AtomKit : Lay your love on Me!!!
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
14 เมษายน 2551

Not Ready To Make Nice - Dixie Chicks



นี่คือวงดนตรีในสาขาคันทรี่ประยุกต์ ( Contemporary Country Music) ที่ดังที่สุดในปี 1998 ด้วยงานอัลบั้มชุด Wide Open Spaces ซึ่งนับว่าเป็นอัลบั้มที่ได้รับความสำเร็จสูงมากเมื่อเทียบกับความสำเร็จของงานอัลบั้มชุดแรกในกลุ่มของศิลปินหน้าใหม่ด้วยกัน

วง Dixie Chicks เป็นวงดนตรีที่เล่นเพลงในแนวลูกผสมระหว่างคันทรี่พ็อพ, คันทรี่ประยุกต์, บลูแกส และโฟล์ค สมาชิกหลักมีอยู่ 3 คนเป็นหญิงล้วน ประกอบด้วย Martie Seidel เล่นไวโอลิน, Emily Erwin เล่นแบนโจ และ Natalie Maines ร้องนำ สองคนแรกเป็นสมาชิกดั้งเดิม ส่วนนักร้องนำคือ Natalie Maines นั้นเข้ามาสมทบภายหลัง

จริงๆ แล้ววง Dixie Chicks วงนี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1989 ด้วยสมาชิก 2 คนเป็นแกนนำคือ Martie Seidel กับ Emily Erwin และในขณะนั้นได้มือเบสคือ Laura Lynch กับมือกีตาร์ Robin Lynn Macy มาร่วมด้วยกลายเป็นวงคันทรี่ Quartet โดยเริ่มเล่นดนตรีกันอยู่ในผับย่านดัลลัส จนกระทั่ง Martie Seidel ไปเข้าร่วมแข่งขันในรายการ National Fiddle Championships และได้รับรางวัลที่สามในรายการนั้น จึงทำให้ชื่อของวง Dixie Chicks ซึ่งโปรโมทตัวเองออกมาในลักษณะของสามสาว Cowgirls โด่งดังมากขึ้นกว่าเดิม

ในช่วงตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มก่อตั้งวงเป็นต้นมา พวกเธอได้ออกผลงานอัลบั้มของตัวเองกับสังกัด Crystal Clear ซึ่งเป็นสังกัดเล็กๆ จำนวนทั้งสิ้น 3 ชุด คือชุด Thank Heavens for Dale Evans ในปี 1992, อัลบั้มชุด Little Ol’ Cowgirl ในปีเดียวกัน และอัลบั้มชุด Shouldn’t Told You That ในปี 1993 ซึ่งหลังจากออกผลงานชุดที่สองคือ Little Ol’ Cowgirl ในปี 1992 นั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในวง ก็คือสมาชิกคนหนึ่งได้แก่ Robin Lynn Macy ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการวางตัวให้เป็นนักร้องได้ลาออกจากวงไป และหลังจาก Dixie Chicks เซ็นสัญญากับสังกัด Monument ในปี 1995 (เป็นสังกัดในเครือของ Sony Music) Laura Lynch ก็ได้ลาออกจากวงไปอีกคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้สมาชิกใหม่มาแทนคือ Natalie Maines ซึ่งเป็นลูกสาวของมือสตีล-กีตาร์นามฉมัง Lloyd Maines ในตำแหน่งร้องนำ

หลังจากได้ Natalie Maines มาแทนสมาชิกทั้งสองคนที่ลาออกไป พวกเธอทั้งสามก็มีผลงานอัลบั้มร่วมกันออกมาหนึ่งชุดชื่อว่า Wide Open Spaces ในปี 1998 และได้รับความสำเร็จสูงมากทั้งในแง่ยอดขายและรางวัลจากหลายสำนัก โดยเฉพาะได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดในสาขา Best Country Album อีกด้วย

ผลงานชิ้นต่อมาในนามของ Dixie Chicks ยุคสามสาว Cowgirls รุ่นใหม่ได้แก่อัลบั้มชุด Fly ซึ่งแม้จะไม่สนั่นหวั่นไหวเท่าชุด Wide Open Spaces แต่ก็ไม่ถึงกับเงียบฉี่ จนมาถึงปี 2002 วง Dixie Chicks ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับดนตรีคันทรี่อีกครั้งด้วยผลงานชุด Home ที่ได้รับความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง

จะว่าไปแล้ว กระแสความนิยมในแนวดนตรีคันทรี่และบลูแกสที่พุ่งขึ้นสูงมากในปัจจุบัน หลังจากความสำเร็จอย่างท่วมท้นของซาวนด์แทรคภาพยนตร์เรื่อง O Brothers, Where Art Thou? ก็มีส่วนเกื้อหนุนให้กับความสำเร็จของงานชุด Home ไม่น้อยเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ดี หากพิจารณาด้วยความเป็นธรรมแล้ว อัลบั้มชุด Home ของ Dixie Chicks เองก็มีความน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

ด้วยการผสมผสานสำเนียงและจังหวะดนตรีพ็อพกับร็อคอ่อนๆ เข้าไปกับแนวดนตรีคันทรี่และบลูแกสอย่างลงตัว ทำให้เพลงแต่ละเพลงในอัลบั้มชุดนี้มีความน่าสนใจ มีเสน่ห์ที่น่าติดตาม และที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ซ้ำซากน่าเบื่อเหมือนเพลงคันทรี่ยุคเดิมๆ ที่มักจะมีสีสันของดนตรีและท่องจังหวะทำนองที่คล้ายคลึงกันไปหมดทั้งอัลบั้ม

และด้วยทักษะความสามารถทางดนตรีของ Martie Seidel และ Emily Erwin ผนวกกับเสียงร้องที่มีสำเนียงคันทรี่ของ Natalie Maines ทำให้เพลงของ Dixie Chicks แต่ละเพลงในอัลบั้มชุดนี้มีความลงตัว น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่นในแทรคที่ 6 เพลง White Trash Wedding นั้นเป็นแทรคที่โชว์ออฟความสามารถของทั้งสามสาวออกมาได้อย่างน่าชื่นชม นับเป็นรูปแบบของเพลงคันทรี่ที่มีลีลาแปลกหูดี

ในแง่ของคุณภาพเสียงก็อยู่ในระดับที่ดีมาก รายละเอียดของเสียงเยี่ยม เสียงกลางและเสียงแหลมใสและกระจ่าง ไม่มีอาการอับทึบหรือขุ่นออกมาให้ได้ยินเลย เสียงทุ้มนุ่มนวล แผ่นที่ผมได้มาทดลองฟังนี้เป็นแผ่นที่ปั๊มในเอเซีย (ไม่แน่ใจว่าจะเป็นแผ่นที่ปั๊มในประเทศไทยรึเปล่า แต่เนื้องานก็ออกมาดี ทั้งตัวแผ่น, ปกแผ่น และคุณภาพเสียง) ข้อตำหนิเพียงเล็กน้อยที่ทำให้ซีดีแผ่นนี้ไม่ได้คะแนนเสียงเต็ม 10 ก็เพราะว่ายังมีอาการคมแข็งปรากฏอยู่บริเวณปลายเสียงแหลมเล็กน้อย กับพบว่ายังมีอาการคลุมเครือปรากฏอยู่บริเวณเสียงทุ้มลึกๆ อีกนิดหน่อย ข้อตำหนิเล็กๆ อีกจุดหนึ่งสำหรับซีดีแผ่นนี้น่าจะมาจากขั้นตอนการปั๊มแผ่น ก็คือ พบว่ามีอาการอั้นตื้อของไดนามิกเร้นจ์เกิดขึ้นเมื่อเปิดฟังดังๆ ถึงตำแหน่งพีคของเพลงจะมีอาการตื้อเล็กน้อยซึ่งจะมีผลให้เกิดอาการอื้ออึงขึ้น ถ้าฟังดังมากๆ เสียงกลางและเสียงแหลมจะบีบกันออกมาในลักษณะที่เซ็งแซ่ชวนให้น่ารำคาญนิดๆ แต่ถ้าฟังไม่ดังมากอาการดังกล่าวก็จะเบาบางลง

งานชุดนี้บันทึกเสียงโดย Gary Paczosa กับผู้ช่วยซาวนด์เอ็นจิเนียร์ Adam Odor กับ Fred Remmert ที่ Cetar Creek Recording ทำมาสเตอร์โดย Doug Sax กับ Robert Hadley

Not Ready To Make Nice เพลงนี้ ทำออกมาได้ดีทีเดียว นักวิจารณ์หลายคนก็วิจารณ์ในทางดีขึ้น ฟังแล้วดูบ้านๆกับร๊อคจังครับ ลองฟังดูนะครับ



Forgive, sounds good
Forget, I’m not sure I could
They say time heals everything
But I’m still waiting

I’m through with doubt
There’s nothing left for me to figure out
I’ve paid a price
And I’ll keep paying

I’m not ready to make nice
I’m not ready to back down
I’m still mad as hell and
I don’t have time to go round and round and round
It’s too late to make it right
I probably wouldn’t if I could
‘Cause I’m mad as hell
Can’t bring myself to do what it is you think I should

I know you said
Can’t you just get over it
It turned my whole world around
And I kind of like it

I made my bed and I sleep like a baby
With no regrets and I don’t mind sayin’
It’s a sad sad story when a mother will teach her
Daughter that she ought to hate a perfect stranger
And how in the world can the words that I said
Send somebody so over the edge
That they’d write me a letter
Sayin’ that I better shut up and sing
Or my life will be over

I’m not ready to make nice
I’m not ready to back down
I’m still mad as hell and
I don’t have time to go round and round and round
It’s too late to make it right
I probably wouldn’t if I could
‘Cause I’m mad as hell
Can’t bring myself to do what it is you think I should

I’m not ready to make nice
I’m not ready to back down
I’m still mad as hell and
I don’t have time to go round and round and round
It’s too late to make it right
I probably wouldn’t if I could
‘Cause I’m mad as hell
Can’t bring myself to do what it is you think I should

Forgive, sounds good
Forget, I’m not sure I could
They say time heals everything
But I’m still waiting

เอ็มวีครับ




 

Create Date : 14 เมษายน 2551
3 comments
Last Update : 14 เมษายน 2551 16:08:11 น.
Counter : 863 Pageviews.

 

ช่วยแปลหั้ยหน่อยคัฟ
อยากรู้ความหมายอ่าๆๆ

 

โดย: NuenG IP: 125.24.9.204 17 กันยายน 2551 9:56:45 น.  

 

เพลงเนื้อหาดีมากครับฟม

 

โดย: ฮาเล่ย์ IP: 110.49.124.115 8 มกราคม 2553 15:11:40 น.  

 

เพราะสุดๆ

 

โดย: เจเจ IP: 125.26.223.218 8 มกราคม 2553 15:11:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


AtomKit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add AtomKit's blog to your web]