| NAMTAE'sMAMA
|
|||
อาคม - ชลนิล [RBC#2014]
**SPOILERALERT**  เสน่หา หากบอกว่าจุดเริ่มเรื่องทั้งหมดทั้งมวลในอาคมมาจากสิ่งที่เรียกว่าเสน่หาก็คงไม่ผิด เสน่หาในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงการรักใคร่เสน่หาฉันหนุ่มสาว เช่น ความรักจำพรากของทีเกื้อและสัตตบงกช ความรักฝังใจของเอื้อกานต์และทรงกลด หากความสนิทเสน่หาอันก่อกำเนิดเรื่องราวการล้างแค้นทวงคืนความยุติธรรมนั้นมาจากความเสน่หาด้วยกันทั้งสิ้น ลองมองย้อนไปยังเหยื่อที่ได้รับการลงโทษโดยคิม เราจะเห็นว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนแต่ลุ่มหลงในลาภยศ เงินตรา อำนาจ สรรเสริญ ทุกคนต่างเสน่หาและแสวงให้ได้มาซึ่งอำนาจในมือ โดยไม่สนว่าวิถีทางที่ดำเนินอยู่ได้เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันขนาดไหน อีกหนึ่งเสน่หาที่สร้างปมปัญหาในใจของฝาแฝดทีเกื้อและเอื้อกานต์คือความรักระหว่างบิดากับมารดา ที่เป็นรักอันผิดศีลธรรมจนนำมาสู่ความชิงชังในใจของคุณหญิง ภรรยาตามกฎหมายของผู้เป็นบิดาต่อเด็กฝาแฝด ความรักที่ไม่อาจหักห้ามใจได้ของผู้เป็นพ่อแต่ผลลัพธ์กลับต้องมาเป็นลูกๆ ที่แบกรับ ถึงแม้ทางกายภาพทั้งคู่ได้รับการดูแลอย่างสุขสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง หากลึกลงไปในใจแล้วต่างคนต่างมีบาดแผลที่ฝังรากลึก มนตรา ว่ากันว่าฝาแฝดมักมี sense พิเศษที่เชื่อมถึงกัน กรณีทีเกื้อและเอื้อกานต์ออกจะพิเศษกว่าใครอยู่สักหน่อย เพราะนอกจากสามารถติดต่อกันได้ทางจิตแล้วทั้งคู่ยังมีความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ ด้วยความพิเศษนี้ต่างฝ่ายต่างเลือกทางเดินชีวิตที่สามารถใช้ความพิเศษในตัวสนับสนุนการงานที่ทำ ทีเกื้อเลือกเป็นตำรวจ ส่วนเอื้อกานต์เป็นหมอ ในขณะที่คนสองคนใช้อำนาจพิเศษเพื่อปกป้องและรักษาเพื่อนมนุษย์ สังคมและโลกเบี้ยวๆ อีกฝ่ายหนึ่งก็ใช้อาคมเพื่อพิพากษาคนผิด หากเปรียบพลังของทีเกื้อและเอื้อกานต์เป็นสีขาวบริสุทธิ์ คิมคือสีดำมืด เป็นสีดำของความพยาบาทที่สั่งสมในจิตใจ พยาบาท คิมใช้เวทมนตร์เพื่อสังหารศัตรู การตั้งตนเป็นผู้พิพากษาโทษของคิมเกิดจากความโกรธแค้นจากสิ่งที่ได้รับ เมื่อไม่สามารถใช้กฎหมายทวงคืนความยุติธรรมและเรียกร้องศักดิ์ศรีได้อีก คิมตัดสินใจทิ้งชีวิตเดิม เลือกที่จะเป็นคนใหม่ที่มีคาถาอาคมใช้มนตราเพื่อกำจัดคนชั่ว คำถามโลกสวยข้อที่หนึ่ง : เมื่อฆ่าคนๆ หนึ่งตาย เราใช้อะไรเป็นมาตรวัดตัดสินว่าเราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง คิดว่าการกระทำของเราเป็นการทวงคืนความยุติธรรมสู่สังคม แม้ว่าคนที่เราฆ่าจะเป็นคนเลว เป็นนักการเมืองชั่วโกงกินบ้านเมือง จากเหตุการณ์ข่มขื่นเด็กหญิงบนรถไฟไทยเมื่อไม่นานมานี้ ก่อกระแสข่มขื่น = ประหารสนั่นโลกโซเซียล ผลตอบรับมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในแคมเปญนี้ คนที่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลว่าพวกสารเลวควรตาย ตัดจู๋ทิ้ง อย่าให้มีหน้ามาทำผิดซ้ำซ้อน กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลต่างๆ กันไป มีประโยคหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ถูกโพสท์ไว้ จำได้คร่าวๆ ประมาณว่าทำไมเราต้องฆ่าคนเพื่อรักษาความยุติธรรม? ทำไมเราต้องใช้ความรุนแรงชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟันเพื่อรักษาความสงบสุขในสังคม ยังมีหาทางอื่นใดอีกไหมที่สามารถแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง โลกเราที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะต่างเรียกร้องหาความยุติธรรมที่ตัวเองต้องการหรือ ความพยาบาททำให้คิมเลือกเดินทางสู่ความมืดหม่น ในขณะที่เอื้อกานต์ครองชีวิตอยู่ในศีล ลดละอกุศลจิตที่มีต่อคุณหญิง ยอมเสี่ยงตายเพื่อช่วยชีวิตของคุณหญิงไว้ แม้ว่าคิมจะเปลี่ยนใจจากเหยื่อคนสุดท้าย แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตกลับได้ ชีวิตนั้นไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็สุดแท้แต่ผู้เลือกจะเลือกเดิน บางเส้นทางเมื่อเดินไปแล้วไม่อาจวกกลับมาเริ่มต้นใหม่ หากเลือกทางที่ดีชีวิตย่อมเจริญ หากเลือกทางที่แย่ชีวิตมันจะมีสุขได้ยังไง เส้นทางที่ไม่อาจกลับมาบรรจบกันอีกครั้งของคิมและเอื้อกานต์ จึงเหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำและรอยอาลัย คำถามโลกสวยข้อที่สอง ; ถ้าแทนตัวเองเป็นเอื้อกานต์ แล้วรู้ตัวตนที่แท้จริงของคิม คุณจะ ... ก. เลือกที่จะยึดมั่นในความดีเหมือนที่หมอเอื้อกานต์เป็น แม้จะยืนคนละฝั่งกับคิม รักนะ เสียใจนะแต่ความถูกต้องย่อมมาก่อน ข. เลือกที่จะอยู่ข้างคิม สิ่งที่คิมทำแม้ไม่เรียกว่าเป็นการทำความดี 100% แต่การกำจัดคนชั่วให้หมดจากสังคมไม่ใช่เรื่องผิดหรอกน่า คำตอบที่ถูกต้องอาจไม่ได้มีข้อเดียว หรืออาจไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเลยก็ได้ มีเพียงคำตอบที่ถูกใจและขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเป็นแบบไหน ถึงโลกเราทุกวันนี้กำลังป่วย บิดเบี้ยวเสียสภาพ ในสถานะมนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยไร้อำนาจ เราไม่สามารถงัดคานอะไรได้ หากเราเชื่อและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างน้อยตัวเราก็รู้ว่าเราทำดี หรือ unit เล็กสุดในสังคมที่เราช่วยขัดเกลาได้ก็คือครอบครัว หมายเหตุ หนังสือเรื่องนี้ตอบโจทย์ RBC#2014 หัวข้อ A Book with a one-word title ค่ะ สนามหัวใจ - ฌามิวอาห์
**SPOILERALERT**  ก่อนหน้านี้คุณเพื่อนได้กรุณาให้ยืมผลงานเก่าๆ ของคุณฌามิวอาห์มาอ่านหลายเล่ม พอได้อ่านแบบติดๆ กันก็แอบรู้สึกว่าผู้เขียนมักแฝงประเด็นบางอย่างในผลงาน ซึ่งประเด็นที่ว่ามักเกี่ยวข้องกับครอบครัว ทัศนคติ ความสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ ในครอบครัว ตัวละครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือหลายฝ่ายจะต้องมีปมที่เกี่ยวกับครอบครัวปรากฏอยู่ นอกจากเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ปมการเสียชีวิตของตัวละครที่เป็นจุดเริ่มเรื่อง จุดที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัวก็มีอยู่ให้เห็นค่อนข้างชัดในเรื่องสนามหัวใจ หลังจากการตายของนายช่างวลัช มิลินท์ก็เปรียบเสมือนว่าวที่ลอยเคว้งเพราะไร้หลัก ไร้สายให้เกาะเกี่ยว เพราะพ่อเป็นฮีโร่ เป็นคนเดียวที่เข้าใจมิลินท์ได้ดี เมื่อพ่อตายอย่างไม่แน่ชัดในสาเหตุ มิลินท์เชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่าพ่อไม่ใช่คนประเภทที่หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายและเติบโตตามรอยเท้าพ่อด้วยการเป็นนายช่างเครื่องประจำทีมแข่งรถชื่อดัง แถมยังมีฝีมือแข่งรถระดับดี ความห่างเหินในระยะทางระหว่างมิลินท์กับแม่ ไม่ใช่ว่าแม่ลูกไม่รักกัน เพราะรักแม่เลยยอมให้มิลินท์มีอิสระ แม่รักมิลินท์ในแบบของแม่ อาจไม่เข้าใจมิลินท์ได้เท่าพ่อแต่ก็คิดว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับมิลินท์ ถ้าหากแม่ตีกรอบให้มิลินท์บ้างหรือพูดคุยเปิดใจ ทำความเข้าใจกับมิลินท์ ก็คงไม่ต้องอยู่ห่างลูกนานหลายปี บางครั้งสิ่งที่แม่คิดว่าดีที่สุด มันไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการ เช่นเดียวกับความหวังดีของยายที่อยากให้แม่ของมิลินท์มีคู่ครองที่เหมาะสม แต่คนที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไวทย์ดูเข้าใจมิลินท์ได้ดีเมื่อมองลึกไปถึงตัวตนของเธอ มิลินท์อารมณ์ร้อน แข็งกร้าว ความมุทะลุ ดื้อรั้นของเธอทำให้ตัวเองสร้างกำแพงป้องกันตัวเองจากคนอื่น จนตัวเองโดดเดียวและว้าเหว่ ความรักของมิลินท์ที่มีต่อแม่ทำให้ไวทย์เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเธอ มิลินท์แม้ยังมีความเข้าใจผิดต่อตัวเขา หากมีความรู้สึกที่ดีมอบให้แก่ไวทย์เช่นกัน นายช่างวลัชดูเป็นคนเดียวที่เรียกได้ว่าเข้าใจทุกคนในเรื่อง ไม่เพียงแค่รู้ว่าลูกสาวเป็นคนอย่างไร ยังเข้าใจความรู้สึกของภรรยา ความคิดของแม่ยาย ความที่เข้าใจคนรอบข้างได้ดีและมีความสามารถสูง ไวทย์จึงนับถือนายช่างวลัชอย่างมาก ความนับถือและเชื่อมั่นในตัวนายช่างวลัชเป็นสิ่งหนึ่งที่ทั้งไวทย์และมิลินท์มีเหมือนกัน ดังนั้นความประสงค์ของทั้งคู่นอกจากสางปมการเสียชีวิตของนายช่างวลัชแล้ว ยังต้องการพิสูจน์ว่าผลงานการออกแบบเครื่องยนต์ธันเดอร์โบลท์ของนายช่างวลัชนั้นสมบูรณ์แบบ อีกคนที่ดูเข้าใจมิลินท์ได้ดีคือเกนจิ เกนจิแม้ไม่ได้สร้างกรอบหรือขีดเส้นใดๆ ให้มิลินท์ เลือกให้เธอเดินตามเส้นทางที่เลือก หากยังคอยปรามและเตือนสติเสมอ บางทีเกนจิมองเห็นเงาของตัวเองครั้งอดีตผ่านมิลินท์ ดังนั้นเขาเลยเข้าใจตัวของมิลินท์ได้ดี ความเข้าใจผิดของมิลินท์ที่มีต่อไวทย์เองก็ดี พอจะบอกให้เราได้รู้ว่าหากเราเลือกที่จะใจเย็น รับฟัง และพิจารณาอย่างมีสติ ปัญหาทุกอย่างย่อมกระจ่างชัด เช่นเดียวกับเรื่องราวในครอบครัว หากยาย แม่ มิลินท์เลือกที่จะพูดจาหันหน้าเข้าหากันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ก็คงไม่ต้องเสียเวลาไปหลายปี จุดไต้ตำตอเดียวคือการพบฉากฆาตกรรมโดยบังเอิญของมิลินท์ ทำเอาสงสัยว่าฝ่าย IT หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ เขาไม่ตรวจสอบไฟล์ให้เรียบร้อยหรือยังไง แต่ว่าฉากที่มิลินท์ได้เห็นหน้าพ่ออีกครั้งหนึ่งผ่านทางมอนิเตอร์ก็ทำเอาคนอ่านน้ำตารื้น ด้วยความที่ในเรื่องเกี่ยวข้องกับความเร็ว การแข่งรถ ดังนั้นเรื่องราวทั้งหลายแหล่จึงเกิดขึ้นในสนามแข่งรถบ้าง โรงซ่อมรถของทีมบ้าง (ขนาดที่นอนของมิลินท์ยังเป็นโรงซ่อมรถของไวทย์คิดดูเถอะ) หรือฉากแข่งรถที่ให้มิลินท์ได้โชว์เก๋าเล่นใหญ่แบบจัดเต็ม เลยแอบคิดนึดนึงว่าในเรื่องมีกลิ่นของมังงะญี่ปุ่นอยู่บ้าง คงเพราะตอนอ่านดันคิดภาพของเทพเจ้าแห่งภูเขาอากินะผสมกับ Fast & Furious ตาม XD ป.ล. นี่ก็เพิ่งรู้จักรายการ G1 จากเรื่องนี้แหละค่ะ ลองไปอากู๋ดูพบว่าในไทยเองมี G1 Thailand ด้วย แถมเร็วๆ นี้จ.บุรีรัมย์กำลังจัดการแข่ง G1 อีก โว๊ะ ... ผู้ไทยม่วนขนาด คู่ฝันคะนึง 1 , 2 - เฮยเจี๋ยหมิง [RBC#2014]
**SPOILERALERT  เปิดเรื่องมาอย่างแหวกแนวสไตล์ของมากกว่ารักเลย เพราะเรื่องราวในคู่ฝันคะนึงมีเนื้อหาที่เกิดขึ้นในสมัยปัจจุบันเกือบทั้งหมด มีการย้อนความหลังไปในยุคโบราณ เท้าความถึงความสัมพันธ์ของพระนางที่ทั้งรัก ทั้งเกลียดโกรธแค้น ทั้งขมขื่นข้ามชาติมานับพันปี ถ้ายังจำคู่เคียงเรียงรักซึ่งเป็นผลงานแปลฉบับภาษาไทยเล่มแรกของคุณเฮยเจี๋ยหมิงได้ คงจำกันได้ถึงแม่มดอาหลิง ในคู่ฝันคะนึง อาหลิงถึงแม้จะปรากฏตัวออกมาไม่มาก(และยังซ่อนความลับเอาไว้อีกมาก) แต่ก็เป็นกุญแจสำคัญที่กำโชคชะตาของถังเข่อชิงและฉิวเทียนฟั่งไว้ ความฝันเป็นสิ่งที่นำถังเข่อชิงและฉิวเทียนฟั่งมาพบกัน ถังเข่อชิงมักฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเสมอ ในฝันหัวใจของเธอสยบให้แก่เขา ฉิวเทียนฟั่งมักฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเสมอ ในฝันเขาต้องตายเพราะเธอทุกชาติภพ และเมื่อคนในฝันปรากฏตัว มีตัวตนขึ้นจริงๆ ในตอนแรกถังเข่อชิงไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกผู้ชายคนหนึ่งดึงดูด มีความรักที่ลึกซึ้ง รุนแรง ร้อนแรงไปกับเขา แต่ฉิวเทียนฟั่งรู้ ... แต่ถึงรู้ กลับไม่สามารถหนีจากเธอไปได้ ในเรื่องเกริ่นไว้ว่าถังเข่อชิงเป็นผู้หญิงที่ปิดตัวจากสังคม เธอมีเหตุผลที่ไม่อาจใช้ชีวิตได้แบบคนธรรมดา แม้การอยู่ร่วมบ้านเดียวกับพ่อแม่บุญธรรมก็ไม่สามารถทำได้ นั่นก็เพราะถังเข่อชิงไม่เคยแก่ ดูเหมือนเวลาของเธอหยุดเดิน ร่างกายของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้พ่อแม่บุญธรรมจะรักและยอมรับสภาพที่ไม่ใช่คนของเธอได้ แต่ถังเข่อชิงก็รู้ดีว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ปกติ นั่นรวมไปถึงความสัมพันธ์กับฉิวเทียนฟั่ง เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถใช้ชีวิตที่ดำเนินไปข้างหน้าได้แบบมนุษย์คนอื่น เพราะฉะนั้นถึงแม้จะรักฉิวเทียนฟั่งมากแค่ไหน ถังเข่อชิงก็ไม่กล้าคิดถึงอนาคต ฉิวเทียนฟั่งกลับอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ มีเพียงแค่เขากับเธอเพียงสองคน แต่กงล้อของโชคชะตาหมุนไปตามกรรมของแต่ละคน ในอดีตชาติฉิวเทียนฟั่งแม้เป็นราชา เป็นจอมทัพ เป็นเจ้าแห่งคน ฉากสุดท้ายในชีวิตกลับเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำๆ คือการตายของเขาที่เกิดจากน้ำมือของผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่เขารัก เชื่อใจ และให้เธออยู่ข้างกาย ฉิวเทียนฟั่งเคยตั้งคำถาม อยากรู้ว่าทำไมเธอถึงทำร้ายเขา แต่เมื่อได้พบเธอ สิ่งที่เขาค้นพบคือความรักที่อัดแน่น ความโหยหาที่ต่างต้องการกันและกันของหนึ่งหญิงหนึ่งชาย เขาไม่มีความแค้น ไม่มีคำถาม มีเพียงความปรารถนาที่ได้อยู่อย่างสงบสุขกับหญิงคนรัก เมื่อหลิงไขความทรงจำที่หลับใหลของถังเข่อชิงออก ความรักที่สุขหอมหวานพลันเปลี่ยนเป็นความข่มขื่น ถังเข่อชิงจำได้แล้วว่าตัวเองคือใคร เธอคือหญิงสาวที่รั้งอยู่ข้างกายฉิวเทียนฟั่งมาโดยตลอด มอบหัวใจให้แก่เขา หากเธอต้องเป็นผู้สังหารเขาด้วยน้ำมือของเธอเอง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เพื่อยุติความบ้าคลั่งของเขา ชาติที่แล้วของฉิวเทียนฟั่ง เธอก็เป็นผู้ลงมือสังหารเขา จากนั้นความทรงจำก็สูญหาย พ่อแม่บุญธรรมเป็นคนพบเธอ เลี้ยงดูเธอที่ความทรงจำสาบสูญให้เป็นถังเข่อชิงมาตลอด 35 ปี จนได้พบฉิวเทียนฟั่งในชาตินี้ สิ่งที่กัดกินความรักของถังเข่อชิงคือความเชื่อมั่นในตัวฉิวเทียนฟั่ง ทุกชาติที่ผ่านมา เธอคิดว่าเขาไม่เคยเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นหากชาตินี้เธอจำเป็นต้องฆ่าเขาอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รักแต่จำเป็นต้องฆ่า ถังเข่อชิงไม่สามารถรับมือกับความโหดร้ายนี้ได้อีกแล้ว ที่ฉิวเทียนฟั่งอยากบอกเธอคือเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่เวลาที่พบกันไม่กี่เดือนไม่สามารถสามารถเปลี่ยนความเชื่อของถังเข่อชิงที่ติดตามเขามานับพันปีได้ ครั้นจะกักขังเธอ เธอก็หนีไป มีเพียงแค่หลิงกับฉินเท่านั้นที่จะเฉลยเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ไม่มั่นใจว่าหลิงจะยอมช่วยเขา เพราะคนที่ก่อเรื่องราวทั้งหมด บาปกรรมที่หมุนเวียนอยู่นี้คือเขาในอดีตชาติ หากหลิงยื่นข้อเสนอที่ว่าถ้าฉิวเทียนฟั่งอยากให้ถังเข่อชิงใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปได้อีกหน ต้องแลกเปลี่ยนกับการที่เขาจะถูกจองจำในนรกอีกครั้ง ... เมื่อคิดถึงความมืดมนและความเจ็บปวดจากการถูกขุมขังในนรกขุมลึก ฉิวเทียนฟั่งไม่อยากไปอยู่ในนรกหรอก หากนั่นเพื่แก้คำสาปที่ถังเข่อชิงเป็นอยู่ เขาก็ยอมโดดเดี่ยวอยู่ในนรกเพื่อเธอ ผลงานเรื่องอีกเรื่องของคุณเฮยเจี๋ยหมิง อ่านแล้วร้องอูย ... นอกจากจะเลิฟซีนเผ็ดมันส์ ความรู้สึกของตัวพระนางเอกมันบีบใจคั่กๆ โดยส่วนตัวแล้วชอบอารมณ์ เนื้อเรื่องซับซ้อนประมาณที่ผู้เขียนสื่อออกมา จะรักแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ แค้น โกรธ เกลียด เต็มไปด้วยคำถามแต่ก็รัก ทั้งๆ ที่รักแต่ก็จำเป็นต้องฆ่า นั่นก็เพราะรัก ... ทั้งหมดทั้งมวลอ่านแล้วก็จี๊ดใจ เจ็บไปพร้อมกับพระนาง ถ้าตัดเลิฟซีนออกไปบ้างเล่มจะรักเล่มนี้มากกว่านี้ค่ะ แต่พอเลิฟซีนมาเยอะอ่านแล้วมันเยอะเกิ๊น ก็เข้าใจนะว่าเป็นความรัก ความโหยหาแบบข้ามชาติพันปี แต่เยอะเกินคนอ่านก็เพลีย อารมณ์แบบเยอะไปก็น่าเบื่อ ร้อนแรงไปก็น่าเบื่อ ทว่าโดยรวมแล้วก็ชอบแหละค่ะ ก็หวังว่ามากกว่ารักจะแปลทุกเรื่องในซีรี่ส์นี้ออกมาครบนะ รอเก็บรออ่านค่ะ (แน่นอนว่ายังรอเรื่องของหลิงกับซ่งอิ้งเทียน จะได้อ่านไหมหรือยังไง เรารออยู่นะ) หมายเหตุ หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ RBC#2014 หัวข้อ A Book with non-human characters มาทั้งแม่มด ยมทูต และมนุษย์พันปีเลยค่ะ เพลิงพยัคฆ์ - ณารา [RBC#2014]
**SPOILERALERT  ใช้เวลาว่างระหว่างเฝ้าไข้ในโรงพยาบาลพิชิตความหนาและหนักของเพลิงพยัคฆ์จนจบค่ะ ก่อนที่จะเริ่มอ่านมีกังวลบ้างว่าจะอ่านได้จบหรือเปล่า เพราะทั้งหนาและที่สำคัญไม่ใช่แฟนงานเขียนของคุณณาราด้วยซิ ทว่าด้วยพล็อทเรื่องที่เป็นแนวนักเลงจีนในเยาวราชทำให้รู้สึกสนใจมาก สุดท้ายแล้วพออ่านจนจบเล่ม บอกได้เลยว่านี่เป็นนิยายของคุณณาราเรื่องแรกสำหรับเราเลยที่พูดได้เต็มปากว่าชอบและสนุก น่าติดตาม ความท้าทายแรกต่อเพลิงพยัคฆ์คือตัวเราเป็นคนที่ไม่อินกับความรักประเภทรักๆ แค้นๆ ยิ่งคู่ที่แบบรักกันมาก่อนแต่มีเรื่องให้ได้แค้นกัน ยิ่งในเล่มนี้เปิดเรื่องมาเป็นความแค้นที่สุดแสนจะกลืน เพราะความรักระหว่างพยัคฆ์และแพรพรรณรายทำให้ครอบครัวของพยัคฆ์ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อตาย แม่กับน้องหายไปไหนก็ไม่รู้ ตัวเขาเองถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรต้องหลบซ่อน ถึงแม้ว่าท้ายสุดโชคชะตาพัดพาให้ไปเป็นมือขวาของนักเลงใหญ่ในเยาวราช แต่ความแค้นปนความรักที่มีต่อแพรพรรณรายก็ไม่เคยจางหาย พยัคฆ์ก้าวเข้าสู่วงการนักเลงในแบบของการที่ใช้สมองคิดมากกว่ากำลัง ถึงการเป็นนักเลงจะมีเงินให้ใช้ไม่ขาดมือ มีคนนับหน้าถือตา ทว่าสิ่งที่พยัคฆ์มองคืออนาคต เขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะเลิกเป็นนักเลง มีกิจการที่ทำเงินสร้างรายได้ที่มั่นคงกว่าการเป็นนักเลง ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ในแวดวงนักเลงแต่พยัคฆ์ก็ค่อยๆ ปูทางสำหรับอนาคตของเขาไว้แบบค่อยเป็นค่อยไป ตรงข้ามกับมังกร เพื่อนสนิทที่ใจร้อน บุ่มบ่าม และถนัดการลุยมากกว่าใช้สมองไตร่ตรองอย่างละเอียดอ่อน ชีวิตของครอบครัวแพรพรรณรายดูคล้ายจะตรงข้ามกับความเติบโตของพยัคฆ์ เมื่อไกรศรีผู้ผยองแต่ขาดสตินำความเสื่อมมาสู่ตระกูลอย่างรวดเร็ว กลายเป็นว่าลูกสาวที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ให้ความรักใคร่เป็นผู้แบกรับปัญหาของตระกูลเพียงลำพัง ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พยัคฆ์ได้กลับมาแก้แค้นคนที่พรากครอบครัวของเขาไป ข้อดีหนึ่งคือพยัคฆ์ไม่หมกมุ่นกับการแก้แค้นจนขาดสติ และก็ไม่หน้ามืดหลงเข้าใจผิดแพรพรรณรายชนิดที่ต้องไปแก้ความเข้าใจแล้วง้อกันท้ายเล่ม เมื่อเจอกันอีกครั้ง พยัคฆ์ยอมฟังเรื่องราวของแพรพรรณราย และตัวแพรพรรณรายเองด้วยความที่แบกความรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นเหตุให้ครอบครัวของพยัคฆ์บ้านแตก เลยยอมรับและชดใช้ความแค้นที่พยัคฆ์มาทวงคืนด้วยความเข้าใจ ทั้งยังอดทน เฝ้ารอ และเอาความรักจากใจจริงดึงพยัคฆ์ให้รักเธอหมดหัวใจอีกครั้งหนึ่ง แม้พยัคฆ์จะรักแพรพรรณรายเต็มอก ทว่าความรู้สึกแค้นต่อครอบครัวโดยเฉพาะพ่อกับพี่ชายของแพรพรรณรายยังคงอยู่ กับพระยาพิทักษ์สันติชน บิดาของแพรพรรณรายนั้น สิ่งที่ท่านเป็นอยู่ได้ทลายเกียรติและความภาคภูมิใจในตัวท่านลงจนหมดสิ้น จนพยัคฆ์ไม่คิดจะลงมือทำสิ่งอื่นใดให้ท่านต้องเจ็บช้ำอีกแล้ว การอโหสิกรรมให้กับคนที่เคยทำร้ายเรา บางครั้งมันก็ยาก ทว่ามันอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่พยัคฆ์จะไม่ทำร้ายใครอีก โดยเฉพาะจิตใจของคนที่รักอย่างแพรพรรณราย แต่กับไกรศรี พยัคฆ์รู้ได้เลยว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องล้มลง ทว่าตัวเขาก็ไม่มีวันยอมให้ไกรศรีอีก แน่นอนว่าไกรศรีไม่มีวันลามือจากพยัคฆ์ ยิ่งได้รู้ความจริงว่าผู้ชายคนนี้แหละคือคนเดียวกับที่รอดชีวิตจากเงื้อมมือของเขาเมื่อหลายปีก่อน ไกรศรียิ่งจ้องเอาชีวิตของพยัคฆ์ให้จนได้ ลำพังเพียงไกรศรีไม่มีปัญญาจะล้มพยัคฆ์ได้ลำพัง หากเกลือเป็นหนอนในสมาคมคอยแทรกซึมบั่นทอนขุมกำลังของเจ้านายของพยัคฆ์ ได้ให้ความช่วยเหลือไกรศรี ทั้งยังเสี้ยมให้พยัคฆ์และมังกรแตกคอกัน แต่สุดท้ายแล้วต่างคนก็พบจุดจบตามกรรมที่ตัวเองทำไว้ จุดจบของไกรศรีแม้ไม่ได้จบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพยัคฆ์ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกทวงแค้นคืนให้บิดาได้สมเป้าหมาย เปิดตัวละครอีกตัวในชุดอย่างอัศดรหรือก็คือน้องชายที่หายไปของพยัคฆ์ได้อย่างน่าสนใจ ส่วนการตายของหุ่ยเพียวหรือก็คือมนุษย์เกลือเป็นหนอนในสมาคม ก็เป็นฉากเริ่มต้นเรื่องราวชีวิตแต่หนหลังของมังกร บอสลับที่แท้จริงยังไม่ปรากฏตัว ชวนให้ไปติดตามรอลุ้นชาติกำเนิดของมังกรในเล่มถัดไป ด้วยความที่เนื้อเรื่องดำเนินในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง และในตอนนั้นพระนครเองก็วุ่นวายกับสงคราม ในบางฉากที่อ้างอิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้รู้สึกอย่างสนุกดีค่ะ เช่นตอนที่พยัคฆ์ถูกไกรศรีนัดพบในสถานที่ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรวางระเบิด หรือการที่เสริมที่ดูจะไม่เป็นโล้เป็นพายกลายมาเป็นเสรีไทย หรือตอนที่บ้านแพรพรรณรายถูกน้ำท่วม ถ้าจำไม่ผิดในคู่กรรมก็มีฉากที่บ้านสวนของอังศุมาลินน้ำท่วมด้วยเหมือนกัน มีจุดหลุดบ้างและสะกดคำผิดสองสามคำ แต่เรื่องคำผิดอย่าถามเลยว่าตรงไหนเพราะหนามาก ขี้เกียจกลับไปค้น แต่โดยรวมแล้วอ่านเนียนตา เป็นเล่มหนึ่งของคุณณาราที่ไม่ค่อยมีจุดขัดใจให้เห็นนัก ตอนนี้ก็ ... กำลังรออีกสองเล่มอย่างใจจดจ่อล่ะค่ะ หลังจากอ่านเพลิงพยัคฆ์จบแอบสมัครเป็นทีมอัสดร นายแมนมาก ชอบ หมายเหตุ หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ RBC#2014 หัวข้อ A Book with more than 500 pages ค่ะ เพลิงพยัคฆ์อยู่ที่ความหนา 664 หน้า ยกขึ้นมาอ่านทีก็ลำบากเหมือนกัน รักภักดิ์ใจ - ปริญญ์
**SPOILERALERT**  ดูเผินนี่เป็นนิยายรักซินเดอเรลลาพาฝันฟรุ้งฟริ้ง ด้วยพล็อตเรื่องที่ให้หนุ่มหล่อโพรไฟล์ดีแสนเปอเฟ็คมาตกหลุมรักสาวเป๋อกระเปิ๊บกระป๊าบเข้าให้ แต่ว่าด้วยคติธรรมที่ถูกแทรกเข้ามา รักภักดิ์ใจจึงไม่ใช่นิยายรักขายฉากฟินเพียงอย่างเดียว (ถึงคนอ่านจะเสียหมอนไปหลายใบ เล็กฉีกไปหลายนิ้วเพราะฉากหวานจี๊ดของเฮียเฮี้ยบกับน้องโน่ยก็เถอะ!) สิ่งที่ทำให้เฮียเฮี้ยบหรือหริทัศว์สนใจในตัวแก้วกันตาไม่ใช่องค์เหวี่ยงวีนที่เธอแสดงให้เห็นในครั้งแรกที่ได้เจอกัน ถึงจะมีอุปนิสัยเป็นอนงค์ใจร้อน เหวี่ยงแว๊ดๆ หากสุดท้ายแล้วแก้วกันตาก็แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ การให้อภัยแม้ว่าเธอจะเป็นผู้เสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วธรรมะก็ทำให้คนรักกัน เมื่อบิดาของแก้วกันตาเป็นเพื่อนปฏิบัติธรรมกับบิดาของหริทัศว์ จากที่ไม่รู้จักก็ได้รู้จัก จากที่ไม่เคยสนิทกลับสนิทสนม ทั้งหริทัศว์ยังแสดงออกตรงไปตรงมาว่ามีใจให้กับแก้วกันตา คนสองคนแม้จะมีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ทั้งเรื่องฐานะ ลักษณะนิสัย หริทัศน์เป็นคนใจเย็น สุขุม รอบคอบ ตรงกันข้ามกับแก้วกันตาที่ใจร้อน ใจเร็ว อย่างสิ้นเชิงแต่กระนั้นคนทั้งคู่ก็ดึงดูดเข้าหากัน ขณะที่คนคู่หนึ่งคบหารักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ชักจูงกันไปในหนทางที่อบอุ่นสว่างไสว แต่คนอีกคู่กลับเหมือนบัวใต้น้ำเพราะหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา โยษิตา เพื่อนรุ่นน้องในบริษัทของแก้วกันตา เมื่อเห็นแก้วกันตารักกับหริทัศว์ก็บังเกิดความริษยา คอยใส่ไคล้กล่าวหาแก้วกันตาในทางเสียหายเมื่ออยู่ลับหลัง ทั้งความอยากได้อยากมีทำให้โยษิตาคบหากับชิษณุพงศ์ เพื่อนและผู้บริหารในบริษัทของหริทัศว์ ที่ยักยอกเงินของสถานปฏิบัติธรรมไปเป็นของตนเอง และภายหลังเมื่อชิษณุพงศ์แต่งงานไปแล้ว ก็ยังลอบมีชู้กับโยษิตาลับหลังภรรยาตลอดเวลา จนสุดท้ายกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สูญเสียกันทุกฝ่าย คติที่สะท้อนในนิยายค่อนข้างชัดเจน เมื่อฝ่ายหนึ่งใช้หลักธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว สิ่งที่ได้รับคือจิตใจอันผ่องใส ปราศจากความขุ่นข้องเพราะชีวิตไร้ซึ่งทุกข์ ขณะที่อีกฝ่ายจมอยู่ในกองกิเลส สุดท้ายแล้วมายาที่พวกเขาลุ่มหลงได้พังทลายลง ทิ้งไว้เพียงความทุกข์กายและโทมนัสจากผลของกรรม ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือความหวานระดับแพลทตินัม ฟลูเอชดีของเฮียเฮี้ยบและน้องโน่ย คือโง่ย....อยากส่งบิลไปเบิกค่าหมอนกับผู้เขียน เพราะกว่าจะอ่านจบเล่ม หมอนพังไปหลายใบอะค่ะ เห็นเล่มบางๆ แบบนี้แต่ความหวานมาแบบจัดเต็มนะเออ ท้ายเล่มมีตอนพิเศษ เป็นเรื่องราวของปานชีวาพี่สาวแก้วกันตา เนื้อเรื่องทำนองคนรักกันแต่เข้าใจกันผิด เค้าก็ง้อกันน่ารักดีเนอะ |
a murder suicide
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] fat NEET and sometimes Hikki. living in the small and blind world, kind of closed mind, a light level of bipolar, not much friendly with human. Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
