www.xat.com/SweetTarot ทำนายสดไพ่ยิปซีฟรี
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
เล่าสู่กันฟัง...เมื่อฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนที่ 1



วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่าถึงประสบการณ์ที่มีค่าในชีวิต และเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยลืมเลย คือการได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และได้เดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต มีหลายครั้งเหมือนกันค่ะ ที่อยากจะจดบันทึกเรื่องราวความทรงจำดีๆ เอาไว้ แต่ก็ไม่เคยได้ทำสักที มาวันนี้มีโอกาส เนื่องจากเห็นว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการเรียนภาษาด้วย

ตอนนั้นตัวผู้เขียนอายุ 17 ปีเต็มค่ะ ด้วยความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่อยากจะเดินทางไปต่างประเทศ ใจจริงแล้วประเทศที่อยากจะไปคือ ประเทศญี่ปุ่นค่ะ เพราะสมัยนั้น ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น และได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนญี่ปุ่น อยากไปประเทศญี่ปุ่น อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่จับพลัดจับผลู ไม่ได้ไปค่ะ ได้ไปอเมริกาแทน ตอนนั้นก็เศร้า แต่ก็เอาเหอะ ที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ไปเหอะน่า ....

และการเดินทางของชีวิตก็ได้เริ่มขึ้น....
ที่สนามบิน พ่อแม่ และเพื่อนๆ มาส่งกว่า 20 คน มีหลายคนร้องไห้ เพราะเราจะไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งปี แต่ความรู้สึกเราตอนนั้น ไม่เศร้าเลย แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เจอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้มากกว่า อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า “หัวใจพองโต”






พอเดินทางมาถึงอเมริกา ตอนนั้นเครื่องพาเราไปลงที่ San Francisco, California เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจมาก ก้าวแรกที่เราได้เหยียบลงแผ่นดินใหม่ คิดกับตัวเองในใจ “Hello, America.” ในที่สุดฉันก็ได้เดินทางมาถึง..... ประเทศที่ใครๆ ก็พูดถึง ประเทศที่หลายๆ คนอยากจะเดินทางมา ชีวิตใหม่ของฉันกำลังจะเริ่มต้นแล้ว....

ตอนเดินทางไปเป็นกลุ่มจากเมืองไทยถึง San Francisco นั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างสะดวกโยธินเหลือเกิน แต่พอมาถึง San Francisco แล้วแต่ละคนก็ต้องแยกย้ายกันไป ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่จะไป สำหรับเรา ต้องเดินทางไป Illinois ค่ะ ก็ต้องต่อเครื่องหลายรอบเหมือนกัน จาก San Fran ก็ไปเปลี่ยนเครื่องต่อที่ Denver และไปลงที่ St. Louis, MO. แต่เรื่องดันมาเกิดตอนที่เปลี่ยนเครื่องที่ Denver นี่สิคะ คือ พอแยกย้ายกับเพื่อน ก็ต้องไปที่เกท เพื่อจะขึ้นเครื่องเที่ยวต่อไป แต่ด้วยช่วงระยะเวลาที่กระชั้นในการเปลี่ยนเครื่อง สนามบินก็ใหญ่ ไม่คุ้นที่ คุ้นภาษา กว่าจะหาเกทเจอ หรืออาจจะเป็นความเงอะงะของเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็เลยตกเครื่องค่ะ จำได้ว่าวิ่งไปที่เกทอย่างรวดเร็ว พร้อมกับข้าวของอันพะรุงพะรัง แต่ไม่ทันแล้ว ประตูกำลังจะปิด หัวชนประตูอย่างจัง แป่ว!!! ชนแรงมากถึงขั้นหัวโนเลยทีเดียว ทำไงดีๆๆ ต้องคุยกับเขา ต้องถามเขา ต้องถามใคร แล้วต้องถามว่าไง เหอ.... แล้วโชคก็ไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ในวันนั้นเที่ยวบินที่เพิ่งออกไปเป็นเที่ยวบินสุดท้าย จะเดินทางได้ก็ต้องเป็นวันพรุ่งนี้เท่านั้น ทางสายการบินก็น่ารัก ใจดีมาก ส่งพนักงานมาดูแลเราเป็นอย่างดี เขาพูดอะไรมาก็ได้แต่ยิ้ม หูไม่ทำงานอย่างรุนแรง กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่อง ก็เมื่อยมือ เมื่อยปากไปตามๆ กันเลย ในใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ จะกล้าดี หรือกลัวดี สับสนไปหมด แต่ในใจตอนนั้นบอกว่า กลัวไม่ได้ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ห้ามกลัวเด็ดขาด ปรากฎว่าคนที่ตกเครื่องวันนั้นมีอยู่ 5 คนรวมตัวเราเข้าไปด้วย และที่น่าแปลกใจที่สุดคือ มีพี่น้องสองคน เป็นเด็กหญิง1 คน และเป็นเด็กชาย1 คน อายุคนพี่ก็ 7 ขวบ กับน้องสาวอายุ 5 ขวบ เขาก็ตกเครื่องด้วยเหมือนกัน ทั้งสองคนเดินทางกันเองโดยลำพัง แต่ทำใมดูเขาไม่รู้สึกตกใจ หรือหวาดกลัวอะไรเลย ยังคึก ยังพูดคุยสนุกสนาน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ยังเด็กอยู่ขนาดนี้ ในใจก็คิดว่า หรือเพราะว่าเขาเป็นคนอเมริกัน อาจจะเป็นด้วยที่วัฒนธรรมและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ทำให้เขาไม่กลัว ตอนนั้นในใจก็คิดว่า.. เออ ขนาดเด็กกว่าเรา อายุแค่นี้ เขายังไม่กลัวอะไรเลย แล้วนี่เราอายุตั้ง 17 โตกว่าเขาตั้งเยอะ จะกลัวไม่ได้ เดี๋ยวแพ้เด็ก.... ก็ได้แต่ปลอบตัวเองไป แต่ในใจสิแทบบ้า อะไรก็ไม่รู้ พูดอะไรก็ไม่ได้ มันไม่ได้ดั่งใจไปหมด คนรู้จักก็ไม่มี ทำใมฉันถึงได้ซวยขนาดนี้ โอ๊ยยย... สารพัดเรื่องในหัวค่ะตอนนั้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านไป วันรุ่งขึ้นก็ได้เดินทางต่อ คราวนี้ไม่ต้องกลัวตกเครื่องแล้ว เพราะทางสายการบิน United Airlines ดูแลอย่างดี พาไปทานข้าว และพาไปส่งถึงเกท คราวนี้รับรอง ยังไงก็ไม่ตกเครื่องแน่นอน


พอเดินทางไปถึงสนามบินที่ St. Louis, Missouri ก็ได้เจอกับ Host Family เป็นครั้งแรก สามีและภรรยาครอบครัว Green และเขาก็พาเรานั่งรถต่ออีก 2 ชั่วโมงค่ะ เมืองที่ไปอยู่ชื่อว่าเมือง Mt.Vernon เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางใต้ของ Illinois ห่างจาก Chicago ลงมาสามชั่วโมง และอยู่ติดกับรัฐ Missouri ค่ะ ต้องบอกว่าเมืองนี้ชนบทมากๆ เป็นเมืองเกษตรกรรมโดยแท้ 99% เป็นชาวอเมริกัน และอีกประมาณไม่ถึง 1% ก็นักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาตินี่แหละค่ะ เพราะในปีที่ไปมีอยู่ด้วยกัน 6 คนด้วยกัน มีชาวสเปน, แม็กซิโก, เนเธอแลนด์, ออสเตรเลีย, สวีเดน และก็ไทย ไปถึงก็ใกล้เย็นแล้ว แต่ทาง Host เขาน่ารักมากค่ะ เขาจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับเอาไว้ให้ เชิญญาติๆ และก็เด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนที่จะต้องไปเรียนมาร่วมงาน เพื่อให้เราได้รู้จัก และมีเพื่อน ตอนนั้นจำได้ว่า หูอื้อค่ะ เขาพูดอะไรก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เหนื่อยด้วย




ไปอยู่ได้แค่อาทิตย์เดียว ทาง Host Family ก็ทำเก๋ ให้นักข่าวท้องถิ่นมาสัมภาษณ์นักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างเรา ขึ้นหน้า 1 เลยนะคะ ปรากฎว่าดังไปทั่วเมือง ไปไหนมีแต่คนจำได้ รู้จัก และก็มาพูดคุยทักทาย ทุกคนเป็นกันเองมากค่ะและก็ตื่นเต้นมากที่ได้เจอเรา เหมือนเป็นตัวประหลาดเลยล่ะค่ะ ตอนนั้นทุกคนมีแต่คำถาม แต่ละคำถามฟังแล้วก็เหวอไปเลย แล้วก็ต้องมาตอบคำถามดังต่อไปนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ.... “มาจากประเทศไทยเหรอ”, “ประเทศไทยอยู่ตรงไหนของแผนที่โลกเหรอ”, “ประเทศไทยมีรถยนต์ใช้หรือเปล่า”, “เวลาเธอเดินทาง เธอขี่ควายหรือเปล่า” โห... สุดยอดจริงๆ คำถามแต่ละคำถามไม่รู้ไปขุดมาจากไหนกัน นี่น่ะเหรอประเทศพัฒนาแล้ว แล้วเราก็ต้องทำหน้าที่เผยแพร่ และให้ความรู้เกี่ยวกับประเทศไทย อธิบายให้เขาเข้าใจและรู้จักประเทศของเรามากขึ้น ก็ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ไปจริงๆ Cultural Exchange Student แต่ในช่วงแรกๆ ที่ไปอยู่นั้น รู้สึกเหนื่อยมากๆค่ะ ต้องปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ภาษา และทุกอย่างในชีวิตขั้นรุนแรงมาก ถึงมากที่สุดค่ะ


Create Date : 12 มีนาคม 2551
Last Update : 13 มีนาคม 2551 0:34:51 น. 13 comments
Counter : 8437 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ น่าสนุกดีจัง นานหรือยังคะเนี่ย


โดย: Dublina วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:6:14:44 น.  

 
เล่าได้น่ารักและตื่นเต้นดีจังคะ อยากฟังอีกคะ


โดย: ยุค IP: 202.180.203.101 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:6:49:19 น.  

 
อยากไปต่างประเทศนะ
แต่ไม่ใช่อเมริกา


ไปแล้ว ได้กำไรชีวิต เยอะดี


โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:7:20:15 น.  

 
อ่านแล้วเพลิน
ตลกด้วย

(^^)


โดย: นู๋นิว IP: 124.122.148.96 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:06:30 น.  

 
อยากฟังต่อจังค่ะ มาอัพไวๆนะคะ รออยู่ๆ


โดย: OumojijA (tennoji ) วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:13:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอให้สนุกกับกำไรชีวิตที่กำลังจะได้รับนะคะ^^
ตอนแรกที่อ่าน นึกว่าอยู่ San Francisco แอบตื่นเต้นเล็กๆ แต่พออ่านไปอ่านมา แป่ววว เข้าใจผิดค่ะ 55
Ps.วันศุกร์นี้พี่จะไปUSA.เหมือนกันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ^^


โดย: * ~ kawwaw ~ * วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:24:16 น.  

 
ของเรากลับสับกันอยากไป อเมริกา/แคนาดา แต่ดันได้ไปญี่ปุ่้น เหอๆๆๆ ไปมาก็9ปีจะ10ปีแล้วแต่พอคิดถึงช่วงนั้นยังจำได้ดี เหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเลยค่ะ แล้วจะมาอ่านเรื่อยๆนะคะ


โดย: mary_poppins IP: 85.226.79.241 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:12:50:49 น.  

 
ขอบคุณนะคะทุกๆ คน ที่เข้ามาติดตามอ่านกันค่ะ ดีใจนะคะที่ชอบ

เรื่องนี้เกิดมานานมากแล้วค่ะ หุหุ เฉียดๆ 20 ปีและ แต่ทุกอย่างมันยังอยู่ในหัวๆๆ มาติดตามอ่านกันต่อนะคะ


โดย: absoluteaommy วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:0:11:38 น.  

 
คุณ kawwaw ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ไป San Fran ไปเที่ยวหรือไปเรียนคะ อยากไปอีกจัง


โดย: absoluteaommy วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:0:21:46 น.  

 
เปิ่นเลยเรา....ดันอ่านบทที่2ก่อน บทแรก แล้วดันนึกว่าเค้ากำลังเรียนอยู่ด้วยสิ ที่ไหนได้ เรื่องมันนานมากแล้ว แต่ก็ชอบค่ สนุกดี เขียนต่อนะค่ะ


โดย: apahcin IP: 124.120.149.21 วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:1:35:48 น.  

 
ขอตามอ่านน่ะค่ะ...


โดย: aseptic วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:1:14:04 น.  

 
ชอบเมาส์มาก ๆ เลยค่ะ 555


โดย: Wow IP: 101.51.84.71 วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:11:40:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ อยากถามว่าค่าใช่จ่ายทั้งหมดเสียไปเยอะไหมค่ะ อยากไปแต่กลัวว่าตังที่มี่จะไม่พอ
แล้วค่าเทอมที่นั่นเป็นยังไงบ้างค่ะ

รบกวนด้วยน่ะค่ะ คืออยากไปมาก*-*


โดย: MEEN IP: 14.207.179.206 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:32:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

absoluteaommy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




online ♥
Friends' blogs
[Add absoluteaommy's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.