BlogGang.com : : amulet108 : 'เมเปิ้ลแดง'ภูกระดึง แมลง-เชื้อราคุกคาม หวั่นกระทบท่องเที่ยว

หวั่น “ต้นเมเปิ้ลแดง”ขนาดใหญ่บนโขดหินใกล้น้ำตกขุนพอง สัญลักษณ์ภูกระดึงล้มตาย หลังพบติดเชื้อรา-แมลงแทะ ไม่มีการผลัดใบสีแดงมาหลายปี ทำหนังสือถึงส่วนกลางส่งผู้เชี่ยวชาญเร่งตรวจพิสูจน์ ก่อนเชื้อลุกลามไปติดต้นอื่น กระทบระบบนิเวศและท่องเที่ยวภูกระดึง...

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายนพชนม์ ทับทิม หัวหน้าศูนย์วิจัยกีฎวิทยาป่าไม้ที่ 2 ขอนแก่น สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมาทางศูนย์ได้รับการประสานจากนายสนอง แก้วอำไพ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลยว่า ต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่ บริเวณน้ำตกขุนพอง ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดและถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง มีสภาพทรุดโทรม ไม่ผลิใบเหมือนทุกปีที่ผ่านมา จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบพบว่า ต้นเมเปิ้ลลำต้นผุ มีเชื้อราสีดำขึ้นอยู่เป็นวงกว้างในบริเวณลำต้น และมีแมลงเข้าไปเจาะในเนื้อไม้ โดยมีใบสีเขียวขึ้นตามกิ่งเล็กน้อย และไม่มีการผลัดใบสีแดงเหมือนทุกปี ทั้งๆที่ช่วงการสำรวจเป็นฤดูหนาว ซึ่งปกติต้นเมเปิ้ลจะผลัดใบสีแดงไปทั่วบริเวณน้ำตกขุนพอง

ทั้งนี้ คาดว่าเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของต้นเมเปิ้ล ที่พยายามปรับสภาพเอาตัวรอดไม่ให้ตายลง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ยาฆ่าเชื้อรา และทางอุทยานฯภูกระดึงได้ทำเรื่องไปถึงกรมอุทยานฯ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญลงมาตรวจพิสูจน์อีกครั้ง เพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป

ด้านนายสนอง กล่าวว่า ในช่วงที่ตนเป็นหัวหน้าอุทยานฯภูกระดึง ได้รับรายงานว่าต้นเมเปิ้ลต้นนี้ มีสภาพคล้ายกำลังจะตายลงในช่วงหลายปีมาแล้ว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่กีฎวิทยามาตรวจสอบในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าต้นเมเปิ้ลที่มีสภาพทรุดโทรม น่าจะเป็นไปตามธรรมชาติ ตามอายุขัย ที่น่าจะอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป และน่าจะเป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดบนภูกระดึง ที่สำคัญต้นเมเปิลต้นนี้เกิดอยู่บนโขดหิน ทำให้ระบบรากมีปัญหา เพราะดินที่เป็นแหล่งอาหารถูกกระแสน้ำชะล้างออกไปทุกปี อย่างไรก็ตาม แม้จะมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่เมเปิ้ลต้นนี้ถือเป็นไฮไลท์ และสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่อยู่คู่ภูกระดึงมาตั้งแต่แรก เช่นเดียวกับต้นสนที่ผาหล่มสัก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแล โดยเฉพาะในมุมมองทางด้านวิชาการและการวิจัย เพื่อหาแนวทางอนุรักษ์ไว้ต่อไป

ด้านนายฑิตศักดิ์ สุริยาชัยวัฒนะ หัวหน้าอุทยานฯภูกระดึง กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ส่งนักวิชาการและผู้ชำนาญการด้านต้นไม้มาดูสภาพของต้นเมเปิ้ลดังกล่าวแล้ว โดยเมเปิ้ลต้นนี้มีสภาพไม่ปกติมา 4-5 ปีแล้ว โดยยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากแมลงหรือเชื้อรา ที่ผ่านมาหัวหน้าอุทยานฯ หลายคนเคยทำหนังสือแจ้งไปที่กรมอุทยานฯ ขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ไม้มาดู เนื่องจากเกรงว่าจะลุกลามไปยังเมเปิ้ลต้นอื่น ซึ่งขึ้นกระจายอยู่ในหลายจุด และเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของภูกระดึงมีเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยหากยังหาสาเหตุ และแก้ปัญหาไม่ได้เกรงจะกระทบระบบนิเวศ และการท่องเที่ยวของภูกระดึง โดยขณะนี้ภูกระดึงอยู่ในช่วงฤดูฝน ได้ปิดป่าบริเวณดังกล่าวอยู่ ซึ่งจะพยายามเร่งแก้ไขให้ต้นเมเปิ้ลดังกล่าวคืนสู่สภาพเดิมให้เร็วที่สุด.