ถ้าทุกคนยืนอยู่ฝั่งพระเจ้ากันหมด โลกคงน่าเบื่อแย่..!!
Group Blog
 
All blogs
 
รายงานพิเศษ : เบื้องหลังเด็กติดเกมส์ออนไลท์

รายงานพิเศษ : เบื้องหลังเด็กติดเกมส์ออนไลท์
ร้าน Internet บ้านหลังที่สองของนักเล่นเกมส์


กิน-อยู่-นอน กิจกรรมในร้าน Internet กับกิจกรรมในโลกออนไลท์

ห้องแถวยาวที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากมายถูกจัดวางเรียงรายกันไว้อย่างเป็นระเบียบรอคอยผู้ที่จะก้าวเดินเข้ามาในร้าน และติดต่อขอใช้บริการกับจำของร้านโดยแลกเปลี่ยนกับเงินค่าบริการรายชั่วโมง ร้านที่ให้บริการในลักษณะนี้มักจะถูกเรียกรวมๆกันว่า ร้าน Internet มันเป็นภาพที่ชินตาสำหรับใครหลายๆคนที่เวลาเดินทางผ่านร้าน Internet ที่จะเห็นคนจำนวนหลายสิบ ที่มีอากัปกริยาแตกต่างกันไปนั่งหันหน้าเข้าสู่จอคอมพิวเตอร์ บางคนอาจกำลังหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมเบื้องหน้า ส่วนบางคนก็อาจกำลังทำหน้าเคร่งเครียดบึ้งตึง เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกล่องสี่เหลี่ยมไม่ได้ดำเนินไปตามที่เขาหวัง
สำหรับหลายๆคนที่เคยเข้าไปใช้บริการร้าน Internet เป็นประจำ ก็คงจะทราบเหตุโดยคร่าวๆว่า เพราะสาเหตุอะไรพวกบรรดาเด็กนักเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ตัวยง สาวนักแช็ท จึงต้องทุ่มเทเวลาในชีวิตก้าวเข้ามารวมกลุ่มกันอยู่ในห้องแถวเล็กๆแบบนี้ทุกๆวัน อย่างไม่เบื่อหน่ายเลยซักนิดกัน ซึ่งคราวนี้ทาวเราจะพาทุกท่านเจาะลึกเข้าไปยังเบื้องหลังของร้าน Internet กัน...



















ร้าน Internet บ้านหลังที่สอง....

ในประเทศไทย ณ เวลานี้ สถานการณ์ทางการตลาดของเกมส์ออนไลท์จัดได้ว่ากำลังเติบโตอย่างน่าพิศวง ด้วยจำนวนเกมส์ออนไลท์ที่มีการเปิดให้บริการที่มากขึ้นกว่า 30 เกมส์ในปี พ..ศ.2549 มันกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเกมส์ออนไลท์ไทยเกิดความคึกคักขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ถ้ากล่าวง่ายๆก็คือ ยิ่งมีเกมส์ให้เล่นมากเท่าไหร่ จำนวนผู้เล่นที่ชื่นชอบริลองของปลกใหม่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็ยเงาตามตัวไปด้วย
ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำให้จำนวนของ ร้าน Internet เองก็เพิ่มจำนวนขึ้นตามไปด้วยเพื่อรองรับจำนวนผู้เล่นที่มากขึ้น จนในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า แทบทุกหัวถนนจะต้องมีร้าน Internet ไม่น้อยกว่าหนึ่วร้านตั้งประจำอยู่ ซึ่งนั้นมันทำให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้ต้องใช้บริการร้าน Internet มากขึ้น
แต่... อะไรที่มันสบายมากๆ ก็มักจะมีปัญหาตามมาทุกที!?
ปัญหาใหญ่สุดที่ ร้าน Internet พบเห็นจะหนีไม่พ้นของเรื่องการถูกโจมตีจากผู้ปกครอง และกลุ่มผู้ที่หาว่าร้าน Internet เป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชนประโคมข่าวโจมตีกันอยู่บ่อยๆ ทั้งๆที่บรรดา ร้าน Internet ไม่ว่าขนาดเล็ก หรือใหญ่ที่ตั้งเป็นร้านขึ้นมา ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเพียงการประกอบอาชีพให้บริการอินเทอร์เน็ทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นอาชีพสุจริตเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น.. ทางผู้ปกครอง และทางรัฐก็ยังอุตส่าห์ออกกฎหมายมาบีบบังคับการให้บริการของบรรดาผู้ประกอบการเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนผู้ประกอบการต้องเอาน้ำตาเช็ดหัวเข่าหลายครั้งหลายหนจนดวงตาสากเนื่องจากแรงเสียดสีไปเป็นแถว โดยคงลืมนึกกันไปกระมังว่าร้าน Internet ไม่ใช่ผู้เรียกร้องให้เด็กเข้ามาใช้บริการ หากเป็นพวกเด็กเองเองต่างหากที่เข้ามาใช้บริการกันเอง....
ในร้าน Internet มีคำกล่าวหนึ่งที่ถูกพูดเปรียบเปรยถึงร้านเกมส์กันอยู่บ่อยๆ ว่า “ร้าน Internet ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเล่นเกมส์” ส่วนสาเหตุที่มาที่ไปของคำกล่าวนั้นมันจะมาจากอะไรนั้น ก็ขอให้ท่านติดตามรายละเอียดจากบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้







เปิดใจเด็กร้านเกมส์....
“ที่นี่ก็เหมือนบ้านหลังที่สองของผม พอเลิกเรียนปุ๊บผมก็จะมาอยู่ที่นี่ มันแปลกหรือยังไงกับการที่ผมจะมาอยู่ในที่ๆทำให้ผมมีความสุข!?”
เพียงแค่การสนทนาคร่าวๆยังไม่ถึงกับการสัมภาษณ์ นายธรรมปมน กมล อายุ18ปี นักเรียนโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย กลับโพลงเรื่องราวออกมาเองด้วยอารมณ์อย่างไม่ค่อยพอใจนัก…
นายธรรมปมน นับเป็นนักเล่มเกมส์ออนไลท์ตัวยงคนหนึ่งที่ทุ่มเทเวลาให้กับการเล่นเกมส์ออนไลท์จนแทบเรียกๆได้ว่า “ทุ่มเทแบบลืมกินลืมนอน” และเป็นบุคคลหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการ ร้าน Internet เป็นประจำทุกวัน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของร้าน Internet ที่ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ถึงความถี่ในการใช้บริการของเขาที่มีสูง ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายในหารขอสัมภาษณ์ถึงความคิดเห็นในเรื่องนี้..
ทีมงานได้เข้าไปติดต่อสนทนาคร่าวๆเพื่อขอสัมภาษณ์ ถึงกรณีของเด็กติดเกมส์ออนไลท์ และจำนวนการใช้บริการร้าน Internet ของเขา นายธรรมปมนก็ถึงกับหัวเสีย คล้ายไม่พอใจที่ทางทีมงานเข้าไปขัดขวางความสุขของเขาที่กำลังเกิดขึ้นในจอสี่เหลี่ยมเบื้องหน้า ถึงกระนั้นในที่สุดเขาก็ยอมให้สัมภาษณ์แต่โดยดี
นายธรรมปมน เล่าว่าตนเองเริ่มเล่นเกมส์ออนไลท์มาตั้งแต่สมัยอยู่ชั้น ม.ต้นราวๆ4ปีก่อน แต่...หากนับเครื่องเล่นเกมส์ที่ใช้เสียบพ่วงกับโทรทัศน์ที่เล่นมาตั้งแต่สมัยประถมด้วยแล้ว ตนเองจะมีประสบการณ์ในการเล่นเกมส์มานานถึง 7 ปี เรียกได้ว่าเริ่มหัดเล่นเกมส์กันมาตั้งแต่เรียนอยู่ ป.3 เลยทีเดียว
“ที่เริ่มมาเล่นเกมส์ออนไลท์อย่างตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าไม่มีอะไรให้ทำ ถ้ามัวแต่ทำตัวเป็นเด็กดีเลิกเรียนแล้วกลับบ้าน ทำการบ้าน แล้วก็นอนมีหวังเซ็งตาย”
คำกล่าวอย่างหนักแน่นของนายธรรมปมน ทำเอาทีมงานถึงกับอึ้ง เพราะเขากล่าวออกมาอย่างแน่วนแน่โดยไม่ลังเลใจเลยซักนิด ทางทีมงานเองก็ไม่ได้ยอมแพ้จึงพยายามถามคำถามรุกตามไปถึงเวลา และจำนวนเงินที่เสียไปทันที
“เงินที่ใช้เล่นในแต่ละวันก็ราวๆ 40-100 บาท เดี๋ยวนี้ค่าใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ทมันถูก ตกชั่วโมงละประมาณแค่ 10 บาทเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องเสียเวลาไม่เคยคิดหรอก ก็ถ้าจะรักเล่นเกมส์แบบนี้มัวแต่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเวลาในแต่ละวันมีแต่จะปวดหัวเปล่าๆ”
เขากล่าวให้สัมภาษณ์โดยไม่หันหน้ามามองทางทีมงานแม้แต่น้อย เขายังคงจับจ้องเข้าไปยังความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าอย่างตั้งใจ และบางครั้งก็ยังสังเกตเห็นว่าเขายิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจเป็นบางครั้งอยู่คนเดียวเหมือนเด็กกำลังได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจ


เผยเบื้องหลังความสุขของเด็กๆ ที่ผู้ใหญ่ชอบมองข้าม....!?
จากการสอบถามจากกลุ่มผู้ใช้บริการวัยรุ่นในร้าน Internet คร่าวๆพบว่า จุดมุ่งหมายการเข้ามาใช้บริการของพวกเขามี 2 ประการใหญ่ๆด้วยกัน
ประการแรก ได้แก่ การเข้ามาใช้บริการเพื่อการเล่นเกมส์ออนไลท์ และอินเทอร์เน็ท เพื่อสนองตอบความต้องการของตนเอง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีจำนวนมาก และสามารถพบเห็นได้จากบรรดาผู้ใช้บริการขาจรทั่วไป
ประการที่สอง ได้แก่ กลุ่มของลูกค้าประจำ ที่เข้ามาใช้บริการอินเทอร์เน็ท เนื่องจากต้องการมาพบปะกับพวกเพื่อนฝูงที่รู้จักกันในร้าน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีจำนวนน้อยกว่ากลุ่มแรก
ถ้ากล่าวถึงความเหมือนของคนสองกลุ่มนี้ คงจะมีเพียงการเข้ามาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ทที่เหมือนกัน และหากจะกล่าวถึงความแตกต่างนั้น กลับพบว่าสองกลุ่มนี้กลับแทบจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อนึ่ง...! เพราะกลุ่มที่สองนั้นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการเข้ามาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ทเพื่อสนองตอบความต้องการในการเล่นเกมส์ หรืออินเทอร์เน็ทของตนเอ.เป็นสำคัญ
ถ้าลองยกตัวอย่างดูอย่างสรุป จะเห็นว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการร้าน Internet ในแบบที่สองนี้จะเหมือนกับการเข้ามารวมกลุ่มกันเพื่อพบปะสังสรรค์เท่านั้น
“เวลาที่คุณพูดอะไรออกไปแล้วอีกฝ่ายเข้าใจ และทำการสนทนาตอบรับในเรื่องเดียวกันได้อย่างออกรสชาติ ตอนนั้นคุณจะสนุกรึเปล่า!? พวกผมก็เหมือนกัน เวลาที่มาเล่นเกมส์ที่ร้านได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องเกมส์กัน และได้เจอคนที่คุยภาษาเดียวกับเรารู้เรื่องมันก็ต้องรู้สึกสนุกอยู่แล้ว”
นี่คือประโยคทิ้งท้ายจากนายธรรมปมน ก่อนที่การให้สัมภาษณ์ระหว่างเขา และทีมงานจะสิ้นสุดลง...

วงจรการใช้ชีวิตแบบตัวหนอน...
เจ้าของร้าน Internet ที่ทางทีมงานเข้าไปหาข้อมูลในครั้งนี้เคยกล่าวกับทีมงานว่า การเล่นเกมส์ในร้านแบบนี้ สำหรับคนที่ทุ่มเทในการเล่นมากจนเกินพอดีจะมีลักษณะการมใช้ชีวิตที่เหมือนกับตัวหนอน กล่าวคือ กิน-นอน-เล่น ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เช่นนี้เหมือนกับตัวหนอน โดยผู้ที่ทำพฤติกรรมแบบตัวหนอนนี้ ส่วนใหญ่จะพบได้ทั่วไปตามร้าน Internet ทุกที่ บางครั้งอาจจะได้เห็นคนที่ทุ่มเทเวลาการเล่นให้กับมันมากขนถึงขนาดขนเอาผ้าห่มมาคลุมนอนบนเก้าอี้ หรือกระทั่งบางครั้งอาจได้พบคนที่เขามานั่งเล่น –กิน – นอน บนเก้าอี้นานนับสัปดาห์ หรือบางครั้งอาจนานเกือบเดือนเลยก็ยังมี (ไม่รู้คนจำพวกที่กล่าวมานี้ได้อาบน้ำแปรงฟันบางหรือเปล่า!?)



ความทุ่มเทในการเล่น และผลตอบแทนที่ได้รับ....!?
เดี๋ยวนี้อะไรๆก็เป็นเงินเป็นทองไปได้เสียหมด ขนาดเกมส์ออนไลท์เองก็ยังไม่เว้นที่จะเอามาแปรเลี่ยนให้เป็นค่าเงินได้ เพราะถึงเดี๋ยวนี้ธุรกิจการเอาสินค้า หรือค่าเงินในเกมส์ออนไลท์ต่างๆออกมาตีค่าเป็นเงินจริงก็มีกันให้เห็นออกเกลื่อน เรียกได้ว่ายิ่งเล่นเกมส์เก่ง ยิ่งหาของเก่งเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเอาออกมาขายให้คนที่มีความกระหายต้องการได้มากเท่านั้น บางครั้งลงทุนนั่งเล่นเกมส์ไป 100 บาทได้กลับคืนมา 1.000 บาทก็ยังมี
จนเดี๋ยวนี้บางคนถึงกับยึดการค้าขายประเภทนี้ไว้เป็นอาชีพหลักก็ยังมี แถมยังเป็นอาชีพหลักที่เลี้ยงตัวเองให้อยู่อย่างสบายๆได้เสียอย่างนั้น..!?
เพราะมันขายได้จริงๆอย่างนั้น เด็กไทยเดี๋ยวนี้เลยสละเวลามานั่งเล่นกันอย่างทุ่มเทจริงจัง จนเดี๋ยวนี้ชักแยกไม่ออกกันแล้วว่าคนไหนเล่นเอาสนุก คนไหนเล่นเพื่อทำธุรกิจ!?
เรียกได้ว่านั่งเล่นเกมส์เพราะใจรัก แถมได้เงินใช้อีกต่างหาก....

ผลกระทบต่อชีวิตจริง....
ตัวเกมส์ออนไลท์ หรือ ร้าน Internet ไม่ได้เป็นตัวการสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบวิถีชีวิตโดยตรง หากแต่ใครก็ตามที่ลองได้เล่นเกมส์แล้วเกิดเปลี่ยนพฤติกรรมจากคนธรรมดาไปเป็นคนติดเกมส์งอมแงมเข้า อันนี้ก็คงต้องโทษเรื่องความยับยั้งชั่งใจของตัวเขาเองมากกว่า
ภึงอย่างนั้นก็เถอะ.. ต่อให้บอกว่าเกมส์มันไมได้เป็นสาเหตุหลัก แต่... ถ้าเล่นมากๆเข้าก็ระวังตาจะบอดเอา เพราะมีคนตาบอดเนื่องจากเล่นเกมส์ในบ้านเรามาแล้ว ถ้าโชคดีหน่อยก็คงแค่ตาบอดสี หรือสายตาสั้น
ที่สำคัญที่สุด คือ เมื่อลองได้เล่นเกมส์ไปแล้วมักจะหยุดยาก ทำให้นักเล่นเกมส์ส่วนใหญ่กลายเป็นโรคนอนไม่พอ ซึ่งหากพักผ่อนไม่เพียงพอนานๆมันจะมีผลกระทบต่างๆมากมายเกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งนั้นจะทำให้ตายเร็วขึ้นนะจ๊ะ
เพราะอย่างนั้น นักเล่นเกมส์ทั้งรุ่นใหญ่ – รุ่นเล็ก ก็เล่นเกมส์ให้มันเพลาๆลงบ้างก็แล้วกัน ประเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน...........


*****************************************************************************










Create Date : 16 มิถุนายน 2550
Last Update : 16 มิถุนายน 2550 13:46:07 น. 0 comments
Counter : 568 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อัจฉริยะมืด
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add อัจฉริยะมืด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.