Group Blog
|
รังแคที่หนังศีรษะ
รังแคที่หนังศีรษะ รังแคมีลักษณะเป็นขุยขาวเล็กที่บริเวณหนังศีรษะ ทำให้มีอาการคัน และมองดูไม่สะอาดตา ยิ่งเกายิ่งคัน และจะมีขุยหลุดร่วงมากขึ้น สร้างความรำคาญ และบั่นทอนบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก บางครั้งสามารถรักษาให้หายได้ แต่มักจะกลับเป็นซ้ำได้อีก รังแคจะไม่มีการอักเสบบวมแดงทีบริเวณหนังศีรษะเลย เนื่องจากรังแคคือขุยบนเส้นผม บนหนังศีรษะ อาจมีลักษณะแห้งหรือมันก็ได้ เป็นความแปรปรวนของเซลล์หนังศีรษะที่แบ่งตัวมากขึ้นกว่าปกติ แล้วหลุดออกง่าย และเร็วกว่าปกติ กลายเป็นขุยขนาดใหญ่ที่สามารถสังเกตได้
ปัญหารังแคเกิดขึ้นที่เซลล์ชั้นบนสุดของหนังศีรษะลอกตัวหลุดออก ตามปกติแล้วเซลล์หนังศีรษะของคนเรา ซึ่งเกิดใหม่จะค่อยๆ เลื่อนจากใต้ผิวหนังขึ้นมาจนถึงผิวชั้นบนสุด และหลุดออกไปในเวลา ประมาณ 28 วันโดยเฉลี่ย โดยเซลล์ที่หลุดออกจะเป็นชิ้นเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แต่ถ้ามีสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้วงจรนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้น เช่น จาก 28 วัน เหลือแค่ 7-21 วัน โดยเซลล์ที่หลุดออกแทนที่จะเป็นชิ้นเล็ก กลับมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขุยสีขาวหรือเทา และมองเห็นได้ชัด แถมยังจะมีอาการคันศีรษะร่วมด้วย แสดงว่ามีรังแคเกิดขึ้น หนังศีรษะมีเซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกอยู่ตลอดเวลา แต่คนที่มีรังแคนั้นเซลล์ผิวหนังจะหลุดลอกเร็วมาก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความเครียด ไปจนถึงต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป รวมทั้งผิวหนังอักเสบที่เรียกว่า ผื่นรังแค (seborrhoeic dermatitis) รังแคเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก บางคนอาจมีรังแคมาก บางคนอาจมีรังแคน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ หนังศีรษะที่มีรังแคจะคัน และมีกลิ่นเหม็น จากสถิติพบว่ารังแคมักเกิดขึ้นตั้งแต่อายุก่อน 20 ปี โดยทั่วไปวัยรุ่นจะเริ่มมีรังแค และเมื่ออายุ 50 ปี จะสังเกตพบว่ารังแคเริ่มหายไป จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าชาวคอเคเชียนประมาณครึ่งหนึ่งมีปัญหาเรื่องรังแค
สาเหตุ
อาการ
การวินิจฉัย สามารถให้การวินิจฉัยได้ไม่ยาก ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ การรักษา
แชมพูขจัดรังแคหรือ Antidandruff สารที่เป็น Anti-dandruff นั้น ควรมีคุณสมบัติ 2 อย่าง คือ
จากการทดลองพบว่า สารที่ได้รับการยืนยันว่าได้ผลในการขจัดรังแคและมีความปลอดภัย ได้แก่
เลือกใช้แชมพูขจัดรังแคอย่างไรดี
สระผมอย่างไรให้ถูกวิธี
ที่มา : นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ ...อาการคันศรีษะ คัน คัน คัน
ที่มา Dek-de ..อาการคันศรีษะ คัน คัน หลายๆคนต้องประสบปัญหาคันศีรษะทุกวัน ทั้งๆที่ก็สระผมทุกวัน แต๋ก็คัน จนแทบทนไม่ไหว แล้วคุณละ เป็นคนหนึ่งที่คันศีรษะหรือไม่ มาดูกันว่าคืออะไร... ที่บอกว่า คันๆ
รังแค (dandruff) เป็นสะเก็ดสีขาวบน หนังศีรษะเกิดจากเซลล์ชั้นบนสุดของหนังศีรษะลอกตัวหลุดออก ตามปกติแล้วเซลล์หนังศีรษะของคนเรา ซึ่งเกิดใหม่จะค่อยๆ เลื่อนจากใต้ผิวหนังขึ้นมาจนถึงผิวชั้นบนสุด และหลุดออกไปในเวลา ประมาณ 28 วันโดยเฉลี่ย โดยเซลล์ที่หลุดออกจะเป็นชิ้นเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แต่ถ้ามีสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้วงจรนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้น เช่น จาก 28 วัน เหลือแค่ 7-21 วัน โดยเซลล์ที่หลุดออกแทนที่จะเป็นชิ้นเล็ก กลับมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขุยสีขาวหรือเทา และมองเห็นได้ชัด แถมยังจะมีอาการคันศีรษะร่วมด้วย แสดงว่ามีรังแคเกิดขึ้น รังแคเป็นปัญหาที่พบ ได้บ่อยมาก รังแคถือว่าเป็นโรคของหนังศีรษะชนิดเรื้อรังที่มีลักษณะเฉพาะตัว บางคนอาจมีรังแคมาก บางคนอาจมีรังแคน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ หนังศีรษะที่มีรังแคจะคัน และมีกลิ่นเหม็น จากสถิติพบว่ารังแคมักเกิดขึ้นตั้งแต่อายุก่อน 20 ปี โดยทั่วไปวัยรุ่นจะเริ่มมีรังแค และเมื่ออายุ 50 ปี จะสังเกตพบว่ารังแคเริ่มหายไป จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าชาวคอเคเชียนประมาณครึ่งหนึ่งมีปัญหาเรื่อง รังแค รังแคมีทั้งชนิดผมมันและชนิดผมแห้ง อาจตรวจสอบได้ง่ายๆ ด้วยการก้มศีรษะลง วางกระดาษดำ หรือผ้าสีเข้มๆ ไว้ตรงหน้า แล้วหวีเอาฝุ่นผงต่างๆ จากเส้นผมออก ดูว่าฝุ่นผงที่หลุดมาจากเส้นผมมีลักษณะอย่างไร ถ้าเป็นผงเล็กๆ เหมือนแป้ง แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมแห้ง แต่ถ้าฝุ่นผงที่หลุดออกมามีลักษณะชิ้นใหญ่ เป็นก้อน และชื้น แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมมัน สาเหตุ รังแคเกิดจากเชื้อรา เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุก เชื้อราดังกล่าวเป็นเชื้อราเซลล์เดียว หรือที่เรียกว่า 'เชื้อยีสต์' ชื่อวิทยาศาสตร์คือ malassezia หรือชื่อเดิมว่า pityrosporum เชื้อราพวกนี้อาศัย อยู่ที่หนังศีรษะ กินน้ำมันที่สร้างมาจากต่อมรากผมและต่อมไขมันเป็นอาหารโดยปกติไม่ก่อให้เกิด ปัญหาแต่อย่างใด แต่บางครั้งพบว่าเชื้อกำเริบและเติบโตรวดเร็วผิดปกติ จะก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังศีรษะ ทำให้เซลล์มีการแบ่งตัวที่เร็วขึ้น และพบมีเซลล์ที่ตายแล้วอยู่บนหนังศีรษะเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเป็นรังแคในที่สุด
เดิมเชื่อกันว่า รังแคเกิดจากผิวหนังแห้ง ผิวหนังมันเกินไป การสระผมด้วยแชมพูบ่อยเกินไป การสระผมด้วยแชมพูน้อยเกินไป ภาวะโภชนาการไม่ดี ความเครียด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมมากเกินไป ปัจจุบันพบว่าสาเหตุจากเชื้อรามีความสำคัญมากที่สุด อาการ รังแคทำให้มีอาการคัน และมองดูไม่สะอาดตา ยิ่งเกายิ่งคันและจะมีขุยหลุดร่วงมากขึ้น สร้างความรำคาญและบั่นทอนบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก บางครั้งสามารถรักษาให้หายได้ แต่มักจะกลับเป็นซ้ำได้อีก โดยทั่วไปรังแคจะไม่มี การอักเสบบวมแดงทีบริเวณหนังศีรษะเลย แต่ถ้ามีรังแคมาก ร่วมกับอาการคัน หรือผื่นแดงที่หนังศีรษะ อาจเป็นอาการของโรคผิวหนัวบางชนิด เช่น โรคผิวหนังอักเสบเซ็บ-เดิร์ม (seborrheic dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) หรือโรคแพ้สารเคมี หรือน้ำยาบางอย่าง การวินิจฉัย สามารถให้การวินิจฉัย ได้ไม่ยาก ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ การรักษา ใช้ยาสระผมกำจัดรังแค แม้ว่าจะไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปได้ เพียงทำให้ลดจำนวนลง แต่ยาสระผมกำจัดรังแคก็เพียงพอที่จะทำให้รังแคไม่ก่อให้เกิดปัญหาอีกต่อไป ควรใช้ยาสระผมเหล่านี้ ติดต่อกัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ การสระผมแต่ละครั้งต้องทิ้งยาสระผมไว้เป็นระยะเวลา 5-15 นาที เพื่อให้ออกฤทธิ์ ไม่ควรรีบล้างออก หลังจากอาการดีขึ้น สามารถลดการใช้เป็น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากใช้ยาสระผม กำจัดรังแค ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจพบว่าไม่ได้ผลดี ควรเปลี่ยนเป็นยาสระผมชนิดอื่นในกลุ่มที่กล่าวข้างต้น แล้วหมุนเวียนสลับกันไปเรื่อยๆ ได้ ส่วนมากหลังเลยวัยรุ่นหรือเมื่อความมันของผิวลดลงอาการก็จะดีขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนแอนโดรเจน มีบทบาท เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ภาวะที่ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สบาย มีความเครียด รังแคอาจกำเริบขึ้นมาอีกได้ ในกรณีที่ใช้ยาสระผม เพียงอย่างเดียวแล้วไม่ได้ผล อาจต้องได้รับการตรวจเพื่อหาโรคผิวหนังอื่น ซึ่งอาจเป็นสะเก็ดผิวหนังคล้ายรังแคได้ เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือเชื้อราที่หนังศีรษะ เป็นต้น ซึ่งโรคทั้ง 2 ชนิดนี้ จำเป็นต้องใช้ยาทาที่ ลดการอักเสบของผิวหนัง หรือยากินฆ่าเชื้อรา เป็นต้น บางรายอาจใช้ยาหยด เพื่อลดการอักเสบที่หนังศีรษะ โดยหวีผมแสกออก แล้วหยดน้ำยาลงบนหนังศีรษะบริเวณที่มีสะเก็ด ใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่วบริเวณแล้วทิ้งไว้ ควรทำวันละสองครั้ง จุดมุ่งหมายของการดูแล
บทความต่างๆ นี้ ได้คัดลอกมาจากเวปต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในการดูแลตนเอง ให้มีสุขภาพดี หากมีข้อความใดๆ ที่สงวนลิขสิทธิ์ ต้องขออภัยและแจ้งแก้ไขได้เลยนะคะ
หนังศีรษะแห้ง จุดกำเนิดรังแคเรื้อรัง นายแพทย์ พูลเกียรติ สุชนวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมจากโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า "อาการหนังศีรษะแห้งคืออาการที่ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะสูญเสียน้ำหรือความชุ่มชื่นจากการระเหยจนเกิดอาการแห้ง มีลักษณะเหมือนกับรอยแผ่นดินแตกแห้ง ส่งผลทำให้หนังศีรษะทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกได้น้อยลงหรือเสียความสมดุลจนเกิดอาการอักเสบ ค่อยๆ กลายเป็นขุยสีขาวบนหนังศีรษะ จากนั้นขุยจึงเริ่มแตกลอกออกเป็นแผ่นและกลายเป็นรังแค ดังนั้น อาการ หนังศีรษะแห้ง ที่คนมักมองข้ามจึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการรังแคเรื้อรัง หรืออาจเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคต่อมไขมันในหนังศีรษะอักเสบหรือ เซ็บเดิร์ม โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นแพ้สัมผัส หรือโรคภูมิแพ้ตนเองที่อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงอย่างรุนแรง "อาการหนังศีรษะแห้งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจาก กรรมพันธุ์ เช่น อาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่มีชั้นเคลือบผิวหนังและผิวบริเวณหนังศีรษะที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดปัญหารังแคได้บ่อยและง่ายกว่าคนปกติ และจาก ความเครียด ที่ทำให้สารสื่อประสาทบางชนิดเข้าไปกระตุ้นให้บริเวณหนังศีรษะเกิดอาการอักเสบ หรือจาก สภาพอากาศ โดยเฉพาะเวลานาน น้ำใต้ผิวบริเวณหนังศีรษะก็ยิ่งระเหยออกไปเร็วขึ้น ความชุ่มชื่นก็ยิ่งลดลงซึ่งส่งผลให้หนังศีรษะแห้งเร็วขึ้น รวมถึงอาจเกิดจาก การสระผม ที่ปราศจากการดูแลหรือเติมเต็มความชุ่มชื่นหลังสระผม เพราะทุกครั้งที่เราสระผมนั้นเท่ากับเราล้างเอาความชุ่มชื่นของหนังศีรษะออกไปด้วยเช่นกัน"
"รังแค" ที่เกิดจากอาการ หนังศีรษะแห้ง ยังอาจส่งผลให้เกิดการอาการคัน และกระตุ้นให้เกิดการสัมผัสและจับบริเวณหนังศีรษะบ่อยขึ้น ยิ่งสัมผัสบ่อยครั้งมากขึ้น ซ้ำๆ เรื่อยๆ ก็ยิ่งกระทบต่อบริเวณรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งหากเกิดการอักเสบมาก รูขุมขนก็จะปิดลง ทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ และทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางอย่างถาวร หนังศีรษะ ให้ทุกคนได้นำไปใช้ดูแลหนังศีรษะของตัวเองกันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศเย็นและแห้งตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ 1.เลือกแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการขจัดรังแคและช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะ 2.อย่าสัมผัส ถูหรือเกาหนังศีรษะมากเกินไป 3.รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี น้ำมันปลา และโอเมก้า 3
|
SOYU_K
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
Link |