ใบตัดชนิดนี้ซื้อมาจากที่ร้านสยามตากเป็นใบตัดที่ทางช่างเรียกว่าเป็นใบตัดกระเบื้องแกรนิตโต้เมื่อนำมาตัดหินอ่อนจะกินหน้าหินอ่อนน้อยมากเนื่องจากใบตัดนี้มีความบางมาก ส่วนกลางของใบทำจากเหล็กเจาะรูเพื่อช่วยในการระบายความร้อนส่วนขอบนอกจะทำจากเศษเพชรที่ถูกนำมายึดติดกับเหล็กเพื่อให้มีความคมและแข็งเพียงพอที่จะสามารถตัดงานแข็งๆเช่นหินแกรนิตหรือแกรนิโต้ได้ แต่หากนำแผ่นตัดนี้มาตัดหินอ่อนก็ยิ่งทำให้งานเนี๊ยบมากยิ่งขึ้นเสียอย่างเดียวราคาแพ๊งแพง ใบตัดหินส่วนใหญ่หรืออุปกรณ์อะไรใดๆเกี่ยวกับหินสามารถไปหาซื้อได้ตามร้านที่ขายหินทั่วๆไปแต่หากต้องการที่ขายอุปกรณ์อย่างเดียวโดยเฉพาะและราคาไม่แพงแล้วช่างหินทั่วไปก็จะรู้ว่าต้องไปหาที่ร้านราชา

ใบตัดหินโดยทั่วไปสามารถนำมาตัดหินอ่อนได้แต่ไม่สามารถนำมาตัดหินแกรนิตหรือแกรนิตโต้ได้(ในความเป็นจริงหากจะนำมาฝืนตัดก็ได้แต่งานก็จะออกมาไม่ดีมีรอยบิ่นรอยแตกที่บริเวณที่ตัดเยอะเหมือนกับเอามีดทื่อๆไปหั่นเนื้อซึ่งจะทำให้เนื้อช้ำและไม่สวยงาม) มีราคาที่ถูกกว่าใบตัดแกรนิตโต้มากโดยจะเห็นว่าใบตัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่ติดกับแกนจับเป็นเหล็กธรรมดาแต่ส่วนที่ถัดออกมาเป็นส่วนที่ใช้สำหรับตัดหินจะมีความหยาบมากกว่าส่วนแรกใบชนิดนี้จะมีความหนามากกว่าใบตัดแกรนิตโต้

 ใบเจียเพื่อขัดหน้าหินส่วนใหญ่นิยมยี่ห้อ kinik เพราะราคาไม่สูงเกินไปและใช้ได้นานพอสมควร สามารถหาซื้อได้ตามคลองถม โดยปกติช่างหินจะใช้อยู่ 2 ขนาดคือ เบอร์

60(หยาบ) กับเบอร์ 120(ละเอียด)ใช้ในการแต่งหน้าหินให้ได้ตามรูปร่างที่ช่างหินต้องการ

สภาพหน้างานขณะทำการขัดแต่งหน้าหินให้เรียบเสมอจะเห็นว่าผนังที่ต้องการให้มีความโค้งกำลังถูกขัดแต่งเป็นเส้นแนว โดยวิธีการทำนั้นช่างจะทำการกำหนดแนวที่จะทำให้เกิดความโค้งขึ้นก่อนจากนั้นจึงนำหินที่มีความหนา 6 ซม.มาติดตั้งตามแนวโค้ง ที่ใช้หินความหนา 6 ซม.เพราะผมไม่ต้องการให้เกิดแนวต่อมากนั่นเอง ในการติดตั้งหินก็จะนำหินมาเจาะด้านหลังแล้วนำขอเกี่ยวสเตนเลสยึดติดด้านหลังจากนั้นทาด้วยกาวepoxy แล้วจึงนำหินมาเรียงโดยเริ่มเรียงจากก้อนแรกที่ติดกับพื้นไร่ขึ้นมาในแต่ละก้อนที่ต่อกันก็จะใช้เศษหินอ่อนชิ้นเล็กๆและกาว epoxy มาเป็นตัวยึดเกาะตรงรอยต่อเพื่อให้หน้าหินเสมอกัน เรียงแผ่นหินขึ้นมาสูงในระดับหนึ่งโดยจะทำการเว้นพื้นที่ด้านบนสุดไว้เพื่อจะได้กรอกปูนเข้าไปที่ด้านหลังแผ่นหินได้ โดยขอเกี่ยวสเตนเลสที่ติดตั้งเอาไว้ด้านหลังตั้งแต่แรกจะทำการรั้งแผ่นหินไม่ให้ล้มหน้าคว่ำลงมา จากนั้นจึงใช้ลูกหมูพร้อมใบเจียเบอร์ 60 เบอร์ 120 และตัวขัดหินขัดเพื่อกินหน้าหินไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้โค้งตามต้องการ

หลังจากทำการขัดแต่งหินได้ในระดับนึงจะพบว่าผนังหินมีความโค้งมนตามแบบที่คิดไว้ในส่วนด้านบนจะยังไม่มีการขัดละเอียดจึงพบว่าหินมีลักษณะเป็นฝ้าๆคล้ายๆกับเอาแป้งฝุ่นมาทา ส่วนด้านล่างมีความเงางามขึ้นมาบ้างเล็กน้อยเพราะผ่านการขัดด้วยใบขัดละเอียดแล้วรอบนึง

ใบเจียหินอีกชนิดหนึ่ง ใบเจียชนิดนี้จะกินหน้าหินมากกว่าใบเจียเบอร์ 60 และเบอร์ 120 เอาไว้กินหน้าหินมากๆ ลืมถามช่างว่ามันเรียกว่าอะไรมารูปร่างเหมือนดิสเบรคยังไงอย่างงั้นเลย

ใบตัดหินอีกชนิดหนึ่งที่ใช้กับเครื่องยี่ห้อ Makita ที่เป็นยี่ห้อตัวพ่อของ maktec เป็นเครื่องตัดหินที่มีความแม่นยำประณีตและรวดเร็วมากว่าลูกหมูมากโดยหลังจากใส่ใบตัดหินแล้วก็สามารถไล่ตัดหินได้ตามแนวที่วางเอาไว้ได้เลย มีข้อเสียตรงที่ใบตัดชนิดนี้จะกินหินมากกว่าใบตัดกระเบื้องแกรนิตโต้และแน่นอนแพงกว่าด้วย

ภาพชิ้นงานบันไดก่อนนำไปติดตั้งหลังจากทำการตัดและแต่งด้วยใบเจียหินและการขัดมือบางส่วนแล้ว

บันไดใช้หินอ่อน white carara ที่มีความหนา 4 ซม.ลบปลายมนแบบครึ่งวงกลมเป็นตัวนอนของบันไดและติดตั้งขอบล่างหินลายบัวหลุยส์ด้วยกาว epoxyโดยลายบัวหลุยส์จะมีความลึก 5 ซม.ในขั้นตอนการติดตั้งช่างจะวางบัวหลุยส์ให้อยู่เหนือตัวตั้งของบันไดเพื่อให้ตัวตั้งของบันไดมาเป็นฐานรับบัวหลุยส์ประโยชน์เพื่อให้บัวหลุยส์ไม่หลุดออกมา

หินขนาดต่างๆที่นำมาขัดแต่งเพื่อทำฐานล่างของตัวกันตกใช้หินที่มีขนาดความหนา 8 ซม.  นำมาขัดแต่งที่หน้างาน หินหนาขนาด 4 ซม.ที่นำมาทำตัวนอนของขั้นบันได และหินหนา 2 ซม.ที่นำมาทำตัวตั้งของขั้นบันได  

เสากลางบ้านต้นใหญ่สูงประมาณ 7 เมตร

ในขั้นตอนแรกช่างจะทำการติดตั้งแผ่นหน้าของเสาทั้ง 4 ด้านก่อนโดยการเจาะด้านหลังหินแล้วฝังตะขอสเตนเลสเข้าไปเหมือนกับการทำผนังบันไดเพื่อช่วยในการยึดเกาะแล้วจึงกรอกปูนที่ประกอบไปด้วยหินเกล็ดขาว+ปูนขาวเข้า จากนั้นจึงค่อยทำการขุดบัวของมุมเสาซึ่งบัวที่ขอบมุมเสาประกอบไปด้วยหิน 3 ส่วนคือ ขอบบัวข้างเป็นรูปตัวโอห์ม 2 ข้าง และตรงกลางเป็นรูปตัวยูเพื่อหลีกเลื่ยงมุมเสาที่แหลมคม ตามตำราหลักฮวงจุ้ย

การต่อชิ้นของบัวขอบเสาให้ตรงกับชิ้นของแผ่นหินที่ปูพื้นเสาเพื่อความประณีตเรียบร้อยหลังจากติดตั้งเสร็จต้องทำการขัดน้ำอีกครั้งเพื่อความเงางามแต่อย่างไรก็ตามช่างไม่สามารถขัดบัวให้มีความเงางามเทียบเท่ากับแผ่นหน้าเสาได้เพราะแผ่นหน้าเสานั้นขัดมาจากโรงงานหินโดยใช้เครื่องขัดขนาดใหญ่แต่บัวที่ช่างขุดขึ้นมานี้ใช้การขัดมือ ดังนั้นวิธีการทำให้ความเงาของเสาและบัวใกล้เคียงกันก็คือช่างจะต้องขัดแผ่นหน้าเสาด้วยเพื่อทำให้ความเงาของบัวและแผ่นหน้าเสาใกล้เคียงกัน ประมาณว่าลดความเงางามของหน้าเสาเพื่อให้ใกล้เคียงกับความเงางามของมุมเสา

ขอบข้างบันไดที่จะติดตั้งราวกันตกมีการขุดบัวลบเหลี่ยมโดยใช้หินที่มีความหนา 8 ซม.นำมาขัดแต่งทั้งตัวตั้งและตัวนอน สำหรับตัวตั้งจำเป็นที่จะต้องขุดหินทิ้งเพื่อจะได้ทำให้หินมีความโค้งซึ่งหากต้องการให้มีรอยต่อของหินน้อยมากเท่าไหร่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้หินที่มีความหนามากเท่านั้นดังนั้นโดยทั่วๆไปแล้วช่างจะต่อหินในทุกๆระยะ 10 ซม.เพราะสามารถใช้หินที่มีความหนาเพียง 2 ซม.ได้(หินโดยทั่วไปจะมีความหนาเพียง 2 ซม.เพราะหินที่มีความหนา 2 ซม.นี้เป็นขนาดที่เหมาะสมกับการนำปูพื้นและผนังจึงหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่สูงนัก)แต่หากต้องการหินที่มีความหนามากกว่า 2 ซม.เพื่อนำไปใช้ในงานตกแต่งจำเป็นที่จะต้องสั่งซื้อจากทางบริษัทขายหินที่มีการนำหินเข้ามาทั้งก้อน สำหรับหินอ่อน white carara นั้นบริษัทที่นำเข้ามาเป็นก้อนๆเลยก็คือบริษัทหินอ่อนจำกัด ส่วนสำหรับหินแกรนิตดำอาฟริกาบริษัทที่นำหินเข้ามาเป็นก้อนเลยก็ได้แก่บริษัทบางกอกโมเดอร์นแกรนิต หรือ BMG ตัวนอนของขอบข้างบันไดก็จำเป็นที่จะต้องใช้หินหนาเช่นกันเพราะตัวนอนของราวกันตกมันจะมีการบิดตัว 2 แกนทำให้ไม่สามารถใช้หินบางมาวางเอียงองศาได้

พื้นที่ที่ช่างหินใช้ในการขัด ตัด เจียหินก่อนนำมาติดตั้ง โดยแท่นนี้จะทำจากไม้ต่อขึ้นมาเองให้อยู่ในระดับเอวแล้วนำยางในของล้อรถยนต์มาพันไว้รอบเพื่อช่วยในการยึดเกาะหินขณะทำการขัดตัดเจียโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับหินอีกทั้งยังทำให้ช่างหินทำงานง่ายขึ้นด้วย ภูมิปัญญาชาวบ้านล้วนๆ

กระดาษทรายที่ช่างหินใช้เพื่อขัดแต่งหินให้สวยงามตามต้องการโดยใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ตั้งแต่ 80 จนถึงเบอร์ 400 มาขัดแต่งโดยช่างหินจะแบ่งเบอร์กระดาษทรายออกเป็น 6 ช่วง ตามความเหมาะสมของชนิดหินแล้วจึงทำการขัดหินไล่เบอร์ไปเรื่อยๆ เช่น ช่างหินอาจเริ่มที่เบอร์ 60 120 240 300 320 และจบที่เบอร์ 400 กระดาษทรายน้ำมีหลายชนิดหลายยี่ห้อแต่ที่นิยมกันก็คือกระดาษทรายน้ำตรานกนางแอ่น(swallow)จากประเทศญี่ปุ่น เพราะสามารถใช้ได้ทนนาน

ขอบหินที่ติดตั้งตามผนังมีการเจียเพ่เพื่อให้เห็นลวดลายบนผนัง ด้านหลังมีการเซาะร่องฝังตะปูเหล็กเพื่อการยึดเกาะของหิน หินที่ประดับอยู่นี้เป็นหินสีเนื้อครีมซึ่งสามารถใช้ ทรายเหลืองหยาบผสมกับซีเมนต์เขียวในการกรอกได้ ความเหลืองที่มันซึมออกมาจากผนังจะกลมกลืนทำให้ดูไม่ออกว่าทรายเหลืองซึมออกมา

 พัดลมใช้ในการเป่าฝุ่นหินให้กระจายออกไปทำให้ช่างหินไม่ต้องสูดฝุ่นหินเพียงผู้เดียว

ปูหินอ้อมใต้คานเพื่อให้งานหินสามารถที่จะมาจบได้กับงานฝ้า

พื้นที่ต่อเนื่องระหว่างหินสีขาวและหินสีเนื้อส่วนบริเวณที่ยังไม่ได้ปูหินจะให้ช่างฝ้ามาจบงาน  

เสาหินกลมที่กลึงมาจากโรงงานกำหนดให้ใช้การขัดหินแบบ horn เพื่อหลีกเลี่ยงการฟ้องรอยต่อที่ไม่ต่อเนื่องของหิน หากทำการขัดเงาแสงที่สะท้อนจากแสงไฟจะทำให้เห็นความไม่เสมอของรอยต่อได้ โดยปกติรอยต่อของหินช่างจะใช้กาวผสมสีโป๊วรอยต่อแล้วจึงทำการขัดอีกครั้งหนึ่งดังนั้นหากลองเอามือลูบดูแทบจะไม่รู้สึกถึงรอยต่อของหินเลย มีช่างหินบางคนที่ไม่รู้จึงใช้ปูนยาแนวไปโป๊วรอยต่อทำให้งานไม่เนียนและไม่สวยงาม

บัวรูป โอห์ม ที่ใช้คั่นระหว่างเสาเพื่อให้เสาไม่ดูน่าเบื่อขัดแต่งอย่างถูกขั้นตอนรวมทั้งสิ้น 6 ขั้นทำให้บัวมีความเงางามสะท้อนแสงดูดีมีราคามาก

ฐานล่างของเสาแต่งให้เป็นการยก step  2 ชั้นโดยชั้นล่างใช้ความหนาของหินเป็นตัวจบส่วนชั้นบนใช้หินวางแนวเอียง45องศาเข้าผนังเป็นตัวจบ

แก้ความเลี่ยนของผนังเรียบด้วยการกรุผนังเป็นรูปลายฟักแต่ทำจากหินโดยการใช้บัวรูป โอห์มขึ้นกรอบจากนั้นจึงทำการยกระดับของแผงภายในขึ้นโดยมีแนวมุมเอียงประมาณ 30 องศาจากแนวบัวโอห์มและให้แผ่นผนังสูงกว่าตัวเอียงประมาณ 5 มิล เพื่อสร้างมิติให้กับตัวหินภายในกรอบ

 หัวซุ้มเสาทำเลียนแบบบ้านทรงโรมันเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมคางหมูซ้อนกัน 2 ก้อนโดยแผ่นหน้าสุดใช้หินหนา 2 ซม.ซ้อนกับหินหนา 6 ซม.อีก 2 ก้อน เอามาตัดต่อเข้ากับบัวรูปโอห์มที่ขัดแบบโค้งทำให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นซุ้มโค้ง

 บัวรูปโอห์มที่ขัดแบบโค้งวิ่งขึ้นจากฐานเสาไปทะลุก้อนสี่เหลี่ยมคางหมูจนถึงฐานเสาอีกด้านหนึ่ง