แคนนอน หวังพลิกโฉมหน้าตลาด DSLR กระตุ้นยอดขายครึ่งปี 2013 ด้วย EOS 70D กล้องDSLR รุ่นใหม่ที่มากับเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APC-S ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 5+ และถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 7 ภาพต่อวินาที...
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า จากความทุ่มเทในการทำวิจัยถึงความต้องการของผู้ใช้งานกล้อง และความทุ่มเทในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ทำให้เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Dual Pixel CMOS AF ที่มาพร้อมกับกล้อง EOS 70D เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาขีดความสามารถของตนเองไปได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย ขณะที่ การผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบไฟล์วิดีโอ และแชร์ไปยังโลกโชเชี่ยลเน็ตเวิร์กก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ กล้อง EOS 70D ก็ยังช่วยให้การสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบแดงคุณภาพระดับมืออาชีพ สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ผอ.อาวุโสและผจก.ทั่วไปฯ บ.แคนนอน กล่าวต่อว่า EOS 70D เป็นการผสานเอา 3 สุดยอดเทคโนโลยีเพื่อการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอย่าง Dual Pixel Movie Servo AF STM Lenses รวมทั้งฟังก์ชั่น VDO snapshot ที่จะมาช่วยทำให้การตัดต่อร้อยเรียงเรื่องราวนั้นสามารถทำได้จากในตัวกล้อง ในขณะที่การถ่ายภาพนิ่งนั้นได้รวบรวมเอาฟังก์ชั่นเด่นๆ ที่มีในกล้องระดับมืออาชีพมาไว้อย่างมากมาย และนอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรุ่นใหม่ด้วยการเสริมฟังก์ชั่น Wifi ในตัวกล้อง สะดวกทั้งการควบคุมตัวกล้องผ่านทางสมาร์ทโฟน และการแชร์ภาพจากกล้องไปกล้อง และไปยังอุปกรณ์อื่นๆ รองรับการใช้งานแบบไร้สายอีกด้วย
"สำหรับ EOS 70D ถือเป็นที่สุดของกล้อง DSLR ที่มีศักยภาพรอบด้านทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการบันทึกภาพเคลื่อนไหว เป็นนิยามใหม่ของกล้อง DSLR ที่ผสานรวมเทคโนโลยีเด่นๆ ของแคนนอนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพและพัฒนาขีดความสามารถไปพร้อมๆ กัน แคนนอนเชื่อว่ากล้อง EOS 70D นี้จะเป็นหมากพลิกเกมสำคัญในตลาดกล้อง DSLR ปัจจุบัน ช่วยให้แบรนด์แคนนอนเข้มแข็งจนทิ้งห่างผู้เล่นรายอื่นๆ และเป็นสินค้าเด่นช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงครึ่งปีหลังให้เพิ่มขึ้น และครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ได้มากกว่า 65% ตามเป้าหมาย" นายวรินทร์ กล่าว
สำหรับเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF นวัตกรรมล่าสุดจากแคนนอน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของกล้อง EOS 70D ให้เหนือกว่ากล้อง DSLR ที่เคยมีมา ทั้งในการถ่ายภาพด้วยการมองผ่านช่องมองภาพ อันเป็นวิธีที่ถูกต้องและดั้งเดิมในการถ่ายภาพ การถ่ายภาพ หรือ ผ่านทางจอทัชสกรีนแบบ Live View ก็สามารถโฟกัสได้เร็วขึ้นถึง 30% และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ EOS Movie ระบบออโต้โฟกัสของตัวกล้องก็ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และต่อเนื่องเสมือนถ่ายภาพด้วยกล้องวิดีโอ การเปลี่ยนจุดโฟกัสต่อเนื่องไหลลื่นเป็นธรรมชาติ ติดตามวัตถุได้ไม่มีพลาด สะดวกง่ายดายเพียงสัมผัสหน้าจอทัชสกรีนแบบปรับหมุนได้เพื่อเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการ
กล้อง EOS 70D มากับขุมพลังแห่งเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกงานถ่ายภาพเป็นไปได้ แบบกล้องระดับมืออาชีพมากมาย อาทิ ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพกีฬาหรือภาพแอคชั่น ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ 7 ภาพต่อวินาที ระบบออโต้โฟกัสแบบ All Cross Type AF 19 จุด และ Dual Cross Type ที่จุดกึ่งกลาง (รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ f/2.8) ทำให้สามารถจับโฟกัสวัตถุรวดเร็วแม่นยำ แม้เป้าหมายจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ยากต่อการคาดการณ์ ไม่พลาดแม้วินาทีสำคัญ ฟังก์ชั่นการควบคุมแฟลชภายนอกจากตัวกล้องแบบไร้สาย การปรับตั้งค่า AF Microadjustment
ความสามารถในการถ่ายวิดีโอ ด้วย 3 สุดยอดเทคโนโลยีอย่าง Dual Pixel CMOS AF ฟังก์ชั่นติดตามวัตถุอัตโนมัติ Movie Servo AF และเทคโนโลยี STM (Stepping Motor) ที่มีอยู่ในเลนส์ จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ ด้วยความสามารถในการโฟกัสติดตามวัตถุไปอย่างต่อเนี่องทุกที่ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด นอกจากนี้ด้วยหน้าจอทัชสกรีน ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่งหรือวัตถุที่ต้องการโฟกัสโดยการทัชที่หน้าจอ โดยตัวกล้องสามารถโฟกัสไปยังวัตถุนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่ากล้องจะทำการบันทึกภาพอยู่ตาม โดยปราศจากเสียงจากมอเตอร์ในตัวเลนส์ ขณะค้นหาโฟกัสอัตโนมัติมารบกวน และเพื่อความคล่องตัวในการใช้งานระดับมืออาชีพ
กล้อง EOS 70D ติดตั้งไมโครโฟนระบบเสียงสเตอริโอ ที่ปรับค่าความดังของเสียงและเปิดใช้งานฟังก์ชั่นลดความแรงสัญญาณเสียงได้ตามต้องการ มาพร้อมกับช่องต่อไมโครโฟนภายนอกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการปรับตั้งค่าตัวกล้องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูรับแสงหรือค่า ISO ผู้ใช้ก็สามารถเลือกปรับแมนนวลได้ตามต้องการ และยังบรรจุฟังก์ชั่น VDO Snapshot และ Music Background ที่จะมาช่วยทำให้การบันทึกและตัดต่อ สำหรับมือใหม่กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนานอีกด้วย
กล้อง EOS 70D ติดตั้ง Wifi ในตัวกล้อง เช่นเดียวกับกล้องรุ่นพี่อย่าง EOS 6D เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อตัวกล้องเพื่อการแชร์ภาพถ่ายไปยังอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมทั้งช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานระยะไกลของกล้อง EOS 70D ผ่านทาง EOS Remote app จากสมาร์ทโฟน เสมือนเป็นหน้าจอ Live View จุดที่ 2 ขณะเดียวกัน ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กยังอัพโหลดแชร์ภาพสวยคมชัด อวดเพื่อนๆ บนเว็บไซต์ดังอย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ได้เร็วทันใจผ่านแอพพลิเคชั่น EOS Remote หรือส่งไฟล์ภาพและวิดีโอไปยังคอมพิวเตอร์ (ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย) หรือจะส่งไปพิมพ์ภาพด้วยเครื่องพริ้นเตอร์ Pixma หรือ Selphy และดูภาพผ่านทางอุปกรณ์ที่รองรับระบบ DLNA ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ ก็ทำได้ทันทีเช่นกัน
ข้อมูลทางเทคนิคของกล้อง EOS 70D
เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผลอัจฉริยะ DIGIC 5+
ช่วงความไวแสงกว้าง ISO 100-12800 (ขยายได้สูงสุดถึง ISO 25600)
เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF System
ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 7 เฟรมต่อวินาที
ระบบออโต้โฟกัสแบบ Cross-Type 19 จุด (ทุกจุด) และ Dual Cross-type ที่จุดกลาง
หน้าจอ LCD ทัชสกรีน เทคโนโลยี Clear View II ขนาด 3 นิ้ว ปรับหมุนได้
รองรับการแชร์ภาพถ่าย และการควบคุมภาพจากสมาร์ทโฟนด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi ในตัวกล้อง
ช่องมองภาพปรับปรุงใหม่ล่าสุด Intelligent Viewfinder
ปรับตั้งค่าคัสตอมฟังก์ชั่นได้ถึง 23 รูปแบบ
ฟังก์ชั่นสั่งงานแฟลชภายนอกแบบไร้สายในตัวกล้อง
บันทึกภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูงระดับ Full HD พร้อมไมโครโฟนในตัว และช่องต่อไมโครโฟนภายนอก
ขนาด 139.0 x 104.3 x 78.5 มม.น้ำหนัก 675 กรัม (เฉพาะบอดี้)
กล้องแคนนอน EOS 70D จะวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 เป็นต้นไป โดยราคาจำหน่าย EOS 70D (เฉพาะตัวกล้อง) เริ่มต้นที่ ราคา 36,900 บาท นอกจากนี้ยังมีชุดคิตกล้องพร้อมเลนส์ ได้แก่ EOS 70D พร้อมเลนส์ EF-S 18-55mm f/3.5-5.6 IS STM, EOS 70D พร้อมเลนส์ EF-S 18-135mm f/3.5-5.6 IS STM และ ชุดคิต EOS 70D พร้อมเลนส์ EF-S 18-200mm f/3.5-5.6 IS ทั้งนี้ วางจำหน่ายพร้อมกับอุปกรณ์เสริม Battery Grip BG-E14 แบตเตอรี่กริปที่ช่วยให้ถ่ายภาพแนวตั้งได้ถนัดมือและง่ายขึ้น และสามารถถ่ายภาพได้นานขึ้นถึง 2 เท่า (เมื่อใส่แบตเตอรี่พร้อมกัน 2 ก้อน).