瞳閉じれば広がってゆく . . .
Group Blog
 
All blogs
 

ทะเลปราณ : : hideaway . . . again


post date : 27/03/2006 12:46:55

*

อ่ะ สองอาทิตย์แระ ยังอัพไม่จบ กั่กๆๆๆ
ต่อๆๆ

.
.
.

เดินกลับจากหัวปลีฯ กลับมาที่ P-Cube แต่เอ๊ะ คนหายไปไหนกันหมด
เจอแต่น้องหมา ง่ะ
เป็นน้องหมาที่ปล่อยออกจากกรงแล้วอีกตะหาก ง่ะ ขึ้นบ้านไม่ได้ ประตูรั้วที่ลงหาดเค้าก็ล็อกไปแล้วด้วย
เจอคุณฮานส์อยู่กะน้องหมา แต่คุณฮานส์จำข้าน้อยไม่ได้ (อ่ะค่ะ เรื่องปกติ) ส่งภาษากว่าจะรู้เรื่องว่าหนูมากะคณะที่มาดูงานนะคะ ไม่ได้จะมาปีนบ้าน (สปีกไปคอยหลบหมาไป 555) คุณฮานส์ต้องไปหยิบกุญแจมาเปิดให้ แหะๆ

ออกจากบ้าน ขึ้นรถไป evason ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

evason ที่นี่จะมีสองฝั่ง คือ ฝั่ง evason ธรรมดา กะฝั่ง hideaway
พวกเราพักฝั่ง hideaway อ่ะ เค้าแยกทางเข้ากันด้วยนะคะ เพิ่มความ privacy เข้าไปอีก
ฟิลตอนเข้าไปแรกๆนี่ ยังกะเข้าจูราสสิคปาร์คยังไงยังงั้น ลึกลับมั่กๆ
โรงแรมซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงดินสูงๆ เพื่อความสงบ และหนีความวุ่นวายจากภายนอก (และก็สงบมากๆจริงๆ)

เข้าไปเช็คอิน แล้วก็ได้เจอ butler ของเรา ชื่อ ปอย
ปอยเสียงหว๊าน หวาน และก็หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอด แม้ว่าเธอจะต้องวิ่งวุ่นทำธุระให้แขก ทั่วโรงแรมก็ตาม น่ารักมากๆ .. (อ่ะ แต่ข้าน้อยไม่ได้ใช้อะไรเธอเลยนะ)




lobby






ประตูทางเข้า villa มีน้องเม่นเป็นที่เช็ดเท้าเหมือนเคย ทางเข้าต้องเดินผ่านสระบัวด้วย



เปิดประตูบ้านเข้าไปเจอ สระบัว(อีก) กะศาลานั่งเล่น ที่จมลงไปในสระว่ายน้ำ



ห้องนอน มองเข้าไปจากสระว่ายน้ำ



สระว่ายน้ำ มองออกไปจากในห้อง



หลังจากเช็คอินแล้ว ออกไปเดินเตร็ดเตร่ข้างนอกแป๊ปนึง (กินมะพร้าวไปลูกนึง) พอกลับเข้ามาก็เจอไอ้นี่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อม welcome note จาก M.D. อ่ะค่ะ พอดีเลย กว่าจะกินข้าวเย็นๆ ได้รองท้องไปก่อน ของว่างนี้ประกอบไปด้วย เค้กชอคโกแลต ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทอด แล้วก็เมี่ยงคำ ทุกอย่างจัดมาขนาดพอคำ อย่างละ 2 คำ แต่บังเอิญว่า พี่แอนเค้าไปนอนกะเพื่อนเค้าที่หัวหินแล้ว ห้องนี้ก็เลยกลายเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว รวมทั้งของว่างนี่ด้วย อิ อิ อิ (แต่กินไม่หมดหรอกนะ)



อาหารเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ บาร์บิคิว ซีฟู๊ด
หัวละ 1,000++ คับ
ลดไม่ได้ด้วย เพราะมันอยู่ฝั่ง evason ไม่ใช่ฝั่ง hideaway น้าต้อมบอกว่ามันคนละ outlet กัน น้าเค้าลดให้ไม่ได้ (น้าชายข้าเจ้าเป็นเชฟอยู่ฝั่ง hideaway)

นั่งกินซักพักเริ่มง่วง เลยขอลาคณะกลับมานอนก่อน เพราะเห็นวี่แววว่าท่านๆคนจะนั่งกันอีกยาว เนื่องจากท่านเริ่มสั่งไวน์มาเปิดกันแล้ว

(แล้ววันรุ่งขึ้นก็ได้รู้ว่า อาจารย์เค้าเลี้ยง dinner มื้อนั้นให้ล่ะ ขอบคุณค่า ^___^)



บรรยากาศใน "the restaurant"



กลับมานั่งเล่นที่ villa ฮ่าฮ่าฮ่า ว่าจะลงว่ายน้ำ แต่ดูจะน่ากลัวเกินไป (หนาวด้วย) เลยนั่งเล่นอยู่ริมสระ



welcom drink ที่ปอยเอามาใส่ตู้เย็นไว้ให้ เป็นน้ำผลไม้รวม (จริงๆเป็นของพี่แอน แต่พี่แอนไม่ได้พักแย้ว.. อุ อุ)



.
.
.

ดึกๆ เอาพอสมาเปิดฟัง แบบว่าเพิ่งซื้อซีดี เลยหยิบติดมือไปด้วย
หลับไปตอนไหนไม่รู้

ตื่นมาว่ายน้ำตอนเช้า ตื่นสายกว่าตอนไปสมุยนิดหน่อย เออ ว่ายน้ำมันต้องมีแดดนิดๆอย่างงี้สิ ถึงค่อยสบายหน่อย ตอนอยู่สมุย นั่นลงสระเช้าเกินไปหน่อย เลยหนาว
เปิดพอสอีกแย้ว กั่กๆๆ มีอยู่แผ่นเดียว
อ่ะ ไม่ใช่ไร เปิดไว้จะได้ไม่เพลินจนลืมเวลา
อ๊ะ ออกมาข้างนอกมีลำโพงตรงสระว่ายน้ำด้วย ง่ะ วิ่งเข้ามาหรี่เสียงแทบไม่ทัน




ห้องน้ำกลางแจ้งที่นี่ อาบน้ำท่ามกลางแมกไม้ และน้องกบ น้องเขียด น้องอึ่งอ่าง กว่าจะได้อาบต้องรอให้น้องเค้ากระจายตัวออกไปจากตรงที่อาบน้ำก่อน ไม่ใช่ไร เด๋วจะเหยียบน้องเค้าไส้ทะลักน่ะสิ



เวลาอาบน้ำจะมองเห็นท้องฟ้าแบบนี้



อ่ะค่ะ อะไรต่อมิอะไร ที่เค้าเตรียมไว้ให้ใช้ เยอะมั่กๆ ใช้ไม่หมดทุกอันหรอกนะ



อันนี้ เอากลับมาให้เพื่อนๆ เป็นของฝาก อิ อิ ง่ายดี



ของใช้ และของฟรี อิ อิ อิ








อาบน้ำเสร็จออกมากินข้าวเช้า เป็นบุฟเฟ่ต์เจ้าค่ะ
ยังไม่อยากกินไรเท่าไหร่ กินแต่สลัดมะเขือเทศ (จริงๆมีหลายอย่าง แต่ตักมาเฉพาะมะเขือเทศ)
แล้วก็น้ำมะเขือเทศ

อ่ะ พนักงานที่นี่ "ขยัน" มาก
คือน้ำผลไม้ต่างๆ ทั้งหมดนี่ประมาณ 12 อย่างได้มั๊ง เค้าทำแล้วก็จะใส่ไว้ในขวด แช่น้ำแข็งไว้อย่างดี ให้แขกรินเอง ตรงที่แช่เย็นเค้าก็จะมีป้ายชื่อวางไว้บนลังไม้ที่ปิดน้ำแข็งไว้ โผล่มาแต่ปากขวด เวลาจะรินถึงค่อยดึงขวดออกมา
ทีนี้ เรากินอะไรซักพักก็จะเดินไปรินเพิ่ม ปรากฎว่าพนักงานเค้าสลับตำแหน่งขวดน้ำผลไม้ต่างๆ
อ่ะค่ะ น่าหนุกดี ต้องหาใหม่ ว่าน้ำอะไรอยู่ตรงไหน
ที่ว่าขยันก็เพราะว่า มันไม่ใช่การวางขวดผิดที่นะ แต่มันต้อง "จงใจ" สลับตำแหน่งขวดอ่ะ เพราะ ป้ายชื่อมันก็สลับกันอย่างถูกต้องด้วย

อ่ะนะ ที่นี่เค้าคิดเยอะ กะอะไรเล็กๆน้อยๆ อยู่เสมอเลยแฮะ



สั่งออมเล็ตมาเพิ่ม ตามคำคะยั้นคะยอของอาจารย์ ('จารย์บอกมื้อเช้าให้กินเยอะๆ)



ส่วนหนึ่งของร้าน จมลงไปในสระบัว
อ่ะ เค้ามีคนมาตีระนาดอยู่ในดงอ้อด้วยนะ อยู่อีกศาลานึง ทีแรกคิดว่าเปิดเทปซะอีก



เดินเล่นออกมาจนเจอทะเล





ตอนจะกลับ ระหว่างรอเช็คเอาท์ ก็มานั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดล่ะ

*




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 11:11:22 น.
Counter : 905 Pageviews.  

ทะเลปราณ : : lazy beach


post date : 17/03/2006 12:47:14

*


ระหว่างที่เค้านั่งคุยกันอยู่ที่ P-Cube ข้าเจ้าก็เดินเล่นตามหาดมาเรื่อยๆ
จริงๆจุดหมายที่จะเดินไปคือ "หัวปลี เลซี่ บีช"
มันเปงบูติคโฮเตลที่ได้ยินชื่อมานาน และเปงที่ที่คุณหนูมิ้นต์บอกอยากมาพัก
อ่ะ มีคนพูดถึงอีกมากมาย
สรุปว่า ก็คิดไปจากกรุงเทพฯแล้วแหละว่าจะต้องไปดูให้ได้ หาแผนที่ดูแล้ว มันอยู่ใกล้ๆกัน(แต่ไม่คิดว่าจะใกล้ขนาดนี้ ^_^)

ตอนนั่งรถจะไปดูบ้านพอดีว่ามันผ่านหัวปลีก่อน ก็เลย เห็นว่า อยู่ใกล้กันมาก เออ เด๋วเดินมาได้

น่ารักๆคับ

ซักวันจะมาพัก อ่ะ แต่ต้องมีรถมาเองนะ เพราะมันเข้ามาลึกพอสมควรเรย









ร้านอาหาร "SLOW FOOD"



ห้องพักที่นี่จะมีชื่อประมาณว่า "ปลาดาว" "แมงกะพรุน" "ปลาเก๋า" "ปลาหมึก" "ปูม้า" "ม้าน้ำ"
อ่ะค่ะ เค้ามีห้องอยู่เท่านี้ เล็กๆ น่ารักๆ มี 6 ห้อง กะอีก 1 villa ที่ชื่อ "บ้านฟังคลื่น"











อ่ะ น่าอิจฉาคนนอนขี้เกียจๆอยู่ริมหาด งี๊ดดด อยากนอนมั่ง



ดูเหมือนจะเป็นสัญญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้วนะ ไอ่กังหันลมนี่



*
เข้าไปคุยกะเจ้าของ อ่ะ ไม่สิ เจ้าของเค้าเล่นว่าวอยู่ที่หาด ตรงหน้าบ้าน P-Cube ตะกี้
อะค่ะจะเปงใครก็ช่าง หนูก็ไปถามๆ พร้อมกับขอโบรชัวร์เค้ามา
อ่ะมีแถมอีก เป็นอีกรีสอร์ท ที่อยู่ตรงเกาะนมสาว อ่ะค่ะ เลยชื่อรีสอร์ทว่า "บราเซียร์" อันนั้นชื่อห้องเค้าเป็นยี่ห้อบราหมดเลย กั่กๆๆ








ขากลับเดินถ่ายรูปเล่นมาเรื่อย
บ้านพัก โรงแรม แถวๆนี้ จะเป็นคล้ายๆงี้หมด คือเล็กๆ น่ารัก
จำนวน unit น้อยๆ
และสงบ









เค้าจัดโต๊ะ เตรียมดินเนอร์ริมหาดกันล่ะ งี๊ดด น่าอิจฉา....






*




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 11:53:01 น.
Counter : 1161 Pageviews.  

ทะเลปราณ : : บ้าน P - Cube


post date : 14/03/2006 12:47:49

*

นี่คือที่ที่พวกเราไปดูงานกัน
เป็นบ้านตากอากาศ เป็นบ้านวันสุดสัปดาห์ ที่เจ้าของจะหนีจากคอนโดในกรุงเทพแล้วขับรถมานอนเขลงที่นี่ทุกเสาร์อาทิตย์

บ้านชื่อ บ้าน P-Cube
concept ของชื่อมาจาก 3P เจ้าค่ะ
P ที่หนึ่ง คือ Pranburi ปราณบุรี
"ปราณ" แปลว่า ลม
ปราณบุรี ก็คือ "เมืองแห่งลม"
... อืมม ที่นี่ ลมดี จริงๆนะ ลมกำลังพอดี กำลังสบายยยย

P ที่สอง คือ Perpendicular
หมายถึง ผนังทึบที่ "ตั้งฉาก" กับทะเล

P ที่สาม คือ Parallel
หมายถึง ผนังโปร่งที่ "ขนาน" กับทะเล


ไปถึงบ้าน อ่ะ ขับเลย 55555 ทั้งๆที่ก็มองอยู่ตะกี้อ่ะนะ เลยไปเฉยเลย

เจ้าของบ้าน ชื่อคุณจุ๋ม กะสามี คุณฮานส์ ออกมาต้อนรับ อ่ะ ก่อนจะต้อนรับ ต้องต้อนน้องหมาไปเก็บก่อน เหลือไว้สองตัวที่ดูจะรับแขกหน่อย ชื่อน้องหยิน กะน้องหยาง




ทะเลภาพแรกที่เห็นเมื่อเดินจากรั้วบ้านเข้ามา




ทะเลจากห้องนั่งเล่น



ห้องนั่งเล่น (ข้าเจ้าชอบฝ้าเพดานมากเลย)







ทะเลจากชั้นสอง



ห้องน้ำโล่งๆ



ห้องอาบน้ำที่มองเห็นท้องฟ้าได้



ดาดฟ้า เอาไว้อาบแดด พื้นดาดฟ้าเรียบๆนี่ ถ้ายกขึ้นมาจะเป็นเก้าอี้ล่ะ น่ารักมากๆ



โต๊ะ ที่บรรยากาศดี เหมาะแก่การดื่มและพูดคุย



น้องหมา 2 ตัวที่ถูกปล่อยจากกรงแย้วววว อึ๋ยยย ทำท่าจะงับหนูด้วย












* to be continue...




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 11:43:55 น.
Counter : 1378 Pageviews.  

ทะเลปราณ : : ก่อนถึงปราณ


post date : 13/03/2006 16:10:24

*

ไปดูงาน(อีกแล้ว) คราวนี้ไปทะเลปราณ
แวะกินข้าวกลางวันที่ชะอำ

ที่ veranda resort & spa

โทรไปจองโต๊ะไว้ก่อนแล้วเมื่อวันก่อน

ร้านริมทะเล ชื่อ "ระเบียงเล"


เพิ่งเข้าเพชรบุรี ยังไม่ถึงชะอำดี มีคุณพนักงานโทรมาตาม อ่ะค่ะ เอาใจใส่คุณลูกค้ามาก

เดินเข้าไปตรงลอบบี้ ง่ะ มองหาพนักงานโรงแรม จะถามทางไปร้านอาหาร

หาไม่เจอ เพราะว่าพนักงานแต่งตัวได้เหมือนนักท่องเที่ยวมาก พอดีว่าเห็นป้ายชื่อก็เลย อ่อ ใช่เรย
เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ค่อยๆเลาะกันไปแบบว่านานมาก กว่าจะเดินกันไปถึงร้าน เพราะแวะถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้กันไปตลอดทาง


ไปถึงโต๊ะที่จองไว้ ต้อนรับกรรมการทุกท่านแล้วหนูแว๊บไปเข้าห้องน้ำ
เป็นห้องน้ำเปิดโล่งอีกแล้วค่ะ โล้งโล่ง มีต้นไม้ใหญ่ๆต้นนึงกลางน้ำ สวยมั่กๆ มองเข้าไปแล้วสวย
กลับออกมาที่โต๊ะ .. อ้าว เค้าหายไปไหนกันหมด เมื่อกี้ยังนั่งๆกันอยู่
ถามพนักงานว่าเค้าสั่งอาหารอะไรกันหรือยัง ปรากฎว่ายัง

มองๆๆๆ อ่า เค้ากระจายตัวออกไปถ่ายรูปกันอีกแย้ว

อ่ะค่ะ ต้องพยายามเรียกกลับมาสั่งของกินกันก่อน

มื้อนี้ง่ายๆ เพราะแค่แวะมากินข้าว
//แต่จุดประสงค์จริงๆคือแวะมาดูๆหน่อยนึง กะถ่ายรูป








ทางเดินไปร้านอาหาร



โต๊ะที่จองไว้ อยู่ข้างสระว่ายน้ำเลย



มองจากมุมที่นั่งเห็นทะเล







สระว่ายน้ำที่นี่บรรยากาศดี๊ดี น่าว่ายมากกกกก









อ่ะค่ะ ออเดิร์ฟทะเลปราณ เด๋วมาต่อๆ

*




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 11:33:38 น.
Counter : 811 Pageviews.  

hideaway


post date : 06/03/2006 14:14:37

*


"เพราะสถาปัตยกรรมไม่ได้อยู่บนแผ่นกระดาษ"

เพราะคำพูดประโยคนี้ ทำให้เราต้องไป...








... สมุย











*

ออกจากบ้านตั้งแต่ไก่โห่ ไปแอร์พอร์ท
แบบว่าโชคดีที่บ้านอยู่ใกล้ 10 นาทีถึง สบายไป
ไปถึงเจอพี่กี้มาแล้ว 1 คน เช็คอินแล้วเรียบร้อย
นั่งๆซักพัก เริ่มโทรตามกรรมการ และคณะทำงาน และพี่ตากล้อง กำลังทยอยกันมา
ทยอยๆกันไปเช็ค .. อ่ะ ดีมากค่ะ ทุกท่านเช็คกันเองได้เรียบร้อย หนูไม่ต้องเซอร์วิส
ดูเหมือนจะเรียบร้อยดี แต่ก็ยัง .. กรรมการตกเครื่อง 2 ท่าน
อ่ะนะ
ท่านนึงเพิ่งจะออกจากบ้าน หนูเลยวิ่งไปเช็คให้ก่อน
ส่วนอีกท่านโทรไปเมื่อกี้บอกว่ากำลังจะถึง ข้าเจ้าเลยนอนใจ ลืมนึกไป ว่ามันหมดเวลาเช็คแล้ว

สรุปว่า มาทัน แต่เช็คไม่ทัน
คนที่เช็คทัน ก็มาไม่ทัน
ก็...สแตนบายรอไฟล์ทต่อปาย

ง่า

เครื่องขึ้นพร้อมตะวันขึ้น
เมฆเยอะมาก มองไม่เห็นไรเลย
อากาศแปรปรวนเล็กน้อย เครื่องแกว่งไปแกว่งมา เสียวๆ
เพิ่งจะมาเห็นสีฟ้าของท้องฟ้า ก็ตอนจะถึงสมุยแล้ว

อ่ะ เจอคุณดำรง พุฒตาล บนเครื่อง มาไฟล์ทเดียวกัน และก็รู้สึกจะพักที่เดียวกันด้วย

พนักงานจากโรงแรมมาต้อนรับ รับกระเป๋า รับคนขึ้นรถตู้ไป

นั่งรถผ่านโรงเรียน เป็นเวลาเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี

นั่งรถผ่านดงมะพร้าว ที่รู้สึกว่า เมื่อก่อนสมุยมะพร้าวเยอะกว่านี้ (รึเปล่านะ?) อันนี้รู้สึกแทบไม่ได้ฟิลแบบเก่าๆเลย


รถพามาเทียบที่หน้าลอบบี้ ได้รับการต้อนรับเป็นอันดับแรก ด้วยผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้
เออรีสอร์ทนี้เต็มไปด้วยกลิ่นตะไคร้
เริ่มด้วยทางเข้ารีสอร์ทก็ปลูกตะไคร้ไว้เป็นดง
ตรงร้านอาหารก็ดงตะไคร้อีกเช่นกัน
ผ้าเย็นที่นี่กลิ่นตะไคร้
เครื่องดื่มก่อนอาหารก็เป็นน้ำตะไคร้
ยากันยุงที่จุดก็เป็นกลิ่นตะไคร้
แชมพู เจลอาบน้ำ เป็นกลิ่นตะไคร้
โลชั่นก็เป็นกลิ่นตะไคร้

เออ แต่ก็ดีนะ ไม่มียุงเลย . . อืมม หรือเพราะมันมียุงเยอะ เค้าเลยใช้ทุกอย่างเป็นกลิ่นตะไคร้ทั้งหมดก็ไม่รู้


จากลอบบี้ หลังจาก identify ตนเองแล้ว เราก็จะได้พบกับ butler ของ villa
ที่นี่แต่ละ villa จะมี butler เป็นของตัวเอง
butler ของข้าเจ้าชื่อ คุณปุ้ย
ปุ้ยพาขึ้นไป "Drink on the hill" เป็น bar ข้างบน ที่ๆพวกเราได้รับ welcome drink .. เป็นอะไรก็แล้วแต่จะต้องการ .. ส่วนข้าเจ้า .. ขอมะพร้าว 1 ลูกค่ะ อิ อิ

เจอคุณตา ที่เป็นเมเนเจอร์ และคุณอีริค เข้ามาต้อนรับ

นั่งดื่มอะไรเย็นๆตรง bar ซักพัก ก็เข้าไปดูที่หลับที่นอนกัน ข้าเจ้าพักกับคุณแอน (เป็นที่ปรึกษาฯกรรมการฯครั้งนี้)
อ่อ ก่อนหน้านั้น ข้าเจ้าไปสำรวจห้องน้ำตรง hill มาแล้ว แบบว่า โล่งมากๆค่ะ เข้าไปแรกๆตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย เพราะเวลานั่งส้วมเนี่ย มันไม่มีผนังข้างหน้า (แบบว่าโล้งโล่ง 5555) อ่ะ โล่งโจ้ง แต่ไม่โป๊นะคะ

ห้องเห็นวิวทิศตะวันออก
ห้องนอนมีมุ้งด้วย ถ้าไม่เปิดแอร์จะนอนกางมุ้งก็น่าจะดี (สังหรณ์ว่ายุงเยอะ)
สำรวจๆในห้อง
มี welcome note เขียนด้วยลายมือจาก M.D. คุณอีริค วางมาในถาดผลไม้ในห้อง
มี welcome letter จากโรงแรม
มี note จาก "your butler" บอกให้เรียกใช้ได้ พร้อมแนะนำบริการต่างๆ (มีเมนูหมอนให้เลือกด้วยนะ ว่าต้องการหรืออยากได้หมอนแบบไหน .. หมอนขนนก หมอนกลิ่นกุหลาบ ... ฯลฯ)
ที่นี่ เราสามารถเรียกใช้ butler ได้ตลอด โดยสามารถยกหูสายตรงเข้ามือถือ butler ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ทุกอย่างที่พูดถึงมานี่ "เฉพาะเจาะจง" ชนิดที่ว่า ระบุชื่อเป็นรายบุคคล

อ่ะนะ ของง่ายๆที่ทำให้ใครต่อใครรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ความจริงมันก็แค่รายละเอียดเล็กน้อย แต่มันได้ความรู้สึกนั้นล่ะ ว่าเป็นคนสำคัญ

อันนี้ไม่รู้ว่าเฉพาะแขกวีไอพีหรือเปล่า แต่เราว่าทางโรงแรมเค้าทำเรื่องทำนองนี้กะแขกทุกคนที่มาพักที่นี่เลยล่ะ

อ่ะค่ะ เป็น VIP guest

อ่ะ มาที่นี่เหมือนไม่ได้อยู่เมืองไทย เพราะ "ทุกอย่าง" เป็นภาษาอังกฤษ

สำรวจต่อ
เปิดตู้เปิดลิ้นชัก
มีชาหลากหลายชนิด มีหม้อต้มน้ำ มีกาสำหรับชงชาด้วย อ่ะนะ ถ้าไม่พลาดจะลอง
แล้วก็มินิบาร์ เหมือนทั่วๆไป (แต่ราคานี่ไม่รู้ ^^!)

อ๊ะ มีถุงทะเล หรือกระเป๋า หรือตะกร้า ..อ่ะ แล้วแต่จะเรียก.. เอาไปใช้ได้ หิ้วไปไหนต่อไหนในรีสอร์ทนี่
ใส่ของลงหาด .. หิ้วไปสระว่ายน้ำ










อ๊ายยย ที่กรี๊ดคือ มีสระว่ายน้ำส่วนตัว
ห้องพักข้าเจ้าเป็น type "Pool Villa"
เหะๆ ออกนอกหน้ามาก .. แบบว่า มาทำงานนะคะ มาทำงาน ท่องไว้ๆ
อ่ะ ตอนจัดของก่อนมา คิดๆอยู่ว่าจะเอาชุดว่ายน้ำมาด้วยดีไหม เพราะมาแค่ 1 คืน แล้วก็มาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยว .. แต่.. คิดไปคิดมา ไม่หนักหนาอะไร ไปทะเล ไม่ว่าจะไปด้วยจุดประสงค์อะไร สิ่งที่น่าจะมีติดไปคือ .. ชุดว่ายน้ำ .. เอาติดกระเป๋าไปก่อน ไม่ได้ใช้ไม่เป็นไร .. อิ อิ

สำรวจห้องกันจนเป็นที่พอใจ ก็มารวมพลกันที่บาร์ รอกรรมการอีกสองท่าน ที่จับเครื่องมาได้ในไฟล์ทต่อไป

มาเจอเมเนเจอร์ที่จะคอยเทคแคร์พวกเรา ชื่อคุณตา คอยพานำชมสถานที่
เดินไปดูสปา ดู facilities ต่างๆ อ่อ ไปดูห้องเก็บไวน์ด้วย...

ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว กลับมาที่บาร์ ได้ผ้าเย็น (แน่นอนว่าเป็นกลิ่นตะไคร้) และน้ำเย็นๆ ระหว่างคอยเซทโต๊ะอาหาร

ที่โต๊ะอาหาร กรรมการอีกท่านที่บินมาจากเชียงใหม่ มาถึงพอดี
ออเดิร์ฟกันด้วยน้ำตะไคร้เย็นๆ แก้วจิ๋วๆน่ารักๆ
อุปกรณ์ ถ้วย จาน ชาม แก้ว ที่รองแก้ว ช้อน ส้อม มีด ของที่นี่ เค้าจะมีดีไซน์เป็นของตัวเอง ถ้าชอบใจสามารถหาซื้อได้ที่ gallery
อ่ะ ที่ข้าเจ้าชอบมั่กๆ คือที่เช็ดเท้ารูปน้องเม่น น่าร้ากกก

รองท้องก่อนอาหารด้วยขนมปัง มาเป็นเข่ง (เข่งจริงๆนะ) พร้อม dipping 3 อย่าง

อาหารกลางวันสั่งแบบเรียบง่ายฮ่ะ เพราะมาทำงานๆๆๆ
ข้าวผัดปู
ต้มยำทะเล
ไก่ห่อตะไคร้
ปอเปี๊ยะผัก
ไข่เจียว
แกงจืด

อ่ะค่ะ เมนูไทยๆพื้นบ้าน

ตอนบ่ายเดินชม villa กันต่อ แล้วก็ชี้จุดที่จะให้พี่ตากล้องเค้าถ่ายภาพ ถ่ายวีดิโอ กันไป

แอบติดรถกอล์ฟมาลงที่ villa นอนเล่นซักพัก นอนแล้วชักเคลิ้ม เพราะลมเย็นจนเคลิ้มเลย .. อ่ะ แต่ไม่ปล่อยให้เคลิ้มนาน เด๋วจะหลับไปจริงๆ ..(พี่แอนออกมานอนที่ระเบียง .. หลับไปแล้ว) .. เลยออกมากะว่าจะไปเดินเล่น หาทางลงไปหาด (เห็นป้ายอยู่แว๊บๆ) พอจะออกจาก villa ปุ๊บ ฝนลงเม็ดปั๊บ.. อ่ะนะ .. แต่แค่ฝน จะกลัวไร เดินไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจอทางลงหาดแล้ว ปีนลง .. เอาเท้าไปแตะทรายแตะน้ำซักพัก .. อ่ะ โดนคลื่นเข้าโครมนึง .. เปียกเป็นที่สะใจ แล้วปีนขึ้น

ได้เวลานัดหมายที่บาร์(อีกแล้ว)

ที่นี่เค้าจะมี "ค็อกเทลปาร์ตี้" กันตอนห้าโมงกว่าๆ ตรงระเบียงที่เรียกว่า "Chill on the Hill" เป็นที่ๆจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกน้ำ

แบบว่า หิ้วเบาะ หิ้วเก้าอี้ แล้วก็จะไปนั่ง "ตรงไหนก็ได้"

ก็จะเป็นการรวมแขกที่มาพัก, เมเนเจอร์, M.D., และ butler มานั่งพูดคุยกัน
"เป็นยังไงบ้างคะ" "มีปัญหาอะไรไหมคะ" .. "สนุกไหมครับ" .. บลา บลา บลา .. อะไรทำนองนี้
ประมาณว่าเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีระหว่างแขก กับโรงแรม



*
แดดร่ม ลมตก
move ไปที่ "On the Rock"

ไปดูแสงสีของ lighting
ไป "dining on the rock"


บรรยากาศดี ลมดี

ทุกคนเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ (มีกล้องไปกันทุกคนเลย)

รู้สึกว่า เป็นมื้อที่หรูหรามาก
หรูหราแบบ cozy นะ .. หรูแต่สบาย
บรรยากาศที่นี่จะเป็นแบบนี้ตลอด หรูแบบน่ารักๆ สบายๆ

เริ่มเสิร์ฟ ทุ่มนึง..

เครื่องดื่มก่อนอาหาร เป็นน้ำแตงกวาเย็น .. ชื่นใจดี แต่กลิ่นแตงกว๊า แตงกวา .. อ่ะ นึกถึงหน้าพี่กุ๊กเลยล่ะตอนนี้ 555




แล้วก็ตามมาด้วยขนมปังแบบเดิม แต่คราวนี้เสิร์ฟมาในตะกร้า และมีซอสที่ไม่เหมือนเมื่อกลางวัน

รองท้องด้วย .. อ่ะ ไม่รู้มันเรียกไร ไปดูเองในเมนูข้างล่างนะคะ.. รู้แค่ว่ากินไรเข้าไป กั่กๆๆ




เป็นหอยนางรมตัวขนาดพอเหมาะ สดๆ เย็นๆ เสิร์ฟมาในเปลือกของตัวมันเองที่เปิดฝาแล้ว ... อ่า กินแล้วสดชื่นนนนนนมากกกกก
แล้วก็ปลาไรซักอย่างย่างหอมๆ วางบนผักอร่อยๆ


ซุป เป็นซุปไก่ ใส่มะพร้าวกะทิ เข้มข้นมาก.. เสิร์ฟมาในแก้วคาปูชิโน อ่ะ ทีแรกคิดว่าเค้าเสิร์ฟกาแฟ กั่กๆๆ



ซุปนี่รสชาดเหมือนต้มข่าไก่..ประมาณนั้น


จานหลักมีสองอย่างให้เลือก เนื้อ หรือ ปลา
หนูเลือกปลา เพราะว่า แอบดูเมนูแล้ว จานปลามีหอยเชลล์ กะเห็ด
หอยตัวโต และอร่อยมากกกก



เห็ดก็อร่อย
ผักก็อร่อย
ปลาก็อร่อย
สรุปว่า อร่อยหมดทุกอย่าง เพราะของสดจริงๆ

เสียดาย โต๊ะอาหารมืดไปหน่อย จะมองไม่ค่อยเห็นอาหาร แบบว่า ถ้ามองเห็นมากกว่านี้มันจะได้บรรยากาศกว่าอ่ะ จะได้เห็นจานที่จัดวางมาอย่างประณีตน่ารัก ได้เห็นสีสันของอาหาร อ่ะ นี่เห็นแบบรางๆ เดาๆเอา 555

เออ บนนี้ลมเย็นมาก ลมแรงมาก ลมเย็นจนหนาว จนคุณตาต้องไปหาผ้ามาให้ห่ม อ่ะค่ะ ดูแลกันดีมั่กๆ

ระหว่างนี้ คุณอีริค เดินมาคุยด้วย
อ่ะ มีคุณเชฟเดินมาคุย ง่ะ อร่อยค่ะอร่อย แต่ไม่ต้องมาคุยกะหนู~~~


ของหวาน.. คุณพี่เชฟของหวานเดินมาเสิร์ฟเองเรย
เป็นไอติมเชอร์เบทกะมูสกาแฟ เสิร์ฟมาในกล่องทำจากชอกโกแลต มีตังเมเสียบมาพองาม
เสิร์ฟพร้อมกะเค้กชิ้นเล็กๆ เป็นชอกโกแลตแบบ โค่ดจะ dark อ่ะ ขมแต่อร่อยสุดๆ


อ่อ มิสเตอร์บุยตามมาทีหลัง เลยยังอยู่ที่ on the rock อีกซักพัก

สี่ทุ่มแล้ว..move...

ไปถ่ายรูป night shot

แล้วก็กลับ villa

อาบน้ำไป ดูฟ้าดูดาวไป หนูมีความสุขจัง

คืนนี้หลับสบ๊าย .. สบาย ..





*

ตื่นมาเจ็ดโมงเช้า (ที่จริงตื่นตั้งแต่หกโมงครึ่ง แล้วนอนต่อ) เออนะ ไปทำงานไม่เคยตื่น พอมาทะเลล่ะตื่นเช้าได้

เมื่อคืนกะว่าพอทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จแล้ว จะไปว่ายน้ำใต้แสงดาว แหมๆ พูดซะดูดี .. แต่ในที่สุดก็เหนื่อยเกินจะทำไรนอกจากอาบน้ำแล้วนอน

เช้านี้เลยต้องลงน้ำซะหน่อย เค้าอุตส่าห์มีสระส่วนตัวให้ในบ้าน แช่ได้ตามสบาย
ลอยอืดไปอืดมาอยู่เกือบชั่วโมง เริ่มหนาว
เลยเดินลงไปหาด.. แต่ปรากฎว่า ลืมหยิบกล้องไปด้วย .. เดินเล่นๆอยู่เห็นภาพที่อยากเก็บ เลยต้องปีนขึ้นเขาลงเขาอีกรอบ แฮ่กๆ ออกกำลังแต่เช้า
ถ่ายรูปเสร็จกลับมาอาบน้ำ แล้วไปกินอาหารเช้า
เป็นบุฟเฟ่ต์แหละ
แต่รู้สึกไม่ค่อยอยากกินไร
กินแค่ น้ำส้ม กาแฟ สลัดมะเขือเทศ วาฟเฟิลใส่กล้วยราดชอคโกแลต และก็หนมปังบลูเบอรี่อีกก้อน

นั่งชมวิวทะเลตอนเช้าไป กินไป

นึกขึ้นได้ วันนี้วันหมั้นฮะ เลยโทรไปเซย์ฮัลโหล
อ่ะ แปลกดีนะ ตอนกดโทรศัพท์นี่รู้สึกอยากคุยไรเยอะแยะเลย แต่พอได้พูดเข้าจริงๆ กลับไม่มีเรื่องจะคุย เหะๆๆ



สายๆนั่งรอรถมารับไปดูอีกโรงแรมนึง
จากนั่งรอ เป็นเดินเล่นรอ .. เป็นเดินถ่ายรูปรอ
ไปดูอีกโรงแรม อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ชื่อ ศาลา สมุย
เดินๆ ถ่ายรูปๆ แล้วก็นั่งรอรถ ตรงลอบบี้
มีคุณเมเนเจอร์ให้เอาน้ำมาเสิร์ฟ.. อ่ะคะ เป็นชาตะไคร้ เย็นๆชื่นใจ
อ่ะ ตะไคร้อีกแล้ว..(เค้าบอก เจ้าของเค้าเป็นพี่เป็นน้องกัน)



*
อ๊ะ ยังไม่ได้บอกใช่ไหม ว่าข้าเจ้าพักที่ไหน

SILA EVASON HIDEAWAY & SPA AT SAMUI

เป็นโรงแรมในเครือของ six senses


ตอนจะกลับ ทางโรงแรมให้โปรชัวร์ของโรงแรมในเครือมาอีกแฟ้มย่อมๆ ดูๆแล้วน่าไปทุกที่เลย
ง่ะ แต่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆอย่างเรา คงไม่มีปัญญาล่ะค่ะ

แค่ค่าห้องพักที่นอนนี่หนึ่งคืน ก็เป็นเงินเดือนข้าน้อยสองเดือนรวมกันแร้น




























"Chill on the Hill"






ห้องนอนข้าเจ้าเห็นวิวนี้




ห้องน้ำ .. เปิดโล่งงงงง






ห้องอาบน้ำ

อาบแล้วมองเห็นท้องฟ้า







welcome note เขียนด้วยลายมือจากคุณอีริค MD
สำหรับ VIP guest





ข้าเจ้าพักห้อง pool villa มีสระว่ายน้ำใน villa ด้วย







สระว่ายน้ำ

infinity pool











น้ำตะไคร้




"on the rock"







cocktail party ตอนพระอาทิตย์ตก กะค็อคเทลชื่อเรียกยาก จำมะได้




main restaurant (on the hill)




มีเรือสำเภาแล่นมาเป็น prop




"Dining on the Rock"





เมนู คืนนี้
















ชอบเก้าอี้ชิงช้านี่มากเรย อยากมีที่บ้าน




villa บนเขา






ชอบอันนี้มาก ^__^






อ่ะ to be continue . . .




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2549    
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 11:07:02 น.
Counter : 1070 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

perfect blue
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




A r e . . y o u . . f e e l i n g . . f i n e ?






流れてゆく 星の涙を 数えながら

揺れる時をわたって

唇の傍で 僕の眼の前に 晒されだした

全ての愛で lost yourself in happiness

.

Changing, nothing gonna changing

彷徨い巡る 季節に 惑わされて

縋る この血が今縋るものに 身を委ねてみよう

.

BGM :

twinkle, twinkle : L'Arc-en-Ciel










© สงวนลิขสิทธิ์ .. นะจ๊ะ ..
เหอ เหอ เหอ


littledevilxxx © 1999 - 2022 All Rights Reserved.


งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

*
New Comments
Friends' blogs
[Add perfect blue's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.