[รถไฟ] นั่งรถไฟไปกินกุ้งแล้วเดินชมพระราชวังบางปะอิน

[29 มกราคม 2554]

จากทริปที่แล้ว ทำให้โต้งอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวกันอีก ทริปนี้โต้งชวนเอง เพราะอยากไปทำภารกิจ 3 อย่าง อิอิ เลยเกิดทริปนี้ขึ้นมา


หลังจากหาข้อมูลในเน็ท เห็นเค้านั่งรถไฟไปเที่ยวบางปะอิน ก็ออกกันสาย ๆ 9 โมงบ้าง 11 โมงบ้าง เลยเอาตาม ออกกันเกือบ 9 โมง ไปที่สถานีรถไฟสามเสน พอบอกเค้าจะไปบางปะอิน เค้าก็บอกว่าให้เอาตั๋วที่ปริ้นท์วางไว้ข้างหน้านั่น เอาไปขึ้นรถได้เลย บังเอิญไปเจอขบวนรถฟรีพอดี เป็นขบวนไปพิษณุโลก เที่ยว 9.39 ฟรีทั้งขบวน แต่ก็เป็นชั้น 3 หมด แล้วยังเป็นรถธรรมดาด้วย ไปถึงก็หาที่นั่ง ไปนั่งแจมกับลุงคนนึง คนก็ขึ้นกันมาอีกทุกสถานี พอถึงรังสิตก็มียืนคับ ยืนกันแน่นตรงทางเดินกันเลยทีเดียว

พอออกจากรังสิต เริ่มเอ๋อ แล้วเราจะรู้ได้ไงเนี้ยว่าถึงบางปะอินแล้ว เพราะคนเยอะจนกลัวจะลงไม่ทัน แต่โชคดีมีหลายคนที่ลงบางปะอิน กว่าจะถึงก็ปาไปเกือบ 11 โมงครึ่ง นานมากก เพราะรถจอดทุกสถานีแล้วก็จอดนานด้วย กะว่าคราวหน้าถ้าจะไปกัน คงขอมาเที่ยวเช้ากว่านี้ (เที่ยวประมาณ 7 โมงครึ่ง) จะทันรถเร็วพอดี

ลงจากรถไฟก็เจอรถสองแถวจอดรอรับอยู่ เป็นรถไปส่งพระราชวังค่ารถคนละ 10 บาท พอบอกจะไปหน้าวัดชุมพลฯ เค้าก็บอกทางผ่าน ๆ ไปได้ขึ้นเลย พอคนขึ้นรถเต็ม เค้าก็ออกรถ (รอนานหน่อย เพราะสาว ๆ เค้าเข้าห้องน้ำกัน กว่าจะมาขึ้นรถ) ไปอีกติ๊ดเดียวก็ถึงวัดชุมพลฯแล้ว


ลงรถแล้วลุยภารกิจแรกกันเลย กินกุ้งแม่น้ำร้านยางเดี่ยวนั่นเอง!! กุ้งมีสามขนาดคือตัวละ 300,400,500 โต้งสั่งรุ่น 500 มา (ดูรูปด้านล่างจะเห็นเทียบกับขนาดมือเราจ๊ะ) แล้วก็มียำถั่วพู ปลาคังลวก ฮ่อยจ๊อทอด แล้วก็ต้มยำปลาม้า(ลืมจ่ายรูปมาจ๊ะ) อร่อย ๆ


ผ่านไป 1 ชม. กว่า ๆ ก็เสร็จภารกิจแรกกัน โต้งปลื้มมากได้กินกุ้งแม่น้ำ มันกุ้งเต็ม ๆ สมใจ (กินกันเกลี้ยงจริง ๆ) นั่งเล่น ๆ รับลมเย็น ๆ ริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก ยังมีหลายคนใช้เรือพายกันเป็นปกติอยู่เลย มองลงไปในน้ำเห็นปลาด้วย


แล้วก็ไปต่อภารกิจที่สองกัน นั่นคือ ไปหาสถูปบรรพบุรุษของโต้งในวัดจุมพลฯ (ปู่โต้งเป็นคนบางปะอิน แต่ไปทำงานที่หาดใหญ่ พ่อก็เลยเกิดที่หาดใหญ่ แต่โต้งมาเกิดที่กทม.) พอไหว้กันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ ไปภารกิจที่สาม เดินเล่นในพระราชวังบางปะอินจ้า

วันนี้ทั้งเข้าวัด เข้าวัง แต่งตัวเรียบร้อยให้เกียรติสถานที่กันหน่อย



เดินไม่น่าจะถึง 100 เมตรก็เห็นประตูวัีงแล้ว ใกล้จริง ๆ แต่... เค้าไม่เข้าทางนี้กันจ้า ต้องไปเข้าประตูหน้าเท่านั้น ซึ่งมันอยู่ด้านตรงข้ามกับประตูนี้ เดินกันอีกประมาณโลได้

ตอนแรกก็ไม่เป็นไร เลาะริมรั้วก็ร่มดี แต่พอเลี้ยวไปเลี้ยวมา ก็เจอแดด ไม่ไกลเท่าไหร่แต่ร้อนมากก แต่ก็ดีอย่าง ได้เห็นอะไรข้างทางมากมาย




ในที่สุดก็ถึงซะที เย้ เพราะเดินเลาะรั้วมาไกลแล้ว เลยขอเช่ารถกอล์ฟกันดีกว่า (ราคาขึ้นแล้วนะคะ เป็นชม.แรก 300 ต่อไปชม.ละ 100 แต่เค้าจะขอเก็บ 500 ไว้ก่อน ถ้าเกินเค้าจะคืนให้ทีหลังจ๊ะ) เราเริ่มเช่ากันประมาณบ่าย 2 เอามาคืนตอนเค้าปิดพอดีก็ 4 โมงเย็นจ๊ะ จริง ๆ จะเดินก็ได้นะ เพราะยังไงก็ต้องหยุดแวะบ่อย เพราะอาคารต่าง ๆ ก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก น่าแวะทุกจุดก็ว่าได้

เข้าไปข้างในก็เจอศาลากลางน้ำ[พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์]ก่อนเลย เข้าไปอีกสักพัก ก็เจออาคารที่มีขายน้ำดื่ม[ประตูเทวราชครรไล]

นั่งแวะกินน้ำกัน พร้อมกับถ่ายรูป รอบ ๆ ตึก เสร็จก็ไปอีกนิด ก็จะเจออาคารสีม่วงหลังนึง

แต่ยัีงก่อน เราไปแวะอาคารตรงข้ามกันก่อนค่ะ

อาคารนี้ดูสวยอ่อนหวานมาก ๆ พอเดินไปข้างหลังอาคารนี้ ก็จะเจอต้นดอกโศกต้นใหญ่ ออกดอกพอให้ได้กลิ่นจาง ๆ พร้อมผีเสื้อบินกันมากมาย มองต่ออีกนิดก็จะเจอแพริมน้ำ ดูข้างนอก ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ เห็นป้ายให้ถอดรองเท้าก่อนเข้า เราก็ถอดเลย เข้าไปข้างในสวยมาก ๆ ประทับใจที่นี่มาก ข้างในฝาผนังจะเป็นไม้แกะสลักลายเถาองุ่น สวยมากก


แล้วก็กลับออกมาดูอาคารสีม่วง[พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร]กันต่อค่ะ อลังการมาก รายละเอียดเยอะมาก ด้านหน้าให้ความรู้สึกเหมือน Anna Sui (คือไม่ค่อยมีความรู้ด้านศิลปะค่ะ ต้องขออภัย) แต่อาคารนี้ไม่ให้เข้าชมด้านในค่ะ เลยได้แต่เดินดูรอบ ๆ เท่านั้น


กลับหลังหันก็จะเจอทหารยืนอยู่ เลยไปหน่อยก็จะเห็นหอสูง[หอวิฑูรทัศนา]ค่ะ ข้างในสามารถขึ้นบันไดเข้าไปชมวิวได้ เห็นคนขึ้นไปถึงชั้นกลางค่ะ แต่ไม่เห็นใครขึ้นไปชั้นบนสุด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าขึ้นได้มั้ย แต่เราไม่ได้ขึ้นไปเลยค่ะ ได้แค่ถ่ายบันไดเวียนมาฝาก แหะ ๆ



แล้วเดินย้อนออกมาหน่อย ก็จะเจอศาลาริมน้ำ ที่มีเถาวัลย์ขึ้นพันเกี่ยวเต็มไปหมด บางต้นก็มีดอกด้วยค่ะ


ไปอีกนิดเจอส่วนหมู่ตึกสไตล์จีน ชั้นล่างเตี้ยมาก เข้าไปแล้วต้องก้มกันทุกคน


มาถึงตึกใหญ่[พระที่นั่งเวหาศจำรูญ]กันค่ะ มีชื่อภาษาไทยที่เขียนหลอกเลียนแบบอักษาจีนด้วย อ่านออกมั้ยจ๊ะ นั่นคือ เวหาศจำรูญ จ้า เข้าไปชมด้านในได้ แต่เค้าจะเก็บของไว้ข้างในอีกชั้นนึง แล้วให้ดูผ่านกระจกจ้า สวยมาก ปราณีตมาก พอเดินออกมา ดูนาฬิกา ว๊ากก เหลือไม่ถึงครึ่งชม.แล้ว เลยตัดสินใจ เอาไว้มาคราวหน้าค่อยมาต่อ ตอนนี้เราขับรถกอล์ฟวนนรอบกันดีกว่า


เลยได้รูปรวม ๆ มาให้ชมกันอีกทีจ้า ตึกใหญ่หลังสีครีมนั่น[พระที่นั่งวโรภาษพิมาน] เสียดายไม่ได้เข้าไป แต่คิดว่ายังไงก็ไม่ทัน เลยรีบไปใส่ผ้าถุงก่อน (ข้างในใส่ยีนส์) เพราะตั้งใจมาก เลือกเสื้อตัวนี้เพื่อมาใส่กับผ้าถุงโดยเฉพาะ ใส่ถ่ายรูปแล้วก็ถอดเลย 555 เดินออกมายังไม่ถึงรถกอล์ฟเลย ก็ได้ยินเสียงเพลง ที่บอกให้รู้ว่าหมดเวลาเยี่ยมชมแล้วค่ะ เอารถกอล์ฟไปคืน แล้วเดินออกมาเรียกสามล้อไปส่งสถานีรถไฟ (ค่ารถคนละ 20 บาทจ๊ะ)


ถึงสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วขากลับได้เที่ยว 16.20 เป็นรถเร็ว ยังเ้หลือเวลาอีก 15 นาที ไปถ่ายรูปกับพลับพลาที่ประทับกัน(ไม่ให้เข้าชมด้านในจ้า) เป็นพลับพลาที่สร้างเพื่อรับเสด็จเวลาท่านเสด็จมาโดยรถไฟจ๊ะ อยู่ห่างออกไปจากชานชาลานิดเดียว


ขากลับรถไม่แน่นเลย โล่ง ๆ นั่งตรงไหนก็เลือกได้ แต่เราไปเลือกกันที่ตู้เสบียง เพราะเก้าอี้สวย 555 ขากลับนี้ถึงเร็วมาก(ยิ่งถ้าเทียบกับเมื่อขามา) นั่ง ชม. กว่า ๆ ก็ถึงแล้วจ้า

เอาไว้ไปเที่ยวอีกรอบนะ บางปะอิน ต้องไปอีกแน่ เพราะยังดูไม่ทั่วเลย กะว่าคราวหน้าจะออกกันแต่เช้า แล้วไปเดินพระราชวังก่อน ขากลับค่อยนั่งสามล้อมาส่งร้านยางเดี่ยว กินอาหารกันแล้วค่อยกลับ

Create Date : 30 มกราคม 2554 Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 12:04:04 น. Counter : 1630 Pageviews.		4 comments
Share Tweet