พุทธประวัติ สถานที่เสวยวิมุติสุข 7 แห่งหลังการตรัสรู้ 2
ต่อนั้นก็เสด็จไปประทับนั่งยังรัตนะฆรเจดีย์ อ่านว่า คอ-ระ-เจ-ดี เรือนแก้ว ในทิศปัจจิม หรือทิศพายัพ แห่งไม้มหาโพธิ์ ซึ่งเทพยดานิมิตถวาย ทรงพิจารณาพระอภิธรรมปิฎกตลอด ๗ วัน
จุดนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือของพระมหาเจดีย์ ลักษณะรูปทรงเป็นวิหารสี่เหลี่ยมไม่มีหลังคามุง กว้างประมาณ 11 ฟุต ยาวประมาณ 14 ฟุต รอบข้างเต็มไปด้วยเจดีย์โบราณ มีพระพุทธรูปสมัยคุปตะและสมัยปาละ พิจารณาแล้วเห็นน่าจะมีผู้นำมาตั้งไว้ในสมัยหลัง ๆ หน้าประตูเข้าด้านตะวันตกมีป้ายภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยว่า รัตนฆรเจดีย์ สถานที่พระพุทธองค์เสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 4 ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ณ สถานที่นี้อยู่ 7 วัน
ในอรรถกถาเล่าว่า เทวดาทั้งหลาย เนรมิตเรือนแก้วทางทิศพายัพจากตันโพธิ์ ถวายพระพุทธองค์ให้ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรในเรือนแก้วนั้น และทรงพิจารณาพระอภิธรรมปิฎก และสมันตปัฏฐานอนันตนัย ซึ่งมีนัยไม่สิ้นสุดในพระอภิธรรมนั้น โดยพิสดาร ทรงปฏิบัติอยู่เช่นนี้ตลอด 7 วัน สถานที่นี้จึงชื่อว่า รัตนฆรเจดีย์
ต่อนั้น จึงเสด็จไปประทับยังร่มไทร ซึ่งเป็นที่อาศัยพักร่มของคนเลี้ยงแพะ อันมีนามว่า อชปาลนิโครธ
สถานที่แห่งนี้อยู่เลยสถูปบ้านนางสุชาดาไปอีกนิดหน่อย ประมาณไม่เกิน 500 เมตร สามารถมองเห็นได้เมื่อยืนอยูบนสถูปบ้านนางสุชาดา ปัจจุบันมีเทวาลัยของฮินดูเป็นที่สังเกตุ บริเวณนั้นมีต้นไทรใบใหญ่ อายุ ประมาณ 100 ปีขึ้นไป 5-6 ต้น ทำให้ระลึกถึงในครั้งพุทธกาลว่า ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของต้นอชปาลนิโครธ หรือต้นไทรที่เด็กเลี้ยงแพะชอบมาพักเพื่อหลบลมร้อน ฝูงแพะก็ได้เก็บกินใบที่ตกลงมา
พระพุทธองค์ทรงประทีบเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 5 ณ ควงไม้อชปาลนิโครธนี้ตลอด 7 วัน ทรงตรึกถึงบุคคลที่สมควรได้รับฟังคำสอน เกิดคำอุปมาแห่งบุคคลเปรียบเสมือนบัว 4 เหล่า (ในพระไตรปิฎกว่ามี 3 เหล่า) และท้าวสหัมบดีพรหมได้ทราบทูลอาราธนา ให้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม
และสถานที่แห่งนี้เมื่อก่อนจะตรัสรู้ พระมหาบุรุษได้ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา ธิดากถฎุมพีแห่งอุรุเวลาเสนานิคม ณ ที่แห่งนี้เช่นกัน
การที่จะไปให้ถึงควงไม้ไทรนี้ จะต้องเดินลัดทุ่งนา โดยตั้งต้นจากสถูปบ้านนางสุชาดา ลัดเลาะผ่านหมู่บ้านชาวอินเดียไปไม่นานก็ถึง หรือ นั่งรถสามล้อเครื่องเข้าไปเท่านั้น
ล่าสุดข้อมูลปี 2556 มีการทำถนนเข้าไปถึงแล้วครับ รถใหญ่ก็สามารถเข้าไปถึงได้แต่คณะทัวร์ไทยก็ยังไม่นิยม พาไปสักการะที่แห่งนี้ เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีเวลาพอนั่นเอง
Create Date : 27 มกราคม 2556 |
Last Update : 27 มกราคม 2556 22:07:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1307 Pageviews. |
|
|