zazny พาชิม OMU RICE ข้าวห่อไข่ต้นตำรับจากญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะทุกๆท่าน วันนี้นุ้ยมาพร้อมกับรีวิวร้านอาหารบรรยากาศสบายๆย่านเอกมัยค่ะ ก็เป็นย่านที่นุ้ยต้องไปทุกวันอ่ะนะทำงานที่นี่นินา ในโซนเอกมัยนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่เยอะเพราะฉะนั้นบรรดาร้านรวงก็ต้องตอบโจทย์กันหน่อยด้วยการมุ่งเป้าไปที่ชาวญี่ปุ่น ดังนั้นร้านอาหารญี่ปุ่นก็ผุดขึ้นมามากมายหลากหลาย ทั้งต้นตำรับมาเอง หรือคนไทยเองนี่แหละที่มาเปิด ร้านอาหารที่นุ้ยจะแนะนำวันนี้ก็เช่นกันค่ะ ชื่อว่าร้าน OMU RICE อยู่ในซอยเอกมัย โครงการปาร์คเลน ตรงข้ามเอกมัยซอย2 การเดินทางก็สะดวกสบายนะคะ ลงรถไฟฟ้าสถานีเอกมัย เดินเข้าซอยบ้านไร่กาแฟมาประมาณ 300 เมตรก็เจอเลยค่ะ หรือจะขับรถมาก็มีที่จอดรถสะดวกสบาย ภายในโครงการก็มีร้านค้ามากมายทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า (รวมถึง Minerva Clinic ด้วยนะจ๊ะ ฮิๆ ) ร้านนี้เป็นร้านข้าวห่อไข่ สไตล์คาเฟ่ญี่ปุ่น ภายในร้านตกแต่งแบบโปร่งๆ สบายๆมีเคาน์เตอร์ให้นั่งจิบกาแฟเล่นอินเตอร์เน็ตได้ด้วย แต่ต้องพกโน๊ตบุคหรือipadไปเองนะจ๊ะ ส่วนมากลูกค้าในร้านจะเป็นชาวญี่ปุ่นค่ะ นั่งทานข้าวไปก็ฟังเสียงแม่บ้านเมาท์กันไป เพลิดเพลิน ในช่วงแนะนำนี้อาหารลด20ปุเซงด้วยนะเออ Notice :: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื่องจากรีวิวนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงและรสนิยมในการรับประทานอาหารส่วนตัว ซึ่งความชอบของแต่ละท่านก็ต่างกันไปนะจ๊ะ ดังนั้นอย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลองเองนะเออ
เมนูอาหารหลักๆแล้วก็จะเป็นข้าวห่อไข่ตามชื่อร้านนะคะ (OMURICE สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า omelette+rice เอ๊ะ หรือยังไง) มีทั้งข้าวห่อไข่ต้นตำรับ คือแบบใส่ซอสมะเขือเทศธรรมดา แต่สามารถเลือกทอปปิ้งได้หลากหลาย นอกจากนี้ก็ยังมีซอสเดมิกลาส ซอสขาว ซอสแกงกะหรี่ และซอสฮายาชิให้เลือกกันตามถนัด ที่นุ้ยสั่งวันนี้คือข้าวห่อไข่ราดซอสแกงกะหรี่หมูสับอบชีส หน้าตาแบบนี้ เหมือนพูทุเรียนเลยเนอะ 555
เวลาทานนุ้ยก็จะใช้ช้อนผ่าให้ข้าวแผ่ออกมาหน่อยจะได้ทานกับซอสง่ายๆ ไข่นุ่มๆสุกกำลังดี ข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆกับซอสแกงกะหรี่รสอ่อนๆ ทานแล้วสบายท้องดีค่ะ ไม่หนักเกินไป แต่รสอ่อนจริงๆนะคะ เข้าใจว่าเป็นเพราะทานกับข้าวห่อไข่จะให้น้ำแกงข้นหนืดเหมือน curry rice ก็คงเลี่ยนเกินไป ปริมาณเยอะพอดู สาวๆอาจจะทานไม่หมด
แอบติงนิดนึงว่าใส่ชีสน้อยไปนิดนึง ตอนที่ทานอยู่นั้นลืมไปเลยว่าอบชีสมาด้วย 555+ ถ้าอบให้ชีสเกรียมๆเยิ้มๆพอมีกลิ่นหน่อยคงจะเรียกน้ำย่อยได้มากกว่านี้ สำหรับเมนูนี้ ให้ 8/10 ค่ะ เมนูต่อมาเป็นซุปผักสไตล์อิตาเลี่ยนค่ะ ชื่อว่า Minestrone Soup ลักษณะจะเปนซุปมะเขือเทศใส่ผักและเบคอนนะคะ ซุปใสๆรสอ่อนๆ ใครไม่เคยทานลองจนตนาการถึงแกงส้มแต่ไม่ใส่พริกดูนะคะ รสจะประมาณนั้นแหละ ส่วนตัวนุ้ยชอบมินิสโตรเน่แบบเข้มข้นมากกว่า ถ้วยนี้กลิ่นมะเขือเทศอ่อนไปนิดเหมาะกับใครที่อยากจะพักท้องทานอะไรที่ย่อยง่ายๆ เมนูนี้รับไป 7/10 ค่ะ
เมนูสุดท้ายที่นุ้ยได้ลองมาก็คือสปาเก็ตตีคาโบนารา หลายๆท่านคงทราบว่านุ้ยชอบคาโบมากกกก เคยทำสถิติหม่ำคาโบที่วานิลา แบรสเซอรี่ทุกวันติดกัน 1 เดือนมาแล้ว โฮกกกกกกก ดังนั้นร้านไหนที่มีเมนูนี้ นุ้ยก็ไม่พลาดที่จะลองชิมเป็นแน่แท้ มาดูหน้าตากันดีกว่า ตามปกติแล้วซอสคาโบนาร่านั้นจะประกอบไปด้วยครีม ไข่ นม (อ้วนๆทั้งนั้น) แต่ที่นี่แปลกกว่าที่อื่นตรงที่เค้าจะใส่ไข่ลวกโปะแยกมาต่างหาก เวลาทานก็เจาะไข่แดงคลุกเคล้าให้ทั่ว ลองจินตนาการถึงเส้นกรุบๆที่ลวกแบบอัลเดนเต้พอดีๆ กับซอสรสนุ่มๆได้รสเข้มข้นของไข่ลวกแต่ไม่เลี่ยนจนเกินไปเพราะครีมกับไข่ไม่ได้ผสมกันมาแต่แรกดังนั้นเวลาเย็นตัวลงจึงไม่มีน้ำมันลอยขึ้นมาเหมือนของร้านวานิลา (ซึ่งเป็นข้อเสียอย่างเดียวของคาโบร้านวานิลาที่พอเสริ์ฟแล้วต้องกินอย่างเร็วไม่งั้นน้ำมันแยกตัวกันแล้วชวนแหวะสุดๆ) โรยพริกไทยดำเพิ่มเสียหน่อยแต่รสเค็มพอดีไม่ต้องเติมเกลือแต่อย่างใด โอ๊ย อร่อย ชอบมาก
จานนี้รับไปเต็มๆ 10/10 นอกจากนี้ยังมีของหวานให้เลือกรับประทานด้วยนะจ๊ะ เมนูแนะนำก็จะเป็นโรลเค้ก ที่ทำโดย patissiere ชาวญี่ปุ่น นุ้ยไม่ได้สั่งมาชิมเพราะอิ่มมากแล้ว แต่คาดว่าคราวหน้าต้องสั่งมาลองให้จงได้ และยังมี strawberry tuxido สตรอเบอรี่ใส่ทักซิโดหน้าตาน่าร๊ากกก เหมาะจะเป็นของขวัญวาเลนไทน์มากๆ
สรุปว่าร้านนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับใครที่อยากหาร้านนั่งสบายๆจิบกาแฟละเลียดเค้ก หรือทานอาหารมื้อเบาๆในบรรยากาศอบอุ่น ใครผ่านมาทางนี้ก็อย่าลืมแวะมาชิมดูนะจ๊ะ วันนี้นุ้ยลาไปก่อนละนะ บ๊ายบาย
Free TextEditor
Create Date : 14 มกราคม 2554 |
Last Update : 14 มกราคม 2554 18:25:15 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1016 Pageviews. |
|
|