Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

สำรวจค่ายผลิต รถยนต์ น้ำลดลุยสอยท็อปเท็นโลก

สำรวจค่ายผลิตรถยนต์ น้ำลดลุยสอยท็อปเท็นโลก


อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต้องสะดุด อีกครั้ง จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี แม้โรงงานบางค่ายจะไม่ถูกน้ำท่วม แต่ก็ได้รับผลกระทบจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนจมน้ำ

แม้ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาบางค่ายเริ่มกลับมาเดินสายการผลิตได้แล้ว แต่กว่ากำลังการผลิตรถยนต์จะกลับสู่ภาวะปกติได้คงเป็นเดือนก.พ.หรือมี.ค.55

ขณะที่สถาบันยานยนต์ ยังมั่นใจว่าในปี"57 ไทยจะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลกได้ โดยจะผลิตรถยนต์ ได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคัน แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น มาสำรวจค่ายผลิตรถยนต์ล่าสุดว่าเป็นอย่างไร

เริ่มจาก นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าได้เริ่มทำการผลิตรถยนต์อีกครั้งเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากหยุดผลิตไปตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. และบริษัทได้ให้ความช่วยเหลือผู้ผลิตชิ้นส่วน หลายราย หลังจากน้ำลดลงแล้ว เพื่อให้สามารถฟื้นฟู และกลับมาผลิตได้เร็วที่สุด แต่ต้องใช้เวลาในการสำรวจความเสียหาย ซึ่งไม่รู้ว่าจะนานเท่าใด เนื่องจากแต่ละแห่ง ความเสียหายแตกต่างกัน โดยบริษัทได้ใช้วิธีหาแหล่งผลิตชิ้นส่วนจากต่างประเทศ

ในส่วนของรถเก๋งอาจจะพอมีอยู่ เช่น รุ่นวีออส มีผลิตหลายประเทศ โดยเฉพาะที่จีนกับญี่ปุ่น ซึ่งต้องตรวจสอบว่าใช้ ทดแทนกันได้หรือไม่ด้วย แต่กับรถปิกอัพ วีโก้ค่อนข้างลำบาก และหายาก เพราะผลิตบ้านเรา ทั้งเพื่อป้อนตลาดในประเทศ และส่งออกทั่วโลก แต่ยังคงให้ทีมงานตรวจสอบว่ามีที่ไหนอีกหรือไม่ ตรงนี้รัฐบาลควรต้องอนุญาตให้นำเข้า พร้อมทั้งยกเว้นการเก็บภาษีชิ้นส่วนที่จำเป็น และผู้ผลิตในประเทศไทยสามารถผลิตได้ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาเบื้องต้นไปก่อน

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัญหาของฮอนด้ามีความเหมือน และต่างจากค่ายอื่น ที่เหมือนกันคือขาดชิ้นส่วนในการผลิตรถยนต์ให้ได้หนึ่งคัน แต่เมื่อมีครบแล้วค่ายอื่นอาจจะพร้อมผลิตได้ทันที ส่วนของฮอนด้า ต้องฟื้นฟูโรงงาน ซึ่งเราตั้งใจให้กลับมาผลิตได้เร็วที่สุด แต่คง ไม่น้อยกว่า 1 เดือนหลังน้ำลดหมดแล้ว ขณะที่ซัพพลายเออร์ มีหลายรายที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเช่นเดียวกัน บริษัทได้ใช้วิธีมองหาชิ้นส่วนจากทั่วโลก ที่สามารถชดเชย หรือทดแทน เพื่อให้เริ่มผลิตได้เร็วที่สุด เมื่อฟื้นฟูโรงงานพร้อมแล้ว

ส่วนลูกค้าที่จองรถไว้ ขณะนี้ได้ชะลอการรับรถไว้ก่อน ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเข้าใจได้ มองว่าต้องรอหลังน้ำลดแล้วระยะหนึ่ง ลูกค้าจึงกลับมาเหมือนเดิม

"คาดว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างเร็วที่สุด กลางเดือนธ.ค.นี้ จึงจะสามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายของตัวโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้ จากนั้นจึงจะประเมินได้ว่า ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโรงงานอีกนานแค่ไหน และจะทราบว่าโรงงานจะพร้อมกลับมาผลิตอีกครั้งเมื่อใด" นายพิทักษ์ กล่าว



ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รอง ผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับโรงงานผลิตของนิสสัน บนถนนบางนา-ตราด ไม่ได้รับผลกระทบ แต่ช่วงน้ำท่วมได้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ให้เกิดความเสียหาย เพื่อว่าเมื่อมีชิ้นส่วน พร้อมกลับมาผลิตได้ทันที โดยบริษัทได้เริ่มหาชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์รายอื่น พร้อมกับทำแม่พิมพ์ใหม่ กระทั่งสามารถเริ่มการผลิตและประกอบได้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ากลับมาผลิต รถยนต์ ให้ได้เต็ม 100% เหมือนก่อนหน้าเกิดเหตุอุทกภัย ภายในเดือนม.ค.55 แต่ขึ้นอยู่กับการจัดหาชิ้นส่วนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น จีน อเมริกา เม็กซิโก และยุโรป จะได้มากน้อยเพียงใด โดยในเดือนพ.ย.นี้ บริษัทสามารถกลับมาผลิตได้แล้ว 20-30% หรือคิดเป็นประมาณ 3,000 คัน และเดือนธ.ค.จะเพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทสูญเสียโอกาส ในด้านการผลิต และขายไปประมาณ 10,000 คัน ส่งผลให้ในปีนี้ได้ปรับเป้ายอดขายใหม่เป็น ไม่ต่ำกว่า 70,000 คัน จากเดิมตั้งเป้าไวที่ 76,500 คัน

นายโอซามุ มาซุโกะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า สำหรับการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิในไทย ถึงแม้ว่าโรงงานจะไม่ถูกน้ำท่วมเพราะตั้งอยู่ที่นิคมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี แต่ต้องหยุดการผลิตรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.54 เป็นต้นมา เพราะขาดชิ้นส่วน รถยนต์ผลกระทบจากโรงงานที่ส่งชิ้นส่วน ป้อนให้ถูกน้ำท่วม ทำให้ยอดการผลิตหายไปกว่า 23,000 คัน

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมาได้เริ่มผลิตรถยนต์รอบใหม่ โดยนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากญี่ปุ่นมา ผลิตรถยนต์ จะเน้นผลิตรถกระบะ และรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ซึ่งเป็นที่ต้อง การของตลาดมากก่อน และจะเร่งกำลังการผลิตเต็มที่เพื่อชดเชยยอดการผลิตใน ปีนี้ที่หายไปให้มากที่สุดจากปัญหาสึนามิ และอุทกภัย ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นจะปิดรอบบัญชีในเดือนมี.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ทางมิตซูบิชิยังยืนยันที่จะลงทุนผลิตรถยนต์อีโคคาร์วงเงินลงทุนรวม 20,000 ล้านบาทในไทย และจะเริ่มการผลิตตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป



ขณะที่ นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัทมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าได้เดินหน้าผลิตรถยนต์ต่อเนื่องทันที หลังจากประเมินผลกระทบจากน้ำท่วม โรงงานมาสด้าในจังหวัดระยองไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า 2 ใหม่ และมาสด้า 3 2.0 ลิตร ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยรักษาซัพพลาย ในตลาดรถยนต์ และให้ความมั่นใจแก่ ผู้บริโภคในประเทศว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ ยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนหนึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กำลังรอรับรถใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

น.ส.สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้วางนโยบายว่าหลังจากน้ำลดแล้ว จะให้ความสำคัญกับการส่งชิ้นส่วนอะไหล่ เข้าไปในพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วม เพราะจากประสบการณ์รู้ว่า มีความต้องการใช้มาก ขณะเดียวกัน โรงงานได้มองหาชิ้นส่วนจากแหล่งอื่น รวมถึงจากประเทศญี่ปุ่นด้วย ทำให้มองว่าควรต้องมีการปลดล็อก เรื่องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศในช่วงนี้เป็นพิเศษ

ปิดท้ายด้วย นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส บริษัทฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สต๊อกรถของฟอร์ดโดยรวม หากประเมินจากยอดขายที่เป็นอยู่ สามารถขายได้ถึงสิ้นปี แม้โรงงานจะหยุดผลิตไประยะหนึ่งแล้วก็ตาม แต่หลังจากนั้นยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะโรงงานเอเอที ที่ระยอง ที่แม้จะไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่ผลทางอ้อมคือไม่มีชิ้นส่วนผลิต เพราะผู้ผลิตชิ้นส่วนถูกน้ำท่วม ในรุ่นเฟียสต้า ได้กลับสู่การปฏิบัติงานตามปกติเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะยังพอหาได้จากฐานการผลิต ที่มีอยู่หลายแห่งในโลก ทั้งที่จีน เยอรมัน ส่วนปิกอัพ เรนเจอร์ มีผลิตที่ประเทศไทยแห่งเดียว ไม่สามารถหาจากประเทศอื่นได้ นับเป็นปัญหาหนักมาก หากจะให้ผู้ผลิตต่างประเทศผลิตให้ ก็ต้องใช้เวลา และมีต้นทุนที่สูงมากขึ้น

"น้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ ปกติ และเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก แต่ปัญหาคือภาครัฐ ต้องรีบแก้ปัญหา บริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง มีการเตือนภัยที่ดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากมายขนาดนี้" นายสาโรช กล่าว




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
1 comments
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2554 0:10:37 น.
Counter : 848 Pageviews.

 

 

โดย: todsvuth1 30 พฤศจิกายน 2554 17:57:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


bunbaramee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add bunbaramee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.