www.xat.com/SweetTarot ทำนายสดไพ่ยิปซีฟรี
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

เล่าสู่กันฟัง...เมื่อฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนที่ 5


เริ่มเข้าเดือนตุลาคม อากาศที่นี่ก็เริ่มหนาวแล้วค่ะ พร้อมกับภาษาอังกฤษของเราก็พัฒนาไปเรื่อยๆ มาอยู่สามเดือนแล้ว แน่นอนค่ะ ตอนนี้ listening อยู่ตัวแล้ว พูดอะไรมาฟังได้หมด ต่อให้พูดเร็วแค่ไหน ช้านก็ฟังเธอทัน แต่ Speaking นั้น ยังต้องรอต่อไปอีกนิดนะคะ คือคุยได้แล้วล่ะ แต่จะให้อยู่ในระดับแบบ พูดได้น้ำไหลไฟดับเนี่ย ยังค่ะยัง อย่าเพิ่งคิดนะคะว่าเราพัฒนาไปช้า เราเช็คเรทติ้งแล้วค่ะ กับเพื่อนนักเรียนต่างชาติด้วยกัน แล้วเปรียบเทียบพัฒนาการเรียบร้อยแล้ว คือทุกคนที่มาอยู่ที่นี่ แล้วรู้สึกว่าไม่มีปัญหาในการฟังอีกต่อไป ทุกคนบอกเหมือนกัน คือสามเดือนค่ะ ฉะนั้นเราก็เบาใจไปได้ว่าเกาะกลุ่มชัวร์ ลักษณะการพัฒนาทางภาษาของเรา เท่าที่เราเข้าใจ เราว่าเป็นไปในแบบธรรมชาติค่ะ เนื่องจากว่า ก่อนมาที่นี่ไวยากรณ์เราก็ไม่ได้แม่นนัก แต่ที่พูดได้แล้ว เนื่องจากว่า ฟังบ่อยๆ พูดบ่อยๆ เจออยู่ทุกวัน มันก็เดิมๆ วนกันไปมา ทำให้เราจำ pattern ของการใช้ภาษาได้ค่ะ แล้วนำมาพูดได้อย่างอัตโนมัติ แต่ยังไม่ถึงขนาดฝันได้เป็นภาษาอังกฤษตลอดเวลานะคะ คือบางทีฝันว่าอยู่ที่อเมริกานี่แหละ แล้วก็พูดคุยกัน แต่ลักษณะการโต้ตอบในความฝันนั้นเราจะมีการทำความเข้าใจแบบไทยค่ะ คือเหมือนกับแปลเป็นไทยก่อนแล้วถึงทำความเข้าใจมัน ถ้าจะเอาแบบฝันเป็นภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติแบบไม่ต้องมีการแปลกันข้ามภาษากันนั้น อันนี้ต้องอดใจรออีกสักครู่นะคะ

เดือนตุลาคมนี้เทศกาลที่สำคัญและไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่ง ก็ต้อง Halloween นี่เลย ช่วงนี้ฟักทองขายดีมากค่ะ เพราะทุกบ้านจะต้องไปซื้อมาประดับตกแต่งหน้าบ้านกัน ควักไส้ฟักทองออก แล้วก็แกะตา แกะปาก แล้วก็เอาเทียนไปวางไว้ข้างใน ว่อบแว่บๆ น่ารักดีค่ะ ใครมีอะไรก็ขนออกมาแต่งบ้านกันเต็มที่ล่ะค่ะ เด็กที่นี่แม้จะโตกันเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่แล้ว แต่เรื่องเข้าแก๊งค์ ทำอะไรกันขำๆ ล่ะก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ชอบกันเหลือเกิน แล้วเพื่อนเรานักเรียนแลกเปลี่ยนชาว Netherland ก็จัดงาน Halloween ค่ะ ก็ชวนกันไปร่วมงานคับคั่งทีเดียว ช่วงนี้เราก็เริ่มได้กลุ่มเพื่อนเพิ่มอีก 1 กลุ่ม คือ กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยกันนี่เอง ดังนั้นตอนนี้เรามีเพื่อนสองกลุ่มแล้วค่ะ งานนี้เราและก็เพื่อนๆ กลุ่มเราก็ได้รับเชิญไปด้วย แต่.. เอ... แล้วเราจะแปลงร่างเป็นอะไรดี คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตกเหมือนกันค่ะ ไม่เคยมา ก็เลยตันๆ Mom ก็ใจดีอีกเช่นเคย ช่วยจัดการให้ทุกอย่าง เขาบอกว่าที่บ้านมีวิกผมสีทอง จะเอามาลองดูไหม เผื่อจะชอบ เราก็ว่า ก็โอเค ลองดูซิ ว่าจะเป็นยังไงบ้าง พอ Mom จัดให้เสร็จ ก็วิ่งไปส่องกระจกค่ะ ผลที่ออกมาก็เป็นอย่างภาพที่เห็นนี่แหละค่ะ





เหอ.... ก็กรี๊ดน่ะสิคะ ยี้ๆๆ ไม่เอาๆๆ ไม่ชอบ ทำใมหน้ามันถึงได้พองอย่างนี้ล่ะ บอก Mom ว่า งานนี้ผมทองคงไม่เกิด ก็เลยต้องกลับไปคิดกันใหม่ ว่าจะแปลงร่างเป็นอะไรดี......

Mom กับ Dad ก็เลยพาไปช้อปปิ้ง หาดู costume เราก็เดินไปเดินมาหลายรอบ ก็ไม่ชอบอะไรสักอย่าง เฮ่อออ... เริ่มเบื่อและ เอางี้ละกัน ก็เลยบอก Mom กับ Dad ว่า อยากเป็นท่านเค้าท์ แดร็กคิวล่า เขาก็ถามว่าแน่ใจเหรอ .... เราก็ อื่มๆๆ แน่ใจและ เป็นอันนี้แหละ คงจะเท่ห์ดี เอ้า... เอาก็เอา ก็เลยซื้อ costume มา Mom ก็บอกว่าต้องซื้อสีด้วยนะ เอาไว้แต่งหน้า ทาปาก เขามีสีเอาไว้ให้แต่งหน้าโดยเฉพาะ เราก็เหรอ เราแต่งไม่เป็นอ่ะ Mom ก็ขันอาสา บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดให้.....

ติ๊กต่อกๆๆ แล้ววัน Halloween Party ก็มาถึง รู้สึกว่าจะจัดก่อนวันจริงไม่กี่วัน เราก็นัดกับเพื่อนๆ ว่า จะไปรวมตัวกันที่บ้าน Loveall ประมาณ 1 ทุ่ม และทุกๆ คน แล้ว Laura ก็จะขับรถพาพวกเราไป เพราะตอนนั้น Laura เป็นคนเดียวที่มีใบขับขี่แล้ว

พอเราแต่งตัวเสร็จ ก็เหลือแต่แต่งหน้านี่แหละค่ะ Mom ก็กุลีกุจอให้เป็นอย่างดี แถมให้เงินค่าขนมเพิ่มด้วย เผื่อเราอยากจะไปไหนต่อ แล้วเรากับ Mom ก็หายเข้าไปในห้อง Mom ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงเพื่อแต่งหน้า.....

แต่น.. แต้น...แต๊น.... ท่านเค้าท์มาแล้วค่า เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ Mom บอกว่า โอเค เสร็จแล้ว (พูดเสร็จเขาก็อมยิ้ม หน้าตาเหมือนพยายามจะกลั้นหัวเราะเอาไว้) เราก็โอเค ง้านขอวิ่งไปดูที่กระจกก่อนน๊า....

ช็อกค่ะ ช็อกจริงๆ ด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ย โฮๆๆๆๆ Mom แกล้งเรา แล้วเขาก็หัวเราะชอบใจใหญ่ บอกว่า ก็เป็นท่านเค้าท์ ก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ... เหรอ... อย่างนี้จริงๆ เหรอ.... หมดกัน อุตส่าห์จะไปปาร์ตี้ทั้งที แล้วหนุ่มๆ ที่ไหนจะมามองเราเนี่ย หมดอนาคตกันก็งานนี้ จะแก้ก็ไม่ทันแล้ว ได้เวลานัดกับเพื่อนแล้ว จะล้างหน้า ก็คงไม่ได้ กลัว Mom เสียใจ แต่ Mom สิ กลับหัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ...



Picture time!!! แชะๆๆๆ ถ่ายรูปรวมหมู่ที่บ้าน Laura ก่อนล้อหมุนไปงาน....








ค่ะ เป็นอย่างนี้นี่เองค่ะ... ใครอยากขำก็เชิญนะคะ เพราะตัวเราเองก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน ทำไปได้ยังไงก็ไม่รู้..... ??!!

ไปถึงงานเจอเพื่อนเยอะแยะมากมาย ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อม และชมว่า “Pat, You look nice.”, “Yeah, You think so.” ทุกคนเอ็นดูเรามากค่ะ แต่ในใจเขาคงคิดว่า ยายนี่ทำเข้าไปได้ยังไง ฮาๆๆ ในงานนี้เขามีการประกวด costume กันด้วยนะคะ ว่าใครแต่งได้แรงที่สุด แล้วก็ไม่ผิดคาดหรอกค่ะ รางวัลชนะเลิศตกอยู่ที่เรานี่เอง... เหอ....เป็นใครมีสภาพแบบนี้ ออกจากบ้านมาได้ก็เก่งแล้ว แล้วเราถ่อมาได้ถึงงาน ไม่ให้ก็ดูใจร้ายเกิน.... แง๊..... เราได้ช๊อกโกแลตมาเป็นรางวัลค่ะ เฮอ เฮอ เฮอ....


Halloween ทั้งที เด็กฝรั่ง (ต้องขอเน้นว่า เด็กๆ จริงๆ ค่ะ) เขาก็จะต้องหาถัง หากระป๋องกันคนละใบสองใบ แล้วก็แต่ง costume กันออกไปเคาะตามบ้านต่างๆ ทุกบ้านจะต้องเตรียมขนม ช็อกโกแลตลูกกวาด ลูกอมเอาไว้ให้เพียบเลยล่ะค่ะ บ้านไหนไม่มีเนี่ย อายเด็กแย่...

แล้วเราก็เป็นเด็กโต ที่ไปร่วมขบวนกับเด็กน้อย เขาเรียกว่า ghost tours ค่ะ (ก็อยากอ่ะค่ะ อยากไป) ไป trick or treat กันตามบ้านต่างๆ แต่เราก็ทำเป็นว่าไปในฐานะผู้ดูแลเด็ก แต่แอบมีถังขนาดใหญ่พอประมาณติดมือไปด้วย 1 ใบ ฮาๆ ....ระหว่างทางที่เดินกันไป เราก็จะร้องเพลงกันไปค่ะ trick or treat, smell my feet. Give me something good to eat. พอไปถึงหน้าบ้าน ก็จะมีตัวแทนไปเคาะประตู แล้วเจ้าของบ้านก็จะเปิดประตูออกมา เราก็ตะโกนถามว่า trick or treat ถ้าเขาตอบว่า trick พวกเรา (เด็กๆ ทั้งหลาย) ก็จะแกล้งเจ้าของบ้าน แต่ถ้าเจ้าของบ้านตอบว่า treat เขาก็จะไปหยิบขนม ลูกกวาด ช๊อกโกแลตมาแจกเด็กแต่ละคนที่มา แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะตอบกันว่า treat กันทั้งนั้นแหละค่ะ แหม! ใครจะไปปฏิเสธเด็กได้ลงคอ ก็มีมาเคาะกันทั้งคืนแหละค่ะ ส่วนเราก็ขอไปแค่สองสามชั่วโมงพอ เอาแค่ได้บรรยากาศ ให้ได้รู้ว่าเขาทำยังไง ก็พอดีได้ขนมเต็มถังมาน่ะแหละค่ะ ถึงได้หยุด ฮาๆๆ เพราะเรามีนัดกับแก๊งค์เพื่อนๆ นักเรียนแลกเปลี่ยนต่อ แก๊งค์นี้เขาจะแผลงๆ กันนิดนึงค่ะ เพราะจะมีเพื่อนๆ หนุ่มๆ ชาวอเมริกันอยู่ด้วย แล้ว Maria ก็กำลังกิ๊กอยู่กับหนุ่มน้อยน่ารัก ที่ชื่อ Donnie Peacock อยู่พอดี พอรวมตัวกัน แก๊งค์ก็เลยใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (ส่วนเพื่อนอีกแก๊งค์ของเรา เขาจะไม่ค่อยสนิทกับแก๊งค์นี้มาก แต่ก็มีอะไรแผลงๆ กันคนละอย่างค่ะ)

พวกเราไปรวมตัวกันที่บ้าน Donnie แล้วก็นั่งเล่นนั่งคุยกันจนดึก สักพัก Donnie ก็เอากระดาษทิชชู่ม้วน ที่เราๆ ใช้กันเวลาเข้าห้องน้ำล่ะค่ะ เอามาแจก แล้วก็พากันเดินออกไปข้างนอกในคืนเอาหนาวเหน็บเพื่อไปหาอะไรสนุกๆ ทำ พอเราออกมาได้สักพัก ก็จะเจอต้นไม้ใหญ่ บ้านใครก็ไม่รู้ล่ะ พวกเราก็เอากันเลย Donnie และ Timothy Neal ก็สอนพวกเราเลย ว่าให้เอากระดาษทิชชู่พวกนี้อ่ะ โยนขึ้นไปบนต้นไม้ทั้งม้วน นึกภาพออกไหมคะ พอโยนขึ้นไป มันก็จะมีบางส่วนของกระดาษที่ติดอยู่บนต้นไม้ แล้วส่วนที่ยังเป็นม้วนๆ อยู่ มันก็จะตกลงมาที่พื้น แล้วเราก็จะโยนมันขึ้นไปใหม่ เอากันอย่างนี้แหละค่ะ จนในที่สุดต้นไม้ต้นนั้น (ของบ้านใครไม่รู้แหละ) ก็เต็มไปด้วยกระดาษทิชชู่ ก็สนุกสิคะ มันส์กันถ้วนหน้าเลย แล้วเราก็ถามเพื่อนว่า แล้วทำยังไงต่อ เขาก็บอกว่า ก็วิ่งสิครับผม ตัวใครตัวมัน ฮาๆๆๆ ประมาณว่า อย่าให้เจ้าของบ้านจับได้เด็ดขาดว่าใครเป็นคนทำ พอรุ่งเช้า เขาก็คงจะต้องออกมาเก็บกวดกันเองล่ะค่ะ ส่วนใหญ่เช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน บ้านหลายๆ หลัง จะมีสภาพเละเทะกันอย่างนี้แหละค่ะ ตัวเราเองก็กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็สนุกมากๆ ค่ะ Tim กับ Donnie บอกพวกเราว่า เขาก็ทำกันอย่างนี้แหละ ......แต่ว่า.... จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นักหรอก อ้าว... แล้วทำทำใมล่ะ ... ก็แล้วมันสนุกไหมล่ะ.... เออ จริงด้วย สนุกมากๆ เลยค่า ขอบอก




 

Create Date : 15 มีนาคม 2551
9 comments
Last Update : 15 มีนาคม 2551 13:56:05 น.
Counter : 2064 Pageviews.

 

แวะมาทักทาย เล่าเรื่องได้น่าอ่านและน่าติดตาม เป็นเด็กผู้หญิงที่เก่งมากค่ะ อยากให้ลูกสาวเป็นอย่างนี้มั่งจัง เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้สนุกกับการเรียนนะคะ และเรียนรู้ภาษาเร็วๆ

 

โดย: อ้อ IP: 58.10.164.82 15 มีนาคม 2551 16:27:28 น.  

 

สนุกจังเลยค่ะ มาเล่าอีกนะ ไม่ได้แวะมานานมาอ่าน3ตอนรวดเลย

 

โดย: tennoji 22 มีนาคม 2551 21:15:02 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ดีจัง ชอบอ่ะ สนุกด้วย ปีนี้มุ่ยก้อจาไปเปน

EXCHANGE STUDENT เหมือนกันค่ะ

ช่วยเล่าวัฒนธรรมอเมริกันให้ฟังหน่อยได้มั้ยค่ะที่ไม่เคยมีในไทยอ่ะค่ะ

เเล้วเราต้องปรับตัวยังไงกะวัฒนธรรมอเมริกันค่ะ ถ้ามีคำเเนะนำหรืออยากจะเล่าประสบการณ์ดีอะไรก้อบอกกันได้นะค่ะที่ Mui_Big555@hotmail.com

ตอนนี้คุณเจ้าของ Blog อยู่ที่ USA or Thailand ค่ะ

หุหุ ไปเเล้วนะค่ะ

บายๆๆค่ะ

 

โดย: MuiMui IP: 203.113.17.169 28 มีนาคม 2551 22:10:56 น.  

 

ถึงมุ่ยนะคะ

เรื่องการปรับตัวก็ค่อนข้างเยอะมากค่ะ ทุกๆ อย่างเลย ทั้งวัฒนธรรม ภาษา ครอบครัว เพื่อน สิ่งแวดล้อม โอ่ย ทุกอย่างเลยค่ะ

อย่างแรกเลย เราจะต้องเปิดใจให้กว้างค่ะ เพื่อรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และก็ต้องใช้ความอดทนสูงมากในช่วงแรกๆ แต่ทั้งนี้ เราก็ต้องใช้วิจารณญานในการรับสิ่งต่างๆ ด้วยนะคะ

วัฒนธรรมแต่ละประเทศ มันก็มีทั้งดี และไม่ดี เหมาะและไม่เหมาะกับเราแค่ไหน ควรจะรับมาแค่ไหน อันนี้ก็ต้องดูด้วยนะคะ จะรับมาเสียทุกอย่างก็คงไม่ดี จะไม่เอามาเลยก็จะอยุ่ลำบาก แต่รับรองได้ว่าได้อะไรดีๆ กลับมาเยอะมากๆ แน่นอนค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น การได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ ได้เจออะไรใหม่ๆ เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีในตำราเรียน เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เรามองเห็นอะไรได้กว้างขึ้น เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างในการดำเนินชีวิตมากขึ้น

ขอให้สนุกกับประสบการณ์ดีๆ ที่กำลังจะมาถึง และประสบความสำเร็จในชีวิตนะคะ

จะให้แนะนำ ก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำในจุดไหน เอาเป็นว่า อยากรู้เรื่องไหน ถามมาเป็นจุดๆ จะตอบได้ตรงมากกว่านะคะ

absoluteaommy@hotmail.com

ยินดีเป็นที่ปรึกษาให้ค่ะ

 

โดย: absoluteaommy 28 มีนาคม 2551 23:09:27 น.  

 

อ่านแล้วสนุกดีนะครับ อยากได้โอกาสแบบพี่บ้างจัง พี่โชคดีมากเลยครับ

 

โดย: นิค IP: 180.180.134.111 16 พฤษภาคม 2554 23:51:24 น.  

 

ดีจังอยากมีโอกาสไปแบบนี้บ้างจังครับ

 

โดย: Joey IP: 110.77.166.134 15 มิถุนายน 2555 19:28:29 น.  

 

หนูอยากไปแบบพี่บ้างจังเลยค่ะ
แต่หนูพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งอย่างมากคะ คงไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่เก่งจังเลยค่ะ เข้าใจภาษาอังกฤษคุยกันรู้เรื่องด้วย

 

โดย: Mangpor IP: 124.121.167.141 1 กรกฎาคม 2555 18:11:23 น.  

 

สนุกมากๆเลยค่ะ ขำมากๆตอนเห็นรูป จขกท บรรยายว่าแย่แต่ไม่รู้แย่ขนาดไหนพอเห็นรูปปุ๊บ ฮาลั่นเลย mom ใจดีมากๆเลยค่ะ

 

โดย: เด็กมึนEng IP: 180.183.249.15 23 กุมภาพันธ์ 2556 22:13:35 น.  

 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวประสบการณ์ดีๆที่ถ่ายทอดเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือไม่มี โอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเช่นผม...หากไม่เป็นการเสียมารยาทหรือละลาบละล้วง อยากให้เจ้าของบล็อกเขียนบทความเส้นทางการศึกษาของเจ้าของบล็อคย้อนเรื่องไปก่อนจะมาถึงการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ว่าไปงัยมางัย และทำอย่างไรถึงได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนะครับ ผมจะนำเรื่องของคุณไปให้ลูกสาววัย 6 ขวบ อ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและความสำคัญของภาษาและเป็นกุญแจไขไปสู่ประตูโอกาสแห่งชีวิตให้กับตัวของเธอเอง ด้วยความเคราพครับ .

 

โดย: พ่อนู๋ใบพลู IP: 1.47.46.100 3 เมษายน 2561 13:31:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


absoluteaommy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




online ♥
Friends' blogs
[Add absoluteaommy's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.