|
กราบคนดี-โจรต้องเด็ดขาด เจ้าอาวาสดังยะลาสอนนายกฯ
พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ และผู้อำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าววันนี้ (26 ก.ค.) ว่า จากการจัดโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 2 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า ทำให้ชาวบ้านมีขวัญและกำลังใจดีมาก จากเดิมที่ขาดแคลนพระสงฆ์ที่จะทำบุญเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพราะพระสงฆ์อพยพไป เหลือพระสงฆ์จำวัดเพียงรูปเดียวหรือไม่เหลือเลย ทำให้ขวัญเสีย เมื่อมีพระสงฆ์มาอยู่ทำให้ชาวบ้านมีความอบอุ่นใจขึ้น มีโอกาสมาทำบุญตามปกติเช้ามาใส่บาตรที่วัด แม้จะออกไปบิณฑบาตไม่ได้ แต่ชาวบ้านมารวมตัวกันทำอาหารถวาย ทำให้ชาวบ้านมีขวัญกำลังใจดีขึ้น ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงริเริ่มโครงการฯ เพราะทรงเห็นว่าหากคนไทยพุทธไม่มีวัดหรือวัดกลายเป็นวัดร้าง พระสงฆ์ไม่มีอยู่ขวัญก็จะเสีย อยากให้ทำบุญทำทานตามปกติเพราะเป็นประเพณีของคนไทย
ผู้อำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวต่อว่า ปีนี้เป็นครั้งที่ 3 มียอดสรุปรวมทั้งสิ้น 350 รูป โดยกระจายไปจำพรรษาตามวัดต่าง ๆ ที่มีการสำรวจไว้ ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์นั้น จะมีชาวบ้านที่ฝึกเป็นราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านมารวมตัวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลอยู่ที่วัด โดยพระสงฆ์จะประจำอยู่เฉพาะที่วัด อาหารแห้งนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเมตตาให้ทางสำนักพระราชวังจัดซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาเตรียมไว้อยู่ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และคณะทำงานชุดตรวจเยี่ยมโครงการพระราชดำริ จะไปเยี่ยมเยียนตามวัด และนำข้าวสารอาหารแห้งไปถวายทุกเดือน
ด้าน พระครูอดุลนิคมเขต เจ้าอาวาสวัดคูหาภิมุข อ.เมืองยะลา จ.ยะลา สถานที่ที่พระสงฆ์ 101 รูป จะมาอาศัยชั่วคราวก่อนแยกย้ายไปจำพรรษายังวัดต่างๆ ในจ.ยะลา กล่าวว่า วัดคูหาภิมุขเป็นวัดประจำจังหวัดมีพระพุทธไสยาสน์เป็นพันปีและเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีญาติโยมและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์มากันมาก แต่นับตั้งแต่ปี 2547 มีพระภิกษุออกไปบิณฑบาตถูกฆ่าตาย วัดก็เงียบเหงา ญาติโยมไม่มีใครกล้ามา ค่าน้ำค่าไฟก็สูงถึงเดือนละ 17,000 บาท จึงฝากถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีว่า พยายามจัดการให้เด็ดขาด ทำให้ถูกต้อง เรื่องสมานฉันท์ต้องทำให้เด็ดขาด ไม่ต้องกลัว เรียกว่าจะกราบโจรอย่าไปกราบ ต้องกราบคนดี ปกป้องคนดีและประเทศชาติจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ขณะนี้ พระที่จำพรรษาเหลืออยู่ 8 รูป จากพระวัดนี้มาบวชแต่ละปีเป็นร้อยรูป แต่เดี๋ยวนี้ไม่กล้ามา พ่อแม่ก็เป็นห่วงไม่อยากให้ลูกบวชอยู่นานๆ แม้จะมีทหารอยู่อารักขา แต่กลัวความไม่ปลอดภัย
ขณะที่ พระสงฆ์จากจังหวัดพิษณุโลกที่เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวว่า ทราบข่าวจากพระสงฆ์ที่มาจำพรรษาปีที่แล้ว ตัดสินใจไม่นาน เพราะทราบปัญหาของพื้นที่ดีว่าไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เห็นใจญาติโยม เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจตามที่พระสงฆ์ปฏิบัติกัน ไม่มีอะไรที่จะมาต่อสู้กับใครมีแต่ธรรมะอย่างเดียว ไม่มีเครื่องรางของขลังอะไร ไม่ได้กลัวอะไร เพราะที่นี่เป็นประเทศไทย ปู่-ย่า ตา-ยาย อุตส่าห์สร้างมา และหลังครบพรรษาแล้วอาจจะอยู่ต่อไป ก็ดูไปเรื่อย ๆ ก่อน ส่วนพระสงฆ์จากจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า อาสาลงมาช่วย เพราะไม่สบายใจที่ทราบข่าววัดไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่แม้ว่าข่าวจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะกลัวอะไร มีธรรมะ จะกลัวอะไร การเตรียมตัวก็ไม่ได้เตรียมอะไร ผู้มีศีลก็ต้องปฏิบัติ
ไทยรัฐออนไลน์ 26 ก.ค. 50
| Create Date : 26 กรกฎาคม 2550 |
|
25 comments |
| Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 15:26:17 น. |
| Counter : 58680 Pageviews. |
|
 |
|
ยังเวียนหัวอยู่เลย
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [
เมือไรบ้านเมืองเราจะสงบสุขสักทีก็ไม่รู้ สงสารประชาชนตาดำๆ