เรื่องเล่าดีดี...
มหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง สุดแสนจะภูมิใจที่ลูกชาย วัยห้าขวบของเขากำลังจะได้ เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น
โดยส่วนตัวของเขาเอง ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลก ควบคู่ไปกับการสอนทฤษฏีในโรงเรียน ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียวไป ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง ความยากจน
เพราะเขามีความเชื่อว่า ลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน เขาจึงพาลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมา มหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่า ลูกชายได้อะไรบ้างจากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน
ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นบิดา ว่าเขาขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนา และพักแรมที่นั่น ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า....
ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่ ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าห้องทำงานของชาวนา
อาหารที่ชาวนารับประทานสามารถหาได้ตลอดเวลา รอบๆบริเวณบ้านโดย ไม่ต้องซื้อหา ในขณะที่บ้านของเรามีตู้เย็นเท่านั้น ที่เป็นที่เก็บอาหาร
เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหาร กับโต๊ะอาหารที่ยาวเกือบสิบเมตร และ มีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน
ลูกชาวนา ที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขา ต้องกอดเอวพ่อให้แน่น เพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน
แต่เขาเอง ต้องนั่งในรถที่ใหญ่โต อยู่ข้างหลังเพียงลำพังโดยมีคนขับรถพาไปทุกที่
ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟ ส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืนโดยไม่ขาดแคลน แต่เขา ก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน
ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่
ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีดหิ่งห้อยนับร้อยนับพัน แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย
เขาขอบคุณพ่ออีกครั้งที่ทำให้เขารู้คำตอบว่า..... จริงๆ แล้ว.......เรายากจนกว่าชาวนามาก
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา... ..................ศรัทธาธรรม..................
Create Date : 28 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 28 สิงหาคม 2555 6:59:03 น. |
|
21 comments
|
Counter : 2283 Pageviews. |
|
|
จริงๆด้วยค่ะลุง
ไปเป็นชาวนาดีกว่า