Your Grace.Blog : เรื่องราวเล็กๆ ของคนที่รักและเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ
 
เสริมสร้างให้สมบูรณ์ ใช่ว่าหักล้าง


เสริมสร้างให้สมบูรณ์ ใช่ว่าหักล้าง


ในโลกนี้เรื่องราวต่างๆ มีหลายด้านหลายมุมเสมอ อยู่ที่ว่าใครจะมองมุมไหน แง่ไหน present จุดไหน ซึ่งการมองเห็นต่างมุม คิดแตกต่าง หลายๆ ครั้งไม่ใช่เรื่องผิดเลย เมื่อนำมาประกอบรวมกันกลับทำให้สมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้น

แต่มีคนส่วนมาก ที่มองเรื่องความเห็นต่างผิดไปจากความจริง ที่ว่า ... คนที่เห็นต่างเป็นศัตรูความคิด หรือตั้งป้อมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา

คนที่ขาดความมั่นคงภายในจิตใจมักสร้างเกราะกำบังให้ตนเองและหลบซ่อนอยู่ภายใน เพื่อความปลอดภัย บ้างก็เป็นเกราะที่ปิดตนเองจากสิ่งอื่นๆ , บ้างก็เป็นเกราะคิดว่าตนต้องถูกเพียงคนเดียว , ใครเห็นต่างคนนั้นผิด หรือเป็นศัตรู
•    ส่งผลให้ไม่มีการพัฒนาชีวิตหรือแนวความคิดที่เติบโตขึ้น เพราะมองแค่ด้านเดียว
•    ส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งเพียงแค่มุมเดียว แต่มุมอื่น ส่วนอื่นอ่อนแออย่างแรง เพราะปิดกั้นตนเองจากสิ่งที่ตนไม่รู้ ไม่เข้าใจ แม้ผู้อื่นรู้และเข้าใจมากกว่าก็ยอมรับไม่ได้
•    ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึง หรือแม้แต่จะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ

พระเยซูไม่ได้มาล้มเลิกธรรมบัญญัติ แต่ทรงมาทำให้สมบูรณ์ เมื่อพระองค์ทรงสอนเพื่อเปิดตาใจ สำแดงความกระจ่างแจ้งแก่มนุษย์ในแง่มุม ในด้านที่แตกต่าง ในส่วนที่มนุษย์เข้าไม่ถึง... เป็นเหตุให้เหล่าฟาริสี ไม่ยอมรับและเป็นเหตุให้ยกสิ่งเหล่านี้ มาโจมตีเพื่อจับกุมพระเยซู โดยตั้งข้อหาที่คำพูดบางคำ บางตอนของพระองค์

หลายครั้งเราเป็นเช่นเดียวกับฟาริสีหรือเปล่า???  ที่จับคำพูดบางคำ บางตอนของผู้อื่นขึ้นมาโจมตีและให้ร้าย แม้สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผิดไปจากพระคำพระเจ้า แต่มันผิดตรงที่คิดเห็นแตกต่างจากเรา , ผิดตรงที่เราเองก็ไม่รู้ หรือคิดไม่ได้มาก่อน ใจริษยาภายในได้ปะทุขึ้น เพียงเพราะว่าไม่ใช่เราที่คิดได้อย่างนั้น

มธ.5:17-19
17“อย่าคิด‍ว่าเรามาล้ม‍เลิกธรรม‍บัญญัติและคำของบรร‌ดาผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ เราไม่‍ได้มาล้ม‍เลิก แต่มาทำให้สม‌บูรณ์ทุก‍ประ‌การ
18เพราะเราบอกความจริงแก่ท่าน‍ทั้ง‍หลายว่า จน‍กว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุด หรือขีด ขีดหนึ่ง ก็จะไม่‍มีวันสูญ‍ไปจากธรรม‍บัญญัติ จน‍กว่าทุก‍สิ่งจะเกิด‍ขึ้น
19เพราะ‍ฉะนั้น ใครทำให้ข้อเล็ก‍น้อยเพียงข้อ‍หนึ่งในพระ‍บัญญัตินี้ มีความสำคัญน้อยลง และสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย คน‍นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้‍เล็ก‍น้อยที่สุดในแผ่น‍ดินสวรรค์ แต่ใครที่ประ‌พฤติและสอนตามธรรม‍บัญญัติ คน‍นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่น‍ดินสวรรค์
20เพราะเราบอกพวก‍ท่านว่า ถ้าความชอบ‍ธรรมของท่านไม่มาก‍กว่าความชอบ‍ธรรมของพวกธรร‌มา‌จารย์และพวกฟาริสี พวก‍ท่านจะไม่‍มีวันได้เข้าสู่แผ่น‍ดินสวรรค์


ที่มนุษย์โง่เขลา ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญญา หรือ คิดอะไรไม่ได้เลย แต่เพราะไม่ยอมเปิดใจออก ที่จะรับรู้ หรือยอมรับสิ่งที่แตกต่างจากที่ตนเองคิดไว้ ตั้งธงไว้ หรือฟันธงไว้...  จึงส่งผลให้ไปไม่ถึงความไพบูลย์ หรือความสมบูรณ์แบบ

เพราะพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แต่ละคนอย่างเจาะจง มีความพิเศษ ชำนาญ จุดเด่น ที่ต่างกัน อีกทั้งไม่ได้สร้างให้มนุษย์คนใดมีความเบ็ดเสร็จทุกอย่างในตัวเองเพียงคนเดียว เราจึงจำเป็นต้องพึ่งพากันและกัน เรียนรู้จากกันและกัน เพื่อให้จุดเด่นของเราเสริมสร้างผู้อื่น  ในขณะเดียวกันก็ให้ผู้อื่นเสริมสร้างเราด้วย แต่ความหยิ่งมักทำลายความสมบูรณ์เหล่านี้ด้วยการปิดใจเรียนรู้จากผู้อื่น แม้จะเป็นสิ่งดีก็ตาม บ้างก็ตั้งกำแพงอคติ , บ้างก็ตั้งกำแพงตนเป็นผู้เดียวที่ถูก , บ้างก็ตั้งกำแพงโกรธเคืองที่เห็นต่าง

1 คร.12:12-27
12เพราะว่า เหมือนกับร่าง‍กายเดียวที่มีหลายๆ อวัยวะ และอวัยวะทั้ง‍หมดของร่าง‍กายนั้นแม้จะมีหลายส่วนก็ยังเป็นร่าง‍กายเดียว พระ‍คริสต์ก็ทรงเป็นเช่นนั้น
13เพราะ‍ว่าไม่ว่าจะเป็นยิวหรือกรีก ทาสหรือเสรี‍ชน เราได้รับบัพ‌ติศ‌มาในพระ‍วิญ‌ญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียว‍กัน และพระ‍วิญ‌ญาณองค์เดียว‍กันเป็นเหมือนน้ำที่ประ‌ทานให้เราทุกคนได้ดื่ม
14เพราะ‍ว่าร่าง‍กายไม่‍ได้ประ‌กอบด้วยอวัยวะเดียว แต่ด้วยหลายอวัยวะ
15ถ้าเท้าจะพูดว่า “เพราะฉันไม่‍ได้เป็นมือ ฉันจึงไม่เป็นอวัยวะของร่าง‍กาย” เท้าก็ไม่เป็นอวัยวะของร่าง‍กายเพราะเหตุ‍นี้ย่อมไม่‍ได้
16ถ้าหูจะพูดว่า “เพราะฉันไม่‍ได้เป็นตา ฉันจึงไม่เป็นอวัยวะของร่าง‍กาย” หูก็ไม่เป็นอวัยวะของร่าง‍กายเพราะเหตุ‍นี้ย่อมไม่‍ได้
17ถ้าร่าง‍กายทั้ง‍หมดเป็นตา การได้‍ยินจะอยู่ที่‍ไหน? ถ้าร่าง‍กายทั้ง‍หมดเป็นหู การดมกลิ่นจะอยู่ที่‍ไหน?
18แต่พระ‍เจ้าทรงตั้งอวัยวะแต่ละอวัยวะไว้ในร่าง‍กายตามชอบ‍พระ‍ทัยของพระ‍องค์
19ถ้าอวัยวะทั้ง‍หมดเป็นอวัยวะเดียว ร่าง‍กายจะมีที่‍ไหน?
20ความจริงมีอวัยวะหลายอย่าง แต่ก็ยังเป็นร่าง‍กายเดียว‍กัน
21และตาก็ไม่สามารถพูดกับมือว่า “ฉันไม่ต้อง‍การเธอ” หรือศีรษะจะพูดกับเท้าว่า “ฉันไม่ต้อง‍การเธอ”
22แต่หลายๆ อวัยวะของร่าง‍กายที่เราคิดว่าอ่อน‌แอกว่า ก็ยังเป็นสิ่งจำ‍เป็น
23อวัยวะของร่าง‍กายที่เราคิดว่าไร้เกียรติ เราก็ยังทำให้มีเกียรติยิ่ง‍ขึ้น และอวัยวะที่ควรปก‍ปิด เราก็ทำด้วยความสุภาพเป็นพิเศษ
24เพราะ‍ว่าอวัยวะที่น่า‍ดูแล้ว ก็ไม่จำ‍เป็นต้องตก‍แต่งอีก แต่พระ‍เจ้าทรงจัด‍วางร่าง‍กาย โดยการประ‌ทานเกียรติมากยิ่ง‍ขึ้นแก่อวัยวะที่ต่ำ‍ต้อย
25เพื่อไม่‍ให้มีการแตก‍แยกกันในร่าง‍กาย แต่ให้อวัยวะต่างๆ มีความห่วง‍ใยแบบเดียว‍กันต่อกันและกัน
26ถ้าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้ง‍หมดก็ร่วม‍ทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะทั้ง‍หมดก็ร่วมชื่น‍ชมยินดีด้วย
27ส่วนท่าน‍ทั้ง‍หลายเป็นกายของพระ‍คริสต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็นส่วนหนึ่งของกายนั้น


1.    ใคร่ครวญถึงสิ่งที่เข้ามา ไม่ว่าจะคำพูด หรือ การกระทำ หรือข้อมูลต่างๆ ว่าถูกต้องตามพระวจนะพระเจ้าหรือไม่ หรือขัดแย้ง หรือผิดไปจากพระวจนะพระเจ้า

2.    หากไม่ผิดไปจากพระวจนะพระเจ้าแล้ว ลองเปิดใจเรียนรู้ และคิดใหม่ด้วยใจไร้ซึ่งอคติ อาจจะทำให้เราได้รับประโยชน์มากเสียกว่า การล้อมกรอบตนเองให้ปลอดภัยเพียงด้านเดียว

3.    การรักษาสมดุลย์ เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่เราต้องรักษาและมั่นตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่มีรูปแบบอะไรตายตัว ไม่มีมาตรวัดอันใดที่ใช้ได้กับทุกคน เว้นเสียแต่พระคำที่เป็นบรรทัดฐานนำทาง

4.    พึงระวังอย่าโจมตีผู้ใดด้วยการจับคำพูดบางคำ หรือการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากตนเอง เพราะเราก็ต่างจากเขาด้วยเช่นกัน เปิดใจแฟร์ๆ ใครเปิดได้มากกว่าย่อมเป็นผู้รู้มากกว่า อย่างน้อยก้าวยาวกว่า ไกลกว่า และเร็วกว่า

5.    โดยส่วนมากแล้ว คนที่ศึกษาพระคำเป็นการส่วนตัวย่อมปลอดภัยกว่าคนที่รอรับจากผู้อื่นแต่อย่างเดียว เพราะการได้ไคร่ครวญพระคำ การได้มีประสบการณ์ตรงกับพระวจนะ จะทำให้เราสามารถแยกแยะถูกผิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งการศึกษาพระคำ ต่างจากการอ่านตรงที่ ต้องไคร่ครวญและนำไปใช้จริง จึงจะเห็นผล

แม้ว่าอ่านมากแต่ปราศจากการไคร่ครวญและลงรายละเอียดกับพระคำที่อ่าน ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อันใดในการปกป้องตนเองจากสิ่งผิดๆ หรือการต่อยอดความรู้ ความล้ำลึกเลย เพราะพระเยซูสอนสาวกบนพระคำพระเจ้าทั้งสิ้น เราจะเข้าถึงความรู้ของพระเจ้าก็ต้องบนพระคำพระเจ้าเช่นกัน อีกทั้งสามารถนำไปใช้ได้จริงตามขนาดของการรับของเรา

6.    เราควรเก็บคนที่เห็นต่างไว้บ้าง แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์ (เพราะความใจแคบ , ความเป็นเด็กของตน) ก็ตาม ... เพื่อช่วยพัฒนา เสริมสร้างส่วนที่เราขาดไป หรือเข้าไม่ถึง อีกทั้งเพื่อเตือนสติ ยับยั้งในส่วนที่เราอาจพลาดไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ... *** อย่าเพียงแต่มองหาคนที่คิดเหมือน คล้อยตามทุกอย่างจนไม่สามารถพัฒนาอะไรเราได้เลย แม้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ยกระดับคุณค่าภายในจิตใจตนเองก็ตาม แต่มันจะถูกปิดกั้นด้วยการไม่โตขึ้นของเราเอง





//www.panarat.com

https://www.facebook.com/panarat2013

https://www.facebook.com/dailypraying






Create Date : 23 กันยายน 2558
Last Update : 23 กันยายน 2558 15:45:05 น. 0 comments
Counter : 1101 Pageviews.
 
 

Your Grace
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




* Blog นี้ สร้างเพื่อแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ข้อคิดสะกิดใจ เพื่อหนุนจิตชูใจคริสตชนด้วยกัน อีกทั้งแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ ของคนที่รักพระเจ้าอย่างสุดใจคนหนึ่ง ที่กำลังพัฒนาตนเองให้เติบโตมากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน

* เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงมุมมองมุมหนึ่งของคนเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ได้มีประสบการณ์ตรงจากพระเจ้า อาจยังไม่สมบูรณ์ เพราะต้องการพัฒนาต่อไปในน้ำพระทัยพระเจ้าจนถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์

* เรื่องราวเหล่านี้ ไม่ได้จำกัดวงหรือขอบเขต เพียงแค่คริสตชนเท่านั้น แต่สำหรับทุกๆ คนที่ต้องการกำลังใจ และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ต่อกันและกัน

* คาดหวังเพียงแค่จะเป็นส่วนหนึ่งที่่สามารถจรรโลงโลกนี้ให้น่ารักและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

*** ขอพระเกียรติสิริทั้งสิ้นมอบแด่พระเยซูคริสต์เจ้าแต่นามเดียว เท่านั้น ขอเพียงพระพรตกแก่ข้าพเจ้าและครัวเรือน อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน ***
[Add Your Grace's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com