มกราคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ภาพถ่ายและวิดีโอใต้น้ำ (Fujifilm FinePix XP80) หมู่เกาะสุรินทร์



อิชั้นเพิ่งกลับเมืองไทยไปภูเก็ตมาเกือบสองสัปดาห์เมื่อช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ที่ผ่านมา นอกจากจะไปทำธุระส่วนตัวแล้วก็ตั้งใจจะไปทัวร์ดำน้ำตื้นดูปะการังสัก 2 วันกับ Love Andaman โดยจองทัวร์ไปหมู่เกาะสุรินทร์วันนึง แล้วก็เกาะรอกอีกวันนึง

ก่อนไปทั้งอิชั้นและสามีค่อนข้างเห่อกับวันหยุด (กลาย ๆ) ของเรากันพอสมควร เราทั้งคู่กูเกิลหารีวิวกล้องถ่ายภาพใต้น้ำที่พอใช้ได้และราคาถูกกันหลายสัปดาห์ทีเดียว หะแรกอิชั้นตั้งใจจะซื้อเคสกันน้ำให้กล้อง Fujifilm X100s ที่มีอยู่แล้ว (กะจะประหยัด ว่างั้นเหอะ) แต่พอดูแล้วเคสกันน้ำคุณภาพดี ๆ หน่อย ราคามันพอ ๆ กับกล้องถ่ายภาพใต้น้ำราคาย่อมเยาว์เลยทีเดียวนะ

แล้วอิชั้นก็ไม่เคยถ่ายภาพใต้น้ำมาก่อน ดำน้ำก็ไม่เก่ง จะถ่ายไปดำน้ำไปไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนคุณสามีว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำได้ แต่ถ่ายรูปไม่เป็นอีก การลงทุนซื้อกล้องถ่ายภาพใต้น้ำดี ๆ อาจเป็นการเสียเงินเปล่า แถมเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวแบบนี้กันบ่อย ๆ (ชอบเที่ยวเมือง ดูคนมากกว่า) ในที่สุดเราก็ตกลงใจซื้อ FujiFilm Finepix XP80 สีเหลืองอ๋อยถูกใจอิชั้น ในราคาถูกเงิน (คือถูกที่สุดในบรรดากล้องถ่ายภาพใต้น้ำราคาย่อมเยาว์ทั้งหลายแล้วอ่ะนะ) ติดตัวไปด้วยในครั้งนี้





วันที่เราจะไปทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์กันนั้น เนื่องจากเราพักที่ภูเก็ตดังนั้น Love Andaman เขาก็นัดรับตั้งแต่ไก่โห่เพื่อจะไปให้ถึงท่าเรือทับละมุได้ทันเวลาเรือออก อิชั้นกำลังหัวปั่นกับการแต่งตัวก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รับโทรศัพท์พร้อมดูเวลามันตีห้าห้าสิบนาที คนขับรถโทรฯเข้ามาถามว่าโรงแรมอยู่ไหน ยังมืดตื๋อแบบนั้น อารมณ์ก็ไม่ค่อยจะดีเพราะต้องตื่นเช้า แต่หัวกำลังแล่นเนอะ ก็บอกคนขับไปว่า “อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต ถ.ศักดิเดชน์ 1 ใกล้ ๆ กับบริษัทคุณนั่นแหละค่ะ อิชั้นเป็นนักท่องเที่ยว ทำไมโทรฯมาถามอิชั้นล่ะค้า ทำไมไม่โทรฯถามบริษัทคุณล่ะ” แล้วก็ตัดสาย โอย .. มนุษย์ป้าลมขึ้น

แต่งตัวต่อจนอีกห้านาทีจะหกโมง (เวลานัด) ก็ลงจากห้องเดินไปล็อบบี้กัน คนขับมารออยู่แล้ว (นั่นแน่ะ!!) อิชั้นรีบมุดขึ้นรถไปนอนต่อ คนขับแวะรับแขกอีก 3 คนที่โรงแรมใกล้ ๆ กันแล้วก็ขับตรงจากภูเก็ตไปท่าเรือทับละมุเลย ไม่ต้องแวะแขกคนอื่นที่หาดต่าง ๆ อีก เลิศมาก ก่อนรถจะเลี้ยวเข้าไปยังท่าเรือทับละมุ คนขับแวะปั๊มน้ำมันให้เข้าห้องน้ำกันก่อนด้วย ทุกคนพร้อมใจลงรถไปเข้าห้องน้ำกันหมด ไปถึงท่าเรือทับละมุโดยสวัสดิภาพ ขับดี รถไม่ติด แฮปปี้ค่ะ

ไปถึงท่าเรือแล้วพวกเราเริ่มเช็คอินกันเป็นกลุ่มแรก ได้สายคล้องข้อมือสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ว่าไปหมู่เกาะสุรินทร์ มีเวลากินขนม ข้าวต้ม ดื่มนม ดื่มกาแฟรองท้องกันก่อนด้วย อาหารของเขาค่อนข้างอลังการและคุณภาพราวกับบุฟเฟต์ของโรงแรมระดับ 2-3 ดาวเลยทีเดียวค่ะ ไกด์ทอมมี่เข้ามาทักทายและเรียกให้ไปเข้ากลุ่ม อิชั้นขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน (คือเดาไม่ออกว่าควรจะใส่เสื้อผ้าอะไรมา เรือจะใหญ่ขนาดไหน จะมีห้องน้ำให้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเปล่า ฯลฯ) เปลี่ยนเสร็จก็ได้เวลาบรีฟครั้งสุดท้ายก่อนถอดรองเท้า ถ่ายรูปครอบครัว และขึ้นเรือกันต่อไป

คุณไกด์บอกให้ฟังว่าขาไปเรือเราจะแล่นโต้คลื่น ดังนั้นเรือจะกระเด้งกระดอนกว่า (ชวนให้คายของเก่าเป็นอย่างยิ่ง) และจะใช้เวลานานกว่า ขณะที่ขากลับเรือจะแล่นตามคลื่นดังนั้นความกระเด้งกระดอนจะน้อยกว่าและใช้เวลาเดินทางน้อยกว่านิดนึง

เราไปแวะหมู่บ้านมอแกนเป็นที่แรก ที่นี่มีห้องน้ำให้เข้าด้วย ใครอยากเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับลงน้ำก็ทำได้ตรงนี้ (โปรแกรมว่าจะไปจอดตรงจุดไหนก่อน อะไรยังไง แล้วแต่การตัดสินใจของไกด์และกัปตันเรือล้วน ๆ) ได้ถ่ายภาพหมู่บ้านกับชาวยิปซีทะเลที่นี่กันพอหอมปากหอมคอค่ะ





หลังจากนั้นเราก็ไปแวะจุดดำน้ำแรกของวันนี้ อิชั้นยื่นกล้องให้ไกด์ทอมมี่ ฝากอนาคตของกล้องตัวนี้ไว้ในมือไกด์เลยล่ะค่ะ ก็ได้ภาพและคลิปของปะการังและปลาที่น่าสนใจมาหลายภาพหลายคลิปเลยทีเดียว ขอขอบคุณคุณไกด์มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ











จากจุดนี้เราก็ไปหมู่เกาะสุรินทร์ แวะกินข้าวกลางวันกันที่นี่ อาหารเขาน่ากินดีค่ะ แต่ครอบครัวอิชั้นชินแต่การกินอาหารร้อน ๆ เคยมากินอาหารที่เขาปรุงแล้ววางทิ้งไว้แบบนี้ทีไร ก็จะท้องเสียท้องเดินกันเป็นประจำ แต่หิวเนอะก็ตักกันคนละนิดละหน่อยพอรองท้อง พร้อมกับทำใจไว้เลยว่าคืนนี้ต้องเกิดอาการแน่ ๆ












อิชั้นว่าบนเกาะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนะ เคยอ่านจากรีวิวเขาว่าทางหาดด้านหลัง บางครั้งก็เห็นลูกฉลาม อิชั้นก็แวะไปดูเหมือนกันค่ะ แต่ไม่เห็น เขาคงจะมากันเวลาอื่นเนอะ อยู่ที่นี่ได้ชั่วโมงกว่า ๆ เข้าห้องน้ำห้องท่ากันเสร็จ ก็ได้เวลาเดินทางไปจุดดำน้ำอีก 2 จุดค่ะ ช่วงบ่ายทาง Love Andman เขาก็มีอาหารว่างเป็นขนมปังไส้กรอกกับผลไม้สด (ใส่ถังน้ำแข็งมา) ให้เราได้รองท้องกันอีกหน่อย เลิศมาก








หลังจากปิดท้ายกันด้วยจุดดำน้ำอีก 2 จุดก็ได้เวลาเดินทางกลับกันค่ะ หนุ่มใหญ่เริ่มออกอาการเมาเรือตอนขากลับ ส่วนหนุ่มน้อยเห็นคนข้าง ๆ คอพับคออ่อนก็เริ่มออกอาการบ้างราวกับโดนสะกดจิตหมู่ มีมนุษย์ป้านี่แหละที่ทรหดอยู่คนเดียว นั่งลูบหลังลูบไหล่คุณสามีมือนึง อีกมือก็ควานหายาดมยาอมยาหม่องมาให้ลูกชายไป เรามาถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ ไม่มีใครคายของเก่าหรือให้อาหารปลากันแต่อย่างใด ขึ้นจากเรือแล้วอิชั้นก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า มาต่อแถวรับไอศกรีมกะทิที่อร่อยที่สุดในสามโลก (คุณไกด์เขาว่าอย่างนั้น) ก็อร่อยจริง ๆ สำหรับคนที่ไม่ได้กินไอติมกะทิมาสิบกว่าปีแล้วอย่างอิชั้นนะ เจ้าลูกชายก็ชอบค่ะ


นั่งรถเดินทางกลับภูเก็ตกัน อารมณ์ดีกว่าเมื่อเช้าเหมือนเป็นคนละคน ไม่ลืมให้ทิปคนขับ (คนเดิม) พร้อมกล่าวคำขอบคุณ “ไม่มีอะไรขัดข้องหมองใจกันนะคะคุณพี่ เช้า ๆ ผียังไม่ออกเท่านั้นเอง”


กลับมาดูภาพที่ได้จากกล้อง Fujifilm Finepix XP80 ถึงแม้สีสันที่ได้จะไม่สวยสดใสเท่าไหร่ แต่สำหรับกล้องในระดับราคาเท่านี้ ได้ขนาดนี้ก็แฮปปี้มากแล้วค่ะ โดยอิชั้นปรับ Level ของภาพถ่ายและวิดีโอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เจ้าลูกชายช่วยตัดต่อวิดีโอให้โดยใช้ Adobe Premiere Pro ค่ะ






หากคุณชอบเนื้อหาที่อ่านอยู่นี้และอยากให้กำลังใจเจ้าของบล็อก คุณสามารถคลิก Like หรือแชร์ข้อมูลของบล็อกนี้ผ่าน Social Media ที่คุณใช้งานอยู่ หรือคลิกที่แบนเนอร์ Like us on Facebook ซึ่งอยู่ทางขวามือเพื่อติดตามเพจ facebook ค่ะ ขอบคุณค่ะ



Create Date : 17 มกราคม 2559
Last Update : 17 มกราคม 2559 15:36:54 น.
Counter : 8896 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ