|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พูดอย่างไรให้เหมือนเจ้าของภาษา
มีหลายๆ คนมีจุดมุ่งหมายว่า อยากจะพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่า ถ้าการพูดให้เหมือนเจ้าของภาษา คือพูดสำเนียงแบบเขาล่ะก็ เป็นไปได้ยากค่ะ มีหลายๆ คนเคยใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมาหลายปี บางคนเป็นสิบๆ ปี บางคนเรียนถึงปริญญาเอก เวลาพูดออกมา ก็ยังไม่ได้สำเนียงเขามาเลย เพราะว่าการพูดเนี่ย มันมีอยู่หลายปัจจัยค่ะที่เป็นอุปสรรค
ประการแรก อายุของผู้เรียน ถ้าผู้เรียนเริ่มเรียนภาษาที่สองตั้งแต่อายุยังน้อยก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะพูดเลียนสำเนียงเจ้าของภาษาได้ใกล้เคียง ที่พูดว่าใกล้เคียงเนี่ย เพราะเขามีการทำการทดลองมาแล้วกับเด็กอายุประมาณห้าขวบ ที่ย้ายไปอยู่ประเทศอเมริกา และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามสิบกว่าปี ก็ยังมีสำเนียงหรือที่เขาเรียกว่า accent ของภาษาแรกอยู่เลย เพราะว่าระบบภาษาของภาษาแม่มีอิทธิพลต่อการเรียนระบบภาษาของภาษาที่สองค่ะ สำหรับประสบการณ์ที่ได้เจอ และวิเคราะห์มา พบว่า การเริ่มเรียนภาษาที่สอง หรือหัดพูดสักอายุประมาณ 12 ปี ยังมีโอกาสที่จะได้ accent เขามา คือ คนธรรมดาๆ อย่างเราๆ ทั่วไป แยกไม่ออกหรอกค่ะ ว่าเขามี accent ภาษาแม่อยู่ (ฝรั่งเขาจะพูดกันว่า You have an accent อย่าไปเข้าใจผิดนะคะว่าเราพูดได้ accent ของเขา เขาหมายความว่า เรามี accent ภาษาไทยอยู่ ค่ะ) แต่ถ้ายิ่งอายุมากขึ้น ลิ้นเราก็จะแข็งค่ะ ก็ไม่สามารถที่จะเลียนแบบภาษาที่สองได้เท่าไหร่นัก ยิ่งอายุมากขึ้นก็เป็นไปได้ยาก ทำใมเขาถึงบอกว่าลิ้นเราแข็ง ก็เพราะว่า ภาษาแต่ละภาษามีตัวอักษรไม่เหมือนกัน การออกเสียงไม่เหมือนกัน เสียงในภาษาหนึ่ง อาจจะไม่มีในอีกภาษาหนึ่ง พอเราใช้ภาษาแม่ไปนานๆ แล้วอยู่ๆ จะมาเรียนภาษาที่สองเนี่ย ลิ้นเราก็ติดกับการพูดภาษาแม่ไปแล้ว อย่างเช่นคนไทยมักมีปัญหาในการออกเสียง th พูดยังไงก็ไม่ได้สักที ผิดทุกที ก็เป็นเพราะว่าในภาษาไทยไม่มีเสียง th ค่ะ เช่นคำว่า think เรามักจะออกกันว่า ติ๊ง ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ได้ เราต้องออกว่า ธิ๊งค์ อะไรอย่างนี้เป็นต้นค่ะ
ข้อสอง การที่เราใช้ภาษาแม่เป็นประจำอยู่เสมอ แล้วเรามาพูดภาษาที่สอง เราก็จะติดกับการใช้คำ หรือการออกเสียงของภาษาแม่ ยิ่งเราพูดภาษาแม่มานานเท่าไหร่ หรือใช้บ่อยแค่ไหน ก็จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียน เลียนเสียง ของภาษาที่สองค่ะ ก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับเรื่องลิ้นแข็งน่ะแหละค่ะ
ข้อสาม การเรียนภาษาที่สอง ก็คือการเลียนแบบการเรียนภาษาแม่ เราเรียนภาษาแม่ยังไง เราก็จะเอาวิธีนั้นมาใช้กับการเรียนภาษาที่สองโดยอัตโนมัติ แต่ภาษาแต่ละภาษาไม่เหมือนกัน วิธีการออกเสียงไม่เหมือนกัน ทำให้เรามีปัญหาในการออกเสียงกันเยอะ ว่าทำใม พูดไปแล้ว ฝรั่งเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพูด
ทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็คือสาเหตุค่ะ ว่าทำใมถึงพูดไม่ได้เหมือนเจ้าของภาษาสักที แต่วิธีการแก้ไขก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนะคะ แต่เราจะต้องค่อนข้างจริงจังกับมันมากพอสมควร ก็พอจะช่วยได้ค่ะ
อย่างแรกเลยก็คือต้องฝึกพูด ฝึกออกเสียงค่ะ ต้องเริ่มออกเสียงให้ถูกตั้งแต่พยัญชนะแต่ละตัว คำแต่ละคำ การลากเสียง การขึ้นเสียงสูง เสียงต่ำ การเน้นคำ พวกนี้ต้องอาศัยการฝึกค่ะ คำในภาษาอังกฤษมีอยู่หลายคำเหมือนกันที่คนไทยมีปัญหาในการออกเสียง อย่างที่ยกตัวอย่างไปแล้วก็คือ ตัว th แล้วก็ยังมีตัว v, ch, sh, z, h, r ค่ะ ก่อนที่จะไปฝึกพูดเป็นคำๆ ให้เริ่มจากหัดออกเสียงพวกนี้ให้ถูกต้องเสียก่อน เวลาไปออกเสียงเป็นคำๆ ก็จะออกเสียงได้ง่ายขึ้น และถูกต้องขึ้นค่ะ
ข้อสอง ฝึกพูดบ่อยๆ แต่เราอยู่เมืองไทยก็จะเจอปัญหาที่ว่า จะไปพูดกับใครล่ะ ไม่มีคนให้ฝึกพูดด้วยเลย วิธีแก้ก็อาจจะเช่น เวลาเราถามทางว่าจะไปไหน เราก็ฝึกคิดกับตัวเองก่อน ว่า เอ... ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ จะต้องพูดว่ายังไงนะ ฝึกคิด ฝึกพูดให้ชินค่ะ แล้วมันจะค่อยๆ มาเอง แต่อาจจะช้าหน่อยนะคะ ต้องใจเย็นๆ ค่ะ ข้อสาม ศึกษาพวกสำนวน (idiom) หรือ สแลง (slang)ต่างๆ ที่ฝรั่งเขาใช้กัน พวกนี้ก็จะทำให้การใช้ภาษาอังกฤษของเราดีขึ้น ดีขึ้นตรงนี้หมายความว่า ใช้ภาษาเป็นค่ะ เราสามารถศึกษาคำพวกนี้ได้จากสื่อหลายอย่าง จากหนัง จากนิตยสาร จากวิทยุ ฟังแล้วก็จดๆ มา แล้วก็ฝึกแต่งประโยคด้วยตัวเอง
ข้อสี่ คำศัพท์เท่านั้นที่ช่วยได้ค่ะ ปัญหาอีกอย่างที่พบก็คือ เวลาจะพูด จะนึกไม่ออกว่าต้องพูดยังไง ต้องใช้ศัพท์คำไหน อันนี้เป็นเพราะว่า เรารู้ศัพท์น้อย หรือ อาจจะรู้คำศัพท์ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ เราก็จะลืม และก็จะนึกไม่ออกเวลาใช้ค่ำ ยิ่งรู้ศัพท์มาก ยิ่งได้เปรียบค่ะ อ้อ แต่เวลาเราจำศัพท์ ควรจำเป็นวลีนะคะ (phrases) จะทำให้เราจำได้ง่ายขึ้นจากการจำเป็นคำศัพท์เดี่ยวๆ ไว้จะมาเขียนเรื่องวิธีการจำคำศัพท์อีกหัวข้อนึงเลยละกันนะคะ เพราะมีรายละเอียดอยู่หลายอย่างเหมือนกัน
Create Date : 07 มีนาคม 2551 |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 20:15:47 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1672 Pageviews. |
|
|
|
โดย: avadar วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:2:06:23 น. |
|
|
|
โดย: แป๊ะย๊ง วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:13:20:10 น. |
|
|
|
โดย: teddyblooh วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:16:29:47 น. |
|
|
|
โดย: MuiMui IP: 203.113.17.169 วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:23:01:46 น. |
|
|
|
โดย: Tigerish วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:19:01:39 น. |
|
|
|
โดย: aseptic วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:0:45:39 น. |
|
|
|
โดย: a.dittell IP: 125.25.246.120 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:18:41:59 น. |
|
|
|
โดย: chutima IP: 76.168.173.254 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:2:35:09 น. |
|
|
|
โดย: Tangmo IP: 202.29.57.211 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:17:01:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เวลาฝึกพูด หัดพูดแล้วก็คุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ