Bloggang.com : weblog for you and your gang
กาแฟหอมกรุ่น รุ่งอรุ่นยามเช้า
Group Blog
นู๋ปุ๊กท่องเที่ยว
นู๋ปุ๊กอยากสวย
นู๋ปุ๊กไปดูหนัง
E-mailนู๋ปุ๊ก
Me-นู๋ปุ๊ก
นู๋ปุ๊กเข้าครัว
นู๋ปุ๊กบ่นๆๆ ก็มันน่าโมโห นิ
นู๋ปุ๊กพาชิม
All blogs
เจ้าแมวกาฟิล ที่พลัดหลงมา
Cakeน่าทานมากๆ
โฆษณาที่ไม่ได้ออกอากาศ
สมการที่เป็นจริง
*บทกลอนของเด็กอัฟริกัน ผู้ได้รับรางวัลยอดเ ยี่ยมจาก UN*
อุปกรณ์สำนักงาน น่าใช้เนอะ!
ขาว อวบ น่าร๊าก
___ ส า ร พั ด " เ มี ย " ___
ขำๆ พระมหาสมปอง
คู่มือเลี้ยงลูก ขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย.............
เมื่อโดเรมอนแปลงกาย
สนามกีฬาแบบนี้ก็มีด้วย
น้องแคทเปลี่ยนทรงผม
แอบแฉภาพweddingของเขาและเธอ
ตัวเม่นหรืออะไรกันนี่......
หลิน จื้อหลิง ดาราสาวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในใต้หวัน
มาแอบดูเขาถ่ายรูปWeddingกัน
ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว
จดหมายถึงฝ่ายเทคนิค IT
บทไหว้ครูฉบับใหม่...ดูไว้จาได้อินเทรนด์
วิธีฆ่าเวลา แบบ55
ภาพถ่ายโดยในหลวง
41 โรคพึงระวังติดเชื้อจากที่ทำงาน
มาดูคำว่าเซ็ง อะไรมันจะเซ็งขนาดนี้เนี้ย....
สัญญาลักษณ์ในผับ แบบ55มาก
เป็นห่วง
เลือกของใส่บาตรตามวันเ กิด
แต่งหน้าแล้วดูดีเหมือนกันนะ
โตขึ้นคุณอยากเป็นอะไร
ไอเดียสุดเจ๋ง
ใครเคยเห็นสยาม ปี2516 บ้าง
จากคลังภาพ80ปี
ไอเดียแบบนี้เจ๋งจริงๆ
ของสวยๆจากก้นขวดน้ำดืม
ภาพปริศนา...เมนูอาหาร ลองทายดูสิ
คางคกคะ เป็นคางคกก็มีน้ำใจ
ภาพนายหลวง(ภาพเขียน)
เบื่อๆๆๆๆๆ
โฆษณาSALZ (ทำไปได้)
อารมย์ขันในจิตกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว
ต้องปลอมตัวมา ฮ่าจริงๆ
หัวข้อข่าวฮือฮาในอีก 20 ปีข้างหน้า
ภาพถ่าย ทำไดอารี่" ในร่มเงาวังสระปทุม"
ชุดที่เหมาะใส่ไปทำงาน2
Positive Thinking, Positive Life
Japan farmer
นักบินอวกาศ+นายแพทย์+นายแบบ !!!
ความแตกต่างระหว่างผรั่งกับเอเชีย
คำว่า แต่งงาน โดย นพ.สุกมล ( ขำสุดๆ + โดนม ๊าก)...
สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช
ภาพเหนือหัวที่ควรส่งต่อ
ชุดที่เหมาะใส่ไปทำงาน
ภาพพ่อหลวงเสด็จออกจากโรงพยาบาล
MV เด้ง ( Shake it )
แบบทดสอบ"ความหน้าตาดี"ของคุณ
หน้าที่
มาดูว่าเราจะได้ชื่ออะไรในภาษาเกาหลี
อยากรู้ไหม ว่าเราหน้าตาเหมือนใคร
งาน งาน งาน แล้วก็งาน
คำว่า แต่งงาน โดย นพ.สุกมล ( ขำสุดๆ + โดนม ๊าก)...
> บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล / ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
>
> ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆครับ
> ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก
> เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี
> แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ
> วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลข แห่งความสะเทือนขวัญ
> ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
>
> หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย
> ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธ
> ที่ชอบถามว่า
> 'ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด '
> เฉลย '! ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว ' ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย
>
> ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา
> คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า
> ' อย่าริรักในวัยเรียน 'ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีจบแล้วค่อยมีแฟน '
> ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตาก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท ' รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน '
> ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา เมื่อเติบใหญ่่เราจะได้มีวิชา
> เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
>
> หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง
> เลือกสรร ควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต
> ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค
> อย่างวิลลี่ แมคอินทอชหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ
> ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์
> อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น ไม่มีทางได้แอ้มหรอก
>
> จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี
> ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลา
> ผ่านไป เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน -
> เจ้านายก็ มีเมียแล้ว ไม่อยากตกเป็นภรรยาบุธรรม
> สองคนดันเป็นเกย์ อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า
> คนสุดท้ายเป็นชายแท้แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่
> ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง
> กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง
> ขอนอนเอาแรงก่อน.........
>
> ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือ
> สถาบันการศึกษาที่เธอจบมา
> แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ
> ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ
> แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิทเป็นที่เรียบร้อย
> แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความจริง
>
> ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ
> จากเพื่อนๆ
> เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล
> พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า
> 'เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ'...
> 'โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว
> เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร
> เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ ยังงงๆเรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย'
> เอ๊ะ เกี่ยวอะไรกัน! ในใจก็คิดว่า '
> ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า'
>
> เคยตั้งคำถามกันไหม ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย!)
> คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย
> 'อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา ' รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา
> 'รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) ' ผมกลัวมาช่วยผลาเงินมากกว่า
> 'อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ ' เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ
> 'โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ' เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ
>
> อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?
> ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน
> ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้วครึ่งหนึ่งของ ชีวิตเราจะหายไป
>
> ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น
> ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สูสลายไปไหน มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง
>
> จุดมุ่งหมายของ การแต่งงานคือ
> การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น
> เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว
> ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน
> ก็ไม่รู้ว่า จะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน อยู่คนเดียวมันส์กว่า
>
> ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน
> อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน
> ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดี ในทางโลกก็เจริในทางธรรม
> กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน
> อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม
> ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน
> โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตก นรกทั้งเป็น
>
>
> เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน
> แทนที่จะให้ความสำคักับเรื่องรูปร่างหน้าตา
> ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ
> เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ
> หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
> สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
> เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน
> หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว
> เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา
> ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด
> ถือคติประจำใจว่า 'อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว'
เอิกๆ
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 15:16:49 น.
3 comments
Counter : 417 Pageviews.
Share
Tweet
โดย: coming soon (
The Yearling
) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:27:22 น.
สงสัยว่าเนื้อคู่ยังไม่เกิด
โดย:
ApPleNarak999
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:44:38 น.
หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
สงสัยยังไม่เกิดเหมือนกัน
โดย:
ก้าวไปตามใจฝัน
วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:14:28:13 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
lalintipn
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Build your own Blingee
Friends' blogs
ดวงตากระต่าย
แม่สลิ่ม
chlorella
ตี๋265
umasa_ib
SaiStep
สวยตลอดกาล
CinnamonGal
@panzy@
มันอยู่ในปอด
iamorange
คนทับแก้ว
k.j
Stricky-rice
jjbd
Webmaster - BlogGang
[Add lalintipn's blog to your web]
Links
แผ่นที่กทม.,ประเทศไทยและสายรถ
เทียบสี
พจนานุกรม
cutegraphics
ชุดน่ารัก
dress
ฟุตฟิตฟอไฟ
ครูอ้อยสอนอังกฤษ
ส่งsmsฟรี
glitter-graphics
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.