สิงหาคม 2554

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
[เครื่องบิน]แพคลองคะ เขื่อนรัชชประภา เขาสก สุราษฎร์(วันที่ 3)
>>วันที่ 1<<
>>วันที่ 2<<

[28 ส.ค. 2554]
เช้านี้ตื่นมาตั้งแต่ตี 4 ครึ่งเพราะปวดฉี่(บอกละเอียดไปมั้ย!?) ง่วงขนาดไหนก็ต้องตื่นเต็มตา เพราะต้องเติมตามทางเดินไปห้องน้ำรวมค่ะ (ลำบากตรงนี้ล่ะนะ กระต๊อบน้อยเนี้ย แต่อยู่ไป 2 คืน รู้สึกชินนะคะ เพราะมันใกล้ชิดน้ำและวิวเต็มที่มาก ๆ) ระหว่างรอโต้งเ้ข้าห้องน้ำ (ไหน ๆ ก็มาแล้วจัดการให้เรียบร้อย 555) ฝนก็เริ่มตกอีกแล้ว โฮก นกเหงือก ถ้ำประกาัรัง ลาก่อนนะจ๊ะ ฝนตกอีกแล้ว ไม่ได้ไปดูแน่เลย แล้วก็กลับไปหลับต่อ ตื่นมาอีกที 6 โมงกว่า ฝนตกดังคาด

เดินไปเตรียมจะอาบน้ำ ปรากฏว่า น้ำหมด โฮกกก(เพราะคณะใหญ่มา หรือไม่ก็ลืมเปิดปั๊มน้ำกันเมื่อคืนค่ะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน) เลยซักแห้งไปก่อนล่ะกัน 555 สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาถามว่า ฝนตกแล้ว ไม่ไปถ้ำแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นก็กลับพร้อมคณะใหญ่ได้เลย ประมาณ 9 โมง จัดการซักแห้งตัวเองเรียบร้อย อ๊ะ ลืมเล่ามีพี่ผู้ชายคนนึงจากคณะใหญ่มาพักกระต๊อบข้าง ๆ เรา ปรากฏว่าเค้าเห็นน้ำไม่ไหล เลยจัดการสระผมตรงข้างแพเลย ฟอกผมเสร็จ โดดตูมลงน้ำไปเลย 555 ดูมีชีวิตชีวาดี



ในรูปจะเห็นน้องคนนึงลอยคอ ตอนแรกเค้าก็โดดตูมลงไปเหมือนกัน แล้วรีบกลับขึ้นมาเอาเสื้อชูชีพ เพราะรู้สึกว่าน้ำลึกมาก ไม่นานฝนก็ตกหนักอีกรอบ พอฝนซาก็ไปกินข้าวเช้า(คราวนี้เป็นข้าวต้มไก่ฉีก มีเครื่องใส่ถ้วยเล็ก ๆ แยกต่างหาก) อิ่มแล้วก็ได้ยินเสียฮือฮามาจากด้านใน ปรากฏว่ามีชาวบ้าน(ที่ขออนุญาติแล้ว) เอาปลาที่ตกได้ในเขื่อนมาขาย ตัวที่เค้าโชว์นั่นหนักเกือบ 3 โล แล้วยังมีปลาช่อนข้าหลวงมาให้ดูด้วยถึง 2 ตัว พี่ที่ขับเรือคนนึง(ไม่ใช่คนที่ขับรับส่งเรานะ) ก็เข้ามาชวนคุย บอกว่า เนี้ยพันธุ์นี้มีเฉพาะที่นี่นะ ที่กรุงเืทพฯไม่มี(เหมือนเค้าจะฮือฮาที่เรานั่งเครื่องมาจากกรุงเทพฯกัน) ปกติเค้าเลี้ยงใส่ตู้ปลาเลยนะ เป็นปลาสวยงาม แล้วก็สอนวิธีเลี้ยงให้พวกเราด้วย คุณเพชรบอกว่า เคยจับได้ตัวใหญ่หนักถึง 5 โลเลยก็มี เพราะช่วงนี้ฝนตกหนักปลามันเลยว่ายทวนน้ำ โดยเฉพาะตรงน้ำตก มันว่ายทวนง่ายเลย ทำให้มีพวกมาลักลอบจับปลาแบบที่เห็นเมื่อวาน

นั่งคุยกันไป ทุกคนก็บอกว่า "คราวหน้ามาใหม่นะ ช่วงเดือน กพ.-พค. จะได้ไม่เจอฝน อยากให้ไปเห็นที่เที่ยวของเรา ในเขื่อนเนี้ยที่เที่ยวเยอะนะ เสียดาย มาแล้วไม่ได้ไปไหนกันเลย" พอเกือบ 10 โมง ก็ลากันด้วยรอยยิ้ม เพราะได้เวลากลับไปท่าเรือแล้ว ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯที่คลองคะและพี่ ๆ คนขับเรือทุกคน ตอนรับเราอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คราวหน้ามีโอกาส(มีตังค์)จะกลับไปใหม่แน่นอนค่า

พอตอนกลับก็กลับพร้อมคณะใหญ่ พี่คนขับเรือพาแวะดูกุ้ยหลินเมืองไทยนิดหน่อย (เพราะฟ้าฝนไม่อำนวย) แล้วก็กลับขึ้นท่าเรือ วิวในเขื่อนระหว่างนั่งเรือ ก็ยังทำให้เราตกตะลึงได้เหมือนเดิม (แม้จะมีฝนก็ตาม) ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเอากล้องออกมาไม่ได้เลยค่ะ เก็บไว้ในความทรงจำแทน

พอขึ้นถึงท่าเรือ(ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) พี่คนขับเรือก็บอกให้รอก่อน เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่คนนึงที่เค้าจะไปตาขุนอยู่แล้ว ไปส่งที่ท่ารถตาขุน เย้ แม้แต่พี่คนขับเรือที่เค้าไม่ค่อยพูด เค้ายังบอกว่า "โชคดีนะน้อง คราวหน้ามาใหม่" ดีใจ้ ดีใจ ลงความเห็นกับโต้งเรียบร้อย ว่าพี่เ้ค้ามาดเท่แบบชาวเรือมาก ๆ

รอสักพักก็นั่งรถแค็บของพี่เจ้าหน้าที่อีกคน ไปส่งถึงคิวรถตู้ที่ตาขุน(ขอบคุณค่า) จ่ายค่ารถตู้ 300 บาท(คนละ 150) ไปลงสนามบินจ้า ทริปนี้ไม่ได้เข้าเมืองสุราษฎร์เลย ถือว่าโชคดีมาก ที่ไม่ต้องอ้อม

พอถึงสนามบินสุราษฎร์ดันพากันรู้สึกว่า พื้นมันโคลง (ตอนอยู่เรืออยู่แพไม่รู้สึกว่าโคลง 555) ลงเบอร์โทรรถตู้ไว้ให้ด้วยเผื่อใครจะไปจะได้โทรเรียกจากในเขื่อนได้จ้า(คิดเพิ่มคนละ 30 บาทมั้ง) พวกเราไปถึงสนามบินประมาณเที่ยงได้(นั่งรถตู้ประมาณครึ่งชม.) เลยกินข้าวเที่ยงกันให้เรียบร้อยก่อน (พร้อมกาแฟอีกคนละแก้ว) พอไปโหลดกระเป๋าก็เหมือนเดิมจ้า แบกขาตั้งกล้องเหมือนเดิม 555


1 เรื่องโก๊ะ ที่อยากเล่าให้ฟัง เราสองคนด้วยความไม่เคยนั่ง AirAsia เลย ก็ไปเลือกจองที่นั่ง ปรากฏว่าไปจองแถว 11 ค่ะ พอไปอ่านดูในเว็บต่าง ๆ ปรากฏว่า แถว 11 เค้าไม่ค่อยอยากนั่งกัน เพราะมันเอนเบาะไม่ได้(แถว 12 เป็นทางออกฉุกเฉิน) พอรู้ก็ฮากันไป แต่นั่งเครื่องไปสุราษฎร์แป๊บเดียวเอง (ประมาณ 45 นาที) ก็เลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่ขำที่อุตส่าห์เสียค่าเลือกที่นั่ง 200 กว่าบาท(4 เที่ยว) ดันไปเลือกที่ที่ปกติเค้าไม่อยากนั่งกัน 555

ตอนขากลับ แอร์เห็นว่า ดูนั่งเบียด ๆ กันแล้วแถว 14(หรือ 13 จำไม่ไ้ด้) ว่างทั้งแถวเลย เค้าเลยบอกว่า จะเปลี่ยนมั้ยคะ พวกเราเลยได้ที่นั่งที่เห็นวิวปีกเครื่องบินเต็ม ๆ ถ่ายรูปออกมาดูเป็นบรรยากาศหนังไซไฟมาก ๆ 555

ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ รอกระเป๋า แล้วก็ไปเห็นป้าย เค้าบอกให้ลง ก็ลงไป Airport Link กันเลย 555
สัมภาระค้างสองคืนของเรา มีกระเป๋าเท่าที่เห็นค่ะ แต่ของโต้งเยอะ เลยเลือกโหลดกระเป๋า แถมพอโต้งเลือกโหลด เราเลยได้อานิสงค์ยัดกันแดด และครีมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ถ้าซื้อครีมมาแพง แล้วขี้เกียจเอาใส่ขวดแบ่ง ก็จ่ายเพิ่มค่าโหลดกระเป๋าเถอะค่ะ ถูกกว่าค่าครีมเยอะ เห็นตอนขาไป เค้าจับโยนทิ้งโครม ๆ เลย เสียดาย

อีก 1 ทริปประทับใจ

สรุปค่าใช้จ่าย(สำหรับสองคนตลอดทริป)
ค่าเดินทางไปกลับสุวรรณภูมิ(airport link)=160(40x2x2)
ค่าเครื่องบินไปกลับรวม=2,582
รถตู้สนามบิน-ตาขุน=300(150x2)
รถตู้ตาขุน-ท่าเรือเขื่อน=160(80x2)
รถตู้ตาขุน-สนามบิน=300(150x2)
ค่าเรือ(เหมาลำนั่งได้ 10 คน ค้าง 2 คืน)=3,000
ค่าแพพัก 2 คืน=800(200x2x2)
อาหารเช้า(ที่แพ) 2 มื้อ=240(60x2x2)
อาหารเที่ยง(ที่แพ) 1 มื้อ=300(150x2)
อาหารเย็น(ที่แพ) 2 มื้อ=600(150x2x2)
.
รวม=8,442
4,221 / คน
ข้อมูลเพิ่มเิติม :
ถ้าไปดูถ้ำประการังคิดเพิ่ม 1,500 บาท/ลำ(นั่งได้ 10 คน)
เบอร์โทรแพคลองคะ 077-299078-9



Create Date : 30 สิงหาคม 2554
Last Update : 30 สิงหาคม 2554 21:03:24 น.
Counter : 2247 Pageviews.

9 comments
  
โดย: Kavanich96 วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:7:45:06 น.
  
ลงรายละเอียดได้ดีมาก ข้อมูลยิบเลย คชจ. ไม่แพงอ่ะถ้าไม่มีเหมาลำ 3 พันอันนั้นน่ะ

แหมโทนเหลืองทั้งคู่เลยน๊า


แต่ปลาช่อนข้าหลวงไม่รู้จักเลยอ่ะ เพิ่งเคยเห็นนะเนี่ย
โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:8:00:45 น.
  
เป็นมหากาพย์เลยน้องติ๊ก แต่พี่ก็ตามทุกตอน5555 สวยมากน่าไปเที่ยวมาก เสียดายที่ออกไปเที่ยวไม่ได้เนอะ


ปอลอ ค่าเรือแพงกว่าค่าเครื่องบินอีกเนอะ
โดย: ยุ้ย (แม่อัยยะจัง ) วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:13:20:26 น.
  
ต้องไปอยู่สักอาทิตย์ ซึมซับธรรมชาติให้สะใจ
โดย: หมีสีชมพู วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:13:46:26 น.
  
คุ้ม ค่ะ คุณน้อง ทั้ง คชจ. ทั้งรูป รายละเอียดยอด .....
โดย: usakhae_177 วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:16:17:12 น.
  
น้องถ่ายภาพได้สวยมากๆครับ เล่าเนื้อหาได้ละเอียดดีอ่านแล้วปลื้มมาก เสียดายที่ฝนตกตลอด คราวหน้าต้องมาหลายคนค่าเรือจะได้ไม่แพง อย่าลืมจองล่วงหน้าล่ะจะได้พักบ้านหลังแดงกับเขาบ้าง ^^
โดย: เพชร คลองคะ IP: 118.173.180.212 วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:22:47:56 น.
  
ติดต่อผมโดยตรง 081-956-1880 นะครับ
โดย: เพชร คลองคะ IP: 118.173.180.212 วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:22:54:03 น.
  
มาเยี่ยมค่า
โดย: สามหนุ่มเนื้อทอง IP: 125.27.193.124 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:10:15:52 น.
  
รีวิว ละเอียดมากค่ะ ได้ข้อมูลชั้นดีเลยเข้ามาบล๊อกนี้ทีไร
โดย: Gin-GaL วันที่: 26 มิถุนายน 2555 เวลา:13:07:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TinyPieces
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อติ๊ก อายุ 32 ค่ะ
เป็นโปรแกรมเมอร์
ที่พยายามจะทำ Tiny Friends(แบรนด์ตุ๊กตาถักของตัวเอง), ลดน้ำหนัก กับรักษาฟันอยู่ค่ะ
คิดว่าอะไร ๆ ก็ต้องดีขึ้นแน่นอน สู้!!


งานถักที่เห็นอยู่ รับทำตามออเดอร์นะคะ ใครสนใจคุยกันได้ค่ะ tiny.friends@hotmail.com

หรือกด like fanpage ได้ที่