หลวงพระบาง 070208 : : วังเชียงแก้ว
*ทริปนี้พักที่เดอะแกรนด์หลวงพระบาง ที่นี่เดิมเป็นวังเก่าของเจ้าฟ้าเพ็ชราช(เขียนยังงี้รึเปล่าไม่รู้อ่ะค่ะ เด๋วขอไปค้นข้อมูลมาก่อนนะ แล้วจะมาแก้ไข) ชื่อวังเชียงแก้ว แต่ในส่วนของโรงแรมที่พักเป็นส่วนที่สร้างใหม่นะเจ้าคะที่นี่อยู่ตรงเวิ้งที่(เค้าว่า)มองเห็นวิวแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง มองจากระเบียงห้องพักไปก็จะเห็นแม่น้ำโขง และก็ ถ้าไปนั่งเงียบๆริมโขงก็จะได้ยินเสียงน้ำไหล ฟังแล้วจิตใจสงบมากเลยเช็คอินกันก่อนค่ะ จัดการสัมภาระใส่ห้องแล้วก็ออกมาเดินถ่ายรูปเล่นทั่วโรงแรมเลย เพราะยังมีเวลาเหลือเฟือกว่าจะถึงเวลานัดหมายกันออกไปวัดเชียงทอง ตอนนี้ก็จะเห็นชาวคณะแบกกล้องเดินร่อนกันทั่วโรงแรมเลย 555 แบบว่า ถ่ายกันทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียว ยังกะมาทริปโฟโต้ยังไงยังงั้นเดินไปเรื่อยๆก็เลยเดินเข้าไปในตัววังเก่าซะเลย
หลวงพระบาง 070208 : : สะบายดี หลวงพระบาง
.ลาพักร้อนไปเที่ยวมาตั้งแต่ต้นปี จนนี่ก็กลางปีเข้าไปแล้ว เอิ๊กกก กว่าจะมาอัพ แถมช่วงหลังๆมานี่ไม่ค่อยได้บันทึกอะไรเป็นเรื่องเป็นราว อาศัยว่าอัพไดอัพบล็อคเอา แต่ไม่เคยทิ้งขว้างไว้จนเนิ่นนานปานนี้ ก็เลยเบลอๆไปเยอะแล้วเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ดีเรย .. แบบว่า มั่นใจในความทรงจำของตัวเองมาก เหอๆๆเพราะไม่คิดว่ามันจะล่วงมาจนป่านนี้อ่ะเส่ะ -"-ไปแบบเดี่ยวๆเลยนะ ไม่ชวนใครเลย แบบว่าช่วงนั้นอยากพักจริงๆ.. แต่ก็ไม่ได้ไปคนเดียวหรอกนะ คนร่วมทริปนี้ประมาณสามสิบคนได้ แต่ข้าน้อย"ไปคนเดียว" ไว้ค่อยไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า อุ อุก่อนไป .. ตั้งโปรแกรมไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ก็ไปซื้อพวกหนังสือมาอ่าน เดินๆหาไปบนชั้นหนังสือก็เจอ"คู่มือนำเที่ยวหลวงพระบาง"ของ"นายรอบรู้"ของสำนักพิมพ์สารคดี อยู่เล่มเดียวที่เป็นภาษาไทย เออ เดินหามากี่ร้านก็มีเล่มนี้เล่มเดียวจริงๆแฮะ ก็เลยซื้อมาอ่านเล่นๆ (ไม่ซื้อ guide book ภาษาอังกฤษอ่ะ เพราะไม่ได้ต้องการฟิล "exotic" แบบชาวตะวันตก) อ่านดูคร่าวๆแล้วก็คั่นๆเอาไว้ แล้วก็ทิ้งมันไว้จนวันเดินทาง ก็ยังไม่ได้อ่านละเอียดๆอีกเลย ก๊ากก แล้วจะซื้อมาทำมายยยเนี่ยยย ...วันเดินทางไปถึงสุวรรณภูมิแต่เช้า เจอพี่โตมาพร้อมๆกันเลย เลยฝากกระเป๋ากะพี่โตเอาไว้ แล้วลงมาหาอะไรกิน ขึ้นมาอีกที ชาวคณะมากันเกือบครบแล้วคุณแจ๊คเจ้าของทัวร์แนะนำไกด์ของทริปนี้ คือ คุณธีรภาพ โลหิตกุล และคุณศรัณย์ บุญประเสริฐ (นายรอบรู้ ที่เขียนหนังสือเที่ยวหลวงพระบางที่ข้าน้อยซื้อมานั่นแหละ) โอว ดีมากเลยอ่ะ ไม่ต้องอ่านหนังสือแร้น อิ อิ ..ส่วนคุณจิระนันท์ พิตรปรีชา ที่ตอนแรกว่าจะมาด้วยก็มีธุระด่วนไม่สามารถมาเป็นวิทยากรด้วยได้ตามโปรแกรม ..ซึ่งอันนี้รู้ตั้งแต่วันประชุมทัวร์แล้วแหละนะ.. แต่คุณจิระนันท์ ฝากหนังสือมาแจกคณะทัวร์ด้วย อย่างมีประโยชน์มากๆ ตอนทัวร์นี่กางหนังสือแล้วเดินเล่นในเมืองหลวงพระบางจะเพลินมากเลย .. อ่อ อ่านเล่นตอนรอเช็คอินก็เพลินดี .. ชาวคณะที่ส่วนใหญ่เป็นสถาปนิกอยู่แล้ว ก็อ่านกันเพลินไปแล้วก็เจอหน้าเจอตาบัดดี้ที่ต้องนอนร่วมห้องกันตลอดทริปแล้ว คือพี่วิมลศรี กะหนูแวว (หนูแววน่าร้ากกกมาก) ไปขึ้นเครื่องๆ ที่ได้รับการอธิบายว่า ไปหลวงพระบางต้องใช้เครื่องบินเล็ก แบบใบพัด .. อ่าประมาณนี้ เรียกไม่ถูกอ่ะ เค้าบอกว่าชาวหลวงพระบางไม่อนุญาตให้นำเครื่องไอพ่นลงจอดที่สนามบิน เพราะเครื่องแบบนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายแก่อาคาร แบบว่ากระเบื้องปลิว ได้ .. เออ น่ารักดีอ่ะ คนที่นี่น่ารักตรงที่ว่าเค้าใช้สิทธิในการรักษาปกป้องบ้าน ปกป้องเมืองที่ตัวเองอยู่ได้ด้วยการรวมพลังกันขึ้นมาเรียกร้องอะไรแบบนี้ถึงสนามบินหลวงพระบางก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี .. ผ่านพิธีการต้อนรับจากทางโน้นอย่างไม่เป็นทางการซักเล็กน้อย ชักภาพหมู่แล้วก็แยกย้ายกันขึ้นรถแน่นอนว่า ที่นี่จำกัดขนาดของรถที่ใช้วิ่งในตัวเมือง รถที่ใช้จะต้องไม่เกิน 20 ที่นั่ง(ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วก็มีแนวโน้มว่า จะลดขนาดรถลงอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า (อันนี้ทางไกด์ลาวบอกมา)พูดถึงไกด์ทางฝั่งลาว เธอน่ารักมากเลย ในรถคันที่เรานั่ง(ทั้งคณะใช้รถ 2 คัน) ไกด์ชื่อคุณสุจิตรา(ถ้าจำผิดก็อภัย เพราะมันเลือนๆไปเยอะแล้วง่ะ) รถแต่ละคันจะมีไกด์ลาว 1 ท่าน กะไกด์ไทย 1 ท่าน ซึ่งรถคันของเราเป็นคุณสุจิตรา กับคุณธีรภาพก็บรรยายกันไป ... คุณสุจิตราเป็นไกด์ที่มีความรู้ดีมาก ในทุกแง่เลย ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ฯลฯ เธอเล่าได้เป็นเรื่องๆ แถมยังเอนเตอร์เทนเก่งอีกตะหาก ที่สำคัญเรื่องไหนเป็นเรื่องใหม่ที่เธอไม่รู้ เธอก็ขวนขวายหาความรู้เพิ่มอยู่เรื่อยๆเสมอ เช่นเวลาคุณธีรภาพมีเกร็ดหรือรูปภาพหรือหนังสืออะไรที่มีข้อมูลที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน เธอก็รีบขอดูข้อมูลด้วยความสนใจตลอด น่านับถือมากๆ .. อ่อ ไกด์ลาว แต่พูดไทยชัดมากนะคะ นั่งฟังไกด์เล่าอะไรเพลินๆมาเรื่อย .. แล้วก็ถึงร้านที่เราจะมากินข้าวมื้อแรกกันที่หลวงพระบาง ชื่อ"ร้านตำหนักลาว" .. ร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่คุณธีรภาพเปรียบเปรยว่าเป็น "พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ"อาหารมื้อนี้ เป็นอาหารหลวงพระบางล้วนๆ .. แต่น่าเขกหัวตัวเองนัก ที่จำชื่อมันไม่ได้เลย(ไม่ได้จดนิ)จำได้เลาๆว่าเยอะมาก ประกอบไปด้วยสลัดหลวงพระบางแจ่วหมากเลน (น้ำพริกผักจิ้มอ่ะ คล้ายๆน้ำพริกหนุ่ม)แกงจืด.. แล้วก็มีแกงไม่จืดอีกอย่าง ^^ เรียกไม่ถูกปลาทอด(อร่อยมาก)แล้วก็มีอะไรอีกซักอย่างสองอย่างไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาเลย เพราะเกรงใจ กั่กๆๆ แบบว่าผู้ใหญ่เยอะ หนูเกรงจายยยยสุดท้ายเป็นขนม .. จริงๆอิ่มจนไม่อยากกินไรอีกแล้ว แต่เห็นว่าขนมแปลกๆดี เลยขอลอง เค้าเรียกอะไรก็จำไม่ได้แล้วอ่ะ อุตส่าห์ถามพี่คนขับรถ(ชาวลาว)มาซะดิบดี ...
เชียงใหม่ 070129 : : ZOO
. มาอัพต่อ หลังจากที่ห่างหายไปนาน เหอ เหอ เหอ นานมากกก จนเกือบลืมไปซะแล้วเที่ยวเชียงใหม่อีกหนึ่งวันก่อนกลับไปสวนสัตว์ เป้าหมายคือน้องแพนด้า ไปเชียงใหม่มาตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็ยังไม่เคยแวะสวนสัตว์ซักที คราวนี้แหละ ได้โอกาสเข้าไปถึงก็โก๊ะกันตั้งแต่ประตูทางเข้ากันเลยทีเดียว 555 หนูยื่นหน้าไปถามว่า "จอดรถตรงไหนอ่ะคะ" คุณเจ้าหน้าที่ตอบว่า ขับรถเข้าไปเลยค่ะ เออเพิ่งรู้เลยนะเนี่ย ไม่คิดว่าที่มันจะกว้างขนาดนี้ แถมขึ้นเนินลงเนิน ถ้าไม่มีรถล่ะก็ตายแน่ๆเข้าไปถึงแวะดูคุณยีราฟก่อนเลย คุณยีราฟลิ้นยาวมั่กๆอ่ะค่ะ แถมตอนให้อาหารนี่ก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้พอประมาณ คือคนให้อาหารอ่ะกรี๊ด เพราะแบบว่าใกล้มาก ใกล้จนน่ากลัวเกินไปแร้ววว >< ส่วนข้าน้อยก็กรี๊ดไปหัวเราะไป แบบว่าท้องคัดท้องแข็ง (ขำคนให้อาหารก็ขำ กลัวยีราฟก็กลัว) แต่แบบว่าถือว่าเป็นคนถือกล้องเลยทำฟอร์ม 555 อยู่ห่างๆไว้ เด๋วภาพไม่สวยเดินมาเรื่อยถึงส่วนของคุณนกกระจอกเทศ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็อยู่รั้วเดียวกันกะคุณยีราฟอ่ะแหละนะคะเหมือนจะเป็นไข่?แล้วก็ขึ้นรถต่อไป drop ตรงแพนด้า ซื้อบัตรเรียบร้อย แต่คุณเจ้าหน้าที่บอกว่าน้องแพนด้าหลับอยู่ ไปเดินดูอะไรอย่างอื่นก่อนไม๊คะ มีหมีโคอาล่าด้วยนะคะ ว่าแล้วหลังจากถามไถ่ก็ได้ความว่าน้องโคอาล่าอยู่เหนือขึ้นไป โดยคุณเจ้าหน้าที่บอกว่า 300 เมตรเองค่ะ เดินได้ .. อ่ะ เดินได้ก็เดิน .. แต่แบบว่าทางชันอ่ะนะ เป็นเนินๆย่อมๆ แต่ก็เหนื่อยเอาการ เดินมาได้ไกลซักพักก็ยังไม่มีวี่แววกรงโคอาล่าเลยถ่ายรูปกะป้ายสวนสัตว์เชียงใหม่(ลิบๆโน่น)ให้คุณน้องไว้เป็นที่ระลึก 555 ที่เดินมานี่มารู้ทีหลังว่าครึ่งทางเองนะเคอะ แล้วแม่ก็โทรมาเรียกว่า น้องแพนด้าตื่นแล้ว ก็เลยเดินกลับลงมาหมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีหมีแพนด้า...คุณช่วงช่วงเธอตื่นอยู่ตัวเดียว ตื่นมา แล้วก็เดินๆ แล้วก็มานั่งจุมปุ๊ก เวลาเธอขยับตัวทีนึง คนก็เฮกันที กั่กๆๆ คุณยามเค้าเลยต้องชูป้ายเป็นระยะๆส่วนน้องหลินฮุ่ยเธอหลับตลอด -"-แต่ก็ยังดีที่เดินออกมาหลับโชว์ ก๊ากกกก ขนาดหลับยังน่ารักคนดูหมี..แล้วก็เจ้าโคอาล่า นี่มี 3 ตัวมั๊ง อันนี้หลับกันทุกตัว กั่กๆๆตื่นแว้ววววเดินมาหากันแบบงัวเงีย แล้วเธอก็หลับกันไปอีกรอบ ก๊ากกก
เชียงใหม่ 070128 : : Royal Flora - part IV
*เดินออกมาจากดงกล้วยไม้ แล้วก็จะมาเจอลานต้นโพธิ์ฯตอนนี้ชาวคณะเหนื่อย และเมื่อยขากันแล้ว สังเกตได้จากที่นั่งพักกันไม่ยอมลุกเมื่อตะกี้ ถึงแม้ข้าน้อยยังบ้าพลังอยากเดินอีก แต่แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว ก็เลยไปเดินเล่นกันต่ออีกหน่อยในอาคารนิทรรศการในร่มมีทิวลิปสวยๆ สดๆ เต่งๆซากุระอันนี้ดอกไรจำชื่อมะได้อ่ะ ^^แมวหิน แกะจากหินสบู่ ของเคนย่า มีขายมากมาย นอกจากแมวยังมีตัวอื่นอีกเยอะแยะ อย่างเช่น เสือ ม้า ช้าง ยีราฟ ประมาณนั้น แต่ข้าน้อยไม่ได้ซื้อไรเลย 55 มีแต่คุณน้องที่ได้ม้าลายสารพัดชนิดกลับมาเพียบ แล้วก็ทั่นแม่ได้เข็มขัดหนังอูฐเอากลับไปเป็นของฝากให้สปอนเซอร์ อุ อุดอกไรไม่รู้ รู้แต่ว่าน่ารักดีอันนี้เดินมาอีกตึกนึงแล้ว เจอกุหลาบดอกใหญ่โค่ดๆ ใหญ่เท่าหน้าเลย จริงๆพยายามเอาคุณน้องไปเทียบสเกลแล้วนะ แต่มันไม่เวิร์ค เพราะเค้ากั้นคอกให้คุณกุหลาบยักษ์เอาไว้ ไม่สามารถเอาหน้าหรืออวัยวะใดเข้าไปใกล้ได้ ก็เลยไม่ต้องเทียบสเกลแล้วกัน คิดเอาว่าดอกใหญ่ขนาดหน้าคนนี่เปงยังไง เหอ เหอ เหอบอนไซกระถางนี้สวยมากๆๆ เสียดายถ่ายรูปมาไม่ค่อยเห็นฟอร์มมันชัดเท่าไหร่ แบบว่าแบคกราวไม่ดี อาคารนี้เต็มไปด้วยบอนไซ แต่น่าสงสารตรงที่ บางกระถางใบร่วงเกือบหมดแล้วอ่ะ คาดว่าอยู่ในร่มนานเกินไป เลยไม่ได้รับลมรับแดด เศร้าเรยอันนี้ชื่อไรจำไม่ได้ เป็นบอนไซเหมือนกัน กระถางนี้มาจากประเทศจีนสวนห้องน้ำก็ไม่ได้แปลกใหม่ ถ้าเคยไปเดินพวกงานบ้าน,งานสถาปนิก คงเห็นกันเยอะแล้ว ไม่แปลกๆ แต่นี่เค้าจัดน่ารักดี เลยถ่ายรูปมาเก็บไว้ เผื่อเป็นไอเดียแต่งห้องน้ำกลางแจ้งได้ เหอ เหอ เหอ หมดจากอาคารนิทรรศการในร่มแล้วก็หาทางเดินออกกันแล้วค่ะ เดินมาเรื่อยก็จะเจอฝูงชนที่หาทางออกเหมือนๆกัน ทางออกคนแน่นมาก เพราะเดินกันแบบช้าๆด้วยแหละ ด้วยว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีตลาดต้นไม้ด้วยและแน่นอนว่าต้องมีซุ้มนี้เดินมาจนถึงทางออกแล้ว ถ้ายังเป็นประเภทไม่แน่ใจในตัวเอง ว่าอาจจะอยากเข้ามาอีกรอบ ก็เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ แล้วยื่นแขนให้เค้าไป ก็จะได้สิ่งนี้(โอวว.. ขนแขนเยอะมั่กๆ 555 แต่นี่ไม่ใช่แขนข้าเจ้าแน่นอน 5555)จากทางออก เดินมาอีกไกลโขอยู่เหมือนกัน กว่าจะมาถึงที่รอรถตอนเช้า รอไปรอมาก็ปรากฏว่าต้องเดินไปรออีกที่ อันนี้ต้องยกความดีให้กับผู้ร่วมจอดรถที่เดียวกัน(คณะอื่น) ที่เอะใจว่ารอนานแล้วทำไมรถไม่มารับซักที แล้วโทรไปถามขาเข้าส่งฟรี ขากลับคิดคนละ 5 บาท เอิ๊กกกกก ไม่เปงไรค่ะ ยังไงก็ต้องกลับ กั่กๆๆๆกลับมากินข้าวที่โรงแรม แล้วกะว่าขึ้นไปล้างหน้าล้างตา นอนพักขากันซักพัก แล้วจะไปเดินถนนคนเดินต่อ เพราะคุณน้องอยากได้รองเท้าแม้วที่เล็งไว้เมื่อวาน (วันนี้เพิ่งจะตัดสินใจได้ ว่าอยากได้)แยกย้ายเข้าห้อง เปิดทีวีดู เลยนอนดู Bee Season ไปจนจบเลย (จริงๆตอนนั้นไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับมาแล้วถึงเพิ่งมารู้ ก็เลยไปหามาดูอีกรอบ เพราะไม่ได้ดูตั้งแต่ต้นๆเรื่อง อ่านะ จิงๆแล้วก็เกือบๆอ่ะแหละ แต่ข้าน้อยโรคจิตมันรู้สึกว่าไม่สมบูรณ์ยังไงไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูหนังตั้งแต่ต้นเรื่อง ง่ะ..^^)ไปๆมาๆ ปรากฎว่าก็ไม่ได้ออกไปไหน เพราะต่างคนต่างก็คิดว่าอีกห้องหลับกันไปแล้ว เอ่อ .. นะ .. ไม่มีการโทรตามกันใดๆทั้งสิ้น 555 (จริงๆแล้วแอบอยากดูหนังให้จบนั่นเอง)...
เชียงใหม่ 070128 : : Royal Flora - part III
*กินข้าวเสร็จ ก็เดินย้อนกลับมา ผ่านสวนบอนไซ เลยแวะเข้าไปเดินดูและนั่งเล่น เพราะเค้ามีม้านั่งและร่มกางไว้ให้ จริงๆแล้วไม่ต้องการร่มหรอกนะวันนี้เพราะแดดไม่มีเลย แต่บรรยากาศมันน่านั่งดี ถึงแม้จะเพิ่งนั่งมาจากร้านอาหารและเพิ่งจะเดินมาแค่ไม่กี่ก้าวก็ตาม 555 นั่งอยู่กะน้อง ส่วนแม่กะน้าเดินไปดูสวนไม้หอมที่อยู่ใกล้ๆกันนั้น อ่ะ ข้าเจ้านึกว่ามีแค่สวนบอนไซ เลยไม่ได้เดินไปดูข้างหลังว่ามีไรมั่ง แม่เดินมาบอกว่าหอมมมมมมมมมแล้วก็เดินต่อมาในส่วนที่ผลาญเมมกล้องได้มากที่สุดในทริปนี้ นั่นคือ อาคารกล้วยไม้ . . โอว สวยมากๆๆๆๆ ค่ะ ขนาดข้าเจ้าไม่ได้บ้ากล้วยไม้ ยังกดชัตเตอร์ไม่ยั้ง สวยจริงๆ ชอบจริงๆ ถ่ายกล้วยไม้นี่เพลินมั่กๆง่ะ แปะรูปโล่ดค่ะเริ่มจากในอาคารที่เอากล้วยไม้ที่ชนะการประกวดมา แม่บอก..คราวที่แล้วที่มาดูยังไม่มีส่วนนี้ มิน่า สวยๆทั้งนั้นรูปนี้ให้ฟิลเหมือน snowdrop เลยอ่ะ น่าร้ากเดินมาอีกอาคารนึง อันนี้เป็นจัดสวนกล้วยไม้ ก็เริ่มโทรมๆแล้วล่ะ เพราะจัดมานาน แต่ก็ยังสวยอยู่ดีรองเท้านารีสุดโปรดของหนู >_<กล้วยไม้ขาว สวยมากๆ ตรงนี้คนมาถ่ายรูปเยอะเหมือนกัน เป็นส่วนของสวนป่า (มั๊ง) จะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังอาคารแสดงกล้วยไม้หายาก ซึ่งเป็นอาคารปรับอากาศ .. เออ ถ้ามาวันอากาศร้อน มีหวังได้อยู่แต่ในอาคารนี่แหละ เย็นๆดีกล้วยไม้จิ๋ว .. เล็กจิ๋วมากๆ เลยระยะมาโครอีกค่ะ ไม่สามารถโฟกัส หนูพยายามจ่อแล้ว ได้เท่านี้..เอาแค่นี้นะเคอะ พอหอมปากหอมคอ ^_^