|
ผลของการไม่เชื่อง่าย
กุกกุฏชาดก ผลของการไม่เชื่อง่าย พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุ ผู้กระสันจะสึกรูปหนึ่ง ตรัสเรื่องนี้ดังนี้
ความย่อว่า พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า เหตุไฉน เธอจึงกระสันอยากสึก ? เมื่อเธอทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ เห็นหญิงคนหนึ่ง ผู้ประดับประดาตกแต่งตัวแล้ว จึงกระสันอยากสึก ด้วยอำนาจกิเลสดังนี้ พระศาสดาตรัสว่า ธรรมดาผู้หญิงลวงให้ชายลุ่มหลง แล้วให้ถึงความพินาศ ในเวลาชายตกอยู่ในอำนาจของตนเป็นเหมือน แมวตัวเหลวไหล แล้วได้ทรงนิ่งอยู่ ครั้นเมื่อถูกภิกษุนั้นทูลอ้อนวอน จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้:
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นไก่ในป่า มีไก่หลายร้อยตัวเป็นบริวารอยู่ในป่า ฝ่ายนางแมวตัวหนึ่ง ก็อาศัยอยู่ในที่ไม่ไกลพระโพธิสัตว์นั้น มันใช้อุบายลวงกินไก่ที่เหลือ เว้นแต่ไก่โพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ไม่ไปสู่ป่าชัฏของมัน มันจึงคิดว่า ไก่ตัวนี้อวดดีเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเรา เป็นผู้โอ้อวด และเป็นผู้ฉลาดในอุบาย เราควรจะเล้าโลมไก่ตัวนี้ว่า จักเป็นภรรยาของมัน แล้วกินในเวลามันตกอยู่ในอำนาจของตน มันจึงไปยังต้นไม้ที่ไก่นั้นเกาะอยู่ เมื่อขอร้องไก่นั้นด้วยวาจาที่มีคำสรรเสริญนำหน้า จึงได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า:
[๘๘๖] ข้าแต่ท่านผู้มีขนปีกอันวิจิตรตระการตา มีหงอนงามสง่า อาจจะไปใน อากาศได้โดยฉับพลัน เชิญท่านลงมากจากกิ่งไม้เสียเถิด ฉันจะยอม เป็นภรรยาของท่านโดยไม่รับมูลค่าอันใดเลย.
พระโพธิสัตว์ได้ฟังคำนั้นแล้ว คิดว่า แมวตัวนี้กัดกินญาติของ เราหมดไปแล้ว บัดนี้มันประสงค์จะล่อลวงกินเรา เราจักขับไล่มันไป จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า:
[๘๘๗] ดูกรนางแมวรูปงามน่ารื่นรมย์ใจ เจ้ามีสี่เท้า เรามีสองเท้า เจ้าเป็นแมว เราเป็นไก่ ไม่สมควรกันเลย เชิญเจ้าไปแสวงหาสามีอื่นเถิด.
นางแมวนั้น ได้ฟังคำนั้นแล้ว ลำดับนั้น จึงคิดว่า ไก่ตัวนี้โอ้อวดเหลือเกิน เราจักใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งลวงกินมันให้ได้ แล้ว ได้กล่าวคาถาที่ ๓ ว่า:
[๘๘๘] ฉันจะเป็นนางกุมาริกาของท่าน มีวาจาอ่อนหวาน พูดน่ารัก ของท่าน จงรับฉันผู้มีความงาม ประพฤติธรรมอันประเสริฐ ไว้ด้วยการได้อันดี งามเถิด.
พระโพธิสัตว์ได้ยินคำนั้นแล้ว ถัดนั้นไปก็คิดว่า ควรที่เราจะขู่ แมวตัวนี้ให้หนีไปเสีย แล้วจึงกล่าวคาถาที่ ๔ ว่า:
[๘๘๙] แน่ะนางขโมย เลอะเทอะไปด้วยเลือดเหมือนซากศพ ชอบกัดกินไข่ เจ้าไม่ได้ปรารถนาเราเป็นสามีโดยการได้อย่างดีดอก.
ส่วนแมวนั้นจึงหนีไป ไม่อาจแม้เพื่อจะมองดูอีก เพราะฉะนั้น พระศาสดาจึงได้ตรัสอภิสัมพุทธคาถาเหล่านี้ว่า:
[๘๙๐] หญิงทั้งหลายประกอบด้วยวาจามีองค์ ๔ เห็นชายดีเข้าแล้ว ย่อมชักนำ ไปด้วยวาจาอ่อนหวาน เหมือนนางแมวชักชวนพระยาไก่ ฉะนั้น.
[๘๙๑] ก็ผู้ใด ไม่รู้ประโยชน์อันเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมตกไปสู่อำนาจ ศัตรู และจะต้องเดือดร้อนในภายหลัง.
[๘๙๒] ส่วนผู้ใด รู้ประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมพ้นจากความ เบียดเบียนของศัตรู เหมือนพระยาไก่หลุดพ้นจากนางแมว ฉะนั้น.
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ในที่สุดแห่งสัจจะ ภิกษุผู้กระสันจะสึก ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล แล้วทรงประมวลชาดกไว้ว่า ก็พระยาไก่ในครั้งนั้น ได้แก่เราตถาคต ฉะนี้ แล.ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ; My blogs link 👆 https://sites.google.com/site/dhammatharn/ https://abhinop.blogspot.com https://abhinop.bloggang.com ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always beloved.
Create Date : 18 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 22 มีนาคม 2564 15:56:26 น. |
|
1 comments
|
Counter : 577 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
//abhinop.blogspot.com
//abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.