ตั้งแต่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ก็จะแจ้งให้ เจ้านายและเพื่อนในแผนก รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่สนิทใน Office ทราบ ทุกคนก็จะคอยเตือนเราให้เดินช้ามาตลอด หลายคน ๆ เริ่มบอกเราว่า ใส่ชุดคลุมท้องได้แล้วเพราะกลัวเราและลูกอึดอัด สำหรับคนที่ไม่สนิท เราปล่อยให้เค้าบอกต่อ ๆ กันไปเองค่ะ เพราะมันคงเป็นเรื่องแปลกที่ต้องประกาศให้คนอื่นที่เราไม่ได้ใส่ใจให้รับรู้ (มีอยู่ไม่กี่คน และทำงานด้วยแบบปวดเศียรจริง ๆ )

ตอนนี้เกือบ 16 สัปดาห์แล้ว เรายังใส่ชุดทำงานอยู่ค่ะ เพราะรู้สึกอยู่เสมอว่าพุงยังเล็กไป ถ้าใส่ชุดคลุมท้องจะเหมือนใส่ชุดนอน เราอวบมาตั้งแต่โตเป็นสาว ลดน้ำหนักออกกำลังกาย จำกัดอาหารมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ก่อนแต่งงานเราลดได้ 6 กิโลกรัม (ปัจจุบันกลับมาเท่าเดิมแล้ว) เราจะกลัวมากเรื่องอ้วน แม้สามีจะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องสรีระของเราเลย ไม่เคยว่าให้เสียใจ มีแต่ให้กำลังใจมาตลอด แต่คำว่าอ้วน เป็นอะไรที่ทำให้เราเสียใจ เสียความรู้สึกมากที่สุด น้องสาวที่คลานตามกันมาก็ได้รูปร่างเพรียวเล็กมาจากแม่ ไร้สะโพก ไร้ก้น โดยสิ้นเชิง แถมมีคัพบีประดับตัว ลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่อีก 5 สาวก็เช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะได้คัพเอมา ถามวิธีที่จะอัพเกรดเป็นคัพซีมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว เราเองได้มาจากทางพ่อโดยตรง อก เอว สะโพก ก้น มีเยอะไปหมด ใส่กางเกงยีนส์แล้วจะดูเต็มดูดี ในขณะที่สาว ๆ รอบตัวมีแต่หลวมโพรกที่ต้นขา สะโพกและก้น

"เจ๊ บอกหนูหน่อยสิ เจ๊ทำได้ไง ทำไมได้คัพซีมา ต้องกินอะไรเหรอ" คำตอบของเราคือ" ไปถามลุงหนูสิ ให้มาเต็ม ๆ เลยเยอะเกินไปอวบใหญ่ไปหมด" ส่งสายตาค้อนพ่อตัวเองอีก 1 ที

ยิ่งท้องคัพซีแทบจะระเบิด สัดส่วนตามตัวดูอวบอ้วนไปหมด ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักเพิ่มมา 2 กิโล (ส่วนใหญ่ตอนไม่ท้องคนอื่นจะดูออกว่าอ้วนตอนน้ำหนักขึ้นเกิน 3 กิโล) และพยายามออกกำลังกายเบา ๆ มาตลอด อยากจะดูใหญ่แต่ท้อง ช่วงตัวยังดูเท่าเดิม

จนวันนี้ผู้ใหญ่อีกแผนกเดินมาที่ Office เค้าไม่ได้เจอเรานานพอสมควรแล้วค่ะ เค้าแวะเวียนมาหาพี่แผนกใกล้ ๆ เรา เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของคุณพี่ท่านนั้น เธอกำลังจะเดินผ่านโต๊ะไปแล้ว พลันสายตาของเธอก็หันมามองเราอย่างตกตะลึง พูดด้วยเสียงตกใจสุดขีดว่า

"น้องเมย์....... อ้วนจนพุงพลุ้ยเลยนะคะ"   

คนฟังซึ่งเป็นผู้น้อยอย่างเราได้แต่อึ้ง และช็อค คำนี้มันบาดหัวใจจริง ๆ นึกในใจ"กรูอยากจะบร้าตาย คุณป้าไปอยู่ไหนมาคะเนี่ยยยยยยย" ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ ตอบเสียงเบา ๆ ว่า "ค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่" (เดือนต่อๆ ไปจะอ้วนกว่านี้อีก พุงแทบจะระเบิดเลยด้วยค่ะ) เธอเดินผ่านไปอย่างมีความสุข เราอยากจะเอาหัวโขกคอมพิวเตอร์ข้างหน้าให้หนำใจ จะโกรธก็ไม่ใช่ จะขำก็ยังไงอยู่  จะตะโกนออกไปว่า"มีเด็กอยู่ในนี้ 4 เดือนค่า" ก็ใช่ที ได้แต่ปล่อยให้เธอได้เข้าใจอย่างนั้นไป คำว่าอ้วน ยังคงตอกอยู่ที่หัวอยู่เลยค่ะ หน้าตาของเราก็เลยออกไปในแนวเจ็บใจตัวเอง เจ้านายเดินมาถาม " เป็นอะไรทำไมทำหน้ายุ่ง วันนี้ห้องเต็มนะ อย่าเครียด พี่เครียดแล้ว" เล่าในนายและพี่ ๆ ที่อยู่ด้วยกันฟัง ทุกคนขำลั่น Office จนน้ำหูน้ำตาไหล มีแต่เราเจ็บใจอยู่คนเดียว

" คนเราแปลกนะคะนายหญิง (เจ้านาย) เจอกันมีแต่ทักกันว่าผอมกับอ้วน หนูเป็นเด็กกว่าเค้า จะไปทักเค้าบ้างได้ไหมคะว่า "พี่คะ พี่ไปทำอะไรมาคะ ดูโทรมและตีนกามาเยือนเยอะขึ้นมาก ได้ใช้ครีมลดริ้วรอยลดความเหี่ยวย่นบ้างไหมคะ มีหลายตัวเค้าว่าใช้ดีนะคะ" ทำหน้าซื่อตาใส นายส่ายหัวอย่างเดียว "เมย์ อย่าไปถือสาเค้าเลย เค้าไม่รู้อ่ะ สงสัยบ้านแกคงอยู่รู ไม่รับรู้เรื่องอะไร ไม่รู้ไม่ผิดหรอกนะ อภัยให้เค้าเถอะ หลานออกมาจะได้อารมณ์ดี ๆ " อารมณ์ของเราตอนนี้คิดแต่ว่าเป็นเรื่องขำๆ อย่างเดียว และก็ปล่อยเธอไป เดือนต่อๆ ไป เธอก็อาจจะทักเราใหม่ว่า "ไปทำอะไรมาคะ อ้วนพุงป่องเชียว" จะเตรียมคำตอบดี ๆ ไว้รับมือ " รักกันกับสามีเพลินไปหน่อยค่ะ โดนเสกเด็กเข้าท้องซะงั้น เดือนต่อ ๆ ไปจะลงพุงยิ่งกว่านี้อีกค่ะ" อย่าเผลอละกันป้า เจอกันแน่ ๆ เลย

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2553 19:50:16 น.		0 comments
Counter : 528 Pageviews.
Share Tweet