อบรมคุณแม่ครั้งที่ 1

Smiley เนื่องจากโรงพยาบาลที่ไปฝากท้องเค้าโทรมาชวนให้ไปฟังอบรมโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แม้ว่าจะจัดในเช้าวันอาทิตย์แสนสุขที่เราสามารถจะนอนได้แบบเต็มอิ่ม 12 ชั่วโมงก็ตาม เราคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ ไม่อย่างนั้นเค้าคงไม่จัดขึ้นมา ก็เลยลองไปฟังอบรมดู


เริ่มแรกก็เป็นอาการทั่วไปของการตั้งครรภ์ ท่านั่ง ยืน เดิน นอนที่คุณแม่ควรจะทำ รูปร่างหน้าตาของลูกเมื่ออยู่ในท้องที่เราสามารถหาดูได้จาก Internet ทั่ว ๆ ไป Section นี้ค่อนข้างยาว แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เรารู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น พักโอวัลตินเบรค (ไม่ใช่ Coffee Break เพราะแม่ ๆ ไม่ควรทานชา กาแฟ) เราก็ไม่ได้ไปนั่งคุยกับใครเป็นพิเศษ เพราะสามีไม่ได้มาด้วยก็เลยนั่งมองรถพักสายตา หมดเบรกเป็นเรื่องของการเลี้ยงลูกอ่อน และความสำคัญของน้ำนมแม่


โรงพยาบาลนี้ให้ความสำคัญกับนมแม่มาก เด็กจะได้ทดลองการดูดจากนมขวด 4 ชั่วโมงหลังการคลอดเท่านั้น และจะไม่ได้แตะนมขวดอีกเลย เด็กสามารถสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตนเองได้เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป และแน่นอน 6 เดือนก่อนหน้านั้นตั้งอาศัยภูมิต้านทานจากน้ำนมแม่ ที่ไม่ได้สังเคราะห์มาเหมือนนมผสม นมแม่ใช้เวลาย่อย 2 ชั่วโมงเท่านั้น เด็กจะไม่ท้องผูกและลดภาวะเสี่ยงของการเป็นภูมิแพ้นมวัว แม่ ๆ ทุกคนก็อยากให้นมลูกตลอดระยะเวลา 6 เดือน แต่บางคนก็มีข้อจำกัด ถ้าเป็นไปได้ พยายามถึงที่สุดที่จะให้เค้า


สิ่งที่ได้รู้เพิ่มเติมจากการไปอบรมและถามคำถามข้อข้องใจกับคุณหมอในช่วงท้าย


1. เคยได้ยินว่า หญิงตั้งครรภ์ภาวะภูมิคุ้มกันจะต่ำกว่าคนทั่วไป จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด


คุณหมอตอบว่า จริง เพราะการที่แม่แข็งแรงมาก ๆ ร่างกายจะพยายามขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา ซึ่งในที่นี้ การที่ลูกอยู่ในท้องเรา เหมือนสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่เคยมีมาก่อน การที่จะทำให้เด็กมีชีวิตอยู่กับแม่ได้ ร่างกายจะปรับให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และนั่นคือสาเหตุที่หญิงตั้งครรภ์จะป่วยง่ายกว่าคนอื่น


2. น้ำมะพร้าวควรทานหรือไม่


คุณหมอบอกว่า น้ำมะพร้าวไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากกว่าจะให้น้ำตาล การทานน้ำมะพร้าวแล้วมดลูกบีบตัวนั้น ต้องทานเอยะขนาด 1 คันรถ 10 ล้อ!!! อย่าทานเยอะ เพราะมัน้ำตาลมาก ความเชื่อที่ว่าตัวเด็กแรกคลอดจะไม่มีไข ไม่เป็นความจริง เพราะพยาบาลก็ต้องทำความสะอาดตัวลูกตามขั้นตอนอยู่แล้ว


3. ทานของดำมาก ลูกจะออกมาดำไม๊


คุณหมอตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะถ้าพ่อผิวคล้ำ แม่ผิวคล้ำ และลูกออกมาขาว อาจเกิดการเข้าใจผิดได้ คุณพ่อคงโกรธคุณแม่ว่านี่ลูกใคร (ฮ่า ฮ่าฮ่า)


4. ของหมักของดอง ของดิบ ทำไมถึงไม่ควรทาน


-เพราะมันจะทำให้เสาะท้อง และท้องเสียได้ง่าย การที่คุณแม่ท้องเสีย ท้องเดิน อาจทำให้อ่อนเพลียและไม่แข็งแรงได้ แตงโม กล้วยหอมก็เช่นกันทานแล้วจะทำให้ลมในท้องมีมาก (ตอนแพ้ท้องลมก็เยอะอยู่แล้ว) ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หรือทานให้น้อยหน่อยก็จะดี


5. ถ้าคุณแม่ตัดผมสั้น จะมำให้ลูกได้โปรตีนมากขึ้นจริงหรือไม่


- โปรตีนที่ได้คงไม่เยอะขนาดนั้น อต่คิดว่าเหมาะกับคุณแม่มากว่า เพราะดูแลทำความสะอาดง่าย ท้องแก่ ๆ จะยืดแขนมัดผมรวบผมก็ลำบากพอสมควร ยิ่งลูกคลอดออกมาแล้ว   ถ้าผมยาวกระเซอะกระเซิงคุณแม่จะรำคาญ


6. การให้นมแม่ดีต่อลูก แต่สามารถสร้างความอบอุ่นให้ลูกได้อย่างไร


- ลูกอยู่ในท้องของเรา 9 เดือนเต็ม ตลอดเวลาเค้าจะได้ยินเสียงหัวใจของแม่เต้น เค้าจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่แม่อยู่กับเค้า เค้าจะจำเสียงเล็ก ๆ ของแม่ได้ ส่วนพ่อให้เอามือจับท้อง ร้องเพลงเล่านิทานให้ลูกฟังบ่อย ๆ แม้ว่าลูกจะไม่ได้อยู่ในตัวพ่อ เค้าจะคุ้นชินกับเสียงของพ่อ เวลาที่ลูกเกิดและถูกตัดสายสะดือ นั่นเป็นเหมือนการตัดขาดเค้าจากแม่ เค้าจะรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทิ้ง ถ้าคลอดเองเค้าจะไม่ได้อยู่กับแม่อย่างน้อย 12 ชั่วโมง ถ้าผ่าตัดก็เพอ่มเป็น 24 ชั่วโมง การที่พยาบาลเรียกคุณแม่มาสอนเรื่องการให้นมลูกและให้เค้าได้ดื่มนมจากอกเรา หูของเค้าจะแนบกับหน้าอกของแม่ ซึ่งนั่นจะทำให้เค้าได้ยินเสียงหัวใจของแม่ และเค้าจะรู้สึกปลอดภัยเหมือนตอนอยู่ในท้อง


ลูกคลอดออกมา 7 วันแรก แม่จะมีน้ำนมน้อยมาก ต้องให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อย ๆ ไม่ต้องตกใจ (เข้าใจค่ะว่าบางครั้งลูกก็หงุดหงิด กินนมไม่อิ่ม แต่ต้องใจแข็ง ๆ พยายามให้เค้าดูดกระตุ้นเยอะ ๆ )สมองของแม่จะสั่งการว่าต้องสร้างน้ำนมเพิ่ม รวมถึงต้องปั้มกระตุ้นด้วย


2 สัปดาห์แรกหลังจากลูกเกิด ตาเค้าจะพร่ามัว หูจะได้ยินไม่ชัด เวลาเค้านอนตอนกลางวัน เค้าจะหลับสนิทเพราะยังมีเสียงรอบตัวเค้า ตอนกลางคืนที่ทุกอย่างรอบตัวเงียบเค้าจะกลัว พ่อก็หลับ แม่ก็หลับ และนั่นจะทำให้เค้าร้อง ถ้าจำเป็นต้องปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว บอกเค้าก่อนว่าเราจะไปไหน (แรก ๆ เค้าจะไม่เชื่อ แต่หลัง ๆ เค้าจะรู้ว่า 5 นาทีที่แม่หายไปนั้นไม่ได้นานเลย และเดี๋ยวแม่ก็จะกลับมาจริง ๆ ) เค้าจะไม่ร้องโยเย ก่อนไปเปิดเพลงคลอ ๆ ให้เค้าฟังจะได้ไม่เหงาและเงียบเกินไป ข้อมูลนี้ได้มาจากพี่พยาบาลห้องเด็กที่อยู่กับเด็กมาแล้วอย่างน้อย 15 ปี ตอนแรกพี่เค้าคิดว่าเด็กก็คือเด็ก ไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไร แต่เด็กสมัยนี้ฉลาดมาก ช่างต่อรอง เวลาร้องไห้มาก ๆ พี่พยาบาลจะบอกน้องว่า" อีก 10 นาที พี่จะพาคุณแม่มาหานะคะ อย่าร้องไห้นะคนดีถ้าหยุดร้องพี่จะพามาตอนนี้เลย" เค้าถามว่า เชื่อมั้ยคะ น้องหยุดร้องเลย และเราก็พาคุณแม่มาหาเค้า บางครั้งเวลาไม่ได้อยู่กับแม่ น้องร้องมาก ๆ พอแม่ลงมาเท่านั้น อุ้มเค้าแนบอก นมก็ดูดไม่ค่อยได้ แต่เค้าหลับสนิท เพราะรู้สึกปลอดภัย


แล้วเวลาที่แม่ไม่อยู่ อยู่แต่พ่อ พ่อจะช่วยอะไรได้บ้างล่ะคะ?????


คุณพยาบาลบอก ช่วยได้เยอะเลย คุณพ่อเป็นคนสำคัญที่จะลดภาวะความตึงเครียด ระหว่างแม่กับลูก ถ้าแม่จำเป็นต้องไปธุระจริง ๆ ให้พ่อคุยกับเค้าและเล่านิทานเรื่องเก่าที่เคยเล่าให้เค้าฟัง และก็เป็นที่น่าแปลกใจที่เค้าจะเงียบและฟังเหมือนเดิม


7. แม่ควรทานธาตุเหล็กเมื่ออายุครรภ์กี่สัปดาห์


- 14 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะช่วงแรกๆ คุณแม่อาจจะยังแพ้ท้องอยู่ ทำให้เหม็นได้ เมื่อพ้นช่วงแพ้แล้วก็สามารถทานได้ เพราะลดภาวะโลหิตจาง แต่ถ้าคุณแม่ท่านใดไม่แพ้มากก็สามารถเริ่มทานได้ทันที


8. เวลาเป็นตะคริว คุณพ่อควรจะนวดให้ที่ตรงไหน


- เริ่มจากที่ปลายเท้า และฝ่าเท้า ตรงไหนที่นิ่มให้นวดได้ ตรงที่แข็งอย่าไปนวดเพราะจะทำให้เจ็บ อาจทาโลชั่นบำรุงผิวเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายได้เร็วขึ้น


9. ปวดจี๊ด ๆ ตรงช่วงก้น และขาช่วงบนบ่อย ๆ ผิดปกติหรือไม่


- ถ้าปวดแบบไม่มาก แค่ทำให้คุณแม่รู้สึกรำคาญก็ไม่มีอะไรน่าตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าปวดมากให้ปรึกษาแพทย์


10. น้ำยาบ้วนปากสามารถใช้ได้หรือไม่


- ใช้ได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร


11. ยาแก้สิวทาหน้าสามารถทาได้หรือไม่


- ทาได้เพราะใช้ภายนอก แต่ยาแก้สิวที่ใช้ทานไม่ควร เพราะมีวิตามิน A เยอะ และสามารถทำให้แท้งได้


12. วิตามินซี ทานเสริมได้หรือไม่สำหรับคุณแม่ที่เป็นภูมิแพ้


- สามารถทานเสริมได้ หรือทานผลไม้ที่มีวิตามินซีมากก็ช่วยได้ เช่น Apple เขียว ส้มเขียวหวาน มะเฟือง เป็นต้น


13. คุณหมอ Ultrasound ให้ทุกเดือนจะเป็นอันตรายกับลูกหรือไม่


- ไม่มีรายงานว่าการ Ultrasound บ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อเด็ก การทำ Ultrasound สามารถทำให้เราเห็นได้เพียงหยาบ ๆ เท่านั้น เช่นลูกมีเบ้าตาหรือไม่ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ว่า ตาของลูกปกติหรือไม่(บอดหรือไม่) เห็นแค่ว่าท้องเด็กไม่ป่อง แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่า เด็กมีปัญหาที่ลำไส้หรือไม่


14. คุณหมอมีนมที่คุณแม่ควรดื่มแนะนำหรือไม่


- ที่มีอยู่ตามท้องตลาดดื่มได้หมดเลย ตอนนี้ยังไม่มีแบรนด์ไหนมาฮั้วกับหมอซะด้วย ไม่มียี่ห้อแนะนำเป็นพิเศษค่ะ ( ฮ่า ฮ่าฮ่า)


15. นมวัวกับนมถั่วเหลืองควรดื่มอย่างไหนมากกว่ากัน


- ควรดื่มนมวัวมากกว่า เพราะนมวัวมีแคลเซี่ยมมากกว่า 200 เท่า คุณแม่บางคนทานนมวัวไม่ได้ก็ให้ทานนมถั่วเหลืองแทน ถ้าไม่สะดวกจะทานวิตามินแคลเซี่ยมเพิ่มก็ได้


จำได้เท่านี้ค่ะ เดี๋ยวกลับไปบ้านอ่านเพิ่มเติมแวจะมา Update เพิ่มนะคะ Smiley







Free TextEditor


Create Date : 11 มกราคม 2553
Last Update : 11 มกราคม 2553 12:35:08 น. 3 comments
Counter : 569 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมคะ เมื่อวานก็เพิ่งไปอบรมมาเหมือนกัน ทุกวันอาทิตย์จนถึงสิ้นเดือนเลยคะ ดูแลตัวเองและลูกน้อยเยอะๆน๊า


โดย: นิว (saranew ) วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:40:54 น.  

 
สุขสันต์วันจันทร์อันแสนผ่อนคลายนะค้าบ


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:20:50:32 น.  

 
ข้อมูลดีๆ มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย ขอบคุณค่ะ


โดย: loveyoumore วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:15:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

เลขาหน้าใส
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เลขาหน้าใส's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com