"I write about the things I love" free html hit counter
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 

Wonder Moment @Wonderfruit Festival Day 1

               Wonderfruit Festival - Live. Love. Wonder 


                   Pavilion ซิกเนเจอร์ของ Wonderfruit Festival



        ที่ตัดสินใจมา Wonderfruit Festival เป็นความอยากเห็นเลยว่ามันเป็นยังไง
 Live. Love. Wonder. สมสโลเกนหรือไม่ หนำซ้ำวงต่างประเทศที่ทางทีมงาน
เชิญมาช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน อย่างน้อยถ้าไม่ได้งานนี้ต่อให้อีก 20 ปี ข้างหน้า
อาจจะได้ดู หรือ ไม่มีโอกาสนี้เลยก็ได้ และอีก ๆ หลายวงที่มาเห็นแล้วน้ำลายไหล 
อยากจะร้องโอ๊ย ๆ ไม่ไปไม่ได้แล้ว แต่ราคาตั๋วสำหรับ Wonderfruit Festival 
สำหรับเมืองไทยจัดวางค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (แต่ตั้ง 3 วันเลยนะ) 
วงที่อยากดูจริงจังประมาณ 6-7 วง หาร 5,000 เฉลี่ยออกมาเหลือวงละไม่กี่ร้อยบาท 
หากแต่ละวงมาเดี่ยว ๆ ราคาค่าตั๋วตกเฉลี่ย ประมาณ 2,000 - 2,500 บาทต่อวง 
แต่ถ้าเอาโอกาสที่จะได้ดู หารกับราคาตั๋วแล้ว อาจจะเหลือโอกาสเพียงแค่ 5% 
อาจจะน้อยกว่า หรือ ไม่มีเลย
      สำหรับการเดินทางไปชลบุรี ไม่ได้ลำบากเท่าไหร่ แต่การเดินทางเข้างานจากปากทาง
เข้าไปที่ตัวงานนั้น ค่อนข้างตะกุกตะกักนิดหน่อย  เนื่องจากซอยพรประภานิมิตรนั้น
เป็นซอยของเอกชน (คือของ Siam Country Club) ไม่มีรถโดยสารสาธารณะวิ่งรับส่ง
 ถ้าเหมาเข้าไปก็แพงสู้ราคาไม่ไหว ต้องเดินถัดไปลงที่ซอยเนินพลับหวานที่อยู่ถัดไป
ต้องเหมาเข้าไปแต่ราคาพอตกลงกันได้ ส่วนคนที่ขับรถมาเองนั้นสะดวกกว่ามาเองเป็นไหน ๆ 
แต่ป้ายบอกทางเข้างานเล็กมาก และแทบไม่เห็นตามติดตามรายทาง (ไปเห็นป้ายงานหลัก ๆ
ที่ประชาสัมพันธ์งานบริเวณตัวเมืองพัทยาเสียมาก ส่วนแผนที่ที่ปริ้นมาจาก TTM นั้น
ก็เป็นแผนที่เวอร์ชั่นยังไม่อัพเดท.....


     มาถึงหน้างานประมาณ 12.00 น. ตามเวลาที่ประกาศในตางรางแป๊ะ มีสาวก Wonderer 
(ตอนนี้เห็นแต่ฝรั่งออกันอยู่ประมาณ 30-40 คน และทยอยเข้ามาสมทบอีกเรื่อย ๆ) 
มาชุมนุมเพื่อรอเข้างาน แต่เจ้าหน้าที่นั้น Setting กันยังไม่เสร็จเลยผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่า ๆ 
ได้ยินเสียงแหม่มสาวเสียงใส ๆ บอกว่า "Hey guys thanks for comming to here Wonderfruit Festival
please wait for 10 minuite"  เวลารอจริง อีกเกือบชั่วโมงครึ่ง และแล้วก็ได้ผ่านเข้าประตูสู่งาน



                                             เหล่า Wonderer 





                                         สร้างแลนด์มาร์ก เป็นที่เรียบร้อย


      หลังจากพากันสร้างแลนด์มาร์กแล้วก็พากันสำรวจรอบงานว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
และวงที่เริ่มเล่นไปบ้างแล้วก่อนที่พวกเราจะเข้ามาถึงที่หน้าเวที เวทีแรกที่ได้ดู
คือเวที SOI Stage นั่งดูไป 1 กับอีกครึ่งเพลงก็จบพอดี หลังจากนั้นก็ไปเดินดูหาอะไรกิน
ราคาอาหารค่อนข้างสูง อาจเป็นเพราะต้องมีค่าดำเนินการนอกสถานที่หรือมีค่าเช่า
เลยทำให้ราคาเลยอยู่เรทนี้ ส่วนเครื่องดื่มราคานี่ไม่ต้องพูดถึง มะพร้าวสดลูกละ 180 บาท
แต่ก็ขายดีเหลือเกิน เบียร์ (แก้วขนาดกาแฟเซเว่นราคา 14 บาท) แก้วละ 200 บาท
แบบผสมเหล้า 300 บาท บางคนหมดเงินหลายพันยังไม่เมาเลยมั้งหน่ะ 
และที่พักเต้น์ไม่มีไฟฟ้า และซุ้มชาร์ทแบตโทรศัพท์ไม่แน่ใจจะหาได้หรือเปล่า.





                                                 SOI Stage



































                                  @โลเล


                                   @Rukkit at Kids area.

  หลังจากเดินสำรวจแล้วงานบูทที่มาออกร้านแต่งร้านกันสวยเริ่ด  ประชันความสวยของร้านกันอย่างเต็มที่
ขนาดกลางวันยังสวยขนาดนี้ กลางคืนคงสวยมากกว่านี้เป็นเท่าตัว แต่เสียดายที่ช่วงกลางคืน
ไม่ได้แวะเข้ามาถ่ายรูปเลย



                                 มีเกาะกลางน้ำ



 กลางเกาะเป็น Art installation ของศิลปินชาวญีปุ่น จำชื่อไม่ได้  แขวน ๆ ลอย ๆ อยู่บนต้นไม้





 Solar Stage มี 3 ชั้น แต่ละชั้นมีที่นอนและหมอนให้เอนกาย ปีนขึ้นไปถ่ายรูป ไปได้แค่ชั้นที่ 2
อยากขึ้นไปสูงกว่านี้ แต่กลัวลงไม่ได้กลัวต้องลำบากคนแถวนั้น (จริง ๆ กลัวอายมากกว่า-_")








      Andrew Ashwong เป็นวงแรกของเวที Living Stage ที่ได้ดู ก่อนหน้านี้ คนนี้
เขามาเล่นที่กรุงเทพฯ วันก่อนหน้าไปแล้วที่ Studio Lam แต่เรารอมาดูที่นี่ทีเดียว
เป็นพ่อหนุ่ม เร็กเก้ มาพร้อมมือเบสสาวเท่ มีอุปกรณ์แค่ กีตาร์ เบส และเอฟเฟคอีกนิดหน่อย
ดนตรีเรียบง่ายตามสไตล์แต่เสียงร้องทั้ง 2 คน มีเสน่ห์หรือเกิน น่ารักทั้งคู่เลยนะ
ก่อนจะเข้าเพลง This is love ของ Bob Marley พ่อ Andrew ชมมือเบสเสียเขิน
ว่าเธอเป็นผู้หญิงพิเศษมีความเป็นหยิน-หยางในตัว คนดูอย่างเราแอบอมยิ้มตามไปด้วย.



                                     Andrew Ahswong & Theo Parrish






     จบจากจังหวะเบา ๆ ก็ต่อด้วย Hugo คนไทยแลต่างชาติให้ความสนใจพอสมควร
มีเล่นเพลงทั้งจากยุค สิบล้อ และ Hugo ตอนอัลบั้มกับต่างประเทศ และที่ขาดไม่ได้เลย
คือ Twist & Hug  ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มล่าสุด แต่ที่ชอบที่สุดของ Hugo เรากลับ
ชอบมือกีตาร์แบ็คอัพ "เบิร์ด" จาก Desktop Error เป็นมือกีตาร์ที่เรายอมรับในฝีมือจริง ๆ.




                                                     Hugo 


          กลิ่นอายอเมริกันแบบ Black keys ผ่านไปเข้าสู่ความคึกคักตามแบบฉบับ
ของชาวสีม่วง Hercules and the love affair บีทเพลงตามสไตล์ ดิสโก้ แบบแต๋วแตก
ปลุกอารมณ์ให้คนคึกคักไม่ยากเลย โดยเฉพาะลีลาการร้อง+เต้นของนักร้องนำ Rouge Mary
 และอีกหนึ่งคน GUSTAPH  คนนี้น่ารักสุด ๆ เต้นเหมือนอยู่ในโลกอันสดใส
ถ้าใครนึกไม่ออกว่าสดใสแบบไหน ให้หลับตาลงแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Ma via en Rose 
สดใสในโลกสีชมพูของฉันแบบนั้น แต่ที่เสียดายคืออยากให้วงนี้มาตอนสมาชิกดั้งเดิมยังอยู่กันครบ
โดยเฉพาะ Antony Hegarty และงานนี้ก็ไม่เห็น Kin Ann อีกด้วย









                            Sa-wad-dee-ka










                                                 อันนี้เล่นท่ายากส์..





                                     Dj ระหว่างคั่นรายการต่อไป


             ปิดท้าย Living Stage ด้วย Fat Freddy's Drop แนว Raggae dub ที่ performance 
ได้แบบ มันหยดติ๋ง ๆ สมชื่อ คนดูเอ็นจอยและสนุก เพลงต่อเพลงได้ไม่น่าเบื่อ 
ไล่อารมณ์คน ให้ค่อย ๆ ต่ำ แบบ dub และค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปตามสเต็ปจนถึงจุดพีคขีด
เล่นเอาคนดูฟินกับความสนุกกันไปทั้งแถบ...









                         หลักฐานของความสนุกแบบมันส์หยดติ๋ง ๆ  Smiley คุณพี่ "พุงพริ้ว"







        หลังจากจบเวที Living stage ยังมีหลาย ๆ ซุ้ม และ หลาย ๆ บู้ท ที่บรรดา DJ ทั้งหลาย
รอเปิดเพลงต้อนรับคนแบบไม่ยอมให้ความสนุกขาดตอน ก่อนที่ราตรีจะผ่านพ้นไป 
 สนุกและเหนื่อยมากเลยรีบดิ่งหัวเข้าเต้นท์นอน เลยก็ไม่ได้แวะไปดูบรรยากาศตอนกลางคืน
 รูปเวทีอื่นๆ และซุ่มตลาดของยามค่ำคืนเลย เห็นคนอื่นๆ ถ่ายมาบรรยากาศสวยมว้ากกก..


Smiley ผ่านวันแรกไปกับความสนุกสนาน อากาศเย็น ๆ ลมพัดโชยยอดมะพร้าวไหว  Smiley


รออีกวันพรุ่งนี้จะได้เจอกันใหม่ :D




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2557
0 comments
Last Update : 25 มีนาคม 2558 11:14:16 น.
Counter : 1063 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


noisy_sunday
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สวัสดีจ๊ะ

ยินดีที่ได้รู้จัก :D

***หากนำภาพในนี้ไปใช้กรุณาอ้างอิงด้วย***



Posttag photo Post stamp-resize_zps3ca6tzfa.png

บางทีก็นึกเสียดายที่บางอย่างไม่ได้จดบันทึกไว้
ทั้งแบบตัวหนังสือหรือภาพถ่าย
ไม่ค่อยสนใจจะเขียน หรือ ถ่ายเก็บไว้บ้าง


** หลายอย่างเอาเรื่องเก่า ๆ มาลงย้อนหลัง
ต้องขออภัยด้วยที่บางเรื่องอาจผ่านไปนานหน่อย :D

Posttag photo Post stamp-resize_zps3ca6tzfa.png


ติดตามได้อีกที่ Instagram
 photo IGicon_zps5ee113d1.jpg









New Comments
Friends' blogs
[Add noisy_sunday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.