Your Grace.Blog : เรื่องราวเล็กๆ ของคนที่รักและเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ
 
กลัวเพี้ยน


กลัวเพี้ยน


ในพระคัมภีร์ไม่ได้ให้การเน้นน้ำหนักที่กลัวคนเพี้ยน แต่เน้นน้ำหนักส่วนใหญ่ที่หมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดับการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ... เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบตัวเองกับพระเจ้า เป็นความรับผิดชอบที่ต้องเติบโต และพัฒนาขึ้น ความรับผิดชอบตกแก่บุคคลนั้นๆ ไม่ใช่ ผู้นำหรือผู้ชี้แนะ เว้นเสียแต่พ่อแม่รับผิดชอบเลี้ยงดูลูก สามีรับผิดชอบภรรยา

คนยิวก็ไม่กลัวเพี้ยน เพราะพวกเขามีพื้นฐานพระคำ
ยิวมี 2 ขั้วเลย คือ เชื่อกับหลงเจิ่น ไม่มีเชื่อแต่เพี้ยน  

การสอนคนให้รู้จักตรวจสอบทุกสิ่งด้วยพระคำ เป็นการสอนของยิว

ทุกคนต้องรู้และท่องจำพระคำ เพื่อตนเอง พวกเขาคิดแต่เพียงว่า...
?ทำอย่างไรจึงจะทำตามพระวจนะของพระเจ้าได้ … พวกเขาไม่มีความสงสัยใดๆ เลย เพราะพื้นฐานความเชื่อมาจากการมั่นใจว่าพระคำมาจากพระเจ้า
เขาจะคิดว่า… ?ทำอย่างไรให้พระพรที่พระคำกล่าวไว้นั้นเป็นจริงในชีวิตส่วนตัว … ดังนั้นทุกคนมุ่งเน้นแค่ตนเองและครอบครัว คนที่มุ่งเน้นคนอื่น มีแค่ ฟาริสีเท่านั้น

การสอนของพวกเขาเน้นความรู้ความเข้าใจและความล้ำลึกแห่งถ้อยคำมากยิ่งขึ้น พวกเขาจะชันสูตรทุกสิ่งจากพระคำที่เขารู้

ตัวอย่าง บุคคลในพระคัมภีร์มักอ้างพระคำ อ้างถึงบัญญัติ เป็นการสะท้อนถึงการมีฐานความรู้เรื่องพระคำและบัญญัติของพระเจ้าในชีวิตของเขาเอง ดังนั้นจึงทำให้เกิดความมั่นคง และสามารถแยกแยะสิ่งที่ผิดจากพระวจนะของพระเจ้าออกไปได้

1.    ความรับผิดชอบในการรักษาชีวิตและเดินติดตามพระเจ้าเป็นของเราแต่ละคนเอง ไม่ใช่ของผู้นำ พ่อแม่ คริสตจักร ดังนั้น ทุกคนจำเป็นต้องระมัดระวังรักษาทางของตน รวมถึงหาทุกทางในการปกป้องตนเอง เช่น ศึกษาพระคำ รู้พระวจนะ และพระสัญญาของพระเจ้า

2.    หากคนเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ รักพระเจ้าจริงๆ โอกาสเพี้ยนย่อมยาก ... การเพี้ยนเกิดขึ้นกับคนต่างชาติ ยังไม่มีในยิวเอง เนื่องจากคนต่างชาติไม่ศึกษาพระคำเอง ชอบฟังจากคนอื่น มีคนป้อนให้ ดังนั้นจึงแค่รับข้อมูล เชื่อในข้อมูล แทนเชื่อในพระเจ้า แท้จริงพระคำมีฤทธิ์เดชในการปกป้องคนของพระเจ้าด้วยอยู่แล้ว ใครก็ตามที่มีพระคำก็มีสิทธิอำนาจการต่อกรนี้ในมือ

3.    บางครั้งการกลัวเพี้ยนมากจนเกินไป ทำให้จำกัดกรอบในการเรียนรู้และพัฒนาความเข้าใจ โดยเฉพาะ การนิยาม คำว่า “เพี้ยน” มักเกิดจาก การที่คนอื่นไปไกลกว่าตน หรือมีประสบการณ์มากกว่าตน หรือมีประสบการณ์ ความคิดเห็นบางด้านที่แตกต่างไปจากตน ... แต่อาจไม่ได้ผิดไปจากพระคัมภีร์ก็ได้

ยุคปัจจุบัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานมากมายจึงมีหลายสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่สามารถยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ หรือประสบการณ์เดิมๆ ได้อีกต่อไป หากไม่ผิดจากพระคัมภีร์ ก็ไม่แปลกที่เราควรเปิดใจออกเรียนรู้และยอมรับซึ่งกันและกัน เพื่อเสริมสร้างกันให้ครบถ้วนและสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินกับพระเจ้าในแง่ชุมชนมากกว่าเสียด้วยซ้ำ

4.    การระมัดระวังที่สำคัญที่สุด คือ การระมัดระวังตนเอง ไม่ใช่การชี้เป้าไปที่คนอื่น ไม่ใช่การคอยระวังชีวิตคนอื่น แต่เผลอเลอและหย่อนยานต่อตนเอง

มธ.7:3-5
3ทำไมท่านมอง‍เห็นผงในตาพี่‍น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน?
4ท่านจะกล่าวกับพี่‍น้องได้อย่าง‍ไรว่า ‘ให้ฉันเขี่ยผงออก‍จากตาของเธอ?’ ทั้งๆ ที่มีไม้ทั้งท่อนอยู่ในตาของท่านเอง
5คนหน้า‍ซื่อ‍ใจ‍คด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่‍น้องของท่านได้

หากเราแต่ละคน...
... รักที่จะเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ
... หากเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์คอยทำงานอยู่ภายใน ซึ่งพระองค์จะไม่ยอมปล่อยให้เราหลงทางเป็นแน่ จะทรงเตือนและนำเรากลับมาเสมอ
... หากเราศึกษาพระคำเป็นการส่วนตัวไม่ขาด
ก็เพียงพอต่อการระแวดระวังชีวิตตนเองในการเดินกับพระเจ้าแล้ว เพราะบรรพบุรุษในความเชื่อก็ใช้เพียงแค่นี้ด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้สร้างระบบอะไรขึ้นมามากมาย ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจาก การเดินติดตามพระเจ้าอย่างสุดจิต สุดใจ สุดกำลังความคิดของเขา ...  การแสวงหาพระเจ้า การเชื่อฟังพระเจ้า และการรักษาบัญญัติ


5.    อย่ามัวแต่หวาดระแวงจนกระทั่งเป็นเหตุทำให้ปิดกั้นการเคลื่อนไหว หรือการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวตนเอง และผู้อื่น จนกระทั่งทำให้ไม่สามารถมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าได้ ... ฟาริสีต่างก็รู้ข้อมูลมากมาย แต่ปราศจากซึ่งประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า แล้วการเดินติดตามพระเจ้านั้น จะเพื่อสิ่งใดกันเล่า???

6.    ประสบการณ์บางอย่าง ความรู้ความเข้าใจในความล้ำลึกบางเรื่อง พระเจ้าเจาะจงในการให้กับบางคนเท่านั้น เป็นสิทธิพิเศษที่มีมาถึงเราแต่ละคนอย่างเจาะจง ดังนั้นหากมัวแต่วัดว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด คนหมู่มากไม่ได้รับ ไม่เห็นมีใครเคยได้รับ ก็จะทำให้ปิดกั้นในสิ่งที่พระเจ้าเลือกที่จะทำกับเราแต่ละคนอย่างเจาะจง

ดังเช่น
เปโตรเดินบนน้ำได้ >> ก็ไม่มีใครในโลกเคยทำได้ หรือได้รับเช่นเดียวกัน ก็ใช่ว่าเขาเพี้ยน
หญิงโลหิตตก ได้รับการรักษาผ่านการแตะต้องแค่ชายฉลองพระองค์ >> ก็ไม่มีใครเคยทำแบบนั้นมาก่อนเช่นกัน
โมเสสแหวกทะเลแดงได้ >> ก็ไม่มีใครในประวัติศาสตร์โลกทำได้ เช่นเดียวกับเขาเลย
เอลียา ถูกรับไป โดยไม่ผ่านความตาย >> ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกเพี้ยน แต่กลับเป็นอัศจรรย์ที่น่าทึ่ง


อีกหลายเรื่องมากมายนับร้อยพัน ที่ปรากฏให้เห็นในพระคัมภีร์ แล้วจะมีหมายสำคัญอัศจรรย์อย่างเจาะจง ที่มาถึงเราซึ่งเป็นผู้เชื่อของพระองค์บ้างไม่ได้เชียวหรือ??? และเหตุไฉน??? จึงว่าเพี้ยนเล่า





//www.panarat.com

https://www.facebook.com/panarat2013

https://www.facebook.com/dailypraying







Create Date : 19 กันยายน 2558
Last Update : 19 กันยายน 2558 16:38:05 น. 0 comments
Counter : 726 Pageviews.
 
 

Your Grace
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




* Blog นี้ สร้างเพื่อแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ข้อคิดสะกิดใจ เพื่อหนุนจิตชูใจคริสตชนด้วยกัน อีกทั้งแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ ของคนที่รักพระเจ้าอย่างสุดใจคนหนึ่ง ที่กำลังพัฒนาตนเองให้เติบโตมากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน

* เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงมุมมองมุมหนึ่งของคนเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ได้มีประสบการณ์ตรงจากพระเจ้า อาจยังไม่สมบูรณ์ เพราะต้องการพัฒนาต่อไปในน้ำพระทัยพระเจ้าจนถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์

* เรื่องราวเหล่านี้ ไม่ได้จำกัดวงหรือขอบเขต เพียงแค่คริสตชนเท่านั้น แต่สำหรับทุกๆ คนที่ต้องการกำลังใจ และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ต่อกันและกัน

* คาดหวังเพียงแค่จะเป็นส่วนหนึ่งที่่สามารถจรรโลงโลกนี้ให้น่ารักและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

*** ขอพระเกียรติสิริทั้งสิ้นมอบแด่พระเยซูคริสต์เจ้าแต่นามเดียว เท่านั้น ขอเพียงพระพรตกแก่ข้าพเจ้าและครัวเรือน อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน ***
[Add Your Grace's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com