พรปีใหม่
วิธีให้พรปีใหม่แก่ตนเองและหรือผู้อื่นตามแนวพุทธ. ในวันขึ้นปีใหม่ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ขอพรจากบุคคลอื่นและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเชื่อถือ. การขอพรและการได้รับพรนั้น เป็นประเพณีและวัฒนธรรมของชาติที่ดีงาม ควรทำต่อไป. การที่จะให้เป็นไปตามที่ตนขอพร(ปรารถนา) หรือตามที่ผู้ให้พรปรารถนาได้นั้น ต้องใช้สติปัญญาของตนเองที่จะคิด พิจารณา ลงมือทำเพื่อให้เป็นตามที่ปรารถนา เป็นเรื่องของการพึ่งตนเอง. ผู้ที่หวังผลจากการได้พรโดยไม่ทำกิจต่าง ๆ ที่พึงทำ ย่อมไม่เป็นไปตามพรที่ไปขอและได้รับ ถึงแม้จะได้รับพรมากมายเพียงใดก็ตาม. ตามแนวพุทธนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พึ่งสติปัญญาของคนเอง เพื่อให้เป็นไปตามที่ตนปรารถนา. สติปัญญามี ๒ องค์ประกอบหลัก คือ ๑. สติปัญญาทางโลก คือ สติปัญญาทางด้านวิชาการสำหรับใช้ในการทำกิจต่าง ๆ ให้มีความเจริญงอกงาม เพื่อการแก้ปัญหา รวมทั้งเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน. ๒. สติปัญญาทางธรรม ตือ สติปัญญาทางด้านธรรมะเพื่อการดูแลจิตใจ คำพูด และการกระทำของตนเองให้ละชั่ว มุ่งทำแต่ความดี เพื่อทำจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใสอย่างต่อเนื่อง หลักปฏิบัติเช่นนี้เป็นหลักปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระอรหันต์ทั้งหลายในวันมาฆะบูชาที่เรียกว่าโอวาทปาฏิโมกข์. โอวาทปาฏิโมกข์จึงเป็นหลักธรรมของพระอรหันต์อย่างย่อ ๆ ที่ทุกคนสามารถนำมาเป็นข้อปฏิบัติทางธรรมในชีวิตประจำวัน. ใจที่บริสุทธิ์ผ่องใสเกิดจากการไม่คิดอกุศล(ไม่คิดชั่ว) คือ ไม่คิดเบียดเบียนตนเองและหรือผู้อื่น จึงเป็นผลให้พ้นจากความชั่วและความทุกข์ทั้งปวงทางกาย วาจา ใจที่เกิดจากความชั่ว รวมทั้งเป็นบุคคลที่ประเสริฐ(อริยบุคคล)ในพระพุทธศาสนาอีกด้วย. การคิดแต่กุศล คือ คิดในเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและหรือผู้อื่น จึงเป็นผลให้จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพรให้แก่ปวงชนชาวไทยหลายครั้งด้วยการเชิญชวนให้ คิดดี ทำดี หรือคิดแต่กุศล เพื่อที่จะพูดและทำแต่กุศลนั้นเอง. คนที่จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใสย่อมทำกิจต่าง ๆ โดยไม่เบียดเบียนตนเองและหรือผู้อื่น ขณะเดียวกัน ยังทำประโยชน์ต่อตนเองและหรือผู้อื่นด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส. ภาวะที่จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส คือ ภาวะนิพพานหรือนิโรธนั่นเอง. ทุกคนก็สามารถทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสได้เช่นกัน โดยการมีสติคิดแต่กุศลอย่างต่อเนื่องชั่วชีวิต. การที่จะทำกิจต่าง ๆ หรือการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องได้นั้น ต้องอาศัยสติปัญญาทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป การจะทำเช่นนี้ได้นั้น ต้องพัฒนาความรู้และความสามารถ(สติปัญญา)ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมทั้งพยายามใช้สติปัญญาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องชั่วชีวิต. ในปีใหม่นี้ การให้พรตนเองด้วยการสั่งตัวเองเป็นประจำว่า "ต่อจากนี้ไป เราจะมีความเพียรที่จะพัฒนาและใช้สติปัญญาทั้ง ๒ ด้าน ในการทำกิจต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณค่า บริสุทธิ์ และยุติธรรม เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อยู่ข้างเคียง สังคม และประเทศชาติ" เมื่อสั่งตนเองแล้ว ก็ต้องพยายามทำตามที่ตนสั่ง. เมื่อใดที่มีสติรู้ตัวว่า กำลังคิด หรือพูด หรือทำอกุศลก็ให้ระงับทันที ซึ่งจะเป็นผลให้จิตใจมีความบริสุทธิ์ผ่องใสเข้าถึงภาวะนิโรธหรือนิพพานได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น. การให้พรผู้อื่นควรให้ความรู้ในทำนองนี้ด้วย เพื่อจะได้เป็นไปตามคำอวยพร ซึ่งเป็นรูปแบบที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพรในวันขึ้นปีใหม่นั่นเอง. ปีใหม่นี้และตลอดไป ขอเชิญทุกท่านมีความเพียรพัฒนาหรือเพิ่มพูนและใช้สติปัญญาทางโลกและทางธรรมในชีวิตประจำวันจนเป็นนิสัยอย่างต่อเนื่อง. เพื่อให้ท่านเข้าใจในเนื้อหาของสติปัญญาทางธรรมมากขึ้น จึงขอเชิญทุกท่านแวะไปอ่าน ฟัง และดูวิดีโอฟรี ในเรื่องของสติปัญญาทางธรรม ที่เว็บไซต์หลักของผม คือ //www.thai60.com ซึ่งในตอนนี้มีหนังสือเรื่องใหม่ให้ท่านได้ศึกษา คือ เรื่อง วิธีเข้าถึงนิพพานในชาตินี้. ปล. อย่าลืมให้พรตนเองทุกวันและลงมือทำจนเป็นนิสัย เพื่อความเจริญ มั่นคง และผาสุกชั่วชีวิต.
Free TextEditor
Create Date : 30 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 2 มกราคม 2555 13:58:18 น. |
|
1 comments
|
Counter : 766 Pageviews. |
|
|
|