น้อยใจยา


♥♥ น้อยใจยา♥♥


ผู้แต่ง ท้าวสุรทรพจนกิจ
ขับร้อง จรัล มะโนเพ็ชร& สุนทรีย์ เวชานนท์


(..ชาย.) ปวง ดอกไม้ เบ่งบานสลอน....ฝูงภมร ภู่ผึ้งสอดไซร้ ดอกพิกุลของเปิ้นต้นใต้ ลมปัดไม้มาสู่บ้านตู๋

ฮู้แน่ซัดเข้าสอดสองหู ว่าสีจมปู ถูกป้อมเก๊าเนิ้ง....

เก๊ามันต๋าย ป๋ายมันเซิ่ง ลำกิ่งเนิ้ง

ต๋ายโก่นตวยแนวดอกพิกุล ก่คือดอกแก้ว

ไปเป๋นหองเปิ้น แล้ว เหนอ

(.หญิง.) แปม เก๊าเนิ้ง กิ่งมันบ่ถอน....บ่ไหวคลอนเฟือนเตี่ยงมันแต้เล่า

ต๋ามกำลม เปิ้นปัดออกเข้า มีแต่เก๊า ไหวหวั่นคลอนเฟือน

กิ่งมันแต้ บ่แซสะเหลือนบ่เหมือนลมเจยรำเพย ก่จะนั้น...

ใจ๋คำญิง นี้หนิมเตี่ยงมั่น บ่เป๋นหองเปิ้น..คนใด

ยังเป๋นกระจก แว่นแก้วเงาใสบ่ไหวคลอนเงี่ยง จาย เหนอ

(.ชาย..) ตั๋ว ปี้น้อยจักขอถาม....ต๋าม กำลมเปิ้นมาเล่าอู้ ว่านายมีจู้ อยู่บ้านวังสิงห์คำ

ฝ่ายตางปู้นเปิ้นมาใส่ผะจ๋ำ บ้านวังสิงห์คำ เปิ้นมาหมั้นก่ไว้แล้ว....

ตางฝ่ายปั๋นตั๋ว น้องนางแว่นแก้ว ก่ตกลงแล้ว บ่ไจ่กาหา

เปิ้นจะกินแขก แต่งก๋านก่วิวาห์ เมื่อใดจา ปี้น้อยไคร่ฮู้เก้า....

ส่วนไจยาบ่สมเปิงเจ้า เพราะเขียมเข้าของ..

เงินทองฝ่ายตางนาย บ่หมายเกี่ยวข้อง มาละหมองต่ำ ก้อย เหนอ

(.หญิง.) ตั๋ว น้องนี้บ่ลาไหลหลง.... ก๋านตกลงก่ยังบ่แล้ว

จึงเจิญตั๋วปี้มาห้วยแก้ว เพราะใคร่ฮู้กำฟู่กำจ๋า

จึงเจิญน้อย ปี้มาเปิกษา จะว่าใดจา ตั๋วน้องก่ไคร่ฮู้....

ก๋านตี้มาฟู่อู้จะเอาเป็นจู้กาว่าเอาเป๋นเมีย หรือจักลบล้างลืมลายหน่ายเสียบ่เอาเป๋นเมีย

หรือจักทิ้ง เสียแล้ว....

หรือเอาเป๋น เมียนางจ้างแก้ว อยู่เป๋นกู้ ข้างเตียมคิง

ขอบอกนายหื้อแน่ใจ๋จริง บ่อำพรางนาถ น้อง เหนอ

(..ชาย.) บ่จุ๊หลอกน้อง หื้อหม่นหมองหมาง..

บ่ล่อลวงพรางแม่นางฮ้างแค้ว ปี้หมายเอาเป๋นเมียนางจ้างแก้ว

บ่หื้อคลาดแคล้วเรื่องกำสีเนห์ หลอนแก้วน้องใจยังบ่เหว เตี่ยงสมคะเน เหมือนปี้กึ๊ดเล่า....

หลอนปี้จุ๊ก็ยังล่ายเจ้า ขอหื้อฟ้าผ่าหัวแม่เมียตาย ลูกแม่ญิง อู้เล่นก่บ่ดายลูกป้อจาย อู้แต้ก่บ่ปัง....

หลอนนายต๋ายไปเป๋นไก่ตั้ง ปี้น้อยจักต๋ายเป็นพื้น ฟู่บ่ถูก วันฟูกก่บ่ขืน ฟู่ม่าคืนตึงบ่ขืนเมื่อจ้าว...

.ก๋านฮักกั๋นหองข้าตึงเจ้า เผียบเหมือนเหล้า..กับปางปากกำไดปี้ก็ตึงอ้าง บ่ไจ่จางจาก น้อง เหนอ

(.หญิง.) หลอน ว่าแต้เหมือนดั่งกำจา....น้องขอสัญญากับตั๋วปี้น้อย บ่ขอฮักไผ ซักเต้ากึ่งก้อย

ขอฮักปี้น้อย ไจยานี้ก่คนเดียว คนอื่นนับร้อยตึงบ่แลบ่เหลียว จะขอฮักเดียวจายเดียวก่เต้านี้...

.หลอนว่าน้องจุ๊หรือสัปปะรี้ ขอหื้อฟ้าผ่าหัวพ่อผัวต๋าย ลูกแม่ญิงบ่ไจ่ว่าบ่ดาย ลูกป้อจายขี้จุ๊ก่แต้ๆ....

กิ๋นก่ยังตึงแก้ สะเรียมยำใส่แย้บะเขือแจ้ยำใส่เตาหลอนปี้น้อยไจยาฮักแต้ข้าเจ้า ก็ยินดีจิ่ม แต้ เหนอ


***************************************************************************

“น้อยไชยา” (อ่านว่า น้อยไจญา บ่าได้เขียนว่า น้อยใจยา…

เพราะอย่างอี้ จะอ่านว่า น้อยใจ๋ยา ความหมายมันจะผิดไป) …

คนที่แต่งบทซอนี้ก็คือ “ท้าวสุนทรพจนกิจ (ใหม่ บุญมา)”

โดยได้รับคำสั่งและการผูกเรื่องโดยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

ซึ่งแต่งเป็นบทละครซอ โดยแสดงครั้งแรกที่วัดสวนดอก

ในงานคล้ายวันประสูตรของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

ตัวละครในเรื่อง จะมีเด่น ๆ อยู่ 3 กลุ่ม ดังนี้

1.“น้อยไชยา”เป็นลูกของ “พญาสามล้านเชียงใหม่” เป็นหนุ่รูปงาม และมีพี่เลี้ยงคือ “ส่างตุ้ย”

2. “แว่นแก้ว” เป็นลูกของ “ท้าวไชลังกา” (อ่านว่า ต๊าวไจลังก๋า) กับ “นางอุสาห์”

มีพี่เลี้ยงชื่อ “บัวเกี๋ยง” อยู่ที่บ้านเงิน ถนนวัวลายด้านตะวันออก ทำเครื่องเงินจำหน่าย

3. “ส่างนันตา” เป็นลูกของ “ตังแกส่างมุ้ย” เป็นพ่อค้าไม้ชาวไทยใหญ่ อยู่บ้านวังสิงห์คำ

ถนนป่าตัน เหนือเทศบาลเชียงใหม่ มีพี่เลี้ยงชื่อ “ปู่ทวาก”

บทละครซอที่ท้าวสุนทรพจกิจ แต่งนี้ ใช้ทำนอง “ล่องน่าน” และทำนอง “เงี้ยวลา”

โดยแบ่งฉากออกเป็น 3 ฉาก อันได้แก่ ฉากห้วยแก้ว ฉากบ้านท้าวไชลังกา

และ ฉากในศาลเนื้อเรื่องย่อ มีอยู่ว่า

“แว่นแก้ว” ลูกท้าวไชลังกา ถูกพ่อแม่หมั้นหมายจะใหั้แต่งงานกับ “ส่างนันตา”

ซึ่งเป็นเงี้ยวที่ร่ำรวย แว่นแก้ว ไม่ได้มีใจผูกสมัครรักไคร่กับส่างนันตา

เพราะนางเองได้มอบหัวใจรักให้แก่ “น้อยไชยา”

น้อยไชยารู้ข่าวการหมั้นหมาย จึงร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง

จึงนัดหมายแว่นแก้วให้ไปพบตนที่น้ำตกห้วยแก้ว เพื่อปรึกษาหารือกัน …

เมื่อวันนัดมาถึง ทั้งสองต่างมากับพี่เลี้ยง เมื่อถึงน้ำตกห้วยแก้ว

ต่างก็พูดคุยกัน น้อยไชยาก็ตัดพ้อต่อแว่นแก้ว ว่าดอกแก้วดอกนี้จะไปเป็นของคนอื่นเสียแล้ว…

แว่นแก้วก็บอกว่า นั้นเป็นตามลมที่พัดต้นมันให้ไหวต่างหาก กิ่งใบ หาได้ไหวตามไม่

ก็ยังเป็นแว่นแก้วเงาใสอยู่เช่นเดิม แล้วแว่นแก้วก็ถามว่า รักตนจริงหรือว่าแค่หยอกเล่นกันแน่

น้อยไชยาก็บอกว่า รักจริงแท้แน่นอน หมายจะเอามาเป็นเมียแพงแนบข้าง

แว่นแก้วก็บอกว่าหากพ่อแม่ไม่เห็นแก่ความรักครั้งนี้ ก็จะหนีตามน้อยไชยาไป

ขณะที่นัดหมายกันอยู่นั้น “ส่างนันตา” ก็มาพบเห็นใส่พอดี

(ไม่รู้ว่าสองพี่เลี้ยงที่เป็นต้นทาง หายไปไหน …อิอิ จึงปล่อยให้ส่างนันตาเข้ามาพบเห็นได้)

แล้วบอกว่า แว่นแก้วนี้ ตนเองได้หมั้นหมายไว้แล้ว ทำอย่างนี้จักได้อย่างไร

ก็จะขอนำเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อท้าวไชลังกา และอาจถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล

เมื่อกลับบ้าน ส่างนันตา ก็นำความไปฟ้องแก่ ท้าวไชลังกา

จากแค่หมูบอกเป็นช้าง จากแค่แมวบอกเป็นเสือ ท้าวไชยลังกาจึงตามแว่นแก้วมาซักถาม

แว่นแก้วก็ปฏิเสธและบอกว่าตนเองไปขายตลับเงินที่ที่ตลาดหัวสะพานใกล้กับคุ้มหลวง

(คุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ) ริมน้ำปิง ไม่ได้ไปพบใคร

ส่างนันตาเห็นดังนั้นจึงนำความขึ้นศาล เมื่อศาลสอบความ สอบพยานต่าง ๆ แล้ว

จึงตัดสินให้ แว่นแก้วมีสิทธิ์ในการเลือกคู่ครองเอง และแล้วแว่นแก้วกับน้อยไชยา

จึงได้แต่งงานกันในที่สุด…ในบทละครซอ จะจบเพียงเท่านี้ …

และจะมีเรื่องราวที่ต่อจากนี้อีกว่า

หลังจากที่แว่นแก้วแต่งงานกับน้อยไชยาแล้ว ทั้งสองนึกถึงความหลังครั้นไปพบกันที่ห้วยแก้ว

จังพากันไปยังที่ห้วยแก้วอีกครั้ง ขณะที่ทั้งสองชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงามอยู่นั้น

หาได้รู้ไม่ว่าอันตรายได้รออยู่ข้างหน้า

ส่างนันตาที่ผูกพยาบาทได้ลอบติดตามมา เพื่อรอโอกาส…

พอได้โอกาส ส่างนันตาก็ยกปืนชึ้นเล็ง

ไกปืนที่เหนี่ยวพร้อมกับเสียงปืนที่กึกก้องสะท้อนไปตามหน้าผา

ร่างของน้อยไชยาก็ทรุดลง สิ้นใจลงตรงนั้นเอง

น้อยใจยา Noi Jai ...




Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 10:25:22 น.
Counter : 547 Pageviews.

1 comments
  
อิอิ
โดย: นัน IP: 61.91.35.2 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:17:13:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

star5
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]