www.xat.com/SweetTarot ทำนายสดไพ่ยิปซีฟรี
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
เล่าสู่กันฟัง...เมื่อฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนที่ 4


เรื่องเรียนเริ่มพอเข้าที่ แต่เรื่องส่วนตัวนี่สิคะ ชักเริ่มวุ่นๆ มาถึงช่วงนี้เราก็เริ่มถูกจับโมดิฟายซะแล้วสิ ด้วยความเป็นคนเอเซีย เราเลยถูกมองดูว่าเป็นเด็ก ที่บ้านเขาอยากให้เราแต่งตัวให้เป็นสาวสมวัย ให้เป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นอเมริกันคนอื่นๆ ทั้งเรื่องการแต่งหน้า แต่งตัว ทำผม ทำเล็บ และการเข้าสังคม ทำกิจกรรม โดนทั้งผลัก ทั้งดันพอสมควรค่ะ เราก็เข้าใจนะคะ ว่าเขาหวังดี แต่อยู่ๆ จะให้ปรับทุกๆ อย่าง ก็เริ่มจะอึดอัดเหมือนกันล่ะค่ะ ประเดประดังเข้ามาอีกรอบ เขาคงจะเห็นว่าเราไม่ชอบออกไปไหนมาไหน ไม่ค่อยชอบไปเที่ยวกับเพื่อนๆ มากนัก Mom ก็จะจัดแจงเลยค่ะ โทรไปหาเพื่อนเราให้มารับไปเที่ยวบ้าง หรือให้เขาไปรับไปส่งก็ได้ แรกๆ เราก็ยังไม่ชินหรอกค่ะ ก็มีบ้างที่แอบร้องไห้ ก็แหม.. ต้องปรับตัวทุกอย่างเลยนี่คะ แต่ทำยังไงได้ โดนไฟล์ทบังคับขนาดนี้ ไม่ไปก็ไม่ได้ จริงๆ เราก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ขี้เกียจออกไปไหนมาไหนเท่านั้นเอง อยากอยู่บ้าน บางครั้งเขาก็เพิ่มตังส์พิเศษให้ด้วยนะคะ กิจกรรมที่มีก็ไปว่ายน้ำ ไปโยนโบล์ ไปดูหนังล่ะค่ะ เด็กอเมริกันเขาจะต้องเที่ยวกันทุกคืนวันศุกร์ ถ้าไม่ไปนั่งเล่นบ้านใครสักคน บางทีเขาก็จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มค่ะ แล้วก็ขับรถเล่นกัน เขาเรียกว่า cruising ค่ะ หรือบางทีที่โรงเรียนมีกิจกรรมช่วงกลางคืน เช่นเล่นละคร เล่นดนตรี หรือแม้แต่กระทั่งกีฬา พวกเราก็จะแห่กันไปค่ะ

เราอยู่กับเขา เขาจะให้ค่าขนมเราไปโรงเรียนเป็นอาทิตย์ค่ะ อาทิตย์ละ 20 เหรียญเป็นค่าอาหารกลางวันให้เราจัดสรรเอาเองว่าจะกินยังไง จ่ายยังไง แต่เพื่อนเราส่วนใหญ่เขาก็จะไม่ค่อยนิยมซื้อกินกันหรอกค่ะ นานๆ ทีถึงจะมาซื้อกินกัน ปกติแล้วเขาก็จะแพ็คอาหารกลางวันไปกันกินเอง ใน Lunch bag ของเขาเนี่ย ก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แซนวิช 1 ชิ้น, น้ำผลไม้ 1 กล่อง, ผลไม้ 1 ชิ้น, บางวันก็อาจจะมี ช๊อกโกแลตบาร์แถมมาสัก 1 แท่งค่ะ ง่ายๆ ที่ดูเหมือนไม่อิ่ม แต่เขาก็อิ่มกันนะคะ

Mom มักจะสอนอยู่เสมอว่า เรามาอยู่ที่นี่แค่ปีเดียว มาเพื่อเรียนรู้ เพราะฉะนั้น เราต้องสนุกกับชีวิตให้เต็มที่ เพราะเมื่อไหร่ที่เรากลับเมืองไทยไปแล้ว ทุกอย่างที่นี่ก็จะเป็นเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้น แล้วทั้ง Mom และ Dad ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเราในทุกๆ เรื่อง... แต่ต้องอยู่ในกรอบเหมือนกันนะคะ เพราะว่าจริงๆ แล้ว เขาทั้งสองคนก็ค่อนข้างจะหัวโบราณเหมือนกัน

เรื่องการคบหาเพื่อนเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าเพื่อนนิโกรนี่ ห้ามอย่างแรงค่ะ ห้ามคบเด็ดขาด เมืองที่เราอยู่นั้น ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีคนผิวสีดำ ค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ ถึงเขาไม่ห้าม เราก็ไม่คบหรอกค่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอคะ เพราะแค่เห็นก็กลัวแล้วจริงๆ พวกนี้จะตัวใหญ่มาก ดูดุๆ โหวกเหวกโวยวาย เป็นนักเลง แค่เดินเฉียดๆ ผ่าน ก็หนาวแล้วค่ะ แต่จะคบเพื่อนที่เป็นพั้งค์หรืออะไรนี่ เขารับได้ เพราะเราก็รู้จักอยู่หลายคนเหมือนกันค่ะ ที่เป็นพั้งค์เนี่ย จริงๆ แล้วก็รู้จักมาจาก Sara Loveall น่ะแหละค่ะ เขาจะสนิทกับ Kim Keller ซึ่ง Kim นี่ ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาใส่เสื้ออยู่สองสีเท่านั้นค่ะ คือ ขาวกับดำ ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำเสียมากกว่า ทั้งเสื้อและกางเกงเลย แต่ผมเป็นสีทอง แล้วก็ใส่เจลให้ผมตั้งๆ เล็บก็ชอบทาสีดำ แต่ Kim ก็นิสัยดีนะคะ เป็นเพียงแต่รสนิยมของเขาเท่านั้นเอง Kim มีเพื่อนที่เป็นพั้งค์อีกสองคน ที่เราได้รู้จัก

คนหนึ่ง ชื่อ Todd Snow ตัว Todd เนี่ย จะชอบแต่งตัวสีทึมๆ ค่ะ แต่ไม่ถึงกับใส่สีดำตลอดนัก ผมจะทำทรงหนามทุเรียน พอนึกออกไหมคะ แล้วก็ย้อมผมเป็นสีเขียวค่ะ ฮาๆๆ Todd จะเป็นคนตลกๆ หน่อยๆ ชอบแซว (โดยเฉพาะแซวเรา) ชอบทำอะไรที่เขาไม่ค่อยทำกัน เช่น บางทีก็จะแล่บลิ้นออกมายาวๆ เลียโน่น เลียนี่ และก็ชอบขากน้ำลายบ่อยๆ ค่ะ พอขากเสร็จก็จะหัวเราะชอบใจใหญ่ ตัวเราก็จะอึ๋ย บ้าหรือเปล่า แต่แปลกค่ะ ฝรั่งเขาชอบกัน เขาขำกันใหญ่ แรกๆ เราก็ไม่ขำหรอกค่ะ เราจะงงๆ แต่หลังๆ ก็ขำตามเขาไปเหมือนกันค่ะ ก็เข้าเมืองแล้วนี่ค่ะ ก็ต้องหลิ่วตาตาม ส่วนเพื่อนที่เป็นพั้งค์คนสุดท้าย คนนี้ชื่อ Heather Hillard ค่ะ คนนี้ออกจะแปลกๆ สักหน่อย ฝรั่งเขาเรียกว่า weird ค่ะ Heather นี่จะพั้งค์จ๋า อย่างแรง ชอบใส่เสื้อผ้าสีดำ ที่มันยาวรุ่มร่ามๆ และก็ใส่บู๊ท ผมก็สีดำ ตาก็สีดำ ปากก็จะทาอยู่สองสี คือ แดง กับดำ ลองนึกดูสิคะ ฝรั่งตัวขาวมากๆ แล้วแต่งทุกอย่างสีดำ ดูเหมือนศพเดินได้ยังไงยังง้านเลย แต่เราดูๆ แล้ว หน้าตาเขาเนี่ย ถ้าไม่แต่งพั้งค์เขาก็จะสวยมากๆ เลยค่ะ (Kim ก็สวยเหมือนกันค่ะ) Heather จะชอบทานน้ำอัดลมค่ะ จะอัดๆ เข้าไปเยอะๆ สักพักเธอก็จะเรอออกมาเสียงดังมากค่ะ ตอนแรกเราก็ตกใจว่าเสียงอะไร เสียงเรอเธอเองค่ะ เธอชอบเรอมากเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ แล้วตามหลังด้วย เสียงหัวเราะที่ก้องกังวาน









มีอีกอย่างที่เราจะเอ็นจอยมาก ก็ตอนช่วงเบรคระหว่างคาบเรียนนี่แหละค่ะ ถ้าวันไหน ตึกที่เราจะเดินไปเรียนต่อ อยู่ใกล้กัน เราก็จะมีเวลาเหลือพอนั่งเล่นได้แปปหนึ่ง หรือก็เป็นช่วงพักเที่ยง เราชอบมายืนดูมากค่ะ คือ ยิ่งใกล้เวลาที่จะยิ่งเข้าห้องเรียน เราก็จะเห็นหนุ่มๆ สาวๆ ยืนนัวเนียกันเป็นพัลวัน กอด จูบ ลูบคลำ ประหนึ่งจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกนาน เขาจูบกันดูดดื่มมากเลยค่ะ เขาคงเพลิน ไอ้เราคนดูก็เพลินเหมือนกันค่ะ ก็แหม... ของแปลกนี่คะ หาดูได้ตามสนามหญ้าทั่วไป ไม่ต้องไปตีตั๋วรอดูในจอเลย อย่าหาว่าเราโรคจิตเลยนะคะ .. ของอย่างนี้ที่เมืองไทยเขาไม่มีให้ดูกันจริงๆ แล้วนี่ก็เป็นสาเหตุแหละค่ะ ที่ทำให้คนอเมริกันเรียนหนังสือกันไม่ถึงไหนก็ท้องออกไปมีลูก มีครอบครัวอยู่ก็หลายคน ยังเด็กอยู่เลยนะคะ เทียบได้ก็ประมาณ ม. 2-3 บ้านเราเอง ในปีที่เราไปอยู่ ก็มีอยู่ สองถึงสามคนเหมือนกันค่ะ ที่เรียนๆ อยู่ ก็หายหน้าไป ก็ลาออกจากโรงเรียนไปเลี้ยงลูกกันนั่นแหละค่ะ

หลังโรงเรียนเราจะมีคลับสำหรับเด็กนักเรียนค่ะ เด็กนักเรียนที่นี่จะชอบมากันมาก เราก็ไปอยู่หลายทีเหมือนกันค่ะ ที่เราไปมีชื่อว่า Loiter Club เขาจะเปิดเพลงให้เด็กๆ แดนซ์กันกระจาย มีเกมส์ตู้ และก็มี pool ค่ะ แต่ที่นี่เขาไม่ขายอัลกฮอล์นะคะ เพราะอายุยังไม่ถึงค่ะ ผิดกฎหมาย ที่ขายก็จะมีพวกพิซซ่า สแน็กต่างๆ และก็ช๊อกโกแลตบาร์ ผองเราทั้งหลายก็เลยเมาน้ำอัดลมกันและก็อยู่กันได้ทั้งคืน



Create Date : 15 มีนาคม 2551
Last Update : 15 มีนาคม 2551 13:48:33 น. 1 comments
Counter : 991 Pageviews.

 
เรื่องกอด จูบ ในที่สาธารณะนี่
เราเคยคิดว่าธรรมดา เคยเห็นบ่อยๆ ในหนัง

แต่พอได้มาเห็น จะๆ ชัดๆ ต่อหน้า ต่อตา ก็ทำใจ...ยากเหมือนกันค่ะ

ก็แถวบ้านหนูไม่มีนิ...ก็ขอแว้บ ชำเลืองมองนิดหนึ่ง


โดย: aseptic วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:1:38:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

absoluteaommy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




online ♥
Friends' blogs
[Add absoluteaommy's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.