ทุกอย่างที่เราได้ฟัง ได้เห็น ได้เจอ มันคือสัมผัสแห่งรส กลิ่นเสียงและความพึงพอใจ... 'เธอ' อยากไปสัมผัสมันกับฉันมั้ย
 
Death Note 2 : The Last Name


บทสรุปของฮีโร่สมุดโน้ต


ภาคต่อของหนังดัง ออกมารวดเร็วทันใจ ในช่วงเวลาทิ้งห่างจากภาคแรก Death Note (สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ) เพียงไม่กี่เดือน หลังจากภาคแรกออกฉายในไทยเมื่อเดือนกันยายน โดยคนสร้างทีมเดิมและนักแสดงนำชุดเดิม เพิ่มเติมตัวละครหลักมาบางตัว

คนที่ไม่เคยดูภาคแรก ย้อนเรื่องราวให้ฟังคร่าวๆ ว่าหนังดัดแปลงจากการ์ตูนหรือมังงะ ของ โอบะ สึงุมิ คนเขียนเรื่องและภาพวาดโดย โอบาตะ ทาเคชิ เรื่องนี้ เป็นแนวตื่นเต้นผสมแฟนตาซี เรื่องของเด็กหนุ่มแสนฉลาดสองคนสองขั้วที่ชิงไหวชิงพริบกัน โดยทั้งคู่ต่างเชื่อมั่นในมันสมองและเจตนาดีของตนเองที่จะขจัดภัยอาชญากรรมให้สิ้นซาก โดยมี 'ยมทูต' และสมุดโน้ตที่สามารถกำหนดความตายให้คนที่ถูกเขียนชื่อลงในเล่มนั้นได้

ยางามิ ไลท์ (ทัตสึยะ ฟูจิวาระ แสดง) นักศึกษาวิชากฎหมาย ลูกชายของหัวหน้าหน่วยกองปราบอาชญากรรม ได้รับสมุดโน้ตจากยมทูตชื่อ ลุค และเขาใช้มันในการกำจัดอาชญากรและผู้ต้องสงสัยในคดีร้ายแรง ด้วยการจรดปากกาลงบนสมุด และคำนวณเวลาปลิดชีพให้เหมาะสมเท่านั้น ไลท์ถูกตั้งฉายาจากหน่วยสืบสวนกรมตำรวจว่า 'คิระ' แต่ขณะที่ทางการนำโดยพ่อของไลท์และหนุ่มลึกลับติดขนมหวานเขียนขอบตาดำผู้ฉลาดปราดเปรื่องชื่อ 'แอล' (เคนอิชิ มัตสึยามะ) กำลังตามหาตัวตนที่แท้จริงของคิระ โดยการขับเคี่ยวของทั้งสองฝ่ายในภาคแรกลงเอยที่ ไลท์ หลุดรอดจากข้อสงสัย ที่แอล พยายามไล่ตามจับเขาให้ได้คาหนังคาเขา

ในภาคนี้ ตัวละครเพิ่มความยุ่งเหยิงมากขึ้น เมื่อมี 'คิระ' คนที่สอง พร้อมสมุดโน้ตเล่มใหม่และยมทูตตาสีฟ้าสุดเซ็กซี่ชื่อ เร็ม มากำหนดความตายอย่างไร้รอย ทำให้ญี่ปุ่นปั่นป่วนไปทั้งเมือง

ไลท์กับแอล กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงาน ตามแผนของไลท์ที่อยากเติบโตเป็นผู้ขจัดเหล่าร้าย แม้ว่าแอลจะยังไม่คลายความเคลือบแคลงในตัวเขาก็ตาม

การชิงไหวชิงพริบของคู่นี้ยังดำเนินต่อ และมีสาวคิกขุ 'มิสะ มิสะ' (เอริกะ โทดะ แสดง) หรือ คิระคนที่สอง มาช่วยผูกปมให้สองหนุ่มบริหารเซลล์สมองเหนื่อยหนักขึ้นอีก รวมทั้งตัวแปรใหม่อย่างยมทูตเร็ม ที่เบียดแย่งซีนจาก ยมทูตลุค คู่ซี้ตัวกินแอปเปิลของไลท์ ให้กลายเป็นตัวประกอบฉากไปอย่างสมบูรณ์ ทิ้งมุขฮาพาต๊องไว้กับภาคแรก

ความโหดและภาพรุนแรงในภาคนี้มีมากกว่าภาคก่อน รวมทั้งอารมณ์ตึงเครียดอึดอัดที่เพิ่มมาจากช่วงฉากตามหาตัวคิระทั้งสอง ที่แอลจับสาวใสมิสะมาทรมาน ส่วนตัวละครคิระคนหนึ่งหรือไลท์ เพิ่มดีกรีความเหี้ยมมากขึ้น และคนดูมีโอกาสได้เห็นตัวละครแอลมากขึ้น ชัดขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณการออกจอและการปฏิบัติการหักเหลี่ยมคู่ปรับ

สีสันสำคัญของเรื่องอย่างตัวยมทูต ซึ่งทางผู้สร้างทุ่มทุนมหาศาลไปกับงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CG) ในคุณภาพเดียวกับการสร้างตัว 'กอลลัม' ในหนัง Lord of the Rings ภาคนี้ไม่โดดเด้งมากนัก เนื่องจากตัวละครในการดำเนินเรื่องมีมากขึ้น โดยเฉพาะยมทูตลุคกับลูกแอปเปิลสีแดงแทบจะถูกลืม เมื่อยมทูตเร็ม ผมทองตาสีฟ้าเสียงทุ้มนุ่มนวลอารมณ์อ่อนไหวปรากฏตัวพร้อมกับคิระคนใหม่

บทบาทของยมทูตภาคนี้เน้นไปที่บทสรุปของเรื่อง ขณะที่ระหว่างการขมวดและคลี่คลายปมเน้นตัวละครมนุษย์มากกว่า หนังมีความพยายามที่จะดึงอารมณ์ดราม่า ความขัดแย้งในใจของตัวละครเอก ที่เป็นทั้งพระเอกและผู้ร้าย แต่ภาพรวมกลับไม่เป็นโซนสีเทาอย่างที่ผู้ชมบางท่านอาจจะคาดหวัง เพราะเรื่องมุ่งหน้าไปสู่บทสรุปด้วยการฉายความดำจัด ขาวจัดของตัวละครสองขั้วให้เห็นแบบไม่เหลือเยื่อใยให้กับอีกฝ่าย

ธรรมะย่อมชนะอธรรมในที่สุด แต่ผู้หลงผิดนั่นช่างไม่น่าให้อภัยเสียนี่กระไร




Create Date : 10 มกราคม 2550
Last Update : 10 มกราคม 2550 18:10:55 น. 0 comments
Counter : 673 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

Pukkei
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากบอกรักวันละหลายเวลา
[Add Pukkei's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com