Drive (2011) ...งานหนังแอ็คชั่นโชว์พาวที่รุนแรงแต่ก็โรแมนติกของ Ryan Gosling
นับว่า Ryan Gosling ตาแหลมมากที่เลือกผู้กำกับชาวเดนมาร์กที่กำลังตัวร้อนฉ่าในวงการหนังต่างประเทศในขณะนี้อย่าง Nicolas Winding Refn มาคุมบังเหียนโปรเจ็กต์หนังแอ็คชั่นที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสามหนังโชว์พาวประจำปี 2011 ของ Gosling (อีกสองเรื่องคือ Crazy, Stupid, Love. และ The Ides of March)
เพราะแค่ชื่อชั้นของตัวผกก. Refn เองก็เหมือนเป็นตัวรับประกันอยู่ในตัวเองอย่างดีแล้วว่าถึงนี่จะเป็นโปรเจ็กต์หนังใต้ร่มเงาฮอลลีวู้ดเรื่องแรก แต่ก็จะไม่มีทางถูกแทรกแทรงการกำกับศิลป์โดยฮอลลีวู้ดจนผลลัพธ์ออกมากลายเป็นแค่หนังแอ็คชั่นสเตอริโอไทป์อย่างแน่นอน
สไตล์การกำกับของผกก. Refn ยังคงเป็นการเน้นการเล่าเรื่องราวด้วยภาพและเสียงเป็นหลัก
การใช้ Tracking shot ที่เหมือนกับเป็นดวงตาของพระเจ้า(คนดู)ที่จับจ้องสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในหนังและดนตรีประกอบแนวอิเล็กโทรที่ค่อยๆบิวต์อารมณ์ในแต่ละฉากของหนังได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะอารมณ์โรแมนติกเหงาๆประหนึ่ง In the Mood of Love ของหว่องกาไวในครึ่งแรกของหนังที่คู่พระ-นางของเรื่องได้มาพานพบกันในฐานะเพื่อนร่วมอพาร์ทเมนท์ หรืออารมณ์ตึงเครียด กดดันตอนที่ตัวหนังเปลี่ยนแนวเรื่องจากความโรแมนติกสู่ความเป็น Action - Thriller อย่างเต็มตัวในครึ่งหลังของหนัง
แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าครึ่งหลังของหนังจะมีความเร็วไปกว่าความช้าของครึ่งแรกมากมาย เพราะดูเหมือนว่าในหนังเรื่องนี้ ผกก. Refn เลือกที่จะปรับเกียร์ใช้การดำเนินเรื่องที่ช้าเพื่อให้ภาพและเสียงของหนังค่อยๆซึมซับเข้าไปในความรู้สึกของคนดู แบบเดียวกับผลงานหนังชิ้นก่อนของเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องความช้าแต่ตราตรึงลงไปในความรู้สึกของคนดูอย่าง Valhalla Rising มากกว่าผลงานหนังที่มีการดำเนินเรื่องที่โฉบเฉี่ยว รวดเร็วอย่างไตรภาค Pusher หรือ Bronson
บวกกับการที่ตัวหนังแทบไม่เน้นบทสนทนาชนิดที่ในหลายๆฉากแทบจะนับจำนวนประโยคที่ตัวละครพูดออกมาได้และฉากแอ็คชั่นที่ถึงจะโหดได้ที่แต่ก็ไม่ได้มีเยอะแยะอะไรมากมายก็ยิ่งส่งผลให้โทนอารมณ์โดยรวมของหนังนิ่งเงียบพอๆกับตัวละครพระเอกของ Ryan Gosling เอง
ซึ่งในที่สุดแล้วมันก็ต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ชมเองว่าจะจูนเข้ากับการดำเนินเรื่องแนวๆนี้ได้หรือไม่
แต่ถ้าว่ากันด้วยศาสตร์ศิลป์ของการกำกับภาพยนตร์ล้วนๆเลยแล้ว ก็บอกได้อย่างเดียวเลยว่าผกก. Refn ดึงศักยภาพของภาพยนตร์ ทั้งในส่วนของภาพและเสียงมาใช้ในการเล่าเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหนังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังแอ็คชั่นอย่างหนังเรื่องนี้ถึงซิ่งคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ที่มักจะขึ้นชื่อเรื่องความนิยมกะไดสูงๆอย่างเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์มาครองได้
และก็แน่นอนว่าถ้าหากไร้ซึ่งนักแสดงที่ดี ต่อให้มีการกำกับที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ยากที่จะพาหนังไปตลอดรอดฝั่งโดยไม่ตกม้าตายเอาตอนหลังได้
Ryan Gosling ยังคงมอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมเหมือนทุกๆครั้ง การแสดงของเขาในหนังเรื่องนี้จะเป็นการแสดงที่เน้นสีหน้าและภาษากายเป็นหลักด้วยความที่ตัวละครโชเฟอร์นิรนามของ Gosling ในหนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบของความเป็นตัวละครพระเอกหนังแอ็คชั่นแนวพูดน้อยต่อยหนักที่มักจะรับบทโดยนักแสดงอย่าง Steven McQueen, Charles Bronson ในช่วงยุค 60's - 70's
ผสมกับการแสดงสาย Method acting ของ Gosling ที่ทำให้โชเฟอร์นิรนามมีความเป็นตัวละครชายหนุ่มที่แม้ภายนอกจะแข็งแกร่งแต่ภายในลึกๆก็มีปมปัญหา(แม้ตัวหนังจะไม่บอกคนดูถึงปูมหลังใดๆของตัวโชเฟอร์นิรนามเลยก็ตาม)และมองตัวเองเป็นคนนอกอยู่ตลอดเวลาแบบเดียวกับที่เป็นภาพจำของนักแสดงสาย Method acting รุ่นบุกเบิกอย่าง Marlon Brando, Paul Newman ทำให้ตัวละครโชเฟอร์นิรนามของ Gosling มีทั้งความเท่และมิติตื้นลึกบางหนาที่น่าสนใจไปพร้อมๆกัน,
Carey Mulligan แสดงดีในบทคุณแม่วัยยังสาวและมีเคมีที่เข้ากันได้กับ Gosling ทำให้ครึ่งแรกของหนังที่เป็นการเน้นหนักไปยังการเข้าพระเข้านางของทั้งสองที่แทบจะไม่มีบทสนทนาแลดูน่าเชื่อถือพอว่าเพียงการสบตา,คุยกันเพียงไม่กี่คำ,และใช้เวลาด้วยกันเพียงไม่กี่ครั้งจะสามารถทำให้สองคนนี้ปันใจให้กันและกันได้,
Albert Brooks (ผู้ที่น่าจะเป็นคนที่มีบทสนทนาเยอะที่สุดในหนัง)ฉาบความโหดเหี้ยมในฐานะตัวร้ายหลักของหนังด้วยมาดคุณลุงจอมฮาแบบที่คนดูส่วนใหญ่คุ้นเคยกันจากผลงานการแสดงชิ้นก่อนๆของเขา ทำให้ตัวละครตัวร้ายของเขามีความน่าหวาดหวั่นขึ้นเป็นสองเท่า
ส่วนตัวสมทบคนอื่นๆอย่าง Bryan Cranston, Ron Perlman, Oscar Isaac, และ Christina Hendricks ต่างก็ทำหน้าที่เล็กๆน้อยๆในส่วนของตัวเองได้ดีไปตามระเบียบ
สรุป...หนักไปทาง"อาร์ต"มากกว่า"แอ็คชั่น"
ตัวหนังมีการแสดงที่ดีและมีการกำกับที่ยอดเยี่ยม แต่ด้วยการดำเนินเรื่องที่ช้าและฉากแอ็คชั่นอันน้อยนิดก็ย่อมต้องทำให้ Drive ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นสำหรับทุกคน(แม้แต่กับคนที่เป็นแฟนานุแฟนของหนังแอ็คชั่นและ/หรือ Ryan Gosling)
แนะนำได้อย่างเดียวว่า...พึงเช็ครสนิยมของตัวเองก่อนรับชมเพื่อความไม่เสียใจทีหลัง
8.0/10
Create Date : 28 กันยายน 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 18 ตุลาคม 2554 15:57:23 น. |
Counter : 3370 Pageviews. |
|
|
|