Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

บิ๊กไบก์ฮอนด้าท้ารบคาวาซากิ "อีก 5 ปี เราจะเป็นเจ้าตลาด"

แม้ภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มยุโรปกำลังวิกฤต

แม้สถานการณ์การเมืองของอิตาลีกำลังย่ำแย่ ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในรอบ 17 ปี

แต่ไม่ได้ทำให้นายอซึชิ คิมูระ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานวางแผนธุรกิจ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปลี่ยนใจปรับแผนในการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 7 โมเดลในงาน International Motorcycle Exhibition ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี


เขาไม่เคยเปลี่ยนใจจากเมืองไทย "อซึชิ" บอกว่า "คราวนี้เป็นทีของฝ่ายญี่ปุ่นที่ต้องให้กำลังใจเมืองไทย เมืองไทยจะไม่โดดเดี่ยว ทุกคนจะช่วย เหมือนที่คนไทยเคยช่วยเรา"

บทสัมภาษณ์นี้ บอกความในใจของนักธุรกิจญี่ปุ่นและแผนของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่จะเริ่มเปิดศึกท้ารบในตลาดรถบิ๊กไบก์ในเมืองไทย

- ฮอนด้าต้องการโชว์อะไรบ้าง ในงานมอเตอร์โชว์ (International Motorcycle Exhibition) ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

เราต้องการโชว์ศักยภาพให้คนไทยเห็นว่า เราไม่ใช่มีเพียงโปรดักต์รถมอเตอร์ไซค์แค่ 110 และ 125 CC แต่ต้องการโชว์รถบิ๊กไบก์ 7 รุ่น ที่ยังไม่ได้เปิดตัวในเมืองไทย

ในงานนี้เราเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดแห่งปี 2012 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักรถบิ๊กไบก์ ทั้งแบบสปอร์ตสไตล์ และแบบ adventure

- บิ๊กไบก์ 7 รุ่นที่เปิดตัวที่อิตาลี จะนำไปทำตลาดในเมืองไทยได้เมื่อไหร่

คาดว่าจะเปิดตัว 4 ใน 7 รุ่น ได้ภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด เรารู้ว่าคนไทยต้องการใช้รถบิ๊กไบก์ของเรา และเราก็คิดจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว อยากให้คนไทยจับตาดูการเปิดตัวของเรา หลังจากที่ผ่านมาคนไทยเคยสนใจเฉพาะรถในกลุ่มเกรย์มาร์เก็ต

- จะทำอย่างไรให้คนไทยออกจากตลาดเกรย์มาร์เก็ต มาสนใจซื้อรถบิ๊กไบก์โมเดลใหม่ของฮอนด้า

จากการสำรวจวิจัยตลาดช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ตัดสินใจเปิดตลาดขายรถโมเดลบิ๊กไบก์อย่างเป็นทางการ และมีบริการหลังการขายที่ดีที่สุดในปีหน้า

- แต่ถ้าลูกค้าเทียบราคาแล้ว ยังเห็นว่าการซื้อในตลาดเกรย์มาร์เก็ตจะถูกกว่า จะทำอย่างไร

เราต้องหาช่องทางการนำเข้า ที่มีระบบภาษีที่ถูกกฎหมาย และเรามีจุดที่ดีกว่า คือการบริการหลังการขาย มีความน่าเชื่อถือ และลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการที่ซื้อรถจากเรา แทนการซื้อจากตลาดเกรย์มาร์เก็ตอย่างแน่นอน

- ทำไมเพิ่งคิดนโยบายเปิดตัวบิ๊กไบก์ในเมืองไทยปี 2555 ทั้ง ๆ ที่ทำตลาดมอเตอร์ไซค์มานาน

เราดูว่าที่ผ่าน ๆ มาเราเคยคิดจะทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ตลาดรถเล็กมีอัตราการขยายตัวที่เร็วมาก มีดีมานด์ที่สูงกว่าบิ๊กไบก์หลายเท่า ทำให้เราต้องจัดลำดับความสำคัญในการทำธุรกิจ ให้ความสำคัญกับรถเล็กและต้องการพัฒนาตลาดที่มีวอลุ่มสูง ๆ ไปก่อน

แต่ในช่วงที่ผ่านมา 1 ปีครึ่ง เราได้เริ่มเตรียมงาน และสรุปกันว่าจะเริ่มเปิดธุรกิจบิ๊กไบก์ในปี 2555

- ตลาดรวมของบิ๊กไบก์ในเมืองไทยเป็นอย่างไร

เนื่องจากมีตลาดเกรย์มาร์เก็ตอยู่ ทำให้เราไม่แน่ใจเรื่องตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ณ เวลานี้ เราคาดการณ์ได้ว่า น่าจะต่ำกว่า 1 หมื่นคัน/ปี

เจ้าตลาดบิ๊กไบก์ในเมืองไทยขณะนี้ ก็คือคาวาซากิ เพราะเขามีโรงงานใหญ่ในเมืองไทย เขามีมาร์เก็ตแชร์อยู่ในประมาณ 40-50%

- ภาพรวมตลาดอย่างนี้ เอ.พี.ฮอนด้าจะสู้ไหวหรือไม่ ถ้าให้เวลา 1 ปี

ก็...ยากอยู่นะ เราคาดว่าปีแรกเราน่าจะมีมาร์เก็ตแชร์สัก 10%

- ฮอนด้าต้องการเวลากี่ปี จึงจะประกาศว่าเป็นเจ้าตลาดบิ๊กไบก์

เราคิดว่าสัก 5 ปี เรามีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตเหมือนกับคาวาซากิ

- ฮอนด้าจะไม่เปลี่ยนใจ ไม่ปรับแผน แม้ว่าจะพบกับปัญหาน้ำท่วม ใช่ไหม

เราไม่เปลี่ยนใจ เราหนักแน่นพอ เพราะเราเชื่อว่าดีมานด์ของลูกค้าเมืองไทย มีมากพอที่เราจะตอบสนองได้ ยิ่งมีการเปิดเขตการค้าเสรี FTA และอัตราภาษี 0% ในอนาคต ยิ่งทำให้เรามีโอกาสในการทำตลาดที่เป็นไปได้มากขึ้น

- เป็นไปได้ไหมที่ เอ.พี.ฮอนด้าจะใช้เมืองไทยเป็น hub ในการผลิตของอาเชียน

แน่นอน เราหวังจะใช้เมืองไทยเป็น hub การผลิตป้อนให้ตลาดทั่วโลกด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับที่เราเคยเป็นฐานการผลิตรถรุ่น Pcx/CBR 150-250 ที่ ส่งออกไปทั่วโลก และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเราจะทำเช่นนี้กับการผลิตบิ๊กไบก์เช่นกัน

- จะเริ่มผลิตจากรุ่นไหนก่อน

เราจะมีการผลิตรถใหญ่หรือบิ๊กไบก์ทุกระดับซีซี เริ่มจากระดับกลาง ๆ ก่อน เมื่อมีโนว์ฮาวมากขึ้น เราก็จะพัฒนาผลิตรุ่นที่ใหญ่ขึ้น

ทุกวันนี้รถระดับ 400 ซีซี เรามีผลิตที่ญี่ปุ่น อเมริกา อิตาลีและบราซิล

- ทำไมจึงมั่นใจตลาดเมืองไทย

เพราะความต้องการของตลาด และศักยภาพของฮอนด้า และเมืองไทยเป็นผู้นำในเรื่องตลาดของการใช้รถมอเตอร์ไซค์ คนไทยสนใจเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวของเทรนด์รถทั่วโลก มีคนนำเข้ารถด้วยตัวเองเยอะ

ถ้าถามว่าทำไมเรามั่นใจ เพราะเราเชื่อว่าจะมีคนต้องการใช้รถบิ๊กไบก์ และเราต้องการใช้เมืองไทยเป็นฐานการผลิตรถให้กับหลายประเทศด้วย และผลิตป้อนให้ตลาดโลก ที่ผ่านมาเราได้เริ่มทำไปแล้ว และเรามีความมั่นใจมากขึ้น ที่กำลังจะก้าวไปสู่การผลิตรถอีกระดับ

เราไม่ได้โอ้อวด ทระนงตัวเอง แต่เราเองมีศักยภาพ

- เป้าหมายการทำตลาดของฮอนด้าปีหน้าเป็นอย่างไร

เรายังดูผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่...ยังตอบยาก ถ้ายึดเป้าเดิม เราต้องการ 1.4 ล้านคัน/ปี 2012 มีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 70% เพิ่มจากปี 2011 ประมาณไม่ถึง 10%

- อยากให้รัฐบาลไทยช่วยเหลืออะไรบ้าง

ประเด็นใหญ่ที่เราต้องการจากรัฐบาลคือเรื่องภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ เราอยากให้รัฐบาลบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ข้อมูลชัดเจน ออกมาตรการที่รวดเร็ว และให้มีการวางระบบการจัดการสำหรับระยะยาว เพราะทุกปีคงต้องเจอปัญหาน้ำฝน น้ำท่วม

- งานแสดงมอเตอร์โชว์ (International Motorcycle Exhibition) ในครั้งนี้ตื่นตาตื่นใจ แค่ไหน

มาก ๆ เพราะอิตาลีเป็นผู้นำตลาดบิ๊กไบก์ ในยุโรป ผมเคยทำงานในยุโรป 5 ปี ก่อนที่จะมาประจำที่ฮอนด้าประเทศไทย งานหลักคือเป็นตัวแทนขายบิ๊กไบก์ ผมรู้สึกดีที่ได้เห็นคนยุโรปสนใจรถแบบนี้มากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีและยุโรปไม่ดีนัก ผมเห็นคนตื่นเต้นกับการเปิดตัวรถใหม่ ๆ แล้วอยากให้คนไทยได้เห็นและรู้สึกดีแบบนี้บ้าง

- ภาพรวมของงานเป็นอย่างไรบ้าง

รถทุกโมเดล มุ่งไปสู่การประหยัดน้ำมัน และระบบไฟฟ้า ทั้งผู้ผลิตจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน มุ่งไปสู่ระบบนี้ ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีรถมอเตอร์ไซค์ เปลี่ยนไปแล้ว จากปกติไปสู่การดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับรถยนต์

- ภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีกำลังย่ำแย่ ทำไมคนยังมาดูมอเตอร์โชว์ วันละหลายหมื่นคน

ที่นี่วัฒนธรรมการใช้มอเตอร์ไซค์แข็งแรงมาก แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะไม่ดีนัก ที่นี่มอเตอร์ไซค์เป็นรถของชนชั้นกลาง เป็น hobby ใช้รถเพื่อความสนุกสนานของชีวิต ต่างจากเมืองไทยที่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นรถในชีวิตประจำวัน




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 0:10:40 น.
Counter : 1096 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


bunbaramee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add bunbaramee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.