แฟนไม่อยู่ ทำไงดีฟะ ~

 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 กรกฏาคม 2550
 

ความรักของผมกับคนที่ผมรักที่สุด#2

วันที่สอง

วันนี้ผมก็คงเป็นเหมือนทุกวันของผม หลังจากเลิกเรียนที่มหาลัย ก็ชอบที่จะไปดูหนังกันกับเพื่อน แต่ผมก็รอโทรศัพท์เขาอยู่เหมือนกันนะ รอว่าจะโทรมาเมื่อไหร่ ก็รอจนถึงเย็น ก่อนจะเข้าโรงหนัง ผมก็เลยตัดสินใจโทรหาเขาอีกสักครั้ง ดูว่าเขาอยู่ที่ไหน เป็นยังงัยบ้าง เพราะเมื่อวานเขาบอกว่าจะนัดเพื่อนจะไปกินเลี้ยง ที่โทรไปจริงๆน่ะอยากให้เขามาหาน่ะครับ แต่ก็ต้องฟอร์มไปก่อน พอโทรไปผมอ้างถามเรื่องวีดีโอมาบังหน้าน่ะ คุยไปคุยมาเขาก็บอกว่า เดี๋ยวจะออกไปหาเพื่อนแล้ว ผมก็เลยไม่กล้าที่จะถามเรื่องอื่นต่อ ผมเลยตัดบทเองซะดีกว่า (กลัวเขาจะหาว่าเราโทรมาตื้อเหรอ…. เออ.. นิสัยผม เป็นคนไม่ชอบไปวุ่นวายกะคนที่ไม่ชอบผมน่ะครับ ซึ่งเพื่อนๆหลายคนคงเป็นอย่างนี้) ผมก็เลยบอกว่าเดี๋ยวหนังจะเข้าแล้ว เพื่อนรออยู่ เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะโทรไปหาอีกที ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยหวังเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่โทรมาผมคงไม่โทรไปหาอีกแล้ว หลังจากดูหนังเสร็จแล้ว ผมก็เลยกลับบ้าน ระหว่างกลับก็คิดถึงเรื่องนี้มาตลอดทาง มันเป็นเรื่องที่เดายากน่าดูนะ ที่จะรู้ว่าใครคิดกะเรายังงัย ช่วงที่ผมเดินเข้าบ้านผมก็คิดเรื่องนี้อยู่นานเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจว่าจะโทรไปหาอีกซักท ีดูว่าเป็นยังงัยบ้าง (ครั้งนี้ยอมเสียความตั้งใจซักครั้ง) ผมเลยยกโทรศัพท์มองดูซักพักชั่งใจว่าจะโทรไปดีหรือไม่ดี และแล้วก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาผมดูเบอร์ เชื่อไหมผมดีใจแทบบ้าเลยล่ะ เขานั่นเองโทรมา อะไรจะใจตรงกันขนาดนั้น (ยังมีอีกหลายอย่างที่ใจครงกัน เดี๋ยวจะค่อยๆเล่าครับ) เขาโทรมาถามโน่นถามนี่ว่าหนังเป็นยังงัยบ้าง อยู่ที่ไหน จะเข้าบ้านเลยเหรอ แล้วสุดท้ายก็ชวนผมไปเที่ยว ผมเองจริงๆก็เที่ยวมาพอสมควรเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าออกความคิดเห็นว่าจะไปไหนดี แต่เขาก็บอกตามใจผมละกัน เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะมารับ ก็เป็นอันว่าคืนนี้เขาก็เป็นคนนัดผมเที่ยว


เดทครั้งแรก

การเที่ยววันนี้เป็นวันที่ผมดีใจวันหนึ่งเลยล่ะครับ เขามารับผมตอนสี่ทุ่ม นั่งรถไปคุยกันบนรถอยู่นานเหมือนกันว่าเราจะไปไหนกันดี พอถึงช่วงนี้นิสัยช่างเจรจาของผม ก็เริ่มจะแสดงให้เห็นแล้วล่ะ ก็อย่างที่บอก ถ้าผมยังไม่สนิทกะใครผมก็จะไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ตอนนี้ผมชักจะคุ้นกะเขาแล้วล่ะ ตกลงว่าเราจะไปฟรีแมนกันน่ะ (อันนี้ผมออกความเห็น เขาก็ตามใจครับ) ปกติไปที่นี่ผมก็จะไปกะเพื่อนน่ะครับ ไม่เคยไปกะใครสองคนอย่างนี้ แต่วันนี้ยกเว้นครับ พอเข้าไปคนก็เยอะพอควรครับ แรกๆก็เลยสับสนนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี แต่โชคดีหน่อยเผอิญดันมาเจอเพื่อนน่ะ ก็เลยไปนั่งกะเพื่อนผม พอมีโชว์ผมก็นั่งดู เขาก็นั่งดูอยู่ข้างๆ ติดๆกัน
พอดูโชว์เสร็จผมก็เลยชวนไปเดินเล่นแถวบ้างบนอิๆ (คนที่เคยไปคงรู้ว่าคืออะไร) จริงๆไม่เคยคิดจะขึ้นไปทำอะไรเขาเลยนะครับ สาบานได้ แต่อยากจะพาเข้าไปดูเท่านั้นเอง เขาเองก็ไม่เคยเข้าไป พอจะเข้าไปผมก็เลยจับมือเขาแล้วจูงเข้าไป กลัวหลงกันน่ะครับ สภาพในนั้นส่วนใหญ่เพื่อนๆก็คงรู้ว่า คนมันแออัดยัดเยียดขนาดไหน เดินไปก็ต้องระวังให้ดี กุมกล่องดวงใจตัวเองไว้ละกัน มิฉะนั้นเจอบีบแน่ เขาก็บีบมือผมแน่น เพราะต้องเบียดเสียดกับคนมากมายเหลือเกิน เราก็หยุดตรงที่ว่างที่หนึ่ง เพื่อหายใจหายคอกันหน่อย ผมสังเกตว่าเขาจับมือกันแน่นเลยครับ และรู้สึกเหมือนกันว่าเขาหายใจรดต้นคอผมอยู่ แต่ผมเองก็ไม่กล้าคิดอะไรมาก คงเป็นเพราะยืนเบียดเสียดกันมากกว่า พอเดินได้สักพักผมก็พาเขาเดินลงมา มาดื่มอะไรนิดหน่อย เขาก็เลยถามผมว่าจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันก็เลยบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน เขาเลยชวนผมไปนอนบ้านเขาไหม ผมเองก็เห็นดึกแล้วเหมือนกัน อีกอย่างก็อยากไปเหมือนกัน ก็เลยตกลง แต่ก่อนกลับบ้าน ผมขอให้เขาไปส่งเพื่อนผมก่อน ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ปลื้ม… เพราะเขาแทบไม่เคยปฏิเสธอะไรผมเลย แม้จะดูลำบากเขาก็เหอะ)

คืนนี้ที่ยาวนาน

ระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังจากไปส่งเพื่อนผมแล้ว อยู่บนรถ เราก็คุยโน่นคุยนี่กันมากมาย ผมว่าเราคงเริ่มสนิทกันแล้วแหละ พอถึงบ้านเขาก็พาผมไปห้องนอนเขา ซึ่งความรู้สึกแรกๆ ผมก็แปลกๆเหมือนกัน (คงแปลกที่น่ะครับ) เราก็นอนคุยกันพักหนึ่ง ผมก็เริ่มเพลียเกือบหลับแล้วล่ะ และแล้วเขาก็จับมือผม ผมก็ไม่ว่าอะไร สักพักเขาก็ลุกขึ้นมาจูบผม และแล้วผมก็ไม่สามารถที่จะอดใจไหว ก็เลยจูบตอบแล้วก็นัวเนียกันสักพัก ผมเองกลับมานึกได้ในคำพูดตัวเองที่เคยลงไว้ ว่าไม่คิดที่จะมีแฟนหรือมีอะไรกะใคร เพียงแค่อยากมีเพื่อนเท่านั้นเอง คำพูดนี้เองมันก็เลยให้ผมต้องหยุดการกระทำทั้งหมด ตั้งสติใหม่ พร้อมกับถามเขาเพื่อความมั่นใจสักครั้ง ว่าเขาคิดยังงัยกับผม เขาก็บอกว่า เขาชอบผมตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่ยังไม่กล้าพูดเท่าไหร่ แล้วก็เห็นว่าผมเงียบๆ ขรึมๆด้วย เขาก็นึกว่าผมไม่พอใจอะไรเขารึเปล่า จริงๆหลังจากวันที่เราแลกวีดีโอกัน เขาบอกว่า อยากจะโทรหาผมมาก แต่เขาไม่กล้า เขาก็รอโทรศัพท์ผมเหมือนกัน (เพราะต่างคนต่างรอนี่แหละครับ ทำให้เราทั้งคู่รอกันมาทั้งวัน) วันนั้นพอดีเพื่อนเขามาไม่ครบกัน เขาก็เลยไม่อยากไป ก็เลยโทรมาหาผม

แล้วตอนที่อยู่ที่ฟรีแมนน่ะ เขาตั้งใจจะมาอยู่ใกล้ๆผมเอง ใกล้มากขนาดหน้าเขาเกือบจะชนต้นคอผมซะด้วยซ้ำ เมื่อเรื่องทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ผมเลยถามเขาว่า จะเป็นแฟนผมเหรอ เขาก็บอกว่าอยาก แต่เขาอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนนะ(ไม่ได้เป็นมะเร็งใกล้ตายเหมือนหนังเกาหลีปัจจุบันนะครับ ไปเรียนต่อน่ะ) เขาไม่อยากให้ใครมารอเขาซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจ แต่ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก การที่เราจะรักกันอยู่ห่างกันแค่ไหนก็ไม่น่าจะมีปัญหา มันอยู่ที่ใจที่มีให้กันซะมากกว่า (ตอนนั้นผมยังไม่เคยรู้ถึงความทรมานเมื่อต้องไกลกัน) ผมก็เลยบอกว่า แล้วเค้าแน่ใจไหมล่ะว่าจะเป็นแฟนผม ถ้าแน่ใจผมน่ะก็ไม่มีปัญหา (จะดูไปเหมือนว่าเราจะตกลงกันเร็วนะครับ แต่ผมคิดว่าผมมี Sense พอสมควรเรื่องนี้ เชื่อผมเหอะว่าผมดูคนไม่ผิด) เขาก็บอกว่า “เป็นสิ” เขาบอกเขาดีใจมากเลย ที่เราเป็นแฟนกัน (ผมเองก็ดีใจเหมือนกัน) แล้วผมกับเค้าก็เป็นแฟนกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา


Create Date : 28 กรกฎาคม 2550
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 2:38:00 น. 1 comments
Counter : 411 Pageviews.  
 
 
 
 

ฟรีแมน เคยไปครับ ...ขึ้นไปชั้นสองด้วย
 
 

โดย: yyswim วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:20:55:41 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

mckin
 
Location :
Goddess City, United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Live and Learn ~ เรียนและเล่นเกมส์ Free Counter
[Add mckin's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com