|
อยู่ไฟกับพี่แหม่ม (มีรูป)
คือ ช่วงก่อนหน้าที่จะทำอยู่ไฟ
ก็ได้หาข้อมูลจากกระทู้เกี่ยวกับการอยู่ไฟมาอ่านอยู่หลายอัน
แต่ยังไม่ค่อยเห็นที่ทำเป็นReviewการอยู่ไฟ
พอดีโอกาสเหมาะ เลยขอทำReviewให้เพื่อนๆ ที่ไม่เคยอยู่ไฟ และสนใจอยากจะอยู่ไฟ ให้ได้อ่านกันหน่อยนะคะ
โดยส่วนตัว เราเพิ่งทำอยู่ไฟครั้งแรก หลังจากที่คลอดลูกชายคนเล็ก
เพราะตอนพี่คนโตว่าจะทำ แต่ก็ไม่ได้ทำ
สาเหตุที่ท้องแรกไม่ได้อยู่ไฟ...
1. ตั้งใจจะคลอดเอง แล้วอยู่ไฟหลังคลอด 7 วัน แต่ไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะรกพันคอน้อง ทำให้ต้องผ่าฉุกเฉิน (เจ็บ 2 ต่อเลยค่ะวันนั้น)
2. ถามคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่า อย่าทำเลย เพราะผ่าตัด เดี๋ยวแผลปริ แล้วเราก็หัวสมัยใหม่ ไม่คิดว่ามันจะมีผลอะไร ไม่ทำก็ได้
เพราะไปตรวจกับคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่ามดลูกเข้าอู่แล้ว
3. กลัวยุ่งยากค่ะ เพราะคิดว่ถ้าต้องอยู่ไฟนี่คงวุ่นวาย ไหนจะลูกร้องกินนม ไหนจะตัวเหนียวเหนอะหนะ สรุปเลยไม่ได้ทำ
จนกระทั่ง ผ่านไป 4 ปีกว่าๆ
สังเกตว่า เวลาอากาศเย็น อาบน้ำเสร็จออกมาแต่งตัวในห้องนอน ถ้าเปิดแอร์ไว้ จะหนาวตัวสั่นหงึกๆ เมื่อซีดไม่มีสีเลือดเลยค่ะ
และก่อนที่ประจำเดือนจะมาก็จะปวดขามากๆ ปวดจนบางทีนอนไม่หลับเลยค่ะ
อีกอย่าง จากเมื่อก่อนที่เวลาไม่สบายกินยาก็หาย อย่างมากก็แค่ภูมิแพ้ ตื่นมาน้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ ก็เป็นอยู่แค่นั้น
แต่กลายเป็นว่า ถ้าป่วยไม่สบาย จะมีไข้ และหนาวเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ
หนาวสั่น แบบไม่เคยเป็นมาก่อน ขนาดห่มผ้าหนาๆ หลายๆ ชั้น ก็ยังสั่นอยู่
ผู้ใหญ่ที่บ้านก็บอกว่า นี่แหละไม่ได้อยู่ไฟ อยู่ไฟไม่ถึง เราเลยคิด เอ๊ะจริงหรือเปล่า
เพื่อนเราที่เป็นนางพยาบาล เค้ายังบอกให้อยู่ไฟเลยค่ะ เค้าบอกเมื่อก่อนเค้าก็ไม่เคยเชื่อ จนมาเจอกับตัวเอง เลยเชื่อ
อาการไข้ที่เราเป็นนั้น เป็นประสบการณ์ที่เจอมากับตัวเอง ซึ่งแต่ละท่านอาจจะเป็นไม่เหมือนเราก็ได้ค่ะ
และ เราก็คิดว่าเราผ่าตัดด้วย เสียเลือดเยอะ แล้วเป็นคนเลือดน้อยด้วย อย่างถ้านอนไม่พอนี่บริจาคเลือดไม่ได้เลยค่ะ
เลือดจางทันที เลยตัดสินใจ อยู่ก็อยู่ เลยเลือกแบบDelivery เพราะสะดวกที่สุด
หลังจากนั้นก็หาข้อมูลในเว็บว่าจะทำกับใครดี เปรียบเทียบข้อมูลจากลูกค้า / ราคา / บริการ
สรุป ลงตัวที่พี่แหม่ม อยู่ไฟ เพราะหลังจากสอบถามข้อมูลดูแล้ว
ตัวพี่แหม่มเองได้เรียนจบหลักสูตรผดุงครรภ์(แผนไทย) และเภสัชกร(สมุนไพรไทย) จากกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตรง
ทำให้เรามั่นใจเรื่องความปลอดภัย(ว่าแผลจะไม่ปริเหมือนที่คุณหมอเคยขู่) และก็มั่นใจเรื่องการใช้ตัวยาในการทำอยู่ไฟ
ว่าจะอยู่ไฟถึงตามสูตรโบราณจริงๆ
เพราะตัวยาสำคัญมากๆ ค่ะ ถ้าทำอยู่ไฟไปแล้ว แต่ตัวยาที่ใช้ไม่ถึงหรือไม่ได้ผล มันก็จะไม่เกิดผลดีกับร่างกายเรา
ผู้ใหญ่บางคนเคยบอกว่าถ้าทำไม่ดี และอยู่ไฟไม่ถึง ต่อมน้ำเหลืองจะกระจาย เราเลยกลัวมาก
และพอได้คุยกับพี่แหม่มแล้วชอบค่ะ เพราะพี่แหม่มอัธยาศัยดีมากๆ
(เราโทรไปจองตอนท้องได้ 2 เดือนค่ะ เห็นมีแต่คนบอกว่าคิวพี่เค้าแน่น เลยรีบโทรจองเลยได้พี่แหม่มมาทำให้)
  
อุปกรณ์ที่เราต้องเตรียม
1. กางเกงชั้นในเก่าๆ (ที่เก่าเพราะต้องซักและใส่ทุกวัน มันจะเปื้อนสีขมิ้น สีไพลเหลืองๆ ค่ะ)
2. กะละมัง เอาไว้ใส่น้ำสมุนไพรอาบ
3. หมอน เอาไว้หนุนตอนนวด+ประคบตัว
4. แก้ว+น้ำดื่มส่วนตัว
และการเตรียมตัวในการอยู่ไฟ (จากที่เจอกับตัวเองคิดว่าสำคัญมากๆ ค่ะ)
1. หาคนมาช่วยดูลูก
เนื่องจากตอนที่เราอยู่ไฟ ถ้าน้องร้องอยากให้อุ้ม บางทีเราไม่สามารถอุ้มเองได้ เพราะบางขั้นตอนตัวจะเลอะ
แม่ก็ไม่มีสมาธิ และรำคาญตัวเอง คนทำก็ไม่มีสมาธิ ทำให้ทำไปกังวลไปหมด การอยู่ไฟก็จะไม่ต่อเนื่อง
เมื่อก่อนเคยอ่านอยากทำครั้งละ 7 ชม. แต่เอาเข้าจริง ขนาดเรามีคุณยายมาช่วยดู ทำวันละ 5 ชั่วโมง
ยังอยากให้เสร็จไวๆ เลยค่ะ
แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะของเราพี่แหม่มก็ช่วยดูให้ค่ะ
ตอนแรกพี่แหม่มยังบอกคุณพลอยไม่ต้องให้คุณยายมาช่วยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่แหม่มช่วยดูให้
แต่เราเกรงใจและอยากทำให้ต่อเนื่อง จะได้เสร็จไวๆ เพราะสงสารลูก
บางทีพี่แหม่มยังช่วยสลับกับคุณยายเอาลูกเรานอน ให้นมเลยค่ะ
2. ปั๊มนมสำรองไว้อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ (กรณีที่เคยให้ดูดจากเต้าอย่างเดียวเหมือนเรา)
อย่างที่บอกค่ะ ว่าบางขั้นตอนตัวมันจะเลอะ ให้นมไม่ได้ ยิ่งวันแรกเราเข้ากระโจม ลูกร้องตลอด
พี่แหม่มบอก คุณพลอยปั๊มนมสำรองไว้ซักมื้อนึงนะคะ เพราะเวลาอยู่กระโจมลูกจะได้มีนมทาน
เราเลยปั๊มทุกวันวันละมื้อ ลูกเราเลยดีขึ้นค่ะ ทำให้มีเวลาอาบน้ำ สบายใจขึ้นมาก
....แต่....ลูกเราติดเต้าไม่ติดขวด ทำยังไงก็ไม่กิน มีบ้วนอีกตะหาก นอกจากหิวสุดๆ จริงๆ
ก็ต้องให้คุณยายฝืนให้ค่ะ เพราะถ้าเราไม่สามารถให้ได้จริงๆ หลังๆ เค้าเริ่มรู้ก็เลยดีขึ้นค่ะ
มีบางวันไม่ยอมกิน พี่แหม่มก็มาช่วยป้อนค่ะ บอกต้องสลับมือบ้าง เค้ารู้มือแล้ว ลูกเรากินเฉยเลย
อีกวันทำยังไงก็ไม่นอน พี่แหม่ม(อีกแล้ว) คุณยายมาค่ะ แหม่มช่วย จับลูกเรานอนหลับได้ซะงั้น
พี่แหม่มบอก ได้ประสบการณ์จากลูกค้าเก่าๆ นี่แหละค่ะ ยังบอกเลยคุณยายพักได้นะคะ เดี๋ยวแหม่มดูให้
แถมเวลาให้นม พี่แหม่มก็ไม่เคยเร่งค่ะ ปล่อยให้เราให้จนเสร็จค่อยมาลุยต่อ (ใจเย็นมากๆ)
3. ทำใจให้สบาย
อย่างที่บอกค่ะ ว่าขั้นตอนในการทำเยอะ บางครั้งก็เหนอะหนะตัว แล้วยิ่งลูกมาร้องไห้งอแงอีกยิ่งไปกันใหญ่
แต่ถ้าตั้งใจจะอยู่ไฟอยู่แล้ว อยากให้ทำใจให้สบายค่ะ
นึกซะว่าเป็นช่วงเวลาของการพักฟื้นหลังคลอดและเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อน หลังจากอุ้มท้องมา 9 เดือน
เราจะบอกแม่เราเลยค่ะว่า ขอนะแม่นะ 7 วัน ขอทำให้เสร็จ
ซึ่งแม่เราก็อยากให้ทำ และยินดีที่จะดูลูกให้ตลอดการทำ (ขอบคุณแม่มากๆ รักแม่ที่สุดเลย )
และสำหรับคนที่ไม่มีคนช่วยดูลูกให้ เราก็อยากให้ทำใจให้สบายค่ะ
เพราะคนที่มาทำอยู่ไฟให้ เค้าต้องเข้าใจว่า เราต้องให้นม ต้องดูลูกตอนลูกตื่น
ถ้าเราไปกังวล หรือกลัวคนทำจะรอ เราก็จะไม่สบายใจ และเหนื่อยใจเพิ่มด้วย
ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับตัวคุณแม่เองเลยค่ะ
ก่อนอื่นพี่แหม่มจะให้ใส่ชุดเสื้อเกาะอกและกางเกงเอวยางยืดสีเข้าชุด ชุดนี้ให้นมสะดวกมากค่ะ
(ซึ่งชุดนี้จะให้เก็บไว้ที่บ้าน ต้องซักและใส่ชุดนี้ตลอดการทำอยู่ไฟค่ะ)
ขั้นตอนในการอยู่ไฟ
(เราผ่าคลอด ขั้นตอนอาจจะไม่เยอะเท่ากับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาตินะคะ)
1. นวดผ่อนคลายเส้น กระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานเป็นปรกติและเลือดลมเดินสะดวก
การนวดจะเป็นท่าสำหรับอยู่ไฟโดยเฉพาะค่ะ
2. นวดเข้าตะเกียบให้เชิงกรานกลับเข้าที่
3. นวดน้ำมันงาปรับสมดุลร่างกาย และบำรุงผิว
4. ทับอิฐ โดยเอาอิฐไปผิงไฟร้อนๆ แล้วเอาใบพลับพลึงมาห่อ ดังเปรี๊ยะปร๊ะๆ กลิ่นหอมๆ
จากนั้นนำมาประคบทั่วตัวใบพลับพลึงเขียวๆ จะมีคอลลาเจนซึมเข้าบำรุงผิวด้วยค่ะ
5. นึ่งหม้อเกลือ เอามาประคบท้อง ให้มดลูกเข้าอู่ อันนี้ก็เอาไปผิงไฟค่ะ แต่ตอนเกลืองแตก เสีงจะดังปุ้งๆ
6. ประคบก้อนเส้า (เป็นหินก้อนใหญ่ๆ เอามาผิงไฟเช่นกันค่ะ) ประคบทั่วตัวและหน้าอก ช่วยผ่อนคลาย
ศูนย์รวมประสาทใ อันนี้ก็หลับไปเลย
7. ประคบตัวและหน้าอกด้วยลูกประคบสมุนไพร น้ำนมพุ่งปรี๊ดๆ ก็เพราะนี่แหละค่ะ แถมยังรู้สึก
สบายผิวด้วยค่ะ เพราะมีตัวสมุนไพร
8. นวดกดจุดหน้าและศีรษะ ชอบตอนนวดหัวมากๆ ค่ะ สบายสุดๆ
9. พอกหน้า ขัดผิว สลับกันแต่ละวัน บางวันขมิ้นชัน บางวันน้ำแร่ บางวันน้ำนม ผิวเราน้ำเหลืองไม่ดี
เลยเจอขมิ้นชันเยอะหน่อย ไม่กี่วันผิวดีขั้นเยอะค่ะ
10. เข้าอบตัวในกระโจม รมตา แล้วก็แช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร ประมาณสตรีมในสปาค่ะ
โหดสุดๆ ต้องยกให้ขั้นตอนนี้เลย แต่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเหมือนกันนะคะ เพราะตัวยาพี่แหม่ม
รู้สึกร้อนเข้าไปข้างในร่างกายเลยค่ะ ไม่ได้ร้อนแบบปวดแสบปวดร้อนนะคะ แต่ร้อนแบบรู้สึกว่าร่างกายเราอบอุ่นขึ้น
ตัวยาขั้นตอนนี้สำคัญที่สุดค่ะ
11. ขั้นตอนสุดท้าย อาบน้ำสมุนไพร พี่แหม่มบอกว่า ถ้าทำแล้วร่างกายตอบสนอง หลังจากอาบน้ำสมุนไพร
เหงื่อจะไหลตลอด เราอาบน้ำสมุนไพรเสร็จ อาบน้ำเย็นต่อ เย็นฉ่ำๆ ออกมาห้องแอร์ เหงื่อยังซึมเลยค่ะ แม่บอกว่า
อยู่ไฟถึงก็จะเป็นแบบนี้แหละ และวันสุดท้าย พี่แหม่มเอาตัวยาสมุนไพรลดไขมัน มาพอกหน้าท้องเราแล้วเอาพลาสติก
มาพันไว้เหมือนแหนมป้าย่น โอ้วโหว เหมือนเข้ากระโจมเลยค่ะ แต่เข้าแต่ตรงหน้าท้อง ไม่ได้แสบร้อนนะคะ
แต่ร้อนแบบเหมือนสตรีมแต่หน้าท้องไว้อย่างเดียว
ส่าร้อน (ปะดงเลือดปะดงลม)
พี่แหม่มบอกเราตั้งแต่วันแรกว่า ถ้าวันที่ 3 - 4 มีผื่นขึ้นไม่ต้องตกใจนะคะ แสดงว่าส่าร้อนออก เพราะตัวยาเข้าไปปรับสมดุล
และขับของเสียในร่างกายออกมาทางผิวหนัง เหมือนกับการดีทอกซ์พิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ออกมาทางผิวหนัง
ยิ่งคนที่น้ำเหลืองไม่ดียิ่งจะออกเยอะกว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันดีๆ อาการนี้คนโบราณและแม่เราเรียกปะดงเลือดปะดงลม
เค้าบอกว่าสารพิษที่ทำให้เราปวดเนื้อปวดตัว และหนาวๆ ร้อนๆ มันจะเกาะอยู่ที่กระดูก และถ้าได้อยู่ไฟมันจะตีออกมา
เป็นส่าร้อนอย่างที่เราบอก พี่แหม่มบอก คนที่น้ำเหลืองไม่ดี ยิ่งสมควรอยู่ไฟ เพราะภูมิต้านทานในร่างกายจะอ่อนแอกว่าคนปรกติ
เราก็เป็นคนนึงที่น้ำเหลืองไม่ดีค่ะ สังเกตได้จากเวลาที่ยุงกัด เราจะคันมากๆ และเป็นตุ่มใหญ่ๆ หลังจากนั้นก็จะเป็นจุดดำๆ
ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะหาย
และของเราไม่ต้องรอนานค่ะ ส่าร้อนเราออกชัดมากเมื่อวันที่ 3 และออกเต็มตัวเลยค่ะ แขน ขา หน้าอก หน้าท้อง
ยกเว้นหลังที่เดียวที่ไม่ออก พี่แหม่มบอกว่า มันขับพิษออกมามันจะคัน อย่าไปเกานะคะ เดี๋ยวเป็นแผล ให้เอาแป้งลูบๆ เอา
แต่เราแอบเกาค่ะ อิอิ ก็บางทีมันเผลอ เกาแล้วมันดี อดใจไม่ไหว ตอนนี้ผิวชั้นบนกำลังลอกคราบเหมือนงูเลยค่ะ
มันไม่เจ็บนะคะ เหมือนเซลล์ผิวเก่ามันผลัดผิวใหม่ขึ้นมาอ้ะค่ะ สงสัยเกาแรงไปหน่อย 555
เราโทรไปคุยกับคุณปู่ทวดเรื่องส่าร้อน คุณทวดก็บอกว่า ดีแล้วให้มันตีออกมาให้หมด แล้วสุขภาพจะได้ดีขึ้น
เราเลยสบายใจค่ะ ว่าเลือกอยู่ไฟได้ถูกที่แล้ว เพราะยาที่พี่แหม่มใช้ได้ผลจริงๆ หน้าตาสดใสขึ้น (แม่ทัก) ผิวพรรณดีขึ้น
น้ำนมก็มาเยอะขึ้นค่ะ เพราะท้องนี้น้ำนมเราไม่เคยพุ่งปรี๊ดๆ เหมือนท้องแรกเลย
แต่พอทำอยู่ไฟแล้ว น้ำนมไหลมาเทมา เวลาคัดๆ ก็พุ่งปรี๊ดๆ มีเพียงพอให้เจ้าตัวเล็กทาน
และที่ชัดที่สุดก็คือ ช่วงที่อากาศหนาวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราอาบน้ำออกมาแต่งตัวเจอห้องแอร์
ก็ไม่มีอาการหนาวสั่นเหมือนเมื่อก่อน แถมยังรู้สึกสบายๆ ด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้สั่นกันมันไปแล้วค่ะ
แม่เรายังบอกเลย ว่ายาพี่แหม่มร้อนจริงๆ ตอนเราอยู่กระโจมในห้องน้ำ แม่เราอยู่ในห้องนอน
ไอจากห้องน้ำยังร้อนวูบๆ ออกมาเลย ประหนึ่งว่าได้อยู่ไฟไปพร้อมๆ กัน
ลองดูรูปส่าไข้เราละกันนะคะ อันนี้ถ่ายที่ขึ้นหลังแขน และขามาให้ดูค่ะ
  
สุดท้าย อยากขอบคุณคุณแม่ของเราเอง ที่เสียสละเวลามาดูเจ้าตัวเล็กและตัวโตให้ รักของแม่ยิ่งใหญ่จริงๆ
อยากบอกว่า พลอยรักแม่มากๆ 
ขอบคุณพี่โต๊ะ สามีผู้น่ารัก เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่พอเราเห็นเราไม่สบาย
ก็เลยตามใจ ให้เราทำอยู่ไฟ ได้จนครบกำหนด โดยไม่ปริปากบ่นใดๆ ซักคำ
และขอบคุณพี่แหม่มมากๆ ที่ดูแลเพลอยและยังช่วยดูแลลูก เป็นอย่างดีตลอด 7 วันที่อยู่ด้วยกัน พลอยดีใจที่ได้พี่มาอยู่ไฟให้
ตอนนี้พลอยรู้สึกสุขภาพดีขึ้น และอาการที่เคยสร้างความรำคาญให้มันก็ค่อยๆ หายไป
ขอชมว่า พี่แหม่มทำงานมีมารยาท และมีระเบียบมากๆ ข้าวของเก็บเรียบร้อย และเก็บเหมือนเดิมทุกวัน (แอบถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย อิอิ)
พูดจาดีกับทุกคนในบ้านเรา และไม่เคยก้าวออกจากห้องเราไปไหนเลย จะทำอะไรจะขออนุญาตและอยู่ในสายตาตลอด
ซึ่งแม่พลอยก็ขอชมเชยมาด้วยคนจากใจจริง ขอให้พี่ประสบความสำเร็จในการทำงานต่อไปนะคะ
หมดแล้วค่ะประสบการณ์การอยู่ไฟของเรา หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับแม่ๆ ในชานเรือนไม่มากก็น้อยนะคะ
แต่อยากฝากว่า ถ้าคุณแม่ๆ อยากจะอยู่ไฟ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ไฟกับพี่แหม่มเหมือนเรา
เราอยากให้เพื่อนๆ เลือกที่ๆ เค้ามีประสบการณ์ และมีความรู้ในงานตัวนี้จริงๆ ที่ไหนก็ได้
จะได้ไม่มาเสียความรู้สึกทีหลังค่ะ เพราะงานตัวนี้เราว่าตัวคนทำงานกับตัวยาสำคัญมากๆ
Free TextEditor
| Create Date : 19 พฤศจิกายน 2552 | | |
| Last Update : 22 พฤศจิกายน 2553 10:05:18 น. |
| Counter : 29540 Pageviews. |
| |
|
 |
|
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [