มาถึง
[Part 4] ภาคสุดท้ายของทริปเกาหมีแล้วแล้วซิ
ใครยังไม่ได้อ่านที่มาที่ไปสามภาคแรกจิ้มลิงค์ด้านล่างได้เลยค่า
[Part 1] Etude House Pink Play Korea Trip 7-10 Aug 2012 :
ภาคแรกออกเดินทางตะลุยเกาหลีกันจ้า ^^[Part 2] Etude House Pink Play Korea Trip 7-10 Aug 2012 :
พาทัวร์งาน Etude Pink Play Concert 3 ค่า<3
[Part 3] Etude House Pink Play Korea Trip 7-10 Aug 2012 :
ไปชมการแต่งหน้าแบบเกาหลีสไตล์ Etude กันจ้าต่อจากภาคสามยังไม่หมดวันน๊า เรามาต่อกับลั้นลารอบเย็นกันเลยจ้า
มื้อเย็นวันที่สองนี้เราวนรถกลับที่โรงแรมอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน
เปลี่ยนชุดสบายตัวแล้วเราก็เดินจากโรงแรมมาหม่ำกันที่ร้านนี้จ้า
"HWAROYEON" @เมียงดง
เริ่มมื้อเย็นกันด้วยขวดนี้ วะฮ่าฮ่า มันคือ
เหล้าบ๊วยเกาหมี ซ่าๆหอมๆกลิ่นบ๊วย
รสหวานแต่ไม่หวานเค้าเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นเน่อ เอาตามความรู้สึกทรายนะเหมือนสปายบ้านเราเลย
ซู่ซ่าๆได้กรึ๊บเล็กๆ 555
เกาหมีเค้ามีวัฒนธรรมการกินเหล้าที่เป็นเอกลักษณ์นะ
คือ
"ห้ามรินเหล้าเอง" ต้องให้คนอื่นรินให้เพื่อนร่วมวงต้องคอยดูว่าแก้วใครว่างก็จะเติมให้
และคนที่อายุน้อยที่สุดก็จะต้องเป็นทาสคอยดูแลหยิบนู่นนี่ให้กับทุกคนในโต๊ะ ฮี่ๆ
มาแว๊วววมื้อเย็นของเรา >>> เนื้อชิ้นบึ้มลงเตาร้อนๆดังฉ่าาาาา อร๊ายยยหอมชื่นใจโพสไปหิวไป
การทานหมูย่างเกาหลี และเกาหมีแท้ๆนั้นคนกินห้ามยุ่งนะจ๊ะ พนักงานจะย่างและตัดแบ่งให้เราคร๊าบ
อันนี้จานเด็ดของทรายเลย ชอบมว๊ากกกอ้ะ ยำผักร้านนี้ครบรสมากๆ มันสุดยอดจริงๆ
ขอเบิ้ลแล้วเบิ้ลอีกจนพนักงานละเหี่ยใจ 555 โอยยยยคิดถึง.....อยากกินๆๆๆๆ
เห็ดแชมปิญองย่างต้องหงายฝาให้น้ำผุดพอสุกแล้วก็ซดน้ำ ฮู้วววอร่อย เคี้ยวหนุบหนับ
เนื้อนุ่มๆย่างสุกกำลังดี กินกะยำผักของเค้า ดิ้นตายอยู่หน้าคอมแระตอนนี้ กรั่กๆ ยั่วตัวเองทำม๊าย
ร้านนี้เก๋มากกกกขอบอกว่าในห้องน้ำมีน้ำยาบ้วนปากให้ด้วยคร๊าบ
แสดงถึงความใส่ใจของเจ้าของร้านจริงๆ
ทั้งกลิ่นเนื้อกลิ่นพริกกระเทียมช่างร้ายนัก อิอิ
อิ่มของคาวป่ะต่อของหวานเบาๆแบบกรุบกริบ
"ชานมไข่มุก ร้าน Quickly" จ้า
น้องหวี่วี้ไกด์สาว
Recommend ร้านนี้เลย ชาเข้มข้นไข่มุกหนึบหนับ ที่สำคัญไม่หวานมากด้วย
แต่ขอบอกว่าราคาขาไข่มุก หรือราคาเครื่องดื่มเกาหมีแรงนะฮร้าาา
ที่กินกันนี่เป็นไซส์ธรรมดา
(Regular) ราคาแก้วละ 5,000 won = 150 บาท ซีดเลยยย
อิ่มแปร้กันแล้วถึงเวลาเดินตะลุยเที่ยวเมียดงยามค่ำคืนกันแล้วววว
Shopping Time !!!พี่มดเอาแว่นสายตาทรายไปลองใส่ถึงกับตกใจเบลอเลยก็เค้าสายตาสั้นเกือบสามร้อยนิ 555
ส่วนเอิ๊กวันนี้หน้าฉ่ำสวยเว่อร์มว๊ากกกกก พลังอาณุภาพ
Etude Nymph Aura เริ่ดจริงอะไรจริง
พร้อมแล้วลุยกันเลยจ้า ย่านเมียงดงนี้จะมีร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอางตลอดสองข้างทาง
นี่ขนาดวันพฤหัสน๊าคนคึกคักมากกกก ร้านจะเริ่มปิดกันเวลาสี่ทุ่มจ้า
เดินเจอหมวกน้องหมีน่าร๊ากอ้ะ
แต่เสียจายยเป็นหมวกเด็กหัวเค้าใหญ่เกินใส่บ่ได้ง่า
คนเยอะคึกคักๆ ขวามือคือช็อป
Forever XXI ที่ทรายจมอยู่ในนั้นจนสี่ทุ่มร้านปิด วะฮ่าๆ
ราคาที่เกาหมีถูกกว่าเมืองไทยพอสมควรเล้ยยย อยากรู้ว่าทรายได้อะไรมามีเฉลยตอนท้ายค่า อิอิ
จบวันนี้ไปด้วยการช็อปปิ้งงงงงงงง ฝันดีกับคืนที่สองของเกาหมีหลับเป็นตายสงสัยช็อปเหนื่อย 555
-------------------------------------------------------
ม๊อออร์นิ่งค่า !!! สวัสดีตอนเช้าวันสุดท้ายของเราที่เกาหมี วันนี้เราเริ่มมื้อเช้ากันที่โรงแรม
แต่ทุกคนชิลล์ค่ะกว่าจะเก็บเป๋าลงมาเช็คเอาท์กันเสร็จก็สิบโมงก็เลยไม่ได้หม่ำมื้อเช้ากัน
พอจัดการเช็คเอาท์เรียบร้อยเราก็ขึ้นรถออกมาหามื้อเช้าแบบชิคๆกันที่ร้านกาแฟสุดไฮโซว
ในย่านสุดฮิปของเกาหมี ณ เวลานี้ ได้แก่
"ย่านกาโรซูกิล : Garosu-gil" (กิล แปลว่า ถนน จ้า)
ร้านที่เราไปคือร้าน
"Coffee Smith" น้องวี้ไกด์เราบอกว่าร้านนี้ฮิปและไฮโซวมากเพราะมีแต่ดารา
หรือคนร๊วยยย รวย ขับพวกเฟอร์รารี่มากินกัน หรือไม่ก็จูงหมาไฮโซว
ไม่ก็เอากล้องแพงๆมาตั้งโชว์บนโต๊ะกันด้วย แต่เราไม่มีซักสิ่ง 555 เนียนพยายามไฮโซวละกันนะ
คาปูชิโนแก้วใหญ่ของแคมป์สั่งมา แคมป์บอกฟองนุ่มนุ่มเนียนใช้ได้แต่กาแฟไม่หอมง่า
ส่วนแก้วด้านหลังเป็น
Hot Chocolate ของเค้า หอมหวานอร่อยยยย แหล่มเลย
อิแคมป์กะสามสาว อิอิ
ขอแอ็คเหม่อๆแบบทำมิวสิคเข้ากะบรรยากาศสุดไฮโซวซะหน่อย พอจะเกาหมีกะเค้าได้มะ ฮี่ๆ
พอชิลล์ๆอยู่ร้านกาแฟเสร็จก็ได้เวลากินมื้อเที่ยงต่อพอดี วะฮ่าฮ่า ทริปนี้กินกระจายจริงๆน๊า
ร้านที่เราหม่ำกันมื้อเที่ยงอยู่เยื้องๆร้านกาแฟเลย เป็นร้านไม่ใหญ่มากตกแต่งด้านในโทนชมพูม่วง
ส่วนชื่อร้าน....เป็นความลับ หรือสรุปง่ายๆคือเค้าจำไม่ได้อ้ะ เค้าขอโท้ดดดดด
อาหารเกาหมีมีอย่างงี้ทุกมื้อจริงๆจานเล็กจานน้อยเครื่องเคียงวางกันล้นโต๊ะตลอดๆๆ
และสังเกตได้อีกหนึ่งอย่างคือมีผักสดมาให้เราแทบทุกมื้อเลย เพื่อสุขภาพที่ดีเนอะ
อันนี้คือ
Appetizer หรืออาหารเรียกน้ำย่อยของเรา 555
ซ้ายบนคือ
คัมจาจอง=มันขูดเส้นเอาไปทอด เป็นของทานเล่นเคี้ยวเพลินๆขอบกรอบๆนุ่มใน
ส่วนขวามือเป็นหมูสไลด์ผัดเหมือนซอสกิมจิอันนี้ทรายชอบครบรสมากๆกินกะผักสดนะสุดยอด
ซ้ายล่างเป็นเนื้อย่างรสออกหวานมากะยำผัก และขวาล่างคือมาม่าเกาหมีซุปกิมจิจ้า
มาแว๊ววอันนี้คือจานหลักเมนูไฮไลท์ของเรา ได้แก่...
ตึ่งโป๊ะ จำชื่อไม่ได้คร๊าบบบ 555
ทรายขอเรียกว่าเมี่ยงคำหมูละกันนะ เอิ์กส์ๆ
คือมันจะกินแบบเมี่ยงคำห่อใส่ทุกอย่างในใบผัก
แล้วราดน้ำจิ้มลงไปก็หม่ำได้ มีผักอันนึงรูปด้านบนเหมือนใบหม่อน หรือใบโอบะของญี่ปุ่นเลย
ที่เกาหมีเรียก
ใบแกนนิพ มีกลิ่นหอมๆเฉพาะตัว รสซ่าๆเผ็ดๆนิดๆอร่อยมากกกกก
เดินเล่นชมร้านรวงกันในย่านกาโรซูกิล ร้านย่านนี้จะเก๋ๆแต่งดิสเพลน่ารักมาก ฮิปจริงๆค่า
เดินถ่ายรูปก็หนุกละ เพราะของแถวนี้สมความฮิปของย่านนี้แพงมั่กๆค่าาาา ฟิลประมาณทองหล่อเลย
แอบถ่ายหน้าร้านรวงของเค้า น่ารักเนอะๆ แต่เอ๊ะทำไมนางมีถุงเหลืองโผล่มา อิอิ
ก็เพราะสุดทางของย่านนี้มันคือร้าน
Forever XXI ที่ใหญ่มากกกเป็นตึกห้าชั้นนั่นเองค่า
ที่เห็นน่ะถึงถุงเล็ก แต่ถุงใหญ่คุณแฟนช่างภาพของเราหิ้วไว้ให้ วะฮ่าๆๆๆรอดูเปิดถุงตอนจบนะจ๊ะ
หมดเวลาช็อปปิ้งเราก็ไปหาหนมหม่ำๆกัน ณ ร้านที่ทรายกรี้ดดดดมากมาเกาหมีไม่ควรพลาดจริงๆ
ร้านเค้กและเบเกอรี่
"Passion 5" คร๊าบบบบ !!!!
ทางเข้าร้านเป็นตึกสูงที่ตรงกลางเป็นช่องวางที่ตั้งขอแชนเดอร์เลียสุดอลังการเริ่ดมากค่า !!!
บรรยายอารมณ์ด้วยภาพว่าเค้กร้านนี้มันน่าตื่นเต้นขนาดหน๊ายยยย
จัดไปชัดๆ อร๊ากกกกกอยากกินอีกๆๆ เด็ดสุดๆของสามชิ้นนี้คือ เจ้า
เมล่อนเค้กค่า
เมล่อนหวานนนนฉ่ำๆๆแบบสุดๆข้างในเป็นครีมวานิลาสดที่ขูดวานิลากันจากฝัก
มันหวานหอมนุ่มสดชื่น กินกะเจลลี่ใสๆและสตรอเบอร์รี่ด้านบนสวรรค์ชัดๆให้ 1,000,000 เต็ม10 เลย
ส่วนอันอื่นก็อร่อยแต่ทรายฟินอันนี้ที่สุดจ้า สตรอเบอร์รี่กะมากาฮองก็อร่อยมีหลายเลเยอร์
แถวบนแอบถ่ายขอโต๊ะข้างๆอิอิ เป็นมะม่วงทุกคนคอนเฟิร์มว่าอร่อยเว่อร์เช่นกัน
ส่วนสองชิ้นล่างคือโต๊ะทรายสั่งเพิ่ม อันซ้ายล่างประทับใจเช่นกัน เป็นหวานอมเปรี้ยวหอมเลมอน
แช่เย็นๆเนื้อพุดดิ้งละมุนลิ้น เหมาะกับซัมเมอร์ที่ซู้ดดดดดดดด อ้วนไงก็ยอมคร๊าบบบ
จำชื่อนี้ไว้ให้ดี
"Passion 5" ใครมาเกาหมีเค้าแนะนำจริงๆ
อยากไปเกาหมีอีกแล้วเพราะร้านนี้เลย !!! สวรรค์ของคนรักเค้กและเบเกอร์รี่จริงๆ
ราคาก็ไม่ได้แรงจนน่ากลัวตกชิ้นละประมาณ 8,000 won หรือประมาณ 240 บาทไทยค่า
ที่สุดท้ายที่เราแวะกันก่อนไปสนามบินนั่นคือ
ซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปสนามบินค่ะ
หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่า
ร้านละลายเงินวอน นั่นเองจ้า ซื้อขนม มาม่า สาหร่ายเกาหมี
ช็อปหนมกันไปคนละกล่องใหญ่ ๆ อิอิ
ถึงสนามบินแล้วจ้า นี่คือผลงานการชอปปิ้งของพวกเรา อิอิ
เข้าช่วงตื่นเต้นกับการชั่งน้ำหนักกระเป๋าซึ่งได้คนละ 20 ก.ก.สรุปว่าไม่เกินกันเลยคร๊าบ เยี่ยมมาก
และเราก็ต้องบอกลาไกด์ฮาเฮที่แสนน่ารักของเรา
น้องหวี่วี้ สาวเก่งคนนี้อ่อนกว่าทรายปีนึงเรียบจบป.โทที่เกาหมีแล้วคร๊าบบบ
ขอบคุณน้องวี้มากๆสำหรับการดูแลที่น่าร๊ากกกตลอดทริปนะจ๊า จุ๊ฟๆๆๆ
แสงอาทิตย์สุดท้ายของเราที่เกาหมี ณ วันที่ 10 สิงหา 55 ทำไมเวลาในเกาหมีมันเดินเร็วจังน๊า
สามสาวสงท้ายสิบหกแอ็คแบบตู้สติกเกอร์กัน ณ สนามบินอินชอน
สนุกสนานมากๆกับการมาทำภารกิจกับ
Etude House ที่เกาหมีครั้งนี้
ขอบคุณบริษัท
Cosmega ผู้นำเข้าคสอ.
Etude House แห่งประเทศไทย
ที่มอบโอกาสดีๆครั้งนี้ให้กับทราย รู้สึกเป็นเกียรติมากๆค่ะ
ขอบคุณทุกคนทั้งทีมงานของไทยและทีมงานเกาหลีที่ดูแลเราเป็นอย่างดีตลอดทริปนี้ด้วยนะค๊า
ไปละน๊าเกาหมี เจอกันอีกทีทริปหน้าเค้าจะกลับมาแน่นอนจ้า
BYE BYE KOREA -----------------------------------------------------------
แถมๆกับ
[Part 4.1] อิอิ เปิดถุงชอปปิ้งของทรายให้ดูกัน
ท๊า ดา......ผลงานของเค้า ไม่เยอะเท่าครั้งก่อนที่ไป แต่มันก็ไม่น้อยนะ 555
กองรองเท้าที่เห็นนั้นโดนเข้าไป 5 คู่ จาก
Forever XXI อะจ๊ากกกกไอ้หมูทำอะไรลงป๊ายยย !!!
รองเท้าห้าคู่โดนไป 180,000 won พอดีเป๊ะๆ คิดเป็นเงินไทยประมาณห้าพันกว่าบาทค่า
ลงราคาห้าคู่ให้ชมกัน 40,800 + 33,800 +36,800 + 34,800 + 33,800 = 180,000 won คร๊าบ
และอ้อโดนไป 125,000 won ที่ Etude House แบบได้ลด 30% แล้วนะ ที่เหลือก็จิปาถะยิบย่อยจ้า
พอละไม่อยากคำณวนเงินที่จ่ายไป 555 ขอเข้าโหมดหลีกหนีความจริง
ขอบคุณมากๆที่ติดตามชมกันมาจนถึงภาคสุดท้ายนะค๊า
คืนนี้ดีกมากแล้วขอให้ฝันดีกันถ้วนหน้า ราตรีสวัสดิ์คร๊าบบบบ
XOXO
---------------------------------------------------------------ปล.ชมภาพทั้งหมดได้ที่ www.facebook.com/mhunoiiifanpage จ้าLet's go KOREA ♥ [Etude Pink Play PartY 3] Part 1 ♥ Let's go KOREA ♥ [Etude Pink Play PartY 3] Part 2 ♥ Let's go KOREA ♥ [Etude Pink Play PartY 3] Part 3 ♥ Let's go KOREA ♥ [Etude Pink Play PartY 3] Part 4 ♥ Let's go KOREA ♥ [Etude Pink Play PartY 3] Part 5 ♥