นกเทพย่อมมีบารมีของเทพ สายลมอ่อนๆ เบาสบาย มือพัดไปมา จิตตรองกลยุทธ์ วางแผนจัดการได้ทุกเรื่องในโลก
Group Blog
 
All Blogs
 
พุทธประวัติที่เกี่ยวกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในคืนวันวิสาขมาส 1




พุทธประวัติที่เกี่ยวกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ในคืนวันวิสาขมาส





พระมหาบุรุษเสด็จขึ้นประทับรัตนบัลลังก์แก้ว 
ขัดสมาธิ ผินพระพักตร์ตรงไปยังปราจินทิศ 
หันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ไปทางลำต้นโพธิ์พฤกษ์ 
ก่อนที่จะเริ่มทำความเพียรโดยสมาธิจิต 
ได้ทรงตั้งสัตยาธิษฐานในพระทัยว่า 
ถ้าอาตมายังมิได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเพียงใด 
แม้พระโลหิตและพระมังสะจะเหือดแห้งไป 
จะเหลือแต่พระตจะ(หนัง) พระนหาลุ(เอ็น) และพระอัฏฐิ (กระดูก) 
ก็ตามที จะไม่เลิกละความเพียร โดยเสด็จลุกไปจากที่นี้ 

ครั้งนั้น เทพยดาทั้งหลายพากันชื่นชมโสมนัส 
มีหัตถ์ทรงซึ่งเครื่องสักการะบูชาบุบผามาลัยมีประการต่าง ๆ 
พากันมาสโมสรสันนิบาตห้อมล้อม 
โห่ร้องซ้องสาธุการบูชาพระมหาบุรุษ 
สุดที่จะประมาณ เต็มตลอดมงคลจักรวาฬนี้. 






ขณะนั้น พญาวัสวดีมาราธิราช 
ได้สดับเสียงเทพเจ้าบันลือเสียงสาธุการ 
ก็ทราบชัดในพระทัยว่า พระมหาบุรุษจะตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ 
ทำลายบ่วงมารที่เราวางขึงรึงรัดไว้ แล้วหลุดพ้นไปได้ 
ก็น้อยใจ คิดฤษยา เคียดแค้น ป่าวประกาศเรียกพลเสนามารมากกว่ามาก 
พร้อมด้วยสรรพาวุธและสรรพวาหนะที่ร้ายแรงเหลือที่จะประมาณเต็มไปในท้องฟ้า 
พญาวัสวดีขึ้นช้างพระที่นั่งคีรีเมขล์ นิรมิตมือพันมือ ถืออาวุธพร้อมสรรพ 
นำกองทัพอันแสนร้าย เหาะมาทางนภาลัยประเทศ 
เข้าล้อมเขตบัลลังก์ของพระมหาบุรุษเจ้าไว้อย่างแน่นหนา 

ทันใดนั้นเอง บรรดาเทพเจ้าที่พากันมาห้อมล้อม
ถวายสักการะบูชาสาธุการพระมหาบุรุษอยู่ 
เมื่อได้เห็นพญามารยกพหลพลมารมาเป็นอันมาก 
ต่างมีความตกใจกลัวอกสั่นขวัญหาย 
พากันหนีไปยังขอบจักรวาฬ 
ทิ้งพระมหาบุรุษเจ้าให้ต่อสู้พญามารแต่พระองค์เดียว 






เมื่อพระมหาบุรุษไม่ทรงแลเห็นผู้ใด 
ใครที่ไหนจะช่วยได้ ก็ทรงระลึกถึงบารมีธรรมทั้ง ๓๐ ประการ 
ซึ่งเป็นดุจทหารที่แก่นกล้า มีศัตราวุธครบครัน 
สามารถผจญกับหมู่มาร ขับไล่ให้ปราชัยหนีไปให้สิ้นเชิงได้ 
และพร้อมกันมารับอาสาอยู่พร้อมมูลเช่นนั้น 
ก็ทรงโสมนัส ประทับนิ่งอยู่ โดยมิได้สะทกสะท้านแต่ประการใด 


ฝ่ายพญามารวัสวดีเห็นพระมหาบุรุษประทับนั่งนิ่ง 
มิได้หวั่นไหวแต่ประการใดก็พิโรธร้องประกาศก้อง 
ให้เสนามารรุกเข้าทำอันตรายหลายประการจนหมดฤทธิ์ 
บรรดาสรรพาวุธศัตรายาพิษที่พุ่งซัดไป 
ก็กลับกลายเป็นบุบผามาลัยบูชาพระมหาบุรุษจนสิ้น 
ครั้งนั้นพญามารตรัสแก่พระมหาบุรุษด้วยสันดานพาลว่า 
“ ดูกรสิทธัตถะ บัลลังก์แก้วนี้ เกิดเพื่อบุญเรา เป็นของสำหรับเรา 
ท่านเป็นคนไม่มีบุญ ไม่สมควรจะนั่ง จงลุกไปเสียโดยเร็ว " 

พระมหาบุรุษหน่อพระบรมโพธิสัตว์เจ้า ก็ตรัสตอบว่า 
"ดูกรพญามาร บัลลังก์แก้วนี้ เกิดขึ้นด้วยบุญของอาตมา 
ที่ได้บำเพ็ญมาแต่อสังไขยยกัปป์ จะนับจะประมาณมิได้ 
ดังนั้น อาตมาผู้เดียวเท่านั้น สมควรจะนั่ง ผู้อื่นไม่สมควรเลย" 

พญามารก็คัดค้านว่า ที่พระมหาบุรุษรับสั่งมานั้น 
ไม่เป็นความจริง ให้พระองค์หาพยานมายืนยันว่า 
พระองค์ได้บำเพ็ญกุศลมาจริง ให้ประจักษ์เป็นสักขีพยานในที่นี้ 

เมื่อพระมหาบุรุษไม่เห็นผู้อื่นใด 
ใครจะกล้ามาเป็นพยานยืนยันในที่นี้ได้ 
จึงตรัสเรียกนางวสุนธรา เจ้าแห่งธรณีว่า 
"ดูกร วสุนธรา นางจงมาเป็นพยานในการบำเพ็ญกุศล
ของอาตมาในกาลบัดนี้ด้วยเถิด" 



Create Date : 26 มกราคม 2556
Last Update : 27 มกราคม 2556 22:00:33 น. 0 comments
Counter : 1325 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

venfaa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นกเทพย่อมมีบารมีของเทพ
สายลมอ่อนๆ เบาสบาย
มือพัดไปมา จิตตรองกลยุทธ์
วางแผนจัดการได้ทุกเรื่องในโลก


venfaa
Friends' blogs
[Add venfaa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.