"เจ้านาย" ผู้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ เมื่อปี พ.ศ. 2477 (ตอนที่ 6)
ตอนที่ 6 รัชทายาทในสมัยรัชกาลที่ 7 (ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง)

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงประสบปัญหาเรื่องรัชทายาทคล้ายคลึงกับในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพราะถึงแม้จะทรงมีพระอัครมเหสี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี แต่ก็ไม่ปรากฏว่าจะทรงมีพระราชโอรสสืบสันตติวงศ์แต่อย่างใด ประกอบกับที่ทรงมีพระสุขภาพไม่ค่อยปกตินักจึงมักมีผู้คาดการณ์เกี่ยวกับเจ้านายที่จะรับเป็นรัชทายาทแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในช่วงก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ. 2475 มีเจ้านายหลายพระองค์ที่อยู่ในข่าย หรือได้รับการสนับสนุนให้เป็นรัชทายาท



สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช
ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 ตำแหน่งรัชทายาทควรจะตกอยู่กับสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์(ต้นราชสกุล “มหิดล”) พระราชโอรสพระองค์สุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติจากสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี(สมเด็จพระพันวัสสา) พระมเหสีที่มีพระอิสริยยศรองจากสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ(สมเด็จพระพันปีหลวง) แต่ทรงมีพระชนมายุเพียง 38 พรรษาเท่านั้น ก็สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2472



สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต(ต้นราชสกุล “บริพัตร”) พระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติจากพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี (ในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี) ทรงเป็นเจ้านายชั้นสูงอีกพระองค์หนึ่งที่หลายฝ่ายสนับสนุนและต้องการให้พระองค์เป็นรัชทายาท แม้จะทรงอยู่ในอันดับที่ 3 ของลำดับผู้ที่สืบสันตติวงศ์ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ได้ทรงกล่าวถึงพระฐานะของสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตร ไว้ในหนังสือเกิดวังปารุสก์ความว่า

“...เมื่อข้าพเจ้าอยู่เมืองไทยเวลานั้น (๒๔๗๓) ตามเสียงคนพูดกันทั่วไปดูทุกๆ คนรู้สึกกันว่า ถ้าทูลกระหม่อมอายังคงไม่มีพระราชโอรสอยู่ตราบใด ทูลหม่อมลุงบริพัตรทรงมีหวังที่จะได้รับตั้งสืบราชสมบัติต่อไปมากกว่าเจ้านายพระองค์อื่นๆ ถึงแม้ตามกฎมณเฑียรบาลท่านทรงเป็นพระองค์ที่ ๓ อยู่แล้ว เวลานั้นท่านทรงเป็นเจ้านายที่มีตำแหน่งราชการสำคัญที่สุด ทรงเป็นใหญ่ในอภิรัฐมนตรีสภา เป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงเป็นผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็ก ครั้นเมื่อทูลกระหม่อมอาเสด็จประพาสอเมริกาก็ได้ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ปรากฏว่ามีผู้คนรักใคร่นับถือเป็นอันมาก...”



พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าพงษ์จักร เป็นพระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ กับหม่อมคัทริน มีศักดิ์เป็นพระราชภาติยะ(หลานอา)ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีผู้คาดหมายว่าพระองค์อาจเป็นเจ้านายอีกพระองค์หนึ่งที่อาจจะได้รับเลือกเป็นรัชทายาท เพราะทรงเป็นเจ้านายชั้นหลานเธอเพียงพระองค์เดียวที่ได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในฐานะที่ทรงเป็นหลานอาแท้ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว เช่น เมื่อเสด็จกลับมาประทับในกรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราวในปี พ.ศ. 2473 ระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศยุโรป รัชกาลที่ 7 ได้เสด็จฯ ไปรับพระองค์จุลด้วยพระองค์เองที่สถานีรถไฟจิตรลดา ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประทับอยู่ที่พระนั่งอุดร ภายในพระราชวังดุสิต และการได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 1 ในขณะที่เจ้านายหลานเธอชั้นเดียวกันได้รับพระราชทานชั้นที่ 2 เป็นต้น แต่การยกย่องเป็นพิเศษนี้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงยืนยันว่ารัชกาลที่ 7 ไม่ได้มีพระราชประสงค์ที่จะให้พระองค์เป็นรัชทายาทแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะทรงเป็นหลานอาแท้ๆ ที่ทรงคุ้นเคยกันมาก่อน และในความเป็นจริงพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ก็ได้ถูกตัดสิทธิ์ในการสืบราชสันตติวงศ์มาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้ว เพราะทรงมีพระมารดาเป็นนางต่างด้าว และรัชกาลที่ 7 เองก็ทรงแสดงพระราชประสงค์อย่างชัดเจนที่จะปฏิบัติตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 6 ในการที่จะไม่ยกพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เป็นรัชทายาท ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาถึงพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ลงวันที่ 15 มกราคม 2471 ความว่า

“...ฉันจะพูดกับแกตรงๆ และหวังว่าแกจะพยายามเข้าใจความคิดของฉัน ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างยิ่งที่ต้องเอามาพูด แต่เป็นการจำเป็นและแกก็รู้ตัวดี คือแกเป็นคนครึ่งชาติและเพราะเหตุผลนั้นจึงถูกยกเว้นจากการสืบราชสมบัติ
ฉันไม่ต้องการให้แกได้เข้าเฝ้าพระเจ้ายอร์ช(แห่งอังกฤษ จ.จ.) เพราะแกไม่อยู่ในขอบเจตสืบสันตติวงศ์ ฐานะของแกในเมืองไทยคือเป็นเจ้านายและเป็นหลานแท้ๆ ของฉัน แต่ต้องถูกยกเว้นจากการได้ขึ้นราชบัลลังก์
ฉันเห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ก่อน (ร.6. จ.จ.) ท่านทำผิดในการที่ทรงตั้งแกเป้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ เพราะท่านได้ตั้งพระทัยจะยกเว้นแกมาตั้งแต่แรก การเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอมีแต่จะทำให้ฐานะแกครึ่งๆ กลางๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็แก้ไขไม่ได้เสียแล้ว...”



พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล
พระองค์เจ้าอานันทมหิดล พระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าอานันทมหิดล เป็นพระโอรสองค์โตในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ กับหม่อมสังวาลย์ เมื่อพระราชบิดาสิ้นพระชนม์พระองค์จึงได้ทรงอยู่ในอันดับที่ 1 ของลำดับการสืบสันตติวงศ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงพระนิพนธ์ไว้ในเกิดวังปารุสก์ ดังนี้

“...ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ หากทูลกระหม่อมอาเอียดน้อยมิได้ทรงแต่งตั้งเจ้านายพระองค์อื่น องค์ชายอานันท์ก็ย่อมจะเป็นรัชทายาท แต่ทูลหม่อมอายังมิได้ประกาศรับรองว่าเป็นเช่นนั้น...”

ดังนั้นในขณะที่รัชกาลที่ 7 ยังไม่ทรงตั้งเจ้านายพระองค์หนึ่งพระองค์ใดเป็นรัชทายาท พระองค์เจ้าอานันทมหิดลจึงเป็นเจ้านายอีกพระองค์หนึ่งที่คาดกันว่าอาจจะได้เป็นผู้สืบราชบัลลังก์ต่อไปตามกฎมณเฑียรบาล ดังที่สมเด็จพระเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิพนธ์ไว้ในเจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์ ความว่า

“...วันหนึ่งพระองค์ชายกลับมาจากโรงเรียนและมาบอกแม่ว่ามีเพื่อนที่โรงเรียนมาเรียกว่า ‘องค์โป้ย’ แม่จึงเข้าใจทันทีว่าแปลว่า ‘องค์ 8’...”


หมายเหตุ พระอิสริยยศของเจ้านายแต่ละพระองค์ที่อ้างถึงนั้น เป็นพระอิสริยยศที่ดำรงอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 7



Create Date : 22 พฤษภาคม 2549
Last Update : 22 พฤษภาคม 2549 16:23:30 น.
Counter : 18575 Pageviews.

15 comments
  
Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ เลย

โดย: Susie วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:18:30 น.
  
ขอ Happy Birthday ร่วมด้วยอีกคนครับ คงยังไม่สายไป


และขอแสดงความคิดเห็นเป็นข้อเล็กน้อยสักนิดหนึ่งครับ

พระนาม "มหิดลอดุลเดช" (ไม่มี "ย" ตรง "อดุลเดช") ใช้ตั้งแต่แรกประสูติ

เมื่อครั้งเฉลิมพระเกียรติยศในรัชกาลที่ ๘ ก็ยังใช้พระนามเป็น "สมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์" (ไม่มี "ย")

ต่อเมื่อเฉลิมพระนามพระอัฐิในรัชกาลที่ ๙ เป็น "สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก" (มี "ย" เป็นครั้งแรก)
โดย: นิค (nickmee ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:16:21 น.
  
Happy Birthday ครับ
โดย: THE Bank (THE Bank ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:56:45 น.
  
nice reading ... thank you so much!!
โดย: movl IP: 220.238.58.125 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:6:12:39 น.
  
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะครับ
โดย: wbj วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:47:38 น.
  
ได้ความรู้เยอะมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
โดย: ป้าตั๊ก IP: 124.120.86.83 วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:25:04 น.
  
แล้วทำไมพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุภฏ ซึ่งเป็นพระโอรส ใน กรมพระนครสวรรค์จึงไม่ได้รับเลือกให้เป็นพระรัชรัชทายทต่อจาก พระองค์เจ้าอานันทมหิดลทั้งที่พระมารดาของพระองค์ก็เป็นหม่อมเจ้าแล้วยังพระสะใภ้หลวงด้วย
โดย: ป๋อม IP: 125.26.43.233 วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:22:58 น.
  
ทองเเดง
โดย: bin IP: 125.26.36.156 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:17:08:34 น.
  
ทองเเดง
โดย: bin IP: 125.26.36.156 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:17:09:57 น.
  
ท่านไม่น่าสวรรณคตเลย
โดย: เฟิด IP: 58.9.62.116 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:12:03:10 น.
  
ตอบคุณป๋อม เหตุที่พระองค์จุมภฎไม่ได้รับเลือกให้เป็นพระรัชทายาท เพราะสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรฯ ซึ่งเป็นพระบิดาทรงมีลำดับสืบสันตติวงศ์ต่อจากสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช ซึ่งเป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 ที่ประสูติจากพระอัครมเหสี ส่วนสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรนั้นทรงประสูติจากพระราชเทวีจึงต้องมีลำดับรองลงมา

และตามกฎมณเฑียรบาล หากพระอนุชาสิ้นพระชนม์ลงไป ให้สิทธิตกไปอยู่กับพระโอรสของพระอนุชา ต่อเมื่อพระอนุชาพระองค์นั้นไม่มีพระโอรส สิทธิ์จึงจะไปตกอยู่กับพระอนุชาพระองค์ถัดไปครับ
โดย: เคน IP: 58.9.93.205 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:22:10:01 น.
  
รัชกาล 7 ท่านได้แต่งตั้งรัชทายาทไว้หลายท่านเพราะอะไรครับ
โดย: เอกกมล IP: 203.118.98.34 วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:15:02:33 น.
  
ก็ด้วยเหตุที่ไม่ได้เป็นรัชทายาทนี่แหล่ะ ม.ร.ว.พันธ์ทิพย์ บริพัตร พระชายาพระองค์เจ้าจุมภฎพงษ์ คุณทั่นค่อนข้างขัดเคืองในเรื่องนี้มาตลอดชีวิตของท่าน ซึ่งจริงๆ แล้วท่านไม่ควรมีความรู้สึกแบบนี้เพราะเป็นผลเสียแก่คุณทั่นเอง ประจักษ์พยานคือ ท่านสั่งเสียคนใกล้ชิดไว้ว่าจะไม่รับพระบรมราชานุเคราะห์ในงานศพของท่าน ซึ่งถ้าดูกันจริงๆ ท่านไม่น่าทำมันเพราะแสดงนิสัย (ขี้อิจฉา คุมแค้น) ถ้าจะมองว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็น่าจะได้ถ้าจะเอาเรื่องกันจริงๆ หม่อมเอ้ยหม่อม ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ พวกเศษเจ้าก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น เจ้าชั้นสูงท่านจะไม่ทำแบบนี้
โดย: คนในวังสวนผักกาด IP: 202.28.181.11 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:14:15 น.
  
ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทุกพระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย และขอให้คนไทยสร้างความสามัคคีในหมู่คณะเพื่อตอบแทน และชดใช้บุญคุณแผ่นดินนี้ที่เกิดมา สร้างสามัคคีกันเถอะเพื่อพ่อหลวงไทยทุกพระองค์....
โดย: คนไทยที่รักชาติ IP: 124.121.201.47 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:39:37 น.
  
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
โดย: เด็กม.4 IP: 202.176.104.73 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:13:50:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รอยใบลาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]



สโมสรของอัศวินแห่งอินทรนคร
All Blog