24ปี The University of Melbourne จบการศึกษา คณะMedia and Communications กรุงเทพมหานคร เธอจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศและรางวัลอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้รับตำแหน่งรางวัลพิเศษมาครอง 2 ตำแหน่งได้แก่ ตำแหน่ง ขวัญใจชาวตราด และตำแหน่ง นางงามผิวสวย
ตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับ 2 ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 3 ชมพูนุช ลออวรรณากร ชื่อเล่น น้ำผึ้ง อายุ20ปี กำลังศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ กรุงเทพมหานคร เธอจะได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศและรางวัลอื่นๆ
ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 3 ชมพูนุช ลออวรรณากร เธอจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
ตำแหน่งขวัญใจประชาชน ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 7 เปมิกา วรผลึก ชื่อเล่น ปอม อายุ21ปี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กำลังศึกษา ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ กรุงเทพมหานคร เธอจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศและของรางวัล
ตำแหน่ง"Miss Think Positive" และตำแหน่ง"นางงามบุคลิกภาพ" ได้แก่ผู้เข้าประกวด หมายเลข 18 พิชามญชุ์ เขียวทอง ชื่อเล่น กุ้งนาง อายุ24ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังศึกษา ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ กรุงเทพมหานคร
น้องอ้อสาวจุฬา คว้ามงกุฎ นางสาวไทย
ค่ำคืนของการตัดสินว่าสาวงามผู้ใดใน 18 คน ที่เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2550 งามล้ำค่า กัลยาเทอดแผ่นดิน จะได้ครอบครองมงกุฎแห่งเกียรติยศในปีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี และมีการจำหน่ายบัตรราคา 800 บาท เพื่อนำรายได้เข้าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ด้วยการเดินโชว์ตัวของสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 18 คน ในชุดราตรีสั้น พร้อมการแสดงชุดประกายแห่งแผ่นดิน 1 ตามด้วยการฉายวิดีทัศน์ ประมวลภาพกิจกรรมวันสมัครและรอบคัดเลือก แล้วสลับด้วยการออกมาโชว์ชุดราตรียาวของ 18 สาวงาม พร้อมการแสดงชุดประกายแห่งแผ่นดิน 2 ต่อด้วยการฉายวีดิทัศน์ประมวลภาพการเก็บตัวที่เกาะช้าง จ.ตราด การทำกิจกรรมของเหล่าสาวงามในการรณรงค์ภาวะ โลกร้อน แล้วตามด้วยการแสดงของอดีตนางสาวไทยในชุด 1 ของแผ่นดิน ในบทเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน
จากนั้นเป็นช่วงเวลาของการประกาศผลรางวัลต่างๆ ปรากฏว่า หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา ตรีรัตนทิพย์ นิสิตปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กวาดไปได้ถึง 3 รางวัลคือ มิส เฮลตี้, มิส เพอร์เฟกต์และนางงามมิตรภาพ ขณะที่รางวัลมิส ธิงก์ โพสิทีฟ ตกเป็นของหมายเลข 18 น้องกุ้งนาง-พิชามญชุ์ เขียวทอง นิสิต ป.โท คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ คว้าควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ ขณะที่ รางวัลนางงามผิวงาม ประกาศผลออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่หมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา
รางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ หมายเลข 7 น้องปอม-เปมิกา วรผลึก นศ.ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ ได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท ขณะที่รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ลออวรรณากร นศ.ปี 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดประกวดนางสาวไทยในปีนี้ พยายามให้กระชับมากขึ้น โดยในเวลา 20.20 น.เศษ ก็สามารถประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายของบรรดาสื่อมวลชน ที่ได้ติดตามทำข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช หมายเลข 5 น้องซี-มันตรินี่ ตรีชัชวาลวงศ์ หมายเลข 6 น้องเฟิร์น-เกวรินทร์ จิตตั้งตรง หมายเลข 7 น้องปอม-เปมิกา หมายเลข 8 น้องขวัญ-ขวัญ ศรีสำรวล หมายเลข 13 น้องเดือน-มณฑาทิพย์ ใจห้าว หมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา หมายเลข 17 น้องจ๋า-ภัทราภรณ์ กันยะมี และหมายเลข 18 น้องกุ้งนาง-พิชามญชุ์ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดดีใจของบรรดาพี่เลี้ยงและกองเชียร์สาวงามที่ได้เข้ารอบทั้งสิบ
ทั้งนี้ ผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทย จะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัล รถยนต์ เชฟโรเลต แคพติว่า มูลค่า 1.5 ล้านบาท เครื่องประดับเพชรเพอร์เฟกต์ ไดมอนด์ มูลค่า 2 แสนบาท กรมธรรม์ อุบัติเหตุส่วนบุคคล จากเอไอเอ มูลค่า 1 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์สก็อต คอลลาเจนอี เครื่องดื่มคอลลาเจน ดื่มฟรีตลอด 1 ปี เครื่องสำอางบีเอสซี คอสเมโตโลยี มูลค่า 2 หมื่นบาท ชุดเครื่องเล่นดีวีดีและโฮมเธียเตอร์เอเจ มูลค่า 2.9 หมื่นบาท ผลิตภัณฑ์เจเล่ไลท์ ดื่มฟรีตลอด 1 ปี และทำผมที่เกตุวดีฟรีตลอด 1 ปี
ขณะที่รองนางสาวไทย อันดับ 1 ได้รับรางวัลเงินสด 5 แสนบาท และของรางวัลต่างๆ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท รองฯอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 3 แสนบาท และของรางวัลต่างๆ มูลค่ากว่าครึ่งล้านบาท
จากนั้นเป็นช่วงเวลาลุ้นในการตอบคำถามของผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 คน ก่อนที่พิธีกรจะประกาศผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย อันได้แก่ หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช และหมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา ซึ่งเท่ากับว่า 1 ใน 3 สาวนี้จะได้สวมมงกุฎนางสาวไทย ปี 2550 แต่เมื่อพิธีกรเรียกทั้ง 3 สาวออกมายืนพร้อมกันเพื่อตอบคำถามสุดท้าย ปรากฏว่า หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชนมาครอง กลับเดินเข้าหลังเวทีและไม่ยอมออกมาอีกเลย เนื่องจากหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ซึ่งเมื่อกรรมการเข้าไปดูอาการจึงทราบว่าน้องน้ำผึ้งมีไข้ขึ้นสูง ประกอบกับอาเจียนเป็นระยะ ทำให้อ่อนเพลียมาก แต่ก่อนหน้านี้พยายามฝืนขึ้นเวที จนกระทั่งทนไม่ไหว โดยน้องน้ำผึ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรงว่า เป็นเพราะความเครียดลงกระเพาะ และไม่สามารถลุกขึ้นไปปรากฏตัวบนเวทีได้ กรรมการจึงตัดสิทธิให้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 ไปโดยปริยาย จากนั้นพี่เลี้ยงกองประกวดจึงได้พาน้องน้ำผึ้งไปส่ง รพ.พญาไท 2 ทำให้บนเวทีเหลือตัวชิงตำแหน่งที่ต้องตอบคำถามสุดท้ายเพียง 2 คนคือ น้องมีนา หมายเลข 14 และน้องอ้อ หมายเลข 1
หลังจาก 2 สาวตอบคำถามสุดท้ายเสร็จสิ้น ในเวลาประมาณ 22.35 น. พิธีกรก็ได้ประกาศผลการตัดสินการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2550 ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมาย เมื่อหมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา นิสิต จุฬาฯ ปี 4 กลับคว้าตำแหน่งเกียรติยศนี้ไปครอง โดยที่ น้องมีนา-ภัทรา สาวนักเรียนนอก ตัวเก็งตั้งแต่ต้น ทำได้แค่รองอันดับ 2 เท่ากับว่าน้องอ้อ-อังคณา กวาดรางวัลจากเวทีนี้ไปมากสุดถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลสูงสุดของการประกวดด้วย
ทั้งนี้ น้องอ้อ-อังคณา เป็นบุตรสาวคนเดียวของนายฮางเกี๊ยก แซ่โง้ว ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว มารดาคือนางปัทมา แซ่เจี่ย มีอาชีพค้าขาย ซึ่งน้องอ้อกล่าวภายหลังรับตำแหน่งนางสาวไทยคนล่าสุดแล้วว่า เหตุที่อยากมาประกวดเพราะอยากทำอะไรให้สังคม ประกอบกับใฝ่ฝันอยากเป็นนางสาวไทยมาตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันก็ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ซึ่งตอนนี้ทำความฝันแรกสำเร็จแล้ว
น้องอ้อยังกล่าวยอมรับด้วยว่าเป็นคนไม่สวย แต่พร้อมที่สุดในการรับตำแหน่งนี้ และถือคติว่าอยากให้ใครทำอะไรให้เรา เราก็ต้องทำอะไรให้เขาก่อน
อ้อ นิสิตจุฬาฯ คว้ามงกุฎ นางสาวไทยคนที่ 43 เผยฝันอยากเป็นอาจารย์ดันลูกศิษย์เป็นนายกฯ
ตามคาด น้อง "อ้อ" นิสิตจุฬาฯ ปี4 คว้ามงกุฎนางสาวไทย คนที่ 43 ได้สำเร็จ พร้อมกวาดตำแหน่งรวดอีก 3 รางวัล ลั่น ตอนนี้เหมือนตนเป็นส่วนหนึ่งของตำนานสาวงาม เผยอนาคตอยากเป็นอาจารย์สอนลูกศิษย์ให้เป็นนายกฯ ด้านน้อง น้ำผึ้ง เครียดหนัก อาเจียนไม่หยุดจนต้องหามส่ง ร.พ.สละตำแหน่งได้รองอันดับ 2
ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับเวทีประชันขาอ่อน นางสาวไทยประจำปี 2550 ที่จัดขึ้น ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลลูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 27 ต.ค.50 ซึ่งถือว่าปีนี้สาวงามทั้ง 18 คนต่างขนดีกรีความงามและความรู้เฉือดเฉือนแบบไม่มีใครยอมใคร ทำเอาคณะกรรมการปาดเหงื่อเลือกให้คะแนนไม่ถูกเลยทีเดียว
แต่ในที่สุดสาวงามเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถพิชิตใจคณะกรรมการ ครองตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 43 ไปครอง ได้แก่ หมายเลข 1 น้องอ้อ น.ส.อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ นิสิตจากรั้วจามจุรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี โดยเธอยังคว้าตำแหน่งอีก 3 รางวัลได้แก่ Miss Health, Miss Perfect และนางงามมิตรภาพ
ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท,มงกุฎเพชร, รถยนต์ CHEVROLET CAPTIVE,เครื่องประดับเพชร และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนรองนางสาวไทยอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 14 น้องมีนา น.ส.ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา สำเร็จการศึกษาจาก คณะ Media and Communications The University of Melbourne โดยเธอสามารถคว้ารางวัลนางงามผิวงามและรางวัลขวัญใจชาวตราดไปครองเพิ่มอีกด้วย
และเป็นที่น่าเสียดายสำหรับตำแหน่ง รองนางสาวไทยอันดับ 2 ได้แก่ หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง น.ส.ชมพูนุช ลออวรรณากร นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่พ่วงด้วยตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชนอีกหนึ่งรางวัล
ซึ่งเธอยังไม่ทันได้ตอบคำถามรอบตัดเชือกก็ต้องรีบเดินเข้าไปหลบหลังเวทีก่อนที่จะมีการประกาศผลเข้ารอบ 3 คน เพราะเนื่องจากเธอมีอาการเครียดจัดและอาเจียนอยู่หลังเวทีตั้งแต่เริ่มประกวด จนท้ายที่สุดทนไม่ไหวต้องรีบหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งขณะนี้เข้ารับการรักษาอยู่ที่ โรงพยายาบาลพญาไท 2
สำหรับรางวัล Miss Think Positive และนางงามบุคลิกภาพ ตกเป็นของ หมายเลข 18 น้องกุ้งนาง น.ส. พิชามญชุ์ เขียวทอง ซึ่งกำลังศึกษาปริญญาโท ปี 2 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ หมายเลข 7 น้องปอย น.ส.เปมิกา วรผลึก กำลังศึกษา ปริญญาตรี ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
โดยน้อง "อ้อ" เปิดใจหลังการได้รับตำแหน่งว่า
."ที่ผ่านมาก็เคยประกวดมิสคังเซ็น เคนโก ได้มิสคังเซ็น ขวัญใจช่างภาพและสาวผิวสวย ปี 2006 คือคุณแม่ใช้ลองไปประกวดดู และเคยประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สเข้ารอบ 44 คนค่ะปีก่อนหน้านี้แล้วสำหรับวันนี้ได้รับรางวัลมากมาย ก็รู้สึกดีใจแต่อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนแบ่งกันได้บ้าง"
ตอนที่ได้ 3 รางวัลแรกไม่คิดว่าได้ตำแหน่งเลย ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอนเราได้ 3 ตำแหน่งนี้แล้วอาจไม่ได้เข้ารอบเป็นนางสาวไทยก็ได้แต่ก็ทำดีที่สุดค่ะ
การที่จะเป็นนางสาวไทยได้ ความรู้ การศึกษา ปฏิภาณไหวพริบการตอบคำถามหน้าเวที อ้อเชื่อว่าทุกๆ คนสามารถตอบคำถามที่ดีได้แต่เมื่ออยู่บนเวทีแล้วเขาอาจประหม่าอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ อ้อเชื่อว่าเราทำได้แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพื่อนได้ก็ดีใจด้วยเราจะได้ไม่กดดันตัวเองด้วย
บอกอนาคตอยากเป็นอาจารย์สอนลูกศิษย์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนตนที่เป็นไม่ได้....อยากเป็นอาจารย์ที่คณะบัญชี เคยใฝ่ฝันอยากเป็นนายกฯ ตอนนั้นเด็กมากๆ เคยเห็นนายกฯ ออกทีวีบริหารประเทศก็อยากเป็นบ้าง การเป็นนายกฯ หญิงในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เรามาเปลี่ยนมาเป็นอาจารย์และปลูกฝังให้คนขึ้นมาเป็นนายกฯ แทนเราดีกว่าค่ะ
ต่อข้อถามว่าสำหรับเวที นางสาวไทย ใครก็มองว่าเวทีนี้เป็นเวทีแห่งศักดิ์ศรีของสาวงาม มีความคิดเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ นางสาวไทยคนล่าสุดเผยว่า....เมื่อเราเป็นนางสาวไทยแล้วเหมือนเป็นตำนานๆ นึง และมีชื่ออยู่ในตำนานนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีแล้วชื่อยังเราป็นนางสาวไทยการมองตนหรือการปฏิบัติตนก็ต้องวางตัวให้ดีค่ะ
เวทีประกวดนางสาวไทยหวิดวุ่น 'น้องน้ำผึ้ง'ขวัญใจสื่อมวลชน ป่วยกะทันหัน ไข้สูง อาเจียนไม่หยุด ต้องหามส่ง รพ.ด่วน ทั้งที่ติด 1 ใน 3 คนสุดท้าย
ค่ำคืนของการตัดสินว่าสาวงามผู้ใดใน 18 คน ที่เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2550 งามล้ำค่า กัลยาเทอดแผ่นดิน จะได้ครอบครองมงกุฎแห่งเกียรติยศในปีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี และมีการจำหน่ายบัตรราคา 800 บาท เพื่อนำรายได้เข้าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ด้วยการเดินโชว์ตัวของสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 18 คน ในชุดราตรีสั้น พร้อมการแสดงชุดประกายแห่งแผ่นดิน 1 ตามด้วยการฉายวิดีทัศน์ ประมวลภาพกิจกรรมวันสมัครและรอบคัดเลือก แล้วสลับด้วยการออกมาโชว์ชุดราตรียาวของ 18 สาวงาม พร้อมการแสดงชุดประกายแห่งแผ่นดิน 2 ต่อด้วยการฉายวีดิทัศน์ประมวลภาพการเก็บตัวที่เกาะช้าง จ.ตราด การทำกิจกรรมของเหล่าสาวงามในการรณรงค์ภาวะ โลกร้อน แล้วตามด้วยการแสดงของอดีตนางสาวไทยในชุด 1 ของแผ่นดิน ในบทเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน
จากนั้นเป็นช่วงเวลาของการประกาศผลรางวัลต่างๆ ปรากฏว่า หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา ตรีรัตนทิพย์ นิสิตปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กวาดไปได้ถึง 3 รางวัลคือ มิส เฮลตี้, มิส เพอร์เฟกต์และนางงามมิตรภาพ ขณะที่รางวัลมิส ธิงก์ โพสิทีฟ ตกเป็นของหมายเลข 18 น้องกุ้งนาง-พิชามญชุ์ เขียวทอง นิสิต ป.โท คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ คว้าควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ ขณะที่ รางวัลนางงามผิวงาม ประกาศผลออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่หมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา
รางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ หมายเลข 7 น้องปอม-เปมิกา วรผลึก นศ.ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ ได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท ขณะที่รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ลออวรรณากร นศ.ปี 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดประกวดนางสาวไทยในปีนี้ พยายามให้กระชับมากขึ้น โดยในเวลา 20.20 น.เศษ ก็สามารถประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายของบรรดาสื่อมวลชน ที่ได้ติดตามทำข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช หมายเลข 5 น้องซี-มันตรินี่ ตรีชัชวาลวงศ์ หมายเลข 6 น้องเฟิร์น-เกวรินทร์ จิตตั้งตรง หมายเลข 7 น้องปอม-เปมิกา หมายเลข 8 น้องขวัญ-ขวัญ ศรีสำรวล หมายเลข 13 น้องเดือน-มณฑาทิพย์ ใจห้าว หมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา หมายเลข 17 น้องจ๋า-ภัทราภรณ์ กันยะมี และหมายเลข 18 น้องกุ้งนาง-พิชามญชุ์ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดดีใจของบรรดาพี่เลี้ยงและกองเชียร์สาวงามที่ได้เข้ารอบทั้งสิบ
ทั้งนี้ ผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทย จะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัล รถยนต์ เชฟโรเลต แคพติว่า มูลค่า 1.5 ล้านบาท เครื่องประดับเพชรเพอร์เฟกต์ ไดมอนด์ มูลค่า 2 แสนบาท กรมธรรม์ อุบัติเหตุส่วนบุคคล จากเอไอเอ มูลค่า 1 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์สก็อต คอลลาเจนอี เครื่องดื่มคอลลาเจน ดื่มฟรีตลอด 1 ปี เครื่องสำอางบีเอสซี คอสเมโตโลยี มูลค่า 2 หมื่นบาท ชุดเครื่องเล่นดีวีดีและโฮมเธียเตอร์เอเจ มูลค่า 2.9 หมื่นบาท ผลิตภัณฑ์เจเล่ไลท์ ดื่มฟรีตลอด 1 ปี และทำผมที่เกตุวดีฟรีตลอด 1 ปี
ขณะที่รองนางสาวไทย อันดับ 1 ได้รับรางวัลเงินสด 5 แสนบาท และของรางวัลต่างๆ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท รองฯอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 3 แสนบาท และของรางวัลต่างๆ มูลค่ากว่าครึ่งล้านบาท
จากนั้นเป็นช่วงเวลาลุ้นในการตอบคำถามของผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 คน ก่อนที่พิธีกรจะประกาศผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย อันได้แก่ หมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช และหมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา ซึ่งเท่ากับว่า 1 ใน 3 สาวนี้จะได้สวมมงกุฎนางสาวไทย ปี 2550 แต่เมื่อพิธีกรเรียกทั้ง 3 สาวออกมายืนพร้อมกันเพื่อตอบคำถามสุดท้าย ปรากฏว่า หมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชนมาครอง กลับเดินเข้าหลังเวทีและไม่ยอมออกมาอีกเลย เนื่องจากหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ซึ่งเมื่อกรรมการเข้าไปดูอาการจึงทราบว่าน้องน้ำผึ้งมีไข้ขึ้นสูง ประกอบกับอาเจียนเป็นระยะ ทำให้อ่อนเพลียมาก แต่ก่อนหน้านี้พยายามฝืนขึ้นเวที จนกระทั่งทนไม่ไหว โดยน้องน้ำผึ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรงว่า เป็นเพราะความเครียดลงกระเพาะ และไม่สามารถลุกขึ้นไปปรากฏตัวบนเวทีได้ กรรมการจึงตัดสิทธิให้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 ไปโดยปริยาย จากนั้นพี่เลี้ยงกองประกวดจึงได้พาน้องน้ำผึ้งไปส่ง รพ.พญาไท 2 ทำให้บนเวทีเหลือตัวชิงตำแหน่งที่ต้องตอบคำถามสุดท้ายเพียง 2 คนคือ น้องมีนา หมายเลข 14 และน้องอ้อ หมายเลข 1
หลังจาก 2 สาวตอบคำถามสุดท้ายเสร็จสิ้น ในเวลาประมาณ 22.35 น. พิธีกรก็ได้ประกาศผลการตัดสินการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2550 ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมาย เมื่อหมายเลข 1 น้องอ้อ-อังคณา นิสิต จุฬาฯ ปี 4 กลับคว้าตำแหน่งเกียรติยศนี้ไปครอง โดยที่ น้องมีนา-ภัทรา สาวนักเรียนนอก ตัวเก็งตั้งแต่ต้น ทำได้แค่รองอันดับ 2 เท่ากับว่าน้องอ้อ-อังคณา กวาดรางวัลจากเวทีนี้ไปมากสุดถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลสูงสุดของการประกวดด้วย
ทั้งนี้ น้องอ้อ-อังคณา เป็นบุตรสาวคนเดียวของนายฮางเกี๊ยก แซ่โง้ว ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว มารดาคือนางปัทมา แซ่เจี่ย มีอาชีพค้าขาย ซึ่งน้องอ้อกล่าวภายหลังรับตำแหน่งนางสาวไทยคนล่าสุดแล้วว่า เหตุที่อยากมาประกวดเพราะอยากทำอะไรให้สังคม ประกอบกับใฝ่ฝันอยากเป็นนางสาวไทยมาตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันก็ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ซึ่งตอนนี้ทำความฝันแรกสำเร็จแล้ว
น้องอ้อยังกล่าวยอมรับด้วยว่าเป็นคนไม่สวย แต่พร้อมที่สุดในการรับตำแหน่งนี้ และถือคติว่าอยากให้ใครทำอะไรให้เรา เราก็ต้องทำอะไรให้เขาก่อน
ถูกหามส่งโรงพยาบาลน้ำผึ้ง น้ำตาแตก พลาดตำแหน่งนางสาวไทย
น้ำผึ้ง ชมพูนุช ลออรรณากร ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ หลังพลาดตำแหน่งนางสาวไทยอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่สามารถผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้ายได้ แต่ไม่สบายหนักท้องเสียและอาเจียนจนต้องหามส่งโรงพยาบาล
เดินทางมาถึงรอบตัดสินแล้วสำหรับการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2550 โดย น้องอ้อ อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ สามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ น้องมีนา ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา รองอันดับ 2 ได้แก่ น้องน้ำผึ้ง ชมพูนุช ลออรรณากร
แต่ระหว่างการประกวดรอบ 3 คนสุดท้ายนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อน้องน้ำผึ้งสาวงามหมายเลข 3 เกิดอาการท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรงจนทีมงานต้องหามส่งโรงพยาบาลพญาไท 2 อย่างกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถขึ้นมาตอบคำถามรอบสุดท้ายบนเวทีได้ ส่งผลให้คว้าไปได้เพียงตำแหน่งรองอันดับ 2 ปล่อยให้น้องอ้อ และ น้องมีนา ขึ้นไปตอบคำถามชิงตำแหน่งนางสาวไทยเพียงสองคน
ภายหลังจากพลาดตำแหน่งนางสาวไทยไปอย่างน่าเสียดาย เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า..
รู้สึกเสียดายมากๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ผึ้งเดินไม่ไหวจริงๆ ท้องไส้มันปั่นป่วนไปหมดทั้งท้องเสียทั้งอ้วก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผึ้งกินยาถ่ายเนื่องจากท้องผูกมาแล้ววันแล้ว ก็เลยท้องเสียตังแต่เมื่อวาน และก็อดข้าวมาสองวันกินข้าวแค่มื้อเดียวกับผลไม้ ประกอบกับซ้อมหนักตื่นเช้านอนดึกก็เลยทำให้ไม่สบาย
ตอนที่เหลือ 10 คนก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว คิดว่าถ้าเข้ารอบ 3 คนต้องไม่ไหวแน่ๆ ใจเราสู้นะแต่ร่างกายมันไม่ไหว พอลงจากเวทีต้องรีบไปเข้าห้องน้ำเลย พอประกาศว่าได้ขวัญใจช่างภาพมันยิ่งแน่นไปหมดหายใจไม่ออก ไม่สบายด้วยตื่นเต้นด้วยช็อกไปเลยไม่ไหวแล้ว นักข่าวก็ถ่ายรูป ช่างกล้องวีดีโอก็ถ่ายกันเต็มไปหมด แต่เราไม่ไหวหน้าตาแบบแย่มากๆ ตอนนั้นอ้วกแล้วแต่ต้องกลืนลงไป
พอประกาศว่าเข้ารอบสามคนตัวก็เริ่มสั่น มันชาๆ ไปเลยชาตั้งแต่ไหล่ถึงมือ คิดว่าคงเกิดจากการอดอาหารไม่มีน้ำตาลเลี้ยงสมอง เจ็บคอด้วยเป็นหวัดด้วยทุกอย่างมันประดังประเดเข้ามาหมดเลย ทั้งเสียดายเสียใจเก็บตัวมา 6 วันไม่เป็นอะไรเลย แต่วันนี้กลับไม่สบาย
ถามว่าเครียดไหมผึ้งไม่ได้เครียดเลย แต่คงเป็นเพราะร่างกายเราไม่ไหวมากกว่า ถ้าผึ้งพร้อมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ คิดว่าคำถามคงไม่ยากเราน่าจะตอบได้ อยากลองเหมือนกัน ก็แปลกดีที่อยู่มาตั้งนานไม่เป็นอะไรเลย ปกติก็เป็นคนดูแลสุขภาพเข้าฟิตเนตตลอด ร่างกายแข็งมาก แต่พอถึงวันตัดสินกลับไม่สบายดวงเราจะไม่ได้มันก็ไม่ได้
ภาพ ข่าว
ไทยรัฐ
ผู้จัดการ
สยามดารา
mediathai
t-pageant
| Create Date : 28 ตุลาคม 2550 |
|
2 comments |
| Last Update : 28 ตุลาคม 2550 9:51:14 น. |
| Counter : 5326 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
