ยามเช้ากับลมหนาวที่วัดศรีสุพรรณ
03 04 2565 ยามเช้ากับลมหนาวที่วัดศรีสุพรรณ
วันนี้(3 เม.ย. 65)ที่เชียงใหม่อากาศหนาวเย็นแบบลดลงมาหลายองศา เหมือนกลับไปนับเริ่มต้นหน้าหนาวอีกครั้งหนึ่ง
เช้าวันนี้ยังต้องไปทำงาน แต่ก็คิดเตรียมตัวไว้ก่อนว่าหากฝนไม่ตกหนักเหมือนเมื่อวาน ก็อยากจะแวะเข้าวัดไปลองกล้อง Sony ตัวเก่าดูสักหน่อย
พา Sony Alpha Nex-5 มาถ่ายรูปเล่นรับลมหนาว ที่วัดศรีสุพรรณ วัดศรีสุพรรณ ตั้งอยู่ในตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีสุพรรณมีชื่อเสียงที่มีอุโบสถเงินของวัด และถือได้ว่าเป็นอุโบสถเงินแห่งเดียวในโลก
วัดศรีสุพรรณตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนหัตถกรรมช่างหล่อ หัตถกรรมเครื่องเงิน เครื่องเขิน ของถนนวัวลาย ต.หายยา ทางวัดจึงมีแนวคิดที่จะสืบสานมรดกงานศิลป์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ยั่งยืนสืบไปด้วยการรวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้านจัดตั้งเป็น กลุ่มหัตถศิลป์ล้านนาวัดศรีสุพรรณ มีการจัดตั้งศูนย์ศึกษาศิลปะไทยโบราณ สล่าสิบหมู่ล้านนาวัดศรีสุพรรณ ขึ้นภายในวัด ในปี พ.ศ. 2547 ทางวัดศรีสุพรรณมีแนวคิดสร้างอุโบสถเงินหลังแรกของโลก ให้เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยมีปณิธานร่วมกันเพื่อ ฝากศิลป์แก่แผ่นดินล้านนา ถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนา เทิดไท้องค์ราชันย์ รัชกาล ที่ 9 เกิดเป็นพุทธศิลป์อันวิจิตรที่ดึงดูดให้ทั้งพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยี่ยมชมความงดงามของพระอุโบสถเงิน ถึงทุกวันนี้ (อุโบสถเงินนี้จะไม่ได้ให้ผู้หญิงเข้าชมภายในอุโบสถ)
2 ช๊อตแรก กับการถ่ายภาพแบบ mode A พอดูภาพถ่ายแล้วก็เหมือนจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
เลยลองปรับเปลี่ยน mode เป็นอัตโนมัติ ลองถ่ายภาพในอุโบสถเงินดูครับ
จากภาพถ่ายที่มองผ่านด้านหลังจอของกล้อง Sony ตัวเก่านี้ ดูจะไม่ค่อยประทับใจ เลยตัดใจกลับไปดูภาพกันก่อน
พอนำภาพถ่ายของกล้อง Sony Alpha Nex-5 มา process ในคอมพิวเตอร์ดูแล้ว พบว่าภาพถ่ายยัง ok พอไปได้ดี ๆ อยู่
เข้าใจว่าตอนที่ลองดูภาพถ่ายผ่านจอ lcd ของตัวกล้อง การแสดงผลหลังจอของกล้อง น่าจะดูทึม ๆ สีสันไม่ค่อยมี คงด้วยความละเอียดของจอ lcd ของกล้องรุ่นนี้
และพอคุ้นเคยกับกล้องรุ่นใหม่ ๆ หรือ จะเป็นจากจอของมือถือ รุ่นใหม่ ที่จะได้ภาพดุดี มีสีสันกันแบบคุ้นเคยมากกว่า
สรุปว่าหากตอนเย็นนี้อากาศดูดี ไม่มีฝนตกลงมา อาจจะเแวะไปถ่ายภาพจากกล้องมือถือมาเปรียบเทียบดูสักหน่อย เช้านี้กับลมหนาวเย็น ๆ ว่าจะได้เดินเที่ยวชมวัดศรีสุพรรณแบบชิล ๆ สักหน่อย แต่ด้วยว่าจะรีบกลับมาเข้างานตอนเช้าด้วย เลยมีภาพถ่ายให้ชมกัน 5 ภาพนี้ก่อน
/// นำภาพถ่ายมาเปรียบเทียบกันกับภาพชุดข้างบนครับ ตอนเย็นแวะไปถ่ายภาพมาอีกรอบด้วย Iphone
ภาพถ่าย set นี้ ถ่ายภาพจากมือถือ Iphone ครับ ช่วงที่ถ่ายภาพและดูภาพถ่ายระหว่างถ่ายภาพไปด้วย พอเห็นภาพเปรียบเทียบกับตอนถ่ายภาพด้วยกล้อง Sony อยู่ ว่าภาพถ่ายของ Iphone จะดูสว่างกว่า มีสีสันมากกว่า ภาพบนหน้าจอจะดูแล้วตอบโจทย์ได้ว่า ok แล้ว
แต่ในขณะที่ตอนเช้าที่ใช้กล้อง Sony ถ่ายภาพ จะดูไม่ออกว่าภาพถ่าย ok แล้วหรือยัง
พระเจ้าเจ็ดตื้อ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทำจากเนื้อทองสัมฤทธิ์ ขนาดกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก
บานประตู่ของอุโบสถ ก็วิจิตรบรรจงมาก
ด้านในของบานประตูทั้งสองข้าง
ด้านหน้าของอุโบสถเงินมีท้าวเวสสุวรรณโณ ที่ทำด้วยโลหะเงินเช่นกัน ท้าวเวสสุวรรณ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวกุเวร หนึ่งในสี่จาตุมหาราช ทำหน้าที่รักษาโลกด้านทิศเหนือ และปกครองเหล่ายักษ์ รากษส คุหยัก กินนร กินรี นับถือกันว่าเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ ตามคติในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดบูชาท้าวเวสสุวรรณ และประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมเสมอ จะบังเกิดโชคลาภ ลาภยศสรรเสริญ ร่ำรวยเงินทองคณานัป มีอำนาจวาสนา ชีวิตเต็มไปด้วยความราบรื่น ปราศจากศัตรูปองร้าย ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น สิ่งอัปมงคลไม่มารบกวน ภูติผีปีศาจและวิญญาณร้ายไม่กล้าทำอันตราย
ท้าวเวสสุวรรณโณที่ให้บูชา
พระวิหารทรงล้านนา สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากาวิโรรส เมื่อประมาณ พ.ศ.2342 วิหารหลังนี้มีทำการปฏิสังขรณ์ผสมศิลปะร่วมสมัย โดยรักษาของที่มีอยู่เดิม ได้วาดจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพระธาตุ 12 ราศี ภาพพระธาตุเจดีย์ ศูนย์กลางเมืองเชียงใหม่ในอดีตและภาพปริศนาธรรมโลกทั้ง 3 และได้นำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านหัตถกรรมเครื่องเงินการดุนลาย ภาพพระพุทธประวัติ ภาพพระเจ้าสิบชาติ ภาพพระเวสสันดรชาดก ประดับตกแต่งฝาผนังวิหาร มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่เป็นพระประธานพระวิหารของวัดศรีสุพรรณ เปรียบดั่ง โรงเรียนพุทธศิลปะชั้นเลิศของเมืองล้านนา เพราะได้แสดง ฝีมือช่างในล้านนาทั้งสิบหมู่ไว้ในที่เดียวกัน
ภายในวิหารได้จัดเตรียมพิธีสืบชะตา ที่จะได้มีการจัดงานในวันรุ่งขึ้น
ปิดท้าย blog ด้วยนำข้อความที่ทางวัดศรีสุพรรณ ติดป้ายห้ามสุภาพสตรี เข้าไปภายในอุโบสถเงิน "เนื่องจาก ใต้ฐานอุโบสถ ฝังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของมีค่า คาถาอาคมและเครื่องรางของขลังเก่าแก่กว่า ๕๐๐ ปี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมแก่สถานที่หรือตัวสุภาพสตรีเองตามจารีตล้านนา สุภาพสตรีสามารถชมความงามได้รอบตัวอุโบสถเท่านั้น"
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะชมภาพถ่ายที่ blog กันด้วยครับ
Create Date : 03 เมษายน 2565 |
Last Update : 3 เมษายน 2565 19:03:11 น. |
|
13 comments
|
Counter : 898 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณทนายอ้วน, คุณอุ้มสี, คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณกิ่งฟ้า, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96 |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:11:08:15 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:12:17:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:13:22:12 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:14:38:40 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:19:40:08 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:19:40:53 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:19:45:36 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:23:54:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 เมษายน 2565 เวลา:6:22:09 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 4 เมษายน 2565 เวลา:22:36:51 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 8 เมษายน 2565 เวลา:5:15:22 น. |
|
|
|
|
|
เสร็จแล้วไปวัดหมื่นเงินกอง เดินตามถนนวัวลายมาโผล่ที่ประตูเชียงใหม่ เดินเที่ยววัดมาตามถนนพระปกเกล้ามาโผล่ที่ประตูช้างเผือกครับ เดินกันตั้งแต่เช้าๆ กว่าจะเสร็จก็บ่ายกว่าๆเลยครับ