Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2565
 
All Blogs
 
ภาพที่หายไป แต่ความทรงจำไม่เลือนหาย...วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ (2558)

ภาพที่หายไป แต่ความทรงจำไม่เลือนหาย...วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ (2558)



[ข้อมูลใน draft blog 22 พ.ค. 2558]
22 พฤษภาคม 2558 : วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

มีโอกาสเดินทางมาที่วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงวันหยุดวันพืชมงคล (13 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา) โดยที่ไปกับทริปเพื่อนนักบิดเจ้าประจำ เพื่อนๆ เค้าวางแผนไปเที่ยวกัน แล้วก็มาชวนเป็นผู้ร่วมทริปเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้ก็ดูแปลกๆ หน่อย ที่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน ไปเส้นทางไหน ได้แต่ถามว่ารถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองบิดไปไหวใช่ไหม เพื่อนๆ ก็ตอบว่าไหว ทุคนคนไปด้วยรถแบบเดียวกัน ว่าแล้วก็ตอบตกลงไป
เช้าวันพุธที่ 13 นัดเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเชียงใหม่-สันป่าตอง พอถึงอำเภอสันป่าตอง สัก 300-400 เมตร จะมีทางแยกขวามือ ไปอำเภอแม่วาง เราเลี้ยวรถที่เส้นทางนี้ สันป่าตอง-แม่วาง
จากเส้นทางสันป่าตอง-แม่วาง บิดรถมอเตอร์ไซค์กันอีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะผ่านปางช้างแม่วาง จุดท่องเที่ยวจุดหนึ่งที่น่าสนใจ มีการขี่ช้าง ล่องแพไม้ไผ่ และกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ (เดี๋ยวขากลับจะมาแวะที่นี่อยู่)
ผ่านปางช้างแม่วางไปแล้ว จะเหลือเส้นทางอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงบ้านสบวิน เมื่อถึงบ้านสบวิน จะมีเส้นทางแยกไปทางขวามือ มีป้ายบอกไปวัดหลวงขุนวิน จากเส้นทางนี้ไปถึงวัดหลวงขุนวิน เป็นระยะทางโดยประมาณ 10-11 กิโลเมตร
เส้นทางที่บิดรถมอเตอร์ไซค์ตลอดเส้นทางนี้จะเรียกว่าลำบากมากๆ แล้ว เมื่อผ่านหมู่บ้านเล็กๆ สองข้างทางมาแล้วยังเป็นเส้นทางถนนเรียบๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่จากนี้ไป 9-10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ลำบาก ยากๆ แล้ว (จากทริปก่อนไปวัดแห่งหนึ่ง ก็มีเส้นทางที่ยากๆ ลำบากแบบนี้ แต่ครั้งนั้นใช้วิธีจอดรถ แล้วเดินไป 4-5 ดอย)
ครั้งนี้ที่ต้องตะลุยบิดรถมอเตอร์ไซค์ 4-5 ดอย เลยดูว่าไม่ง่ายเลย ถนนเส้นทางที่ชาวบ้านตัดถนนขึ้นมากันเองที่วัด เป็นเส้นทางดิน-หินก้อนใหญ่ๆ ขรุขระ สลับกับเทปูนกว้างประมาณ 50-60 ซม. สองช่องให้พอกับรถยนต์วิ่งได้ ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็บิดเลี้ยงตัวให้อยู่ในช่องนี้ไป ถ้าหลุดก็มีสิทธิ์ล้มได้เหมือนกัน เพราะหลุดจากเส้นทางปูน ข้างจะลึก แบบว่าล้อรถมอเตอร์ไซค์หลุดไปแล้วและมีความแรงของรถที่บิดมาก็จะพาเอาล้มกล้ิงกันได้เลย
ด้วยที่เส้นทางขาขึ้นก็ขึ้นดอยกันอย่างเดียวเลย บางช่วงต้องบิดมอเตอร์ไซด์ด้วยเกียร์ 1 แล้วลากยาวๆ ขึ้นไป 5-10 นาที บิดขึ้นมาแล้วก็เอ็นดูรถ กลัวรถพัง กลัวรถยางแตกที่วิ่งกระแทกไปกับก้อนหินขุรขระตลอดเส้นทาง
ช่วงบิดขึ้นมาได้ ก็ชวนให้แอบคิด ตอนลงมันจะขนาดไหน ยิ่งได้แอบเช็คหาจุดด้วย Google Maps มาแล้ว เส้นทางนี้เส้นทางเดียวแน่นอน ขากลับก็ต้องกลับทางนี้ล่ะ เฮ้อ เหนื่อยใจชมัด บอกเลยว่าขอมาวัดหลวงขุนวิน ครั้งนี้ครั้งเดียวพอ
ลืมบอกไปว่าตลอดเส้นทางที่ขึ้นมาอาจจะไม่มีรถสวนทางลงมา แต่ก็พอมีบ้างที่รถชาวบ้านอาจขึ้นไปทำธุระบนดอย แล้วเจอกันกลางทาง หากเป็นรถยนต์ด้วยกันแล้ว ก็บอกว่ายิ่งลำบากๆ ใหญ่เลย หมดสิทธิ์สวนทางกัน และสิ่งหนึ่งที่ต้องบอกไว้ก่อนว่าตลอดเส้นทางอาจจะไม่มีป้ายบอกแล้วว่าทางไปวัดหลวงขุนวิน เรียกว่าต้องเดาเอากันว่าเส้นทางที่ไปวัดหลวงขุนวินเป็นเส้นทางเอกตลอดเส้นทาง หากจะมีทางเลี้ยวเล็กๆ หรือจุดเลี้ยวไปเส้นทางอื่นๆ ก็พยายามดูว่าเส้นทางหลักมาทางไหนก็ไปทางนั้นละกัน
ด้วยที่ตัวเองบิดรถมอเตอร์ไซค์ไม่ทันเพื่อน ไป 6 คัน ก็จะอยู่คันที่ 5 หรือคันที่ 6 เรียกว่าไม่เห็นว่าเพื่อนๆ บิดรถไปทางไหน ชวนให้ไปไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ถ้าหลงทางไม่ต้องบอกเลยว่าจะไปถามใครได้ สัญญาณมือถือก็ไม่ค่อยจะมีด้วยล่ะ ยังไงหากใครจะตามมาที่วัดหลวงขุนวินแห่งนี้ด้วยการบิดมอเตอร์ไซค์ แล้วไม่มีผู้นำทาง ก็ควรเกาะกลุ่มกัน บางช่วงที่ต้องบิดส่งรถแบบเกาะกลุ่มกันไม่ได้ ก็ควรจะจอดๆ รอ รวมกลุ่มกันให้ครบ ค่อยๆ ไปจะดีกว่า เพราะทริปนี้ดูเหมือนจาก 6 คัน ก็มีรถล้มไปอยู่ 3 คัน แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร




.........ความทรงจำไม่จางหาย แต่ตามหาภาพถ่ายไม่เจอ
ข้อความข้างบนนี้ มีเขียนไว้ใน draft blog เหมือนจะเขียนเล่าเรื่องรอไว้แล้ว แต่ใน draft blog ไม่มีภาพสักภาพ
ไล่หาใน blog ของตัวเอง ก็ดูเหมือนจะไม่มี post blog วัดหลวงขุนวิน สัก blog

ช่วงวันไหนว่าง ๆ ก็ตามไปหาไฟล์ภาพใน hard disk (Hard Disk ที่มีอยู่ก็ไล่หาไฟล์ภาพไม่เจอสักภาพ แต่ดูแล้วเหมือนจะหา Hard Disk เก่า ๆ ไม่เจอเอาด้วย)

เริ่มนึกหา Facebook แบบค่อย ๆ ไล่หาโพสต์ไปเรื่อย ... สุดท้ายจนใจ ที่ facebook ไม่ได้สนับสนุนการ scrool เลื่อนหาไฟล์ภาพเก่า ๆ หลายปี

มาถึงวิธีสุดท้าย จากทีเคย download ไฟล์ภาพ โพสต์ที่เคยลงไว้ใน Facebook และมีการ Download เก็บไว้

สุดท้ายเจอไฟล์อยู่ 3 ภาพ ... และที่น่าแปลกใจว่าไฟล์ภาพที่ post ใน facebook คือไฟล์ภาพที่ทำเตรียมไว้โพสต์ที่ bloggang แล้วด้วย

ต้นฉบับก็หาไม่เจอ อัลบัมใน facebook ก็ไม่ได้สร้างไว้ สุดท้ายจะเหลือแค่ 3 ภาพนี้(หรือเปล่า)

นำไฟล์ภาพ 3 ภาพของทริปบิดมอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปวัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
(ข้อความบรรยายใต้ภาพ คัดลอกมาเหมือนกับที่โพสต์ไว้ใน facebook)



ถ้าไม่ได้หัดทำ Photo Merge เป็นไว้ก่อน มุม Unseen อีกหนึ่งมุมของวัดหลวงขุนวิน ในมุมนี้ คงไม่ได้นำภาพสวยๆ มุมนี้มาให้ชมกัน

.....จดจำได้ว่าสมัยนั้นใช้กล้อง canon eos m และน่าจะซื้อมาใช้ร่วมกับเลนส์ fix ภาพนี้เลยเข้าใจว่าถ่ายภาพมา 2-3 ภาพมาต่อกัน





วิหารพระนอน : วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

.....ภายในวิหาร มีพระประธาน เป็นองค์พระนอน ทำด้วยไม้สัก ที่สวยงดงามมาก ๆ





หนึ่งในอันซีนของวัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ....ไปมาแล้ว ครั้งเดียวพอ เอ็นดูรถ ....ถ้าบิดรถขึ้นดอย 4-5 ลูกไปคนเดียว คงถอดใจไปตั้งแต่ยังไม่พ้นดอยแรก



ยังจะตามหาภาพถ่าย set นี้ ด้วยความหวังว่าน่าจะต้องหาเจอ
แต่ถ้าหาไม่เจอนี่ มีความหวังเดียว ต้องกลับไปเที่ยวชมวัดหลวงขุนวิน อีกสักครั้ง
...หากได้ไปใหม่ ก็แน่วแน่แก่ใจแล้วว่าคงไม่บิดมอเตอร์ไซค์ไปคนเดียวแน่ๆ

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายที่ blog กันด้วยครับ


*****มา update ให้ทราบว่า ตอนนี้เจอะเจอภาพต้นฉบับทั้งหมดแล้ว หลังจากออกแรงตามหา น่าจะนานนับ 2 เดือนได้ เดี๋ยวทำภาพเสร็จแล้วจะมาเพิ่มภาพถ่ายให้ชมกันใน blog นี้เลยครับ ******






วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีอายุยาวนานมากกว่า 700 ปี
ตอนที่เพื่อนมาชวนไปวัดนี้ เหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยรู้จักวัดกันเลย ได้แต่บอกว่าต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง เป็นอันซีนวัดที่ควรต้องได้ไปสักครั้งหนึ่ง
ได้ฟังแล้วก็ตอบเออออไปด้วยคน
แล้วไปยังไง คือคำถามที่ถามไป เพื่อนตอบมาว่าให้บิดรถมอเตอร์ไซค์จากในตัวเมืองเชียงใหม่ไปเลย แล้วจะส่งจุดนัดหมายให้ตอนเช้า น่าจะเป็นปั๊มน้ำมันที่แยกสายใหม่แม่วาง ..........แล้วเป็นไปตามที่เขียนไว้ให้อ่านตอนต้น blog เลย ไปแบบไม่รู้เส้นทางล่วงหน้า ถ้ารู้ล่วงหน้าคงได้ถอนตัวแล้วมั้ง 555


พอมาถึงวัดหลวงขุนวิน เพื่อนก็บอกว่าดู ๆ บันไดพญานาค ยังอันซีนเลย

พอได้เห็นก็เหมือนจะหายเหนื่อย ที่บ่น ๆ กับตัวเองมาตลอดทาง เพราะขับรถขึ้นดอยมาไม่ทันเพื่อน ๆ ดีว่ามีเพื่อนคอยปิดท้าย คอยเช็ครถ และคอยเช็คความปลอดภัยให้


พอเดินเข้ามาจากบันไดพญานาค ก็ต้องทึ่งกับเกล็ดพญานาค ที่มาจัดเรียงเป็นขั้นบันได คิดได้ยังไงเนี่ย



เดินตามเกล็ดพญานาค ชั้นบันได แบบไม่ไกลนัก ก็ได้เห็นโบสถ์ไม้ตรงหน้าที่ดูงดงาม วิจิตรตระการตามาก ทำได้ไงเนี่ย (คือคำที่พูดในใจอีกครั้งหนึ่ง)

พอมาถึงก็รีบถ่ายภาพบันทึกโบสถ์พระนอนกันก่อน ทางด้านที่เดินถึงนี้เป็นด้านหลังโบสถ์พระนอน


ทางขึ้นด้านหลังโบสถ์พระนอนยังมีบันไดพญานาคมารับกับตัวโบสถ์ ชวนให้ดูขลังขึ้นมาด้วยเลย















รูปแกะสลักทางด้านหน้าโบสถ์พระนอน


อุโบสถพระนอน มีพระนอนปางปรินิพพาน ที่เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก
เพื่อนบอกว่านี่ก็อันซีนที่สองแล้วนะ

ได้ตอบกับเพื่อนไปว่า ผมนับ 3 แล้ว ตัวโบสถ์พระนอนที่สวยงามแบบนี้ นับอันซีนที่สองไปก่อนหน้านี้แล้ว




รูปแกะสลักด้านในของโบสถ์พระนอน

ครั้งที่ได้ไปโบสถ์พระนอน ยังมีการสร้าง ปรับปรุงอยู่ในอีกหลายจุด
ด้านในโบสถ์ยังพบเครื่องมือช่างหลาย ๆ อย่างวางไว้อยู่ภายในด้านใน


พญานาคเรียงรายอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า

ด้านหน้าของโบสถ์พระนอน
เมื่อเดินออกจากโบสถ์พระนอน จะมีโบสถ์พระยืนอยู่ตรงกันข้ามพอดี

โบสถ์พระยืน





ภายในอุโบสถพระยืน มีพระยืนปางจงกรมแก้ว

ฝั่งตรงข้ามของโบสถ์พระยืน ก็ได้เห็นโบสถ์พระนอนที่ได้ชมกันมาตอนต้น

พอเล่าให้ฟังจากความทรงจำที่ยังไม่เลือนหายไป ได้ตามนี้
โซนที่ 1 คือบริเวณโบสถ์พระนอน และ โบสถ์พระยืน

โซนที่ 2 จะต้องเดินเป็นทางขึ้นเนินไป โซนนี้เพื่อนบอกว่า เราะจะไปชมบ้านสล่า ผู้ที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างภายในวัดหลวงขุนวินแห่งนี้

โซนที่ 3 จะเป็นการเดินลงไปในส่วนเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โซนที่ 4 จะเป็นส่วนของกุฏิเจ้าอาวาส และ พระเณร แม่ชี ที่มาจำพรรษาอยู่ที่วัด

เดินขึ้นเนินไปสักพักหนึ่ง จะเห็นบ้านไม้ทรงล้านนาโบราณ และศาลาพัก
ซึ่งโซนนี้เพื่อนบอกว่าถ้ามาเจอสล่า คนสร้างวัดที่นี่ เดี๋ยวเราไปนั่งคุยกัน

แต่มาครั้งนี้ไม่ได้เจอะเจอสล่า เดินชมทรงของบ้านล้านนาโบราณสวย ๆ ด้วยกันครับ




"รูปที่มีทุกบ้าน" นี่ก็คือร่องรอยของการตามหาไฟล์ภาพต้นฉบับวัดหลวงขุนวินนี้จนจเจอด้วย เพราะจำได้เป็นอย่างดี และภาพนี้ก็เป็นภาพที่มีการนำไปโพสต์ และแยกเก็บไว้ ทำให้เห็นเลขที่ลำดับไฟล์ภาพถ่าย เลยได้ใช้ไปไล่เรียงค้นหาไฟล์ภาพกันด้วยเลย

เครื่องใช้ เครื่องครัว ภายในบ้านสล่า




ศาลาพักในโซนของที่พักบ้านสล่า

ศาลาหลังนี้สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ. 2549

ระหว่างทางเดินไปในโซนที่ 3 ที่จะไปชมเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


เจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


ในโซนนี้ก็จะเป็นส่วนที่เป็นกิจกรรมของพระสงฆ์ มีโบสถ์วิหาร หอธรรม ศาลาฟังธรรม




















ภาพนี้เป็นการใช้การถ่ายภาพหลายภาพและมา Merge รวมเป็นภาพเดียวกัน





ระหว่างทางเดินไปกุฏิเจ้าอาวาส




กุฏิเจ้าอาวาส






จบไว้กับภาพนี้ครับ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายที่ blog กันด้วยครับ


Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2565 7:04:19 น. 13 comments
Counter : 1450 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณทนายอ้วน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณกิ่งฟ้า


 
นั่งอ่าน เอะเราเคยไปหรือเปล่า... ยังแน่นอน
555 เคยไปแถวปางช้าง แม่วางถนนสาย
1013 เท่านั้น กับแถวถ่ำดอยโตน

อ่านแล้วรู้เลยว่า ถนนไปลำบากมากลองเข้า
กูเกิลแมพสตรีทวิว.. ไม่มีการทำสตรีทวิว

แต่เห็นศาลา กับบรรยากาศแล้วน่าไปเหมือนกัน...ครับแต่คงคิดหนักหน่อย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:7:09:23 น.  

 
วัดนี้สวยมากครับ อยากไปเที่ยวเร็วๆจัง


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:12:57:57 น.  

 
วัดสวย
แต่ทางโหดแบบนี้
ผมไม่ได้ไปแน่ๆ
เพราะมาดามกลัวที่สุดคือขับเข้าทางโหดหรือทางเปลี่ยวนี่ล่ะครับ 555

กาแฟ ชาสัมยก่อน
ชงเข้มจริงๆครับพี่
ผมเคยแอบชิมเวลาไปซื้อให้ผู้ใหญ่กิน
ขมมากกกกกกกก
จนผมไม่ดื่มกาแฟมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:13:18:24 น.  

 
สวัสดีค่ะแวะมาชมภาพวัดหลวงขุนวิน สวยงามมากค่ะ ทางหฤโหดจริงๆน่ากลัวอันตรายมากนะคะ แต่ก็สามารถไปจนถึงและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถือซะว่าลงแข่งขับมอไซด์วิบากก็แล้วกันนะคะ อิอิ
จะรอชมภาพสวยๆต่อค่ะ วันนี้โหวตหมดแล้วไว้มาใหม่นะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:17:44:47 น.  

 
ที่งาน เที่ยวเมืองไทย 2565 ณ สวนลุมพินี
มีmodel บันไดนาคขึ้น วัดหลวงขุนวิน
มาแสดง และให้เป็นจุดถ่ายภาพด้วยค่ะ
อืม..เป็นจุดCheck in ที่น่าไปเยือนจริงๆ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:21:03:21 น.  

 
ถ้าหลงทางไม่ต้องบอกเลยว่าจะไปถามใครได้



วัดนี้คงไม่ได้ไปเองแน่ๆค่ะ
ขอบคุณที่นำภาพอันซีนของวัดหลวงขุนวินสวยๆมาให้ชมนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:23:55:24 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:4:50:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:6:25:15 น.  

 
สวยและให้ความรู้สึกสงบมาก อ.เบิร์ด



โดย: หอมกร วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:9:29:27 น.  

 
แม้จะเป็นวัดที่อยู่กลางดอย
แต่สร้างได้สวยงามขนาดนี้
ไม่ธรรมดาเลยนะครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:19:52:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจเมนู มัจฉาเกยตื้นนะคะ

ตามมาชมภาพวัดหลวงขุนวินต่อค่ะ วันนี้ต้องร้องออกมาว่า ว๊าวววว สวยมาก อันซีนไทยแลนด์จริงๆค่ะโห..แค่เห็นการก่อสร้างศิลปะการตกแต่งการแกะสลักสวยงามมากค่ะยิ่งบันไดนาคแล้วราวกับนาคมีชีวิตอ่อนช้อยงดงามเหมือนเลื้อยพุ่งโผนโจนทะยานไปข้างหน้าและลวดลายแกะสลักที่หอพระนอนสวยงามละเอียดอ่อนมากจนแทบจะไม่คิดว่าแกะมาจากไม้สักนะคะ ช่างฝีมือยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ

และพญานาคทีด้านหน้าของโบสถ์พระนอน โห..เหมือนมีชีวิตจิตใจจริงๆมองดูเหมือนจะเลื้อยพุ่งไปข้างหน้าป้องกันอันตรายไม่ให้ใครเข้าไปทำอันตรายภายในโบสถ์ได้

สวยมากเสียดายจังทำไมจึงไปซ่อนอยู่บนดอยไปยากลำบากขนาดนั้น ฝีมือช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ขนาดบ้านช่างสล่ายังสวยเลยค่ะหลังคาสุดยอดจริงๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชมเป็นบุญตานะคะ ฝีมือถ่ายภาพยอดเยี่ยมเลยค่ะ

โหวตๆๆๆๆกล้องนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:21:12:27 น.  

 
ฝีมือระดับสุดยอดเลยครับพี่
หายากแล้วนะครับ สล่าที่ทำงานไม้เก่งๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:23:15:55 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:6:16:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.