บุ๋ม ปนัดดา กับหน้าที่ผู้ประกาศ เอ็นบีที ที่ยืนหยัดอยู่บนความเป็นกลาง
"บุ๋ม ปนัดดา" เปิดใจถึงงานผู้ประกาศข่าวเอ็นบีที เผยมีผู้ประกาศบางคนค่อนข้างโอนเอียง แต่สำหรับตนจะยึดความเป็นกลางหวั่นโดนแบบ "หนุ่ม ศรราม" เคยร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีในฐานะพิธีกรรายการ ร้านชำยามเช้า และเป็นหนึ่งในบุคลากรของสถานีไอทีวีที่ร่วมกันกอบกู้ไม่ให้ไอทีวีถูกปิด และเป็นคนที่ยืนอยู่หน้าจอร่วมกับพนักงานไอทีวีในวันที่ไอทีวีจอมืดอวสานสถานีไอทีวีเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา ในวันนี้ บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี เติบโตในสายงานข่าวโทรทัศน์ในฐานะผู้ประกาศรายการข่าวภาคเช้าของสถานีเอ็นบีที หรือช่อง 11 ที่ถูก จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจัดการเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่เป็นเอ็นบีที บทบาทและหน้าที่ของสถานีเอ็นทีวีนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องของความเป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข่าวที่โอนเอียงไปฝั่งรัฐบาล หรือแม้แต่การนำเอาบุคคลที่ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีมาสัมภาษณ์ออกอากาศ จนเป็นที่โจษจันไปทั่วถึงความไม่เหมาะสม บุ๋มกับงานผู้ประกาศข่าวในสถานีเอ็นบีทีจึงเป็นอะไรที่เสี่ยงกับภาพลักษณ์และชื่อเสียงในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ กรณี ศรราม เทพพิทักษ์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรจนทำให้โดนโห่ที่สิงห์บุรี ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่ทำให้บุ๋มต้องยึดหลักความเป็นกลาง เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบกับตัวเอง ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าบุ๋มออกจากเอ็นบีทีแล้ว จริงๆ บุ๋มยังทำงานอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่ามีอยู่สี่วันที่บุ๋มไปเป็นพิธีกร 7 กะรัตแทนชมพู่(อารยา เอฮาร์เก็ต) คนก็เลยสงสัยว่าบุ๋มหายไปไหน แต่ตอนนี้ก็กลับมาอ่านข่าวเหมือนเดิมเวลา 6.00 -8.00 น. จันทร์ ศุกร์ และตอนกลางวันก็วิ่งงานพิธีกรเหมือนเดิม แรกๆ คนจะตั้งแง่ว่าเราจะอ่านข่าวได้ไหมเป็นดารา วันแรกที่แถลงข่าวเปิดตัวที่เอ็นบีทีภาพถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ของบุ๋มก็วางแผงพอดี มันชนกันเลย ทุกคนก็จะบอกว่า ผู้ประกาศข่าวจะต้องเรียบร้อยกว่านี้หรือเปล่า คือบุ๋มเชื่อของบุ๋มว่า บุ๋มไม่ใช่พึ่งถ่าย บุ๋มถ่ายมาทุกปี 8 ปีที่ผ่านมาก็ถ่ายแบบมาตลอด" "วันที่เขาโทรมาชวนเราไปทำงาน บุ๋มคิดว่าเขาก็ต้องเคยเห็นภาพของบุ๋มมาบ้าง ดังนั้นเขาต้องรู้จักนิสัยบุ๋มดี และเขาก็ต้องเชื่อมั่นว่า เราจะทำหน้าที่นี้ได้ทั้งๆ ที่เราไม่เคยผ่านงานข่าวมาก่อน เขาคงคิดว่าบุ๋มสามารถแบ่งแยกได้ถูก ทุกวันนี้บุ๋มก็ทำงานวิชาการและงานบันเทิงควบคู่กันไป งานบันเทิงบุ๋มก็ถ่ายแบบเล่นละครตบแหลก ตอนเย็นก็สอนหนังสือเด็กหน้าไปอย่างเข้มปากแดงแจ๊ดเลยเด็กๆ เขาก็ชิน งานวิชาการก็ทำได้ งานบริษัทประชุมงานบีเอสซีบุ๋มก็ทำได้ไม่มีปัญหา คือเขารู้ว่าถ้าเรารับผิดชอบแต่ละหน้าที่ได้ดีมันก็จบไม่มีปัญหา
การทำงานผู้ประกาศควบคู่กับงานถ่ายแบบดูจะไม่มีปัญหาแม้จะมีเสียงตำหนิออกมาบ้าง แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่เห็นจะเป็นงานผู้ประกาศสถานีเอ็นบีที ที่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ถูกจับตามองในเรื่องความเป็นกลาง เอ็นบีทีค่อนข้างถูกจับตามองในเรื่องของความเป็นกลางมาก โอเคผู้ประกาศข่าวบางคนอาจจะอะไรบ้างมันก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา แต่สำหรับบุ๋มเองในเมื่อบุ๋มยังทำงานเพื่อสังคม ยังเป็นคนสาธารณะชนอยู่บุ๋มพยายามจะเป็นกลาง การออกความเห็นเวลาอ่านข่าวจะนิดหน่อยในแง่ของประชาชนคนหนึ่ง ฉันอยากให้บ้านเมืองสงบสุข อย่ามีม็อบได้ไหมทั้งม็อบฝ่ายรัฐบาลส่งมา หรือม็อบพันธมิตรฉันไม่อยากเห็นม็อบไหนทั้งนั้น เบื่อแล้วเบื่ออ่านข่าวแบบนี้ อยากอ่านข่าวที่แบบว่า ตอนนี้ประชาชนมาถวายพระพรร่วมกัน อยากเห็นภาพวันนั้นอีกที่คนไทยใส่เสื้อเหลืองมาเป็นล้านคน คือเป็นความคิดเห็นในแง่ของประชาชนคนหนึ่งเท่านั้นเอง บุ๋มพยายามยึดหลักความเป็นกลางให้มากที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่าเอ็นบีทีค่อนข้างจะโดนจับตาว่า มีความเป็นกลางหรือเปล่า จะโจมตีพันธมิตรไหม เป็นของฝ่ายรัฐบาลพูดถึงรัฐบาลเยอะไหม สังเกตุดูให้ดีถ้าผู้ประกาศคนอื่นอ่านข่าวฝ่ายรัฐบาลพลังประชาชนพูดอะไร บุ๋มจะอ่านฝ่ายค้านโต้กลับทันทีนำเสนอทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ประชาชนตัดสินเอาเองว่าใช่หรือไม่ใช่ ตรงนี้เป็นสิ่งที่บุ๋มคุยกับทีมงานไว้ และทีมงานก็อยากให้เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เพราะค่อนข้างโดนเพ่งเล็งเรื่องความเป็นกลางเยอะ ก็ยังคุยกันเลยว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น พี่ทหารเขาเกิดจะเทคแอ็คชั่นขึ้นมาหรืออยากจะดูแลบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งเราคงต้องโดนช่องแรก(หัวเราะ) ถึงแม้จะยืนยันความเป็นกลาง แต่ในการที่ทำหน้าที่ผู้ประกาศในช่องเอ็นบีที ก็ทำให้บุ๋มหวั่นๆ เหมือนกันในการทำข่าวพันธมิตร ก็กลัวเหมือนกันค่ะ อย่างพี่ๆ นักข่าวที่ไปรายงานที่พันธมิตรก็จะโดนตะโกนไล่หลังว่ามาทำไม ทางนั้นเขาก็จะบอกว่าบุ๋มอย่าไป เพราะถ้าบุ๋มไปบุ๋มโดนตีแน่ๆ เลย"(หัวเราะ) "ถามว่ากลัวฟีดแบคไหม จริงๆ บุ๋มไม่กลัวเพราะบุ๋มเชื่อว่าบุ๋มไม่ได้ทำอะไร และบุ๋มทำหน้าที่ในแง่ของสื่อมวลชนเป็นผู้ประกาศข่าว เพียงแต่ว่าหัวบุ๋มมันอยู่กับเอ็นบีทีเท่านั้นเอง แต่ว่าถ้าพูดในแง่ของความเป็นจริงแล้ว เราก็ต้องระวังตัวถ้าจะต้องไปรายงานข่าวในสถานการณ์นั้นๆ แต่ทางทีมงานก็บอกแล้วว่าคงไม่ให้บุ๋มไป การให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ บุ๋ม จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่งั้นอาจเกิดกรณีแบบ ศรราม เทพพิทักษ์ ได้ ต้องระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องการให้ความเห็นด้านการเมือง อย่างเรื่องพี่หนุ่ม ศรรามมีนักข่าวโทรมาเยอะมาก โทรมาถามบุ๋มจะทำยังไง เอ๋า....แล้วมายุ่งอะไรกับฉัน(หัวเราะ) แล้วตลกมากวันนั้นพี่หนุ่มมีเรื่องที่สิงห์บุรีใช่ไหม ส่วนบุ๋มก็ไปโชว์ตัวที่นครสวรรค์ แล้วบุ๋มก็อยากกินข้าวที่ร้านหนึ่งที่สิงห์บุรีก็บอกให้ทีมงานจอดรถ ตู้หน่อย ก็มีคนหนึ่งเดินมาบอกว่า เนี่ยๆ เมื่อกี๊พี่หนุ่มพึ่งมากินแล้วก็มีเรื่องแบบนี้ๆ เราก็โอ้มายก็อดแรงกันแบบนี้เลย(หัวเราะ) แต่เราก็ไม่ได้ว่าเขา ไม่ได้พูดอะไรก็ไม่น่าจะมีอะไร แต่ยังไงเราก็คาดหัวโลโก้ซะขนาดนั้นก็ต้องระวังนิดนึง แต่บุ๋มเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า สิ่งที่บุ๋มทำอยู่เราเป็นกลางนะ พันธมิตรพูดอะไรสำหรับบุ๋มไม่มีการปรับคำพูด ไม่มีเติม ท่านนายกฯ พูดอะไรบุ๋มก็พูดตามนั้นไม่มีปรับคำพูด แต่ต้องระวังถามเรื่องการเมืองจะต้องพูดทั้งสองฝ่ายและให้เป็นกลางมากที่สุด ในการทำหน้าที่ผู้ประกาศเอ็นบีที ตั้งแต่อ่านข่าวมายังไม่เคยโดนฟีดแบคอะไรนะ ส่วนใหญ่จะฝากบอกถึงคนอื่นมากกว่าว่า อย่าเอียงขวาให้มากนัก ประชาชนทั่วไปที่เจอหน้าเราก็จะพูดแบบนี้ บางทีเขาก็จะเอสเอ็มเอสเข้ามาในการวิทยุที่บุ๋มจัดอยู่ 96.5 เขาก็จะบอกว่า ช่วยฝากบอกคนโน้นหน่อยสิ อย่าเอียงขวาให้มากนัก เขารู้ว่าบุ๋มไม่กล้าจะเล่นอะไรมากนัก เพราะเรายังเด็ก เราจะต้องรู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบางก่อน ถ้าไม่ชัวร์บุ๋มก็จะไม่พูด เพราะของอย่างนี้มันเซ้นซิทิฟ
ซึ่งผู้ประกาศคนอื่นเขาจะมีความเห็นอย่างไร ตรงนั้นมันเรื่องของเขาเป็นความเห็นส่วนตัวบุ๋มไม่ยุ่งกับเขาเรื่องการเมือง บุ๋มแค่อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขเป็นนางงาม(หัวเราะ) รักเด็กก็ว่าไป เราเลี่ยงมาอย่างนี้พอ" "ในส่วนของการรับงานถ้าเป็นงานการเมืองจะต้องระวัง ทั้งที่เมื่อก่อนเรารับหมด เพราะเราเป็นผู้ประกาศข่าวแล้วจะไปเข้าใกล้เกินไปไม่ดีน่ากลัว ก็สูญเสียรายได้ไปเยอะเพราะงานพิธีกรส่วนใหญ่ของบุ๋มจะเป็นงานพิธีการเยอะ แต่ถ้าเกิดรัฐบาลเรียกมาก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แต่ถ้าเกิดเป็นปาร์ตี้ส่วนตัวนักการเมืองไม่ไป เมื่อก่อนไปนะแต่เดี๋ยวนี้ไม่ไปภาพหลุดนึดนึงเราแย่ ฟีดแบคเรื่องการทำหน้าที่ความเป็นกลางในฐานะผู้ประกาศเอ็นบีทีเจ้าตัวยืนยันว่า ผ่านฉลุย แต่ก็ยังไม่แคล้วโดนตำหนิเรื่องภาพลักษณ์เซ็กซี่ ที่ผ่านมาในการทำงานหน้าที่ผู้ประกาศข่าวก็มีฟีดแบคกลับมาบ้าง มีหนังสือพิมพ์ตลาดฉบับหนึ่งบอกว่า ผู้ประกาศข่าวโป๊ เรารู้สึกแย่เลย คุณเปิดดูหรือเปล่าว่าเราใส่เสื้อผ้าอะไรอ่านข่าว ถ้าฉันค่อยๆ ถอดมาสิมาด่า แต่นี่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยมาด่าฉันอะไรเนี่ย คุณเป็นผู้สื่อข่าวคุณเขียนโดยที่ยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าฉันใส่เสื้อผ้าอะไรอ่านข่าว ดังนั้นสำหรับบุ๋มการทำหน้าที่ผู้ประกาศก็คือ แต่งตัวให้ดีให้เรียบร้อยภูมิฐาน พูดจาชัดเจนอ่านข่าวให้ถูกต้องจบ มีจรรญาบรรณในการเป็นผู้สื่อข่าวจบ แต่ในหน้าที่การเป็นนางแบบบุ๋มก็ต้องเป็นนางแบบ เล่นละครก็เต็มที่ บุ๋มพยายามจะเต็มที่ทุกบทบาทเพื่อทุกคนจะได้เข้าใจว่า เออมันเป็นของมันแบบนี้ปลงซะเถอะ อย่ามาคาดหวังอะไรกับบุ๋มมาก บุ๋มไม่เอาแต่ละอย่างมาผสมกันแน่นอน รับผิดชอบแต่ละอย่างได้ ทุกวันนี้บุ๋มต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อมาทำงานผู้ประกาศ และก็จะต้องอ่านหนังสือพิมพ์เยอะมาก เพราะหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับก็นำเสนอแตกต่างกัน ฉะนั้นเราต้องนำเสนอความเป็นกลางต้องอ่านให้หลากหลาย และก็เอามาวิเคราะห์อีกทีหนึ่งว่า อะไรคือความจริง อะไรคือความเห็น นอกจากนั้นแล้วก็จะรับข่าวสารทางเอสเอ็มเอสมากขึ้นให้มันอัพเดทหน่อยว่าสถานการณ์ไปถึงไหนแล้ว อนาคตผู้ประกาศสำหรับบุ๋มก็คงจะทำไปเรื่อยๆ ดูทิศทางว่ามันเป็นไปอย่างยังไง เพราะตั้งแต่ไอทีวีหายไปก็ไม่คาดหวังกับอะไรอีกแล้ว ทุกอย่างมันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 23 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 15:39:38 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1378 Pageviews. |
|
|
|
โดย: twins IP: 125.25.137.164 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:06:57 น. |
|
|
|
|
|