อาหารที่แนะนำส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีโปรตีนและวิตามิน B3, B5, B6 และโฟลิคมากๆ ลองดูคำแนะนำเรื่องอาหารการกินด้านล่างนี้จะมีประโยชน์มากทำให้รากผมแข็งแรงถ้าบริโภคเป็นกิจวัตรต่อเนื่องกันเป็นแรมปี
- โปรตีนจากพืชหรือพืชตระกูลถั่วสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการสร้างเส้นผม กินนมถั่วเหลืองมากๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมากว่าเส้นผมคุณมีความแข็งแรงมากขึ้น
- วิตามินเอ ในปริมาณที่พอเหมาะช่วยรักษาอาการผมร่วงได้ คนที่ขาดวิตามินเอเรื้อรัง จะมีผมร่วงและรังแคง่าย วิตามินเอมีมากในพืชผักสีเขียวและผลไม้สีเหลืองส้ม เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ฟักทอง แครอท เป็นต้น
- วิตามินบี6 โฟลิค และ B12 ช่วยในการคงสภาพเม็ดเลือดแดงให้นำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์รากผมได้ดีขึ้น อาหารที่แนะนำคือ ผักใบใหญ่เขียว เช่น ผักคะน้า บ็อคเคอร์รี่ ตับหมู เป็นต้น
- ธาตุเหล็ก เป็นอีกตัวที่ช่วยเรื่องการนำออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ในผู้หญิงที่มีโลหิตจางมักจะขาดธาตุเหล็ก มีอาการอ่อนเพลียง่ายโดยเฉพาะช่วงมีรอบเดือน ร่างกายดูซีดเซียว ผมร่วง อาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเช่น ตับอ่อนหมู ปอดหมู เลือดวัว ไข่กุ้ง หอยแมลงภู่ กะปิ หอยนางรม กุ้งฝอย หอยเสียบ หอยขม ถั่วแดงดิบ งาดำคั่ว เม็ดบัว ถั่วดำ เป็นต้น
- สังกะสี คนที่ขาดสังกะสีมากๆจะทำให้มีรังแคและผมร่วงผิวหนังแห้ง อาหารที่มีสังกะสีสูงเช่น หอยนางรม จมูกข้าว ตับลูกวัว แป้งงาและเนยงา เมล็ดฟักทอง-น้ำเต้าคั่ว เมล็ดแตงโม หรือเม็ดกวยจี๊ เป็นต้น
- ซิลิก้า ซิลิก้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของผมผิวและเล็บ อาหารที่มีซิลิก้าสูงเช่น สาหร่ายทะเลหญ้าชนิตหนึ่ง, ผักใบเขียวเข้ม, หางม้า, ตำแย, flaxseed, ผลไม้จำนวนมากรวมทั้ง แอปเปิ้ล , องุ่น , ฯลฯ ถั่วเมล็ด, หัวหอม , ผลเบอร์รี่ (รวมทั้งสตรอเบอร์รี่), ผักกาดหอม, มะเดื่อ, ดอกแดนดิไลอัน, แตงกวา ถั่วแห้งและถั่วสุก, เมล็ดทานตะวัน , มะเขือเทศ เป็นต้น
- อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงเช่น กุ้ง ปลาหมึก มีความสัมพันธ์ทางอ้อมกับการสร้างฮอร์โมน DHT เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง ไข่ปลา ตับไก่ สมองหมู ปลาหมึกสด เป็นต้น
ผมร่วงในผู้หญิงพบได้ไม่บ่อยเท่าในผู้ชาย พบได้ประมาณเกือบหนึ่งในสามของผู้หญิงทั้งหมด ส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน แต่ก็พบได้บ้างในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทั่วไป ผมร่วงที่มากกว่าปกติ คือ ผมร่วงมากกว่า 100 เส้นขึ้นไป แล้วสังเกตพบว่าผมเริ่มบางลงกว่าที่เคย ส่วนใหญ่ผมร่วงในผู้หญิงวัยสาวมักเป็นชั่วคราวและมีสาเหตุที่แก้ไขได้ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ สาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงที่พบทั่วๆไปได้แก่
- ความผิดปกติของฮอร์โมนใดๆ ก็ตามที่ทำให้การสร้างฮอร์โมน ดีเอชที (DHT - Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดผมร่วงศีรษะล้านแบบกรรมพันธุ์ ที่พบมากในผู้ชาย โดยปริมาณฮอร์โมน DHT มีมากขึ้น หรือมีการสร้างเอ็นไซม์ อโรมาเทส (enzyme aromatase) ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่รับผิดชอบต่อการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรนและเอสตราไดออล (estrone and estradiol) ลดลงทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย (androgens and estrogens) เช่น ภาวะวัยทอง, วัยหมดประจำเดือน,หรือเป็นเนื้องอกที่รังไข่บางชนิดที่สามารถสร้างฮอร์โมนเพศชายได้มากๆ
- ภาวะผมร่วงหลังคลอด อาจพบได้หลังคลอดตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และมักจะเป็นอยู่ประมาณ 6-12 เดือน สามารถดีขึ้นเองได้แม้ไม่ได้รับการรักษา
- การขาดสารอาหารบางอย่างที่จำเป็นต่อการสร้างเส้นผม เช่น ขาดวิตามินบี, ขาดธาตุสังกะสี, ขาดธาตุเหล็ก, ขาดโปรตีน หรือกรดไขมันจำเป็น (vitamin b, zinc, iron, protein, essential fatty acid deficiency) การอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก,โรคอนอเรกเซีย - บูลิเมีย (anorexia, bulimia) เป็นต้น
- โรคบางอย่าง เช่น โรคของต่อมไทรอยด์ (ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ - Hypothyroid หรือ ไทรอยด์ฮอร์โมนสูง - Hyperthyroid), โลหิตจาง, โรคตับ, โรคไต, โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune diseases) เช่น เอสแอลอี (sle)
- ยาคุมกำเนิด สามารถพบได้ทั้งในผู้ที่เริ่มกินยาคุมกำเนิดหรือหยุดกินยาคุมกำเนิด เนื่องจากยาคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนเพศแบบหนึ่ง จึงทำให้สมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายเปลี่ยนไป ทำให้เกิดผมร่วง ผมบางได้
- ภาวะผมร่วงหลังการเจ็บป่วย เช่นไข้สูง, หรือหลังการผ่าตัด, หลังการดมยาสลบ
- ผมร่วงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง, ยารักษาโรคเก๊าฑ์, วิตามินเอในขนาดสูง
- ภาวะอารมณ์เครียดสูงเรื้อรัง
ผมร่วงในผู้หญิงจะพบทั่วๆไป เป็นผมบางทั่วๆ ศีรษะ มีส่วนน้อยที่พบว่าทำให้เกิดศีรษะล้านเฉพาะที่เช่น บริเวณกลางกระหม่อมแบบในเพศชาย เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของฮอร์โมน ดีเอชที ที่ทำให้เกิดศีรษะล้านแบบกรรมพันธุ์ (androgenetic alopecia) ซึ่งพบมากในเพศชาย ดังนั้นการรักษาโดย การใช้ยาที่ต้านการออกฤทธิ์หรือการสร้างฮอร์โมนดีเอชที เช่น ยาฟิแนสเตอไรด์หรือ โพรพีเชีย (finasteride or propecia) ที่ใช้ได้ผลดีในผู้ชาย จึงมักได้ผลน้อยหรือไม่ได้ผลเลยในการรักษาผมร่วงในผู้หญิง ถึงแม้ว่ายากลุ่มนี้จะมีข้อห้ามในการใช้ในผู้หญิงแต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่มีผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์นำมาใช้แล้วได้ผลแต่ไม่ปลอดภัยหากผู้หญิงที่ใช้ อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ถ้าตั้งครรภ์ระหว่างใช้ยาอาจจะทำให้ทารกพิการได้ วิธีการรักษาผมร่วงในผู้หญิงที่ถูกต้อง จึงต้องค้นหาสาเหตุ และแก้ไขที่สาเหตุเหล่านั้น การรักษาจึงจะได้ผมดีที่สุด
ผมร่วงเฉพาะที่ในผู้หญิงที่อาจพบได้ มีลักษณะเป็นวงกลมเฉพาะจุด อาจพบเป็นวงเดียวหรือหลายวงก็ได้เรียกว่า ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นโรคในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่อตนเอง (Autoimmune disease) และอาจพบได้เป็นกรรมพันธุ์ ส่วนใหญ่มักดีขึ้นเองได้ การรักษาโดยทั่วไปมักใช้ยาสเตียรอยด์ (steroids)
ที่มา//xn--12cm6duahd2am4em9v.net/