Bloggang.com : เทพบุตรตบะแตก!! : "เข็มทิศชีวิตคู่" พ็อกเก็ตบุ๊คสำหรับคนที่อยากถนอมรักให้ยืนยาว และทำให้ "ครอบครัว" มีความหมาย

"เข็มทิศชีวิตคู่" พ็อกเก็ตบุ๊คสำหรับคนที่อยากถนอมรักให้ยืนยาว และทำให้ "ครอบครัว" มีความหมาย

และนี่คือผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คลำดับที่ 7 ของผมเองนะครับ กับ "เข็มทิศชีวิตคู่" หนังสือเล่มเล็กๆ ที่ขอพาคุณทุกคนที่มีรีก มีคนรัก และมีครอบครัวให้ดูแล ได้เข้าใจถึงวิธีทางแห่งการบริหารรักให้สวยงามอยู่เสมอ

ย่อหน้าถัดจากนี้ไปผมยกมาจากคำนำในเล่มที่ผมเขียนเอาไว้นะครับ

"ชีวิตคู่เริ่มต้นเมื่อใด ...

เมื่อใดก็ตามที่คุณเข้าประตูวิวาห์กับคนที่คุณรัก นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณต้องหมั่นดูแลและรักษาดวงใจ ให้คนรักกลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก และบริหารความรักให้สวยงาม หาทางอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขหากมีทุกข์ก็ช่วยกันแบ่งเบา แต่หากว่ากันตามจริงแล้วชีวิตคู่นั้นเริ่มต้นตั้งแต่คุณตกลงปลงใจคบหาใครสักคนมากกว่าแค่คำว่าเพื่อน เมื่อคุณเริ่มมีแฟนเป็นตัวเป็นตน นั่นแหละคือก้าวแรกแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่

ชีวิตคู่คือการมีความรักและมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เหมือนทานอาหารหรือทำงาน และมันก็เหมือนการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ ที่หากเราปล่อยปละละเลย ชีวิตด้านนั้นจะไม่สมบูรณ์ ไม่สุขเต็มร้อย หรือถ้าแย่หน่อย มันอาจเกิดปัญหาได้หากเราจัดการมันโดยขาดความเข้าใจและไร้ศิลปะ... ใช่แล้วครับ ชีวิตคู่ที่ดีต้องมีการจัดการ มีเคล็ดลับที่จะนำความสุขมาให้ และต้องเข้าใจศิลปะในการรักษาสมดุลย์ของชีวิตคู่ด้วย

ลองนึกย้อนมองชีวิตรักของคุณดูสิครับ มันมีอุปสรรคหรือไม่ คุณกับคนรักทะเลาะกันถี่แค่ไหน กี่ครั้งแล้วที่คนรักบ่นว่าคุณไม่เข้าใจเธอ กี่ครั้งแล้วที่คุณคิดในใจว่าทำไมคนรักถึงได้เอาแต่ใจเช่นนี้ ลองพิจารณาดีๆ ครับว่าชีวิตคู่ของคุณสมบูรณ์หรือไม่... หากคุณตอบว่าสมบูรณ์แล้ว ผมก็อยากให้คิดซ้ำอีกสักรอบ เพราะโลกนี้ไม่มีชีวิตรักที่สมบูรณ์พร้อมไร้จุดบกพร่องใดๆ หรอกครับ มันต้องมีจุดสะดุดด้วยกันทั้งนั้น นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้

และเมื่อเรายอมรับแล้ว มันจะแปลว่าอะไร ... แปลว่าเราต้องก้มหน้ายอมปล่อยให้ชีวิตคู่มีขวากหนาม มีความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ หรือเปล่า... ไม่ครับ แม้ชีวิตคู่ของทุกคนในโลกจะไม่ Perfect แต่เราก็ทำให้มันดีที่สุดได้ จัดการให้ชีวิตรักสุขที่สุดได้ วิธีการก็มีหลากหลายไม่ว่าจะการพูดจา ท่าทาง การทำเซอร์ไพรส์หรือการดูแลเทคแคร์ คอยเป็นที่ปรึกษาบรรเทาเรื่องทุกข์ให้สุดที่รักของเรา ฯลฯ มีวิธีอีกเป็นร้อยที่ช่วยเติมรักของคุณให้เต็มร้อยได้

หากคุณกำลังมีปัญหาชีวิตคู่ หนังสือเล่มนี้จะช่วยบอกคุณว่าควรทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นและป้องกันไม่ให้ปัญหามันเกิดขึ้นมาอีก พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจระหว่างคุณกับคนรักให้ดียิ่งกว่าเดิม แต่หากคุณรู้สึกว่าชีวิตคู่ของคุณสวยงามพอแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งในการช่วยเติมสีสันให้ชีวิตรัก ป้องกันความเบื่อหน่ายระหว่างกัน ทำให้คุณกับแฟนรักกันมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวทางการปรับตัวที่ช่วยให้รักคุณยั่งยืนขึ้นอีกด้วย

คงไม่ใช่การกล่าวเกินจริงหากจะบอกว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่มีความรัก มีมือคนรักให้จับและจูง ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนและรักเพศใดก็ตาม เมื่อคุณมีความรัก การประคบประหงมดูแลมันย่อมดีกว่าปล่อยให้มันเกิดปัญหาขึ้นมา จริงไหมครับ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะชูรสชีวิตรัก เพิ่มความมั่นคงให้รักของคุณ... หนังสือเล่มนี้ก็รอให้คุณเริ่มอ่านเพื่อศึกษาเคล็ดลับชีวิตรักแบบยั่งยืน หากไม่แน่ใจว่าหนังสือดีจริงหรือไม่ ก็ไม่ยาก แค่เปิดหน้าใดก็ได้ อ่านสักหนึ่งย่อหน้า หากมันไร้สาระและไม่น่ารู้ก็วางมันลงบนชั้นตามเดิม แต่อย่าวางลงโดยที่ไม่ลองเปิดอ่านเนื้อใน ...

อย่าทิ้งโอกาสแห่งการมีรักที่สดใสเต็มไปด้วยความเข้าใจ คุณมีมันได้หากรู้จักวิธีที่ถูกต้อง..."

"คุณเบื่อข่าวการหย่าร้างของคู่รักทั้งหลายไหมครับ โดยเฉพาะคู่รักในวงการบันเทิงได้ยินกันแทบทุกวันว่าคนนั้นจะเลิกกับคนนี้ คนนี้ทิ้งอีกคนไปหาคนนั้น อีนุงตุงนังฟังแล้วหดหู่ใจเหลือเกิน ฟังมากๆ ก็จะพาลใจเสีย อดผวาไม่ได้ว่าคู่ของเราจะจ่อคิวแยกทางเป็นรายต่อไปหรือไม่

คู่รักสมัยใหม่มีอัตราการแยกทางสูงจนน่าใจหาย ทั้งที่แต่งแล้วเลิกหรือคบแล้วไม่ถูกใจเลยทางใครทางมัน ซึ่งการเลิกรากันไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไร เพราะไม่ว่าจะอย่างไรคนที่ต้องแยกทางกันนั้นก็ต้องมีความทุกข์ ความไม่สบายใจเจือจางอยู่ในความรู้สึกแทบทั้งสิ้น แล้วลองมองย้อนไปที่คู่รักรุ่นปู่ย่ามากมายที่ยังคงรักมั่น แม้จะมีกระทบกระทั่งกันบ้างก็เป็นธรรมดาของลิ้นกับฟัน แต่เมื่อผ่านการขัดแย้งไปได้ ต่างฝ่ายต่างก็พยายามเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้กัน จนในที่สุดก็กลับมาหวานแหววดังเดิมได้

น่าเศร้านะครับที่สมัยนี้ สื่อและคนเราชอบพูดกันถึงข้อเสียของชีวิตคู่ ชอบเอาเรื่องคนหย่าร้างมาถกประเด็นพูดจากันคะนองปาก และที่แย่กันไปใหญ่คือการที่ชายและหญิงต่างฝ่ายต่างก็ตั้งแง่ใส่กัน เอาความแตกต่างมาถกเถียงจนเกิดความแตกแยกแทนที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่หนุ่มสาวหลายราย ชอบเถียงชอบเอาชนะจนมองหน้ากันไม่ติด และเมื่อเถียงกันบ่อยครั้งเข้า ความรู้สึกดีๆ ก็มลายหายสิ้น บทลงเอยท้ายสุดคือการจบความสัมพันธ์ที่ส่วนใหญ่มักจะมีน้ำตาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

บัดนี้ได้เวลาแล้วครับ ที่คุณจะตั้งคำถามกับตนเองว่า คุณสะดวกใจที่จะอยู่ในโลกที่คู่รักพากันสร้างช่องว่างระหว่างกันหรืออยากอยู่ในโลกที่คนรักมีความเข้าใจกันแน่ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะอยากอยู่โลกที่คู่รักเต็มไปดวยความเข้าใจนะครับ และผมก็กำลังจะนำคุณเข้าไปสู่โลกใบนั้น

อันที่จริงชีวิตคู่มีเคล็ดไม่ลับอันหลากหลายให้เราเรียนรู้เสมอ ทั้งจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่ครองรักกันยืนยงจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ทุกวันนี้เราอาจลืมมันไป เอาเวลาไปให้กับเรื่องงานหรือไม่ก็มีแต่เรื่องไม่สบายใจจนเราปล่อยให้ชีวิตคู่ถึงจุดจบ ไม่ได้แล้วครับ จะปล่อยให้ครอบครัวคุณก้าวเดินไปสู่จุดจบได้อย่างไร ในฐานะที่คุณเป็นหนุ่มสาวหรือคู่รักยุคใหม่ (ใหม่ทางความคิดและมุมมองครับ ใหม่ได้ไม่จำกัดอายุ) ต้องรู้เท่าทันการจัดการชีวิตรักให้เต็มไปด้วยความสุขและใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์ที่สุด และผมก็ขันอาสานำเอาวิธีดีๆ 100 ประการมานำเสนอ เพื่อให้คุณได้หยิบไปใช้ สร้างความสุขให้ตนและคนรัก แล้วคุณจะรู้ว่าการมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวนั้นไม่ใช่ของยาก

นอกจากนี้ผมยังต้องการกำจัดทัศนคติผิดๆ ในชีวิตคู่เช่น หากทนกันไม่ได้ก็ควรจะเลิกกันไปหาคนใหม่ดีกว่า หรือการพยายามทำให้อีกฝ่ายฟังคำพูดคุณ แต่คุณกลับลืมไปว่าตัวเองล่ะ ฟังเขามากแค่ไหน ยังมีแนวทางดีๆ อีกมากมายครับสำหรับการยืดอายุชีวิตคู่ของคุณออกไปให้ยาวจนตลอดชีวิต ขอเพียงคุณสละเวลาสักนิด เรียนรู้แนวคิดที่ถูกต้องสำหรับการบริหารชีวิตรัก"

.... วันนี้ ตามร้านหนังสือทั่วไปครับผม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

Create Date : 13 พฤษภาคม 2552

Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 11:43:02 น.

0 comments

Counter : 2693 Pageviews.