12 สัปดาห์ No More Morning sick !!!! เมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้ไปหาคุณหมอตามนัด คุณหมอสอบถามอาการแพ้ท้องทั่ว ๆ ไป ซึ่งในวันที่ไปหาคุณหมอนั้น อาการดีขึ้นเยอะมากกว่าเดิม ไม่เวียนหัว ไม่อ๊อก เพลียนิดหน่อย ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งคุณหมอก็บอกดว่าดีแล้ว เราก็บอกคุณหมอว่า อาทิตย์ที่แล้วงานยุ่งมากเดินขึ้นลงบันไดเยอะ มีเลือดสีน้ำตาลออกมาหน่อย ๆ คุณหมอก็ถามว่าเยอะไม๊ ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวหมอ Ultrasound ดูให้ และก้ได้เวลาขึ้นเตียงตรวจอาการทั่วไปและส่องเด็กน้อยในพุง "ตัวใหญ่ขึ้นนะครับ ขนาดตอนนี้ 5.5 ซ.ม. 12 สัปดาห์ ตรงตามที่หมอคำนวณไว้" "ค่ะ" "นี่เป็นหัวนะครับ แขน และก็ขา ยังเห็นไม่ชัดมาก อีกหน่อยตัวใหญ่กว่านี้ก็จะได้เห็น นี่เป็นช่องอก และนี่ก็หัวใจ ที่กระพริบอยู่ กำหนดคลอดหมอยังคงเป็นวันที่เดิม เพราะหมอบวกไปแล้ว 2 สัปดาห์นะครับ" "ค่ะ แล้วที่เลือดออก เค้าเป็นอะไรมั้ยคะ" " อ๋อ เค้ายังปกติครับ ตัวใหญ่ขึ้นตั้ง 4 ซ.ม. ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ" "ค่ะ" "เดือนนี้หมอจะให้วิตามินเพิ่ม ถ่ายออกมาเป็นสีดำ ๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ เป็นวิตามินบำรุงเลือด .... คราวหน้าเราเจอกันเมื่อไหร่ดี .. วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์แล้วกัน อ้อ หมอจะฉีดยาบาดทะยักเข็มที่ 1 ให้ด้วย" "เค้าว่าเจ็บมากและเป็นไข้ด้วยจริงไม๊คะหมอ" " ตอนฉีดไม่เจ็บครับ แต่ผลข้างเคียงเวลาฉีดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน" "ไม่เป็นไรค่ะ หนูทนได้" (หน้าตาหมายมั่นมาก มาหาหมอจนเลิกกลัวเข็มฉีดยาและการเจาะเลือด) กลับมาบ้านอย่างมีความสุข ลูกแข็งแรงดีไม่มีอะไรให้คิดมาก พ้นช่วง 3 เดือนอันตรายไปแล้วก็เบาใจขึ้นเยอะ อาการแพ้ตอนนี้น้อยลงมาก ไม่เพลียแล้ว ไม่ต้องนอนวันละ 12 ชั่วโมงเหมือนแต่ก่อน น้ำหนักขึ้นเยอะเกินไป สัปดาห์นี่เน้นทานผลไม้ทั้งอาทิตย์เลย สัญญากับหมอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า พบกันคราวหน้าจะพยายามไม่ให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิมอีก สู้ ๆ เพื่อเด็กน้อยในพุง แต่เอ.... แม่ ๆ เค้าเริ่มใส่ชุดคลุมท้องกันเมื่อไหร่เนาะ ตอนนี้ท้องเล็กเกินกว่าที่จะใส่ชุดคลุมท้อง แต่กระโปรงกางเกงตัวเก่าก็ใส่ไม่ได้แล้ว รอขึ้นเดือนที่ 4 ก่อนก็แล้วกัน หุหุ   Free TextEditor   Create Date : 26 มกราคม 2553     Last Update : 26 มกราคม 2553 18:07:14 น. Counter : 652 Pageviews.   4 comment Share Tweet

อบรมคุณแม่ครั้งที่ 1  เนื่องจากโรงพยาบาลที่ไปฝากท้องเค้าโทรมาชวนให้ไปฟังอบรมโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แม้ว่าจะจัดในเช้าวันอาทิตย์แสนสุขที่เราสามารถจะนอนได้แบบเต็มอิ่ม 12 ชั่วโมงก็ตาม เราคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ ไม่อย่างนั้นเค้าคงไม่จัดขึ้นมา ก็เลยลองไปฟังอบรมดู เริ่มแรกก็เป็นอาการทั่วไปของการตั้งครรภ์ ท่านั่ง ยืน เดิน นอนที่คุณแม่ควรจะทำ รูปร่างหน้าตาของลูกเมื่ออยู่ในท้องที่เราสามารถหาดูได้จาก Internet ทั่ว ๆ ไป Section นี้ค่อนข้างยาว แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เรารู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น พักโอวัลตินเบรค (ไม่ใช่ Coffee Break เพราะแม่ ๆ ไม่ควรทานชา กาแฟ) เราก็ไม่ได้ไปนั่งคุยกับใครเป็นพิเศษ เพราะสามีไม่ได้มาด้วยก็เลยนั่งมองรถพักสายตา หมดเบรกเป็นเรื่องของการเลี้ยงลูกอ่อน และความสำคัญของน้ำนมแม่ โรงพยาบาลนี้ให้ความสำคัญกับนมแม่มาก เด็กจะได้ทดลองการดูดจากนมขวด 4 ชั่วโมงหลังการคลอดเท่านั้น และจะไม่ได้แตะนมขวดอีกเลย เด็กสามารถสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตนเองได้เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป และแน่นอน 6 เดือนก่อนหน้านั้นตั้งอาศัยภูมิต้านทานจากน้ำนมแม่ ที่ไม่ได้สังเคราะห์มาเหมือนนมผสม นมแม่ใช้เวลาย่อย 2 ชั่วโมงเท่านั้น เด็กจะไม่ท้องผูกและลดภาวะเสี่ยงของการเป็นภูมิแพ้นมวัว แม่ ๆ ทุกคนก็อยากให้นมลูกตลอดระยะเวลา 6 เดือน แต่บางคนก็มีข้อจำกัด ถ้าเป็นไปได้ พยายามถึงที่สุดที่จะให้เค้า สิ่งที่ได้รู้เพิ่มเติมจากการไปอบรมและถามคำถามข้อข้องใจกับคุณหมอในช่วงท้าย 1. เคยได้ยินว่า หญิงตั้งครรภ์ภาวะภูมิคุ้มกันจะต่ำกว่าคนทั่วไป จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด คุณหมอตอบว่า จริง เพราะการที่แม่แข็งแรงมาก ๆ ร่างกายจะพยายามขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา ซึ่งในที่นี้ การที่ลูกอยู่ในท้องเรา เหมือนสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่เคยมีมาก่อน การที่จะทำให้เด็กมีชีวิตอยู่กับแม่ได้ ร่างกายจะปรับให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และนั่นคือสาเหตุที่หญิงตั้งครรภ์จะป่วยง่ายกว่าคนอื่น 2. น้ำมะพร้าวควรทานหรือไม่ คุณหมอบอกว่า น้ำมะพร้าวไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากกว่าจะให้น้ำตาล การทานน้ำมะพร้าวแล้วมดลูกบีบตัวนั้น ต้องทานเอยะขนาด 1 คันรถ 10 ล้อ!!! อย่าทานเยอะ เพราะมัน้ำตาลมาก ความเชื่อที่ว่าตัวเด็กแรกคลอดจะไม่มีไข ไม่เป็นความจริง เพราะพยาบาลก็ต้องทำความสะอาดตัวลูกตามขั้นตอนอยู่แล้ว 3. ทานของดำมาก ลูกจะออกมาดำไม๊ คุณหมอตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะถ้าพ่อผิวคล้ำ แม่ผิวคล้ำ และลูกออกมาขาว อาจเกิดการเข้าใจผิดได้ คุณพ่อคงโกรธคุณแม่ว่านี่ลูกใคร (ฮ่า ฮ่าฮ่า) 4. ของหมักของดอง ของดิบ ทำไมถึงไม่ควรทาน -เพราะมันจะทำให้เสาะท้อง และท้องเสียได้ง่าย การที่คุณแม่ท้องเสีย ท้องเดิน อาจทำให้อ่อนเพลียและไม่แข็งแรงได้ แตงโม กล้วยหอมก็เช่นกันทานแล้วจะทำให้ลมในท้องมีมาก (ตอนแพ้ท้องลมก็เยอะอยู่แล้ว) ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หรือทานให้น้อยหน่อยก็จะดี 5. ถ้าคุณแม่ตัดผมสั้น จะมำให้ลูกได้โปรตีนมากขึ้นจริงหรือไม่ - โปรตีนที่ได้คงไม่เยอะขนาดนั้น อต่คิดว่าเหมาะกับคุณแม่มากว่า เพราะดูแลทำความสะอาดง่าย ท้องแก่ ๆ จะยืดแขนมัดผมรวบผมก็ลำบากพอสมควร ยิ่งลูกคลอดออกมาแล้ว   ถ้าผมยาวกระเซอะกระเซิงคุณแม่จะรำคาญ 6. การให้นมแม่ดีต่อลูก แต่สามารถสร้างความอบอุ่นให้ลูกได้อย่างไร - ลูกอยู่ในท้องของเรา 9 เดือนเต็ม ตลอดเวลาเค้าจะได้ยินเสียงหัวใจของแม่เต้น เค้าจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่แม่อยู่กับเค้า เค้าจะจำเสียงเล็ก ๆ ของแม่ได้ ส่วนพ่อให้เอามือจับท้อง ร้องเพลงเล่านิทานให้ลูกฟังบ่อย ๆ แม้ว่าลูกจะไม่ได้อยู่ในตัวพ่อ เค้าจะคุ้นชินกับเสียงของพ่อ เวลาที่ลูกเกิดและถูกตัดสายสะดือ นั่นเป็นเหมือนการตัดขาดเค้าจากแม่ เค้าจะรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทิ้ง ถ้าคลอดเองเค้าจะไม่ได้อยู่กับแม่อย่างน้อย 12 ชั่วโมง ถ้าผ่าตัดก็เพอ่มเป็น 24 ชั่วโมง การที่พยาบาลเรียกคุณแม่มาสอนเรื่องการให้นมลูกและให้เค้าได้ดื่มนมจากอกเรา หูของเค้าจะแนบกับหน้าอกของแม่ ซึ่งนั่นจะทำให้เค้าได้ยินเสียงหัวใจของแม่ และเค้าจะรู้สึกปลอดภัยเหมือนตอนอยู่ในท้อง ลูกคลอดออกมา 7 วันแรก แม่จะมีน้ำนมน้อยมาก ต้องให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อย ๆ ไม่ต้องตกใจ (เข้าใจค่ะว่าบางครั้งลูกก็หงุดหงิด กินนมไม่อิ่ม แต่ต้องใจแข็ง ๆ พยายามให้เค้าดูดกระตุ้นเยอะ ๆ )สมองของแม่จะสั่งการว่าต้องสร้างน้ำนมเพิ่ม รวมถึงต้องปั้มกระตุ้นด้วย 2 สัปดาห์แรกหลังจากลูกเกิด ตาเค้าจะพร่ามัว หูจะได้ยินไม่ชัด เวลาเค้านอนตอนกลางวัน เค้าจะหลับสนิทเพราะยังมีเสียงรอบตัวเค้า ตอนกลางคืนที่ทุกอย่างรอบตัวเงียบเค้าจะกลัว พ่อก็หลับ แม่ก็หลับ และนั่นจะทำให้เค้าร้อง ถ้าจำเป็นต้องปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว บอกเค้าก่อนว่าเราจะไปไหน (แรก ๆ เค้าจะไม่เชื่อ แต่หลัง ๆ เค้าจะรู้ว่า 5 นาทีที่แม่หายไปนั้นไม่ได้นานเลย และเดี๋ยวแม่ก็จะกลับมาจริง ๆ ) เค้าจะไม่ร้องโยเย ก่อนไปเปิดเพลงคลอ ๆ ให้เค้าฟังจะได้ไม่เหงาและเงียบเกินไป ข้อมูลนี้ได้มาจากพี่พยาบาลห้องเด็กที่อยู่กับเด็กมาแล้วอย่างน้อย 15 ปี ตอนแรกพี่เค้าคิดว่าเด็กก็คือเด็ก ไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไร แต่เด็กสมัยนี้ฉลาดมาก ช่างต่อรอง เวลาร้องไห้มาก ๆ พี่พยาบาลจะบอกน้องว่า" อีก 10 นาที พี่จะพาคุณแม่มาหานะคะ อย่าร้องไห้นะคนดีถ้าหยุดร้องพี่จะพามาตอนนี้เลย" เค้าถามว่า เชื่อมั้ยคะ น้องหยุดร้องเลย และเราก็พาคุณแม่มาหาเค้า บางครั้งเวลาไม่ได้อยู่กับแม่ น้องร้องมาก ๆ พอแม่ลงมาเท่านั้น อุ้มเค้าแนบอก นมก็ดูดไม่ค่อยได้ แต่เค้าหลับสนิท เพราะรู้สึกปลอดภัย แล้วเวลาที่แม่ไม่อยู่ อยู่แต่พ่อ พ่อจะช่วยอะไรได้บ้างล่ะคะ????? คุณพยาบาลบอก ช่วยได้เยอะเลย คุณพ่อเป็นคนสำคัญที่จะลดภาวะความตึงเครียด ระหว่างแม่กับลูก ถ้าแม่จำเป็นต้องไปธุระจริง ๆ ให้พ่อคุยกับเค้าและเล่านิทานเรื่องเก่าที่เคยเล่าให้เค้าฟัง และก็เป็นที่น่าแปลกใจที่เค้าจะเงียบและฟังเหมือนเดิม 7. แม่ควรทานธาตุเหล็กเมื่ออายุครรภ์กี่สัปดาห์ - 14 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะช่วงแรกๆ คุณแม่อาจจะยังแพ้ท้องอยู่ ทำให้เหม็นได้ เมื่อพ้นช่วงแพ้แล้วก็สามารถทานได้ เพราะลดภาวะโลหิตจาง แต่ถ้าคุณแม่ท่านใดไม่แพ้มากก็สามารถเริ่มทานได้ทันที 8. เวลาเป็นตะคริว คุณพ่อควรจะนวดให้ที่ตรงไหน - เริ่มจากที่ปลายเท้า และฝ่าเท้า ตรงไหนที่นิ่มให้นวดได้ ตรงที่แข็งอย่าไปนวดเพราะจะทำให้เจ็บ อาจทาโลชั่นบำรุงผิวเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายได้เร็วขึ้น 9. ปวดจี๊ด ๆ ตรงช่วงก้น และขาช่วงบนบ่อย ๆ ผิดปกติหรือไม่ - ถ้าปวดแบบไม่มาก แค่ทำให้คุณแม่รู้สึกรำคาญก็ไม่มีอะไรน่าตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าปวดมากให้ปรึกษาแพทย์ 10. น้ำยาบ้วนปากสามารถใช้ได้หรือไม่ - ใช้ได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร 11. ยาแก้สิวทาหน้าสามารถทาได้หรือไม่ - ทาได้เพราะใช้ภายนอก แต่ยาแก้สิวที่ใช้ทานไม่ควร เพราะมีวิตามิน A เยอะ และสามารถทำให้แท้งได้ 12. วิตามินซี ทานเสริมได้หรือไม่สำหรับคุณแม่ที่เป็นภูมิแพ้ - สามารถทานเสริมได้ หรือทานผลไม้ที่มีวิตามินซีมากก็ช่วยได้ เช่น Apple เขียว ส้มเขียวหวาน มะเฟือง เป็นต้น 13. คุณหมอ Ultrasound ให้ทุกเดือนจะเป็นอันตรายกับลูกหรือไม่ - ไม่มีรายงานว่าการ Ultrasound บ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อเด็ก การทำ Ultrasound สามารถทำให้เราเห็นได้เพียงหยาบ ๆ เท่านั้น เช่นลูกมีเบ้าตาหรือไม่ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ว่า ตาของลูกปกติหรือไม่(บอดหรือไม่) เห็นแค่ว่าท้องเด็กไม่ป่อง แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่า เด็กมีปัญหาที่ลำไส้หรือไม่ 14. คุณหมอมีนมที่คุณแม่ควรดื่มแนะนำหรือไม่ - ที่มีอยู่ตามท้องตลาดดื่มได้หมดเลย ตอนนี้ยังไม่มีแบรนด์ไหนมาฮั้วกับหมอซะด้วย ไม่มียี่ห้อแนะนำเป็นพิเศษค่ะ ( ฮ่า ฮ่าฮ่า) 15. นมวัวกับนมถั่วเหลืองควรดื่มอย่างไหนมากกว่ากัน - ควรดื่มนมวัวมากกว่า เพราะนมวัวมีแคลเซี่ยมมากกว่า 200 เท่า คุณแม่บางคนทานนมวัวไม่ได้ก็ให้ทานนมถั่วเหลืองแทน ถ้าไม่สะดวกจะทานวิตามินแคลเซี่ยมเพิ่มก็ได้ จำได้เท่านี้ค่ะ เดี๋ยวกลับไปบ้านอ่านเพิ่มเติมแวจะมา Update เพิ่มนะคะ Free TextEditor   Create Date : 11 มกราคม 2553     Last Update : 11 มกราคม 2553 12:35:08 น. Counter : 569 Pageviews.   3 comment Share Tweet

ขอ Promotion นี้ตลอดไปเลยได้ไหมคะ  สามีเป็นคนเงียบ ๆ และด้วยความที่เค้าเป็นลูกชายคนเล็ก เค้าจะไม่มี sense ของการดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงเลย เรื่องที่จะหวังว่าจะต้องไปรับไปส่งเช้าถึงเย็นถึงนั้นไม่มี เป็นแฟนและเป็นภรรยาที่พึ่งพาตัวเองโหนรถเมล์ เกาะ BTS มาตลอด และเราเองก็ไม่เคยคิดว่า เค้าไม่ดีที่ไม่ได้ดูแลเราเหมือนที่หลาย ๆ คู่ดูแลกัน เพียงแต่คิดว่าเราพึ่งตัวเองได้ เค้าจะได้ไม่ลำบากขับรถข้ามเมือง จนกระทั่งมีลูกให้เค้าเนี่ยแหละ หลาย ๆ อย่างเริ่มเปลี่ยนไป ก่อนท้อง: ที่รักเดินซุ่มซ่ามสะดุดนั่นนี่นู่นอีกแล้ว ขาเขียวมั้ยนั่น ตอนท้อง: ที่รักเดินดี ๆ สิครับ เมื่อกี้เกือบไปนะ เสียววาบ ๆ ที่ท้องน้อยหรือเปล่า วันหลังดูดี ๆ ก่อนนะ เข้าใจมั้ย ก่อนท้อง: วันนี้วันเสาร์ทำงานคนเดียว ขึ้นรถเมล์ไปเนาะ (ได้ค่ะ รถเมลล์ไป-กลับเลย) ตอนท้อง: วันเสาร์นี้ทำงานหรือเปล่า เดี๋ยวไปส่ง แล้วเลิกงานกี่โมง จะได้ไปรับถูกเวลา ก่อนท้อง: วันนี้ไปซื้อของเหรอ ตามสบายเนาะ ไม่อยากไปยืนเกะกะเวลาสาว ๆ เลือกของ ตอนท้อง: วันนี้ไปซื้อกางเกงคนท้องเหรอ ให้มารับกี่โมงล่ะ จะซื้อเยอะมั้ยจะได้กดเงินไว้ ก่อนท้อง: เวลาปวดห้องน้ำตอนกลางคืน ลุกไปคนเดียว กลัวผีก็กลัว ทำใจแข็งเดินไปเร็ว ๆ และกลับเร็ว ๆ เพราะห้องน้ำไม่ได้อยู่ในห้องนอน ตอนท้อง: ที่รักจะเข้าห้องน้ำเหรอ (ลุกขึ้นมานั่งหยิบหมอนมาด้วย 1 ใบ เปิดประตูให้เมียอ้วน ๆ และเดินไปนั่งเอาหมอนเกยคางรออยู่หน้าห้องน้ำ) ก่อนท้อง : อยากกินอะไรสั่งเลยที่รัก ลุย ตอนท้อง: ที่รัก อันที่อยากกินน่ะ แป้งมันเยอะนะ เปลี่ยนเป็นพวกผักดีกว่ามั้ย เดี๋ยวน้ำหนักขึ้นนะ ก่อนท้อง: ชุดนี้โอเคนะ ใส่แล้วไม่อ้วน ตอนท้อง: ที่รักจะใส่ชุดนี้จริง ๆ เหรอ มันดูอ้วนนะ (แง๊ ก็ชุดที่มันปล่อยตรงท้องมันก็จะพอง ๆ แบบนี้อ่ะ โอ้แม่เจ้าเกลียดคำว่าอ้วนจริง ๆ ) ก่อนท้อง: เมียหงุดหงิด วีน วีน วีน และวีน ----> ไม่เอาแล้วที่รักพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว หยุดเลย ใจเย็น ๆ แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ ตอนท้อง: เมียปี๊ดแตกวีนหนักกว่าตอนก่อนท้อง ----> ครับ ขอโทษครับ ใจเย็น ๆ นะเดี๋ยวลูกงอแง ไม่ดี ไม่ดี ก่อนท้อง: หนังสือเล่มโปรดของพ่อคุณ คือ หนังสือ How to และการใช้ชีวิต ตอนท้อง: ที่รัก เล่มนี้จะจบแล้วนะ 40 สัปดาห์เตรียมตัวตั้งครรภ์และคลอดบุตรเนี่ย มีเล่มอื่นไม๊   ก่อนท้อง: เอกสารที่สามีมักจะหยิบติดมือกลับบ้านมาคือหนังสือเรื่องสุขภาพและการทานอาหาร ตอนท้อง: ที่รัก วันนี้ไปเจอเล่มนี้แหละ First year of life ตั้งแต่เกิดจน 1 ขวบเลย ได้ยินมาว่า ช่วงโปรโมชั่นแบบนี้ จะเป็นแค่ตอนท้องแรกเท่านั้น  เป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้เหรอ ชอบอ่ะ น่ารักมาก ๆ อยากให้เป็นแบบนี้ไปจนวันตายเลยอ่ะ ทำได้ไม๊อ่ะ ได้โปรดเถอะ Please please pleaseeeee Free TextEditor   Create Date : 09 มกราคม 2553     Last Update : 9 มกราคม 2553 9:30:21 น. Counter : 552 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ตกลงกี่สัปดาห์นะคะ งงค่ะ  เมื่อวานได้ไปพบคุณหมอตามนัด คุณหมอบอกว่าผลเลือดที่ให้ตรวจคราวที่แล้วเป็นปกติ ไม่มีอะไรน่ากังวล คุณหมอสอบถามถึงอาการแพ้ เราก็เล่าอย่างละเอียดว่า เช้า ๆ จะอ๊อดบ่อยมาก ไม่ว่าจะมีอาหารในท้องหรือไม่ ตกบ่ายง่วงนอนมาก และเพลียเหมือนไปออกรบมาทั้งวัน เวียนหัวเล็กน้อย คุณหมอบอกว่าอาการยังปกติ ถ้าไม่มีเลือดออกมาก็ยังไม่สบายใจได้ และคุณหมอก็ตรวจร่างกายทั่วไป คุณพยาบาลเข้ามาจัดเสื้อผ้าเตรียมให้คุณหมอตรวจ จากนั้นเวลาแห่งความระทึกใจก็มาถึง Ultrasound นั่นเอง เราสงสัยและกลัวมาตลอดว่าตัวน้อยจะไม่มีหัวใจ คุณหมอหันจอมอร์นิเตอร์มาให้ดู "นี่ มดลูกนะครับ ปกติ ไม่มีเนื้องอกอะไร นี่คือถุงน้ำ ส่วนน้องอยู่ตรงนี้ครับ" สิ่งที่เราเห็นในจอคือ เด็กน้อยตัวงอเหมือนกุ้ง แต่เรายังมองไม่เห็นหัวใจ ที่เคยได้ยินว่าจะกระพริบ ๆ ๆ ๆ เป็นจุดเล็ก ๆ ไม่เห็นมีเลยอ่ะ !!! "เอ่อ .... คุณหมอคะ เราเห็นหัวใจเค้าไหมคะ?" ในใจก็แสนจะระทึก "อ๋อ หัวใจอยู่ด้านนี้ครับ เค้าหันหลังอยู่ เห็นไม๊ จุดเล็ก ๆ ตรงนี้ที่กระพริบเป็นจังหวะเร็ว ๆ " โห อารมณ์นั้นเป็นอะไรที่ดีใจเกินบรรยายจริง ๆ เพราะเรายังไม่แน่ใจว่าตกลงท้องจริง ๆ อ่ะ บางครั้งก็เดินเร็วเพราะลืมไปว่ามีอีกคนอยู่ในท้อง พอเห็นสิ่งเหล่านี้ เค้ามีชีวิตอยู่ในตัวเราจริง ๆ เพียงแต่ยังเล็กจนเราไม่สามารถสัมผัสและมองเห็นได้ "ขนาดของน้องตอนนี้คือ 1.1 ซ.ม. ครับ เล็กกว่าอายุครรภ์ที่หมอคาดการณ์ได้ คิดว่าไข่น่าจะตกช้า เดือนหน้า หมอของ Confirm อีกทีนึงว่า น้องกี่สัปดาห์" "อ้าว แปลว่าน้องตัวเล็กไปหรือเปล่าคะหมอ" "ไม่หรอกครับ ตอนนี้เราบอกได้แค่ขนาดตัวของน้องว่าเท่าไหร่ เดือนหน้าถ้าวัดขนาดกันอีกทีหมอจะแจ้งให้ทราบ" สรุปตอนนี้ก็เลยยังไม่ทราบเลยว่าเด็กน้อยกี่สัปดาห์ ต้องรอพบคุณหมอเดือนหน้า แป่ววววว การเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์มาเลย ตอนที่ไปหาคุณหมอเรื่องมีบุตรยาก จุดมุ่งหมายคืออยากตั้งครรภ์จริง ๆ และก็ไม่เคยคิดว่า ความเป็นแม่จะต้องยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ กว่าจะเลี้ยงให้ลูกโตออกมาเป็นคนของสังคมได้ พ่อแม่คงเหนื่อยลากโลหิตกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเราก็รู้ว่า มันคือความสุขใจที่ได้ดูแลเค้า ไม่ใช่"หน้าที่" ที่เราจะต้องทำ ๆ ๆ ให้เสร็จเหมือนงาน แต่เป็นความผูกพันตั้งแต่วันที่เรารู้ว่าตั้งครรภ์จนถึงวันที่เราจะต้องตายจากกันไป Free TextEditor   Create Date : 30 ธันวาคม 2552     Last Update : 30 ธันวาคม 2552 16:55:03 น. Counter : 590 Pageviews.   3 comment Share Tweet

6 Weeks  วันนี้ครบ 6 สัปดาห์เต็ม ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอารมณ์ดีเอามาก ๆ และไม่เหวี่ยงเลย หลังมื้ออาหารท้องเริ่มอืด ลมเริ่มขึ้น แถมเวียนหัวด้วย ทำงานไปก็โดปยาดมไป เนื่องจากคุณหมอให้ระวังเรื่องน้ำหนัก เราเลิกทานไอติม และขนมหวานหลังมื้ออาหารทันที  ทั้ง ๆ ที่ชอบมาก ๆ และต้องทานทุกวัน ยิ่งวันไหนเครียด ๆ กับงานจะทานไอติมหลังมื้ออาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตอนนี้เน้นทานผัก ผลไม้ และนมเป็นหลัก ตักข้าวน้อย ๆ กับข้าวเยอะ ๆ อาทิตย์ที่ผ่านมาทานอะไรก็อร่อยไปเสียทุกอย่าง แต่ที่แย่คือ เริ่มเหม็นน้ำหอมแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นคนชอบน้ำหอมและของหอมทุกชนิด ตอนนี้รู้สึกว่ามันฉุนจนเกินไป แม้กระทั่งน้ำหอมผู้ชายกลิ่นโปรดที่ซื้อให้สามี พยายามบอกตัวเองว่า อย่าเว่อร์ อย่าอุปทาน ยังไม่แพ้ต้องขนาดนั้น แต่ความอดทนในเรื่องน้ำหอมมันต่ำมากจริง ๆ เดินขึ้นบันไดนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เริ่มเหนื่อย เนื่องจากว่ายังไม่ครบ 8 สัปดาห์ เราก็เลยยังไม่กล้าดีใจมากนัก เพราะยังไม่เห็นหัวใจ จนบางครั้งก็ลืมไปว่าท้อง  เดินไปนั่นมานี่เยอะแยะ ครึ่งทางของไตรมาสแรกแล้วและหวังว่าคงจะผ่านไปได้ด้วยดี สู้ ๆ ๆ   Create Date : 12 ธันวาคม 2552     Last Update : 12 ธันวาคม 2552 10:00:11 น. Counter : 512 Pageviews.   1 comment Share Tweet