พฤษภาคม 2554

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
23 พฤษภาคม 2554
[รถตู้] อัมพวา
[14-15 พฤษภาคม 2554]

คราวนี้เปลี่ยนแนวจากรถไฟ มานั่งรถตู้กันบ้างค่ะ แล้วด้วยความที่เพื่อนเพิ่งออกรถ(ออกมาแล้ว แต่จะขนกันไปก็ไม่หมด เลยต้องนั่งรถสาธารณะอยู่ดี) เลยอยากได้ทริปใกล้ ๆ ไม่แพง เลยตกลงกันที่อัมพวา

แต่คราวนี้ให้เพื่อนจัดทริปหาที่พักให้เสร็จสรรพ์ กะไม่คิดไม่ทำอะไรแล้ว 555 เพื่อนนัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ 7 โมง ไปถึง เพื่อนยังไม่ถึง แป่ว นั่งรอกันไป ไม่ใช่แค่เพื่อนยังไม่ถึง คนที่คิวรถก็ยังไม่มา! พอเพื่อนมาสักพัก คนที่คิวรถก็มา แล้วเค้าก็บอกว่า รถเที่ยวแรก 8 โมง!! (เอิ่ม... คนจัดทริป ให้มาทำไมเนี้ยก่อนเวลาเป็นชม. นอนยิ่งไม่ค่อยหลับอยู่ แทนที่จะได้นอนต่อ) ราคาคนละ 80 บาท ลงอัมพวาจ๊ะ

พอรถตู้มาถึง... อ้าว เฮ้ย ทำไมมีคนนั่งมาแล้วด้วยล่ะ เราอุตส่าห์มารอเป็นกลุ่มแรกขนาดนี้ เลยต้องไปนั่งข้างหลังสุด ปรากฏว่า นั่งปั๊บ หัวชนปุ๊บ อาการเมารถเข้าครอบงำพอดี ไม่ไหว ๆ เลยต้องเปลี่ยนที่นั่ง วิ่งวุ่นเข้า ๆ ออก ๆ อีกหลายรอบ(ก็บอกแล้วว่ามีแต่คนสูง ๆ ค่ะ) ในที่สุดก็ได้ที่นั่งข้างประตูกันเลย

แต่กอล์ฟ(เพื่อนข้างหลัง)ยังบ่นอยู่ ขาชน ๆ

รถตู้สายนี้จะแวะที่ตลาดแม่กลองก่อน แล้ววิ่งทั้งตลาดน้ำอัมพวาและตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีชาวต่างชาติคนนึงเค้ามาคนเดียวบอกว่าจะไป "floating market" เค้าก็คอยถามว่าถึงรึยัง แต่กลุ่มเราเกิดอาการสับสนว่าจะไปตลาดน้ำอันไหน โชคดีที่เพื่อนเค้าโทรมาบอกคนที่คิวรถไว้แล้ว ว่าจะไปดำเนินสะดวก เลยไม่ลงผิดตลาดน้ำ (ถ้าใครมีเพื่อนต่างชาติ จะแนะนำให้เค้ามา ต้องให้เค้าจำชื่อตลาดด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจผิดได้)

ไปถึง 9 โมงกว่า ๆ ตลาดยังมีของมาขายน้อย คนก็ยังน้อย ติดต่อเรือเตรียมไปไหว้พระกันก่อน (ไหว้พระ 5 วัด คนละ 50 บาท) แล้วไปหาข้าวกินกัน ไปเจอร้านนี้บรรยากาศดี อาหารใช้ได้ ที่สำคัญถูกมาก จานละ 20 บาท เอง น้ำจิ้มข้าวไก่อบของเค้าอร่อยมาก (ข้าวไก่อบมีให้เลือกว่าจะเอาข้าวมันหรือข้าวธรรมดาด้วย) เกาเหลาเค้าก็ใช้ได้ ๆ


กินเสร็จเดินกลับมาที่ตลาดอีกที แล้วลงความเห็นกันว่า เราเหมาลำไปเลยดีกว่า (เหมา 500 บาท) เพราะไปกัน 7 คน อยากให้เรือรอที่ไหนก็ไม่ต้องเกรงใจใคร อยากไปบ้านแมวกันค่ะ แล้วเค้าบอกว่าเดินไกล ประมาณ 500 เมตร (ในใจแอบคิด 500 เมตร ไกลตรงไหนเนี้ย แต่เค้าคงอยากทำเวลา จะได้มารับคนอื่น หรือไม่ก็ไม่อยากให้คนอื่นที่ขึ้นเรือมาด้วยกันรอล่ะมั้ง)

ตกลงกันเสร็จก็ลงเรือกันเลย พี่เค้าก็พาไปวัดแรกก่อนเลย ไปถึงเค้าก็อธิบายนิดหน่อย ขึ้นจากเรือไปไหว้พระกัน (ถ่ายดอกสาระมาอีกรอบ) วัดแรกโอเค ทำบุญกันนิดหน่อย แล้วไปไหว้พระ


แล้วลงเืรือไปต่อวัดที่สอง อากาศค่อนข้างอบอ้าว ไม่มีแดดแต่ร้อนมาก พอลงเรือก็จะเย็นขึ้นหน่อยเพราะลมปะทะ วัดที่สองนี้(อย่าถามชื่อเลยค่ะ ไม่ได้หาข้อมูลเลยจริง ๆ) มีภาพเขียนสีที่เก่าแก่มากอยู่ พอเดินเข้าวัดไป จะเห็นว่าวัดเก่ามาก มีคุณพระคอยสวดมนต์พร้อมรดน้ำมนต์อยู่ข้างในโบสถ์ด้วย (ได้พระปิดตาเอาไปฝากพ่อกับสายสิญจน์สีฟ้ามาด้วย) พอเดินออกมา ก็จะเจอป้ายให้ไปดูภาพเขียนสีบนผนังปูน(ห้ามถ่ายรูป) ภาพส่วนใหญ่ยังชัดอยู่เลย แล้วก็มีพี่คนนึงคอยอธิบายให้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ด้วย พอเดินออกมาก็จะเจอทางเดินร่มรื่นอย่างที่เห็นในภาพค่ะ


แล้วไปต่อวัดที่สามกับวัดที่สี่กันค่ะ พอถึงวัดนี้พวกเราก็ไม่ไหวกันแล้ว คือเราเซ็งมาก กับคนที่คอยมาถ่ายรูปที่่ท่าเรือ แล้วปริ้นท์เอารูปเราไปแปะกรอบวิทยาศาสตร์แล้วมาขาย แล้วยังมีพวกที่พยายามขายปลาขายนกให้เอาไปปล่อยอีก ถ้าเจอวันนึงครั้งนึงมันก็ยังพอทนค่ะ แต่นี่เจอกันแทบทุกวัดเลย ไม่ไหวแล้ว(เข้าวัดอยากได้ความสงบค่ะ แต่นี่แทบหาไม่ได้เลย) เลยตกลงกับพี่ที่ขับเรือว่า เราไม่ไปไหว้พระกันแล้ว เราอยากไปดูบ้านแมวไทยกัน พี่เค้าก็บอกว่า อยู่วัดที่สองไง พวกเราก็เหวอ อ้าว ทำไมพี่ไม่บอกกันบ้าง แต่พี่เค้าคงเห็นเราทำหน้าผิดหวังกันมาก เค้าเลยบอกไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวตอนขากลับจะพาแวะไป เย้

แต่เพื่อน(ที่เคยมา)บอกว่ามีวัดนึงที่มีกระต่าย มีสัตว์เยอะ ๆ จะไปวัดนั้นก่อน ก็โอเค ไปกัน นั่นคือวัดบางกุ้งนั่นเอง พอกลับมาค่อยมารู้ทีหลังว่าวัดนี้มีโบสถ์ในต้นไม้ด้วย พลาดอีก นี่แหล่ะไม่หาข้อมูลก่อนไป อีกอย่าง ถ้ามีโอกาสกลับไปอีก อยากไปวัดที่อยู่ข้างวัดบางกุ้งค่ะ ดูเก่า ๆ สงบ แล้วก็สวยดี แต่ท่าเรือดูร้างมากเลย

ไปถึงวัดบางกุ้ง มีสัตว์เยอะจริง ๆ ค่ะ ตรงท่าเรือก็มีปลาตัวใหญ่เต็มไปหมดเลย ใหญ่มากก ทำให้กิเลสเกิดคิดเมนูขึ้นมาทันที แต่ไม่มีกระต่ายแล้วค่ะ เพื่อนไปถามเค้ามา บอกว่ากระต่ายตายหมดแล้ว (บ้านกอล์ฟเค้าเลี้ยงกระต่าย เค้าเลยชอบกระต่ายมากค่ะ) แต่เจอสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ วัดนี้เลยทำให้เริงร่ากันอีกครั้ง (ที่ท่าน้ำไม่มีพวกมาถ่ายรูปโดยไม่ขอด้วย)


แล้วเราก็กลับไปวัดที่สองกันอีกที เพื่อเดินทะลุไปบ้านแมวไทยกันค่ะ(เรากับโต้งชอบแมวมาก จริง ๆ บ้านกอล์ฟเค้าไม่ค่อยชอบแมวกันเท่าไหร่ เพราะกระต่ายที่เค้าเลี้ยงเคยโดนแมวข้างบ้านกัดตาย แต่ก็ยังพาพวกเราไป ขอบใจจ้า )

เดินทะลุวัด ลอดสวน แล้วเลี้ยวขวามาสักหน่อยก็ึถึง "ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ" จริง ๆ แล้วเป็นบ้านของกำนัน เค้าชอบแมวแล้วอยากอนุรักษ์แมวไทยแท้ ๆ ไว้ึค่ะ เลี้ยงแมวไว้เยอะมาก (ดู ๆ อาจจะถึง 100 ตัว) หลัก ๆ ก็มีสีสวาท วิเชียรมาส ขาวมณี(ทั้งตาฟ้า ตาเหลือง ตาสองสี) นอกนั้นจำชื่อไม่ได้ค่ะ

น่าเสียดายที่ถ่ายรูปเจ้าขาวมณีตาฟ้ามาให้ดูไม่ได้ (มันไม่อยู่นิ่งเลยค่ะ) แต่น่ารักมาก ๆ ขี้เล่นสุด ๆ

แล้วก็ลงเรืออีกรอบให้พี่เค้าไปส่งที่สวน ร.2 ค่ะ(ค่าเข้า 20 บาท) เดินกันจนหมดแรง ข้างในนอกจากจะมีสวนสวย ๆ แล้ว ยังมีบ้านเรือนไทยที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัย ร.2 อีกด้วยค่ะ บ้านเรือนไทยมี 2 หลัง แต่พวกเราทั้งหิวทั้งเหนื่อยทั้งร้อนหมดแรงกัน เลยขึ้นไปชมแค่หลังเดียวค่ะ (บนเรือนไทยงดถ่ายรูปค่ะ)




ข้างในมีร้านอาหารด้วย แต่เน้นพวกส้มตำ เราเลยพากันเดินกลับไปที่ตลาดน้ำกันค่ะ (เดินได้ไม่ไกลค่ะ) ไปนั่งกินข้าวกันสักพัก ก็โทรเรียกรถจากที่พักมารับค่ะ ถึงที่พัก(เย้ ได้วางกระเป๋าแล้ว)ก็อาบน้ำอาบท่า พักผ่อนกันนิดหน่อย พอ 5 โมงเย็นก็ให้พี่เค้าพาไปส่งที่ตลาดน้ำอีก(ด้านหลังร้านชานชาลา)

เดินวนไปวนมากันหลายรอบเลยค่ะ ของเยอะ คนเยอะมากกก ที่เห็นขวด ๆ เป็นไวน์ค่ะ(ทั้งแดงและขาว)รสชาติเหมือนน้ำองุ่นค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกถึงแอลกอฮอล์เลย กุ้ง หมึก สดมากค่ะ แต่หอยเชลล์แห้งไปหน่อย(กินกันตอนเที่ยงไปรอบนึงค่ะ) กอล์ฟไปต่อแถว(นานมาก)ซื้อไข่กะโหลกมาด้วยค่ะ (กลม ๆ ที่คล้าย ๆ ทาโกะยากิ) แต่กินแล้ว.... เหมือนข้าวไข่เจียวแ่ถมน้ำมันเยอะมาก(กอล์ฟบอก)


พอ 6 โมงครึ่งก็ได้เวลาที่นัดเรือไว้ไปดูหิ่งห้อยกันค่ะ (ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะใช้เวลาประมาณชม.ครึ่งค่ะ) นั่งเรือชมหิ่งห้อยเค้าออกกฎให้ทุกคนใส่เสื้อชูชีพค่ะ เสื้อรินตัวนี้เยี่ยมมาก ทำให้คนที่ไปด้วยต้องเลือกข้างยืนดี ๆ 555 (งานนี้มิวไม่ระวัง โดนไปเต็ม ๆ )

นั่งเรือตอนเย็น ลมฉิว ๆ ได้ชมวิวสองฝั่งคลอง รู้สึกดีขึ้นเป็นกองค่ะ (เพราะตลาดน้ำยามเย็นคนเยอะมาก ร้อนมาก)
ค่าเรือชมหิ่งห้อยคนละ 60 บาท ถ้าเหมาลำ 600 บาทจ้า

ชมหิ่งห้อยกันเสร็จ ขึ้นเรือมาหาข้าวกิน เดินวนหลายรอบมาก กว่าจะได้กิน เหนื่อยกันจนนึกไม่ออกว่าจะสั่งอะไร พอกินเสร็จก็เดินตลาดต่อกันอีกหน่อย ก็โทรให้ที่พักเค้ามารับอีกรอบ นั่งเม้าท์กันต่อ แล้วตามด้วยกิจกรรมนับเลข ประมาณเที่ยงคืนกว่าก็แยกย้ายกันไปนอน (เช่าบ้าน 2 หลังเพราะหลังใหญ่ไม่่ว่างค่ะ)

สาวเกาหลีมาติดใจเบียร์ไทยซะแล้ว (เบียร์สิงห์)

ตอนเช้า เราดันตื่นขึ้นมาก่อนคนอื่นเค้า(6 โมง) เลยไปนั่งถ่ายรูปอยู่หน้าบ้าน ถ่ายจนไม่รู้จะถ่ายอะไร เลยไปเดินเล่นรอบ ๆ สักพัก เอารูปที่ถ่ายมาอวดค่ะ (ไม่สวยเท่าโต้งถ่ายแต่ก็อยากอวด 555)


พอกลับมาที่ห้องอีกรอบ เค้าก็เริ่มตื่นกันแล้ว เลยจัดการอาบน้ำก่อนเพื่อนเลย สักพัก เค้าก็ยกข้าวต้มมาเสิร์ฟ 1 หม้อ (รวมในค่าห้อง) แต่ค่อนข้างจืด เลยพากันสั่ง BF กันอีก 4 ชุด มาแย่ง ๆ แบ่ง ๆ กัน กินเสร็จ ก็นั่ง ๆ นอน ๆ ดูทีวี พอเกือบเที่ยงก็เตรียมตัวกลับจ้า ให้พี่เค้าไปส่งที่ตลาดน้ำอีกเช่นเลย (นั่งรถกะบะไป)

พี่ที่ดูแลบ้านพักเค้าบอกว่า คราวหน้าถ้าจะเอาอะไรมาปิ้งย่างกินกันเอง ให้ลงที่ตลาดแม่กลอง ซื้อของเสร็จแล้วให้โทรบอก แล้วเค้าจะไปรับ (ประมาณ 6-7 กิโล)

ลงจากรถกะบะ ก็ไปจองตั๋วรถตู้ไว้ก่อนเลย รอบบ่ายโมง แล้วเดินวนเวียนหาของกิน จริง ๆ อยากกินพกปิ้งย่าง (กุ้ง หมึก หอย) กันที่ริมคลองแต่ไม่มีที่นั่งเลย ก็เลยเปลี่ยนใจไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน ร้านนี้คงเป็นร้านขายยาแล้วมาปรับปรุงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวค่ะ เลยมีตู้ยาจีนเป็นแผงเลย สวยดี รสชาติใช้ได้ ออกเปรี้ยว ๆ หน่อย (เพราะเป็นต้มยำ)


กินเสร็จเดินเที่ยวกันต่อค่ะ (จะเดินอะไรหนักหนา ขาบวมแล้ววว) ได้ของไปฝากที่บ้านด้วย เป็นข้าวเกรียบปลาทู ปั้นสิบไส้ปลากับหอยดองมะขาม เสียดายที่ไม่ได้กินปลาทูแม่กลองเลย


พอสักเที่ยงครึ่งก็มานั่ง ๆ ยืน ๆ รอรถตู้กัน คราวนี้ได้รถหลังคาสูง นั่งหลังสุดก็ยังสบาย ๆ จ้า (แอบอวดแหวนแมวอีกรอบ อิอิ)


สรุปทริปนี้ หมดไปกันคนละ 1,000 บาท ค้าง 1 คืน รวมอาหารทุกมื้อ (ไม่รวมของฝาก)



Create Date : 23 พฤษภาคม 2554
Last Update : 24 พฤษภาคม 2554 17:48:45 น.
Counter : 1077 Pageviews.

8 comments
  
เชื่อละว่าเสร็จบ่ายสาม รูปเยอะสะใจดี 555

แต่ คชจ. ตัวหัวไม่แพงเลยล่ะ

พี่เคยไปครั้งนึงนานละ จำไม่่ค่อยได้อ่ะ
โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:59:20 น.
  
ไปแค่อุทยาน ร. 2 อย่างเดียวที่อื่นไม่เคยไปจ้า

แหวนแมวซื้อที่ไหนเหรอ
โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:09:30 น.
  
ดีจัง มีเพื่อนร่วมก๊วน ..ถูกด้วยอ่ะ ..อ้อ..น้องติ๊กก้อถ่ายรูปสวยนะเนี่ย
โดย: เจน (blessedboom ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:16:58 น.
  
ถ่ายรูปสวยจริงๆๆ
ทั้งสถานที่,ดอกไม้ และคนในรูป
รถเมล์แม่กลอง-หมอชิด
ผ่านหน้าบ้านพี่ แต่พี่ไป 2 ปีครั้ง
โดย: pa_jeab IP: 58.9.80.141 วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:02:14 น.
  
เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย พี่โอเบ่าได้นุกมากๆ
ภาพก็สวย
ขอบคุณนะ ที่รีวิวทริปแสนสนุกให้อ่าน ยังไม่เคยไปเลยฮะ
อยากไปมากขึ้นก่าเดิมฮะ
โดย: งุด งุงิ IP: 182.53.139.75 วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:33:01 น.
  
มาเยี่ยมชม ครับ
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:52:32 น.
  
แวะมาเยี่ยมชมครับขอฝากเว็บแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวขอบคุณครับ
โดย: travelplace (loveyoupantip ) วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:13:04:08 น.
  
รถตู้ที่ไปอังพวาจอดที่ไหนค่ะ อยากไปบ้างจัง แต่ไม่มีรถส่วนตัว
โดย: rungsoda วันที่: 1 สิงหาคม 2554 เวลา:13:55:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TinyPieces
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อติ๊ก อายุ 32 ค่ะ
เป็นโปรแกรมเมอร์
ที่พยายามจะทำ Tiny Friends(แบรนด์ตุ๊กตาถักของตัวเอง), ลดน้ำหนัก กับรักษาฟันอยู่ค่ะ
คิดว่าอะไร ๆ ก็ต้องดีขึ้นแน่นอน สู้!!


งานถักที่เห็นอยู่ รับทำตามออเดอร์นะคะ ใครสนใจคุยกันได้ค่ะ tiny.friends@hotmail.com

หรือกด like fanpage ได้ที่