Bloggang.com : peeko : ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก~สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว III~

ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก~สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว III~

ตอนสุดท้ายแล้วจ้า

กว่าจะได้ฤกษ์เขียนตอนนี้เลยเวลาที่ไปลาวมาเกือบ ๔ เดือนแล้ว
ไม่น่าเชื่อเลยว่าไปวันเดียวจะเขียนได้ตั้งสามตอน อิอิ

ความเดิมจากตอนที่แล้ว หลังจากที่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทย
เปิบตำส้มรสเผ็ดแซ่บแสบก้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รถโรงเรียน...เอ้ย...ไกด์ก็มารับเราไปทัศนศึกษาต่อ

จุดหมายปลายทางของเราคือ หอพระแก้ว

หอพระแก้วเคยประดิษฐานพระแก้วมรกต (ปัจจุบันประดิษฐานที่วัดพระแก้วของไทย)
ภายในวัดห้ามถ่ายรูป จึงไม่สามารถนำภาพมาให้ชมได้
ข้างในเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์พระโบราณ มีพระพุทธรูปและของโบราณหลายอย่างตั้งโชว์อยู่เกือบเต็มพื้นที่ภายในอุโบสถที่ไม่ใหญ่มากนัก
มีแท่นที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกตอยู่ด้วย
ปัจจุบันมีพระพุทธรูปอื่นมาตั้งอยู่แทน
น้องไกด์เล่าว่า สมเด็จพระเทพ เสด็จฯมาที่นี่ จึงแนะนำว่าน่าจะหาอะไรมาตั้งแทนเพราะไม่อยากปล่อยให้ว่าง จึงมีการอัญเชิญพระพุทธรูปอื่นที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวลาวมาประดิษฐานไว้

เป็นที่น่าสังเกตุว่าชาวลาวเองก็มาทัศนศึกษาท่องเที่ยวที่นี่เยอะเหมือนกัน
และที่ไม่แพ้กันคือพวกเราชาวไทยนี่แหละ วันที่เราไปก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ๒-๓ กลุ่ม อยู่ด้วย
ด้วยความที่น้องไกด์ของดิฉันพูดภาษาไทยได้คล่องมาก จึงเป็นที่สนใจของพวกพี่ๆ ชาวไทยกลุ่มอื่นพอสมควร
ตอนที่น้องเขากำลังอ่านป้ายเล่าประวัติของหอพระแก้วให้เราฟังด้วยภาษาไทยที่ชัดสุดๆ ทั้ง ร.เรือ ล.ลิง (ยิ่งกว่าเราคนไทยเองซะอีก) ก็มีคนไทยคนอื่นมามุงร่วมฟังด้วย (พี่ไทยมุงตลอด)
เราก็เพิ่งประจักษ์ตอนนี้เองว่าน้องไกด์ของเราเก่งจริง เพราะไกด์สาวชาวลาวคนอื่นเล่นเว่าภาษาลาวแบบไทยอีสาน ทรานซิสเตอร์ ซึ่งทำให้ได้บรรยากาศขึ้นมาหน่อยว่า เออ..เรามาเที่ยวต่างประเทศนะเนี่ย...ตั้งแต่เข้าลาวมาเนี่ย ไม่ค่อยจะได้รู้สึกเลยว่ามาต่างประเทศ

โอ๊ย....อยากจะเอาหัวโขกกำแพง....
จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะว่าอะไรเป็นอะไร
รูปซ้ายมือสุด เป็นรูปน้องไกด์คนสวยของเรา กำลังตั้งอกตั้งใจเล่าเรื่องไอ้เจ้าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเธอ
จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ หินที่เจาะรูไว้เหมือนแก้วใบใหญ่ยักษ์ สันนิษฐานว่าอาจทำขึ้นเพื่อใส่เหล้า ไวน์ บางทฤษฎีก็ว่าเป็นโลงศพ แต่ปัจจุบัน อย่างในรูปข้างบน ข้างในมีเหรียญ คงมีใครมาโยนเหรียญเพื่อขอพร อธิษฐานเอาไว้เป็นแน่แท้

รูปกลางนี้ เป็นปฏิมากรรมที่ฝรั่งเศสได้สร้างเอาไว้ ที่จริงจะต้องมีรูปปั้นชาวฝรั่งเศสอีกคนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นชาวลาวนี้ เพราะฝรั่งเศสตั้งใจแสดงให้เห็นว่า เสมือนว่า ตนเองเข้ามาในลาว และชาวลาวได้มอบประเทศให้กับตนเอง

พอลาวยึดประเทศกลับมาจากฝรั่งเศสได้ก็เลยแยกรูปปั้นชาวฝรั่งเศสนั้นออกไป ปัจจุบันนำไปเก็บรักษาอยู่ที่สถานทูตฝรั่งเศส เพราะทางสถานทูตมาขอไว้

รูปขวาสุด เป็นรูปด้านหน้าหอพระแก้ว เขียนชื่อหอพระแก้วไว้

หลังจากนั้น เราเดินทางกลับมายังชายแดนลาว เพื่อรอให้บริษัททัวร์ฝ่ายไทยมารับกลับ
ระหว่างที่รออยู่เราก็ไปเดินเล่นที่ดิวตี้ฟรี แหม....ถูกใจ
ต้องช้อปซะหน่อยแล้ว ตอนที่เข้ามาเห็นกระเป๋าหลุยเอย โค้จเอยวางกองอยู่หน้าร้านค้าเพียบเลย เด๋วต้องไปสอยมาซะหน่อย
ดีใจได้พักเดียว...พอเดินไปดูใกล้ๆ เฮ้ย ไมเอาเป๋าแบรนด์มากองตากแดดตากลมแบบไม่ดูดายอย่างนี้ล่ะ แถมในร้านก็แขวนๆ กระเป๋าไว้เหมือนมาบุญครองบ้านเราเลยอ่ะ

อ้าว...ของปลอมหรอกเหรอเนี่ย....แป่ว....

ไมเอามาวางขายโจ่งครึ่มอย่างนี้ได้เลยล่ะ

แถมในตึกที่บอกว่าเป็นดิวตี้ฟรีเนี่ยก็มีแต่ของที่ดูท่าว่าจะมาจากประเทศจีนเพียบเลย
ทำให้นึกถึงที่น้องไกด์เล่าให้ฟังว่า เดี๋ยวนี้คนจีนเข้ามาอยู่ในลาวเยอะมาก
มาแย่งงานคนลาวทำก็มี เขาคงเห็นว่าที่ลาวอุดมสมบูรณ์ อยู่สบายกว่าก็เลยอพยพเข้ามามาก
....อืม....คนจีนเนี่ยมีอยู่ทั่วทุกมุมโลกเจงๆ...

รูปขวา...พี่บริษัททัวร์เห็นสามีเราตั้งใจถ่ายวิดีโอสะพานข้ามแม่น้ำโขงมาก
ก็เลยปล่อยให้สามีเราลงจากรถไปถ่ายรูปกับสะพานเป็นที่ระลึก

สามีดิฉันเล่าว่าบริเวณกลางสะพานที่เห็นเป็นรางรถไฟนั้น
ทำไว้รองรับอนาคตจะมีรถไฟจากไทยวิ่งตรงไปลาวได้เลย
รางในเมืองไทยทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอแต่ทางลาวสร้างมาเชื่อมต่อ
ก็จะสำเร็จ ไทย-ลาวก็จะเดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกมากขึ้น

...เป็นไงเคอะ สามีเดี้ยน รู้ดียิ่งกว่าเดี้ยนอีก....

แต่น...แต้น...และแล้วการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกับสามีครั้งแรกก็สิ้นสุดลง
แหม...ห่างจากประเทศไปนาน...ตั้งเกือบหนึ่งวัน...
พอเห็นป้ายนี้เข้า ก็อุ่นใจขึ้นเยอะเลย