เนื่องจากที่บ้านจะทำระเบียงไม้เทียม ผมเกิดความไม่แน่ใจในหลายๆอย่างว่าถ้าทำออกมาแล้วพื้นจะหักไม๊ การซึมน้ำจะเป็นอย่างไร สีจะทนไหม ทำออกมาแล้วมันจะเหมือนไม้จริงไหม จึงเป็นที่มาของการทำตัวจำลองพื้นไม้เทียม conwood นี้ครับ จริงๆแล้วผมค่อนข้างที่จะไม่พอใจกับสินค้ายี่ห้อนี้เพราะที่บ้านเคยติดระแนงไม้บังตายังไม่ถึงปีหัวแผ่นก็แตกกันระนาวแต่ให้ตายสิครับไม่น่าเชื่อว่าในตลาดไฟเบอร์ซีเมนต์เนี่ยไม่มียี่ห้อไหนทำลายไม้มาได้เหมือนไปกว่ายี่ห้อนี้เลยจำใจต้องใช้ยี่ห้อนี้ครับ(ผมเข้าใจว่าติดลิขสิทธิ์เลยทำให้ยี่ห้ออื่นไม่สามารถเลียนแบบให้เหมือนได้ครับ)
ผมไปซื้อพื้นไม้คอนวูดจากโฮมโปรมาเชื่อไหมครับที่โฮมโปรขายถูกกว่าร้านขายวัสดุครับสำหรับสินค้าตัวนี้ หน้ากว้าง 12 นิ้ว ยาว 305 ซม. แผ่นนี้เซาะร่องระยะ 6 นิ้ว ราคา 599 บาท ต่อแผ่นซึ่งจะเท่ากับประมาณ 1 ตรม.
ซื้อเหล็กตัวซี ขนาด 75x45x15 หนา 2.3 มิลมาทำเป็นโครงครับ
ระยะตง 30 ซม. ตามที่คอนวูดกำหนด
ใช้แผ่นตัดปูนสำหรับตัดแผ่นคอนวูดครับ
ประยุกต์เอาเหล็กฉากมาทำเป็นแท่นตัดยกให้แผ่นคอนวูดลอยเหนือขึ้นมาจากพื้นครับ
เศษที่ตัดออกมาเหมือนกระดาษเลยครับ ฝุ่นเพียบเลย
หลังจากตัดแล้วก็นำมาวางบนโครงที่เตรียมไว้
ใช้ดอกสว่าน 2 ขนาดในการเจาะรูครับใช้ดอกสว่านขนาด 5/16 เจาะนำก่อน แล้วค่อยตามด้วยดอกสว่านตัวเล็กที่เล็กกว่าสกรูเล็กน้อยเพื่อให้สกรูทะลุเหล็กได้ง่ายขึ้น
หลังจากเจาะเสร็จก็จะได้รูลักษณะนี้
ใช้ปากกาตัวซีจับแบบไว้กันเคลื่อนครับ
พอเจาะสรูทะลุพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์และเหล็กเสร็จก็จะเป็นแบบนี้ครับ
หัวสกรูจมลงไปในแผ่นประมาณ ครึ่งเซนต์เห็นจะได้
จากนั้นก็ทำการโป๊วครับผมลองใช้ตัวโป๊ว 2 ชนิดครับอย่างแรกคือ acrylic filler ของ bager อันนี้พนงขายที่โฮมโปรแนะนำมาเค้าแถมพลาสติก 3 เหลี่ยมมาเพื่อช่วยในการโป๊ว ส่วนเกรียงอันเล็กๆนั่นซื้อแยกต่างหากมาครับ
โป๊วออกมาแล้วก็จะได้ประมาณนี้ครับ ผมว่างานโป๊วนี่มันยากเหมือนกันครับเพราะมันจะไม่ค่อยลงไปในร่องและมันจะติดเกรียงโป๊วเวลาที่เราไม่อยากให้มันติดหน่ะครับ
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการโป๊วเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางคอนวูดแนะนำมาครับมันคือปูนยาแนวนั่นเองเค้าแนะนำยี่ห้อจระเข้
สีเทาธรรมชาติเหมือนกับสีปูนจ๊ะ
ความยากในการโป๊วพอพอกับอันแรกแต่พอโป๊วออกมาแล้วขัดด้วยกระดาษทรายเสร็จมันดูเนียนไปกับพื้นมากๆ มองผ่านๆเกือบไม่เห็นรอยโป๊วเลยครับ
จากนั้นผมลองทาสีรองพื้นที่ทางพนงที่โฮมโปรแนะนำมา ตัวรองพื้น b-1900
ทาไปแล้วเป็นสีขาวๆครับเหมือนมีพลาสติกเคลือบเป็นเส้นๆแนวลายไม้
หลังจากรอ 3 ชม ก็เริ่มลงสีเลยครับ ใช้สีที่ได้รับการแนะนำมาจากหลายๆท่านในกระทู้ pantip นั่นคือ Bager Aqua deck
ผมได้ศึกษาและถามความเห็นของกูรูหลายๆท่านในกระทู้ pantip และได้พบว่าสี Bager Aqua deck นี่น่าจะเหมาะสมที่จะใช้ทาพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์มากที่สุดในขณะนี้ ทั้งด้านความทนและความเหมือนไม้ สีที่ผมเลือกคือสีไม้ประดู่ครับ ตอนแรกที่เข้าไปดูในเวปของ Bager พบว่าถ้าจะทาฝ้าหรือระแนงควรใช้ Bager Aqua Stain แต่ถ้าทาพื้นก็ให้ใช้ Bager Aqua Deck แต่พอไปถึงที่ร้านบอกว่าจะเอา Bager Aqua Deck จนท.กลับเอากระป๋องนี้มาให้ข้างๆกระป๋องก็เขียนอยู่ว่า Stain ไม่ใช่ Deck แต่คุณจนท.บอกว่ามันคือ Deck แถมชี้สติกเกอร์ที่ทาง HP แปะไว้ที่เขียนว่า Deck มาให้ดูเราก็เลยต้องเชื่อว่ามันเป็น Deck หวังว่ามันจะเป็น Deck น๊ะ
ผมทาสีรองพื้นเพียง 3 แผ่นครับ คือแผ่นที่ 1 3 4 (นับจากทางซ้ายมือน๊ะครับ) แผ่นที่ 1 2 ผมใช้โป๊วอะครีลิคของ beger ส่วนแผ่นที่ 3 4 5 6 ผมใช้โป๊วของจระเข้(จริงๆมันคือปูนยาแนวนั่นเอง)ครับ
แผ่นแรกโป๊วอะครีลิคพอทาสีรองพื้นมันก็จะมองไม่ค่อยเห็นจุดหัวสกรูครับเพราะสีรองพื้นมันเป็นสีขาวพอทาไปแล้วมันก็จะกลืนๆกันไปแต่จะเห็นว่าโป๊วอะครีลิคมีการยุบตัวทั้งๆที่โป๊วทับไป 2 ครั้งแล้ว
แผ่นที่สอง โป๊วอะครีลิคเหมือนกันครับแต่ไม่ได้ทาสีรองพื้น เห็นจุดที่โป๊วเลยครับ อันนี้รับบ่ได้เด้อ
แผ่นที่ 3 ครับ โป๊วด้วยจระเข้และทารองพื้นครับเนียนมากๆจุดที่โป๊วก็ไม่มีการยุบตัว
แผ่นสุดท้ายที่ไม่ได้ทาสีรองพื้นใช้ปูนยาแนวจระเข้และทาสี Beger Aqua Deck ออกมาเนียนมากๆเหมือนๆกับที่หลายท่านในเวป pantip แนะนำเลยว่าสีตัวนี้เด็ดจริงๆ
ผมได้ซื้อสี Bager fiber cement จนท.บอกว่าใช้ทา ไฟเบอร์ซีเมนต์โดยตรงเลยผมเลือกสีไม้ประดู่เหมือนกัน จากนั้นก็เอามาทาที่แผ่นที่ 4 5 เมื่อนำมาเรียงกันก็จะสรุปได้ดังนี้ครับ
แผ่นที่ 1 โป๊วด้วย อะครีลิค ทาสีรองพื้น สี Aqua
แผ่นที่ 2 โป๊วด้วย อะครีลิค ไม่ได้ทาสีรองพื้น สี Aqua
แผ่นที่ 3 โป๊วด้วย จระเข้ ทาสีรองพื้น สี Aqua
แผ่นที่ 4 โป๊วด้วย จระเข้ ทาสีรองพื้น สี fiber cement
แผ่นที่ 5 โป๊วด้วย จระเข้ ไม่ได้ทาสีรองพื้น สี fiber cement
แผ่นที่ 6 โป๊วด้วย จระเข้ ไม่ได้ทาสีรองพื้น สี Aqua
หลังจากทาไปแล้ว 2 รอบแผ่นแรกเป็นอย่างที่เห็นเนี่ยครับ
แผ่นที่ 2 ทาไป 2 รอบแล้วก็ยังเห็นโป๊วอย่างชัดเจน
แผ่นที่ 3 ถ้าทาสีรองพื้นไปแล้วทาสี Aqua ผมว่ามันจะดูจืดไปหน่อยเห็นสีขาวที่อยู่ด้านหลังชัดไปนิ๊ดนึง
แผ่นที่ 4 ผมว่าแผ่นนี้เข้าตากรรมการมากเพราะไม่เห็นรอยโป๊ว และสีดูเหมือนไม้มาก แต่ถ้าดูในระยะประมาณ 10-20 ซม.จะเห็นเม็ดสีขาวปนกับสีไม้ประดู่
แผ่นที่ 5 จะเห็นว่ามีรอยด่างๆ ที่เกิดจากการที่น้ำมันที่มือไปติด ถ้าทาสีรองพื้นเราจะไม่เห็นไอ่รอยด่างๆนี่ครับแผ่นนี้ใช้สี fiber cement ดูแล้วจะเข้มกว่าสีของ Aqua deck
แผ่นที่ 6 ตามความเห็นผมผมว่าแผ่นนี้เหมือนไม้ที่สุดเป็นแผ่นที่ใช้สี Aqua deck แบบไม่ทารองพื้นครับ มีข้อเสียอยู่เพียงประการเดียวคือจุดที่ทำการโป๊วด้วยจระเข้ด้านขวาล่างจะเห็นว่ายังเห็นเป็นพื้นผิวที่แตกต่างกันอยู่
สรุป
เมื่อทาครบ 2 รอบแล้วนำมาเปรียบเทียบกันผมว่าที่เข้าตามีเพียง 2 แผ่นคือ แผ่นที่ 4 และแผ่นที่ 6 ครับ
แผ่นที่ 4 โป๊วด้วย จระเข้ ทาสีรองพื้น สี fiber cement ถ้ามองใกล้ๆจะเห็นเม็ดสีเป็นจุดๆอยู่ แต่จะไม่เห็นรอยโป๊วเลยเพราะถูกสีรองพื้นปิดทับหน้าไปแล้ว
แผ่นที่ 6 โป๊วด้วย จระเข้ ไม่ได้ทาสีรองพื้น สี Aqua สีเหมือนไม้มากการสะท้อนก็ยังเหมือนเลยครับ แต่จะเห็นรอยโป๊วอยู่
ลองเลือกเอาครับว่าจะชอบแบบไหน
หลังจากผ่านแดดผ่านฝนมา 2-3 วัน เริ่มทำให้เห็นความแตกต่างของสีระหว่าง Bager Aqua deck กับ Bager synotec fiber cement ไม้แผ่นนี้เป็นไม้แผ่นที่ 4 ครับ
ไม้แผ่นนี้เป็นไม้แผ่นที่ 5 จะเห็นว่าถ้าใช้สี fiber cement โดยที่ไม่ทาสีรองพื้นเมื่อแผ่นไม้ถูกแดด และฝนเพียงแค่ 2 วัน แผ่นพื้นก็เริ่มมีคราบสีขาวๆปรากฎ
ไม้แผ่นที่ 6 ที่ทาด้วยสี Bager Aqua deck โดยไม่มีการทาสีรองพื้น พบว่าสียังคงเหมือนเดิมอยู่แต่แนวรอยโป๊วจระเข้ ก็ยังเห็นอยู่เหมือนเดิมครับ
แสดงให้เห็นกันชัดๆว่าแผ่นที่ 4 และ 6 ยังคงสภาพเหมือนเดิมแต่แผ่นที่ 5 สีเริ่มด้านๆ
สีfiber cement ที่ใช้คือยี่ห้ออะไร รุ่นไหนครับ
ขอบคุณครับ