Group Blog
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th 
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
All Blog
[รีวิว] Update my Skincare Routine 2016
สวัสดีค้า จอยค่ะ กลับมาพบกันอีกเช่นเคย
วันนี้จอยจะมา Update my Skincare Routine ให้ได้ชมกันนะค้า


จอยเชื่อว่า skincare เป็นสิ่งที่น่าลงทุน คือถ้าผิวเราดี
ไม่ว่าจะใช้ makeup แบบไหนก็ออกมาสวยงามหมด
ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเซ็งชีวิตจอยมาก เพราะปกติจอยจะไม่ค่อยมีสิว
แต่พออายุมาถึงเลย 22 ปุ้ป ไม่รู้สิวแห่แหนกันมาจากไหน
คือมันก็อาจจะไม่ได้มากมายถ้าเทียบกับบางคน
แต่สำหรับจอยที่ไม่เคยมีสิวมาก่อน มันก็เครียดอยู่เหมือนกัน
ไม่รู้เพื่อนๆเป็นกันบ้างรึเปล่าคะ ที่อยู่ๆสิวก็มาระเบิดในช่วงอายุนึง //ชั้นล่ะงงจริงๆ

หลังจากดูแลรักษากันไปพักนึง ก็ระวังการเลือกซื้อ skincare มากขึ้น
ลองผิดลองถูก จนเจอสิ่งที่ใช้กับใบหน้า และไม่รู้สึกแพ้
รวบรวมเป็นกองทัพลูกรัก ดังต่อไปนี้ จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลยค้า

เรียงลำดับการใช้ตามนี้

เช้า
ล้างหน้า > SK-ll Clear Lotion > Sena Water serum Marine plankton > Clinique even better essence lotion

เย็น
ล้างหน้า > SK-ll Clear Lotion > Kiehl's Powerful-Strength line-Reducing Concentrate > Kiehl's Midnight recovery concentrate > Tarte pure maraca oil > Kiehl's Creamy eye treatment with avocado
SK-ll Clear Lotion (150ml / 2,370baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
โทนเนอร์โลชั่นปรับสภาพผิวที่ผสานคุณค่าจาก AHA และ พิเทร่า ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกต่างๆ จากผิวได้อย่างหมดจด เตรียมผิวของคุณให้พร้อมรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป

ความรู้สึกหลังจากการใช้
ตัวนี้ขาดไม่ได้ จอยใช้ทุกเช้าและเย็น เทใส่สำลีแล้วปาดก่อนขั้นตอนการบำรุง รู้สึกว่ามันช่วยทำความสะอาดและเตรียมผิวได้ดี ช่วยทำให้ตัวบำรุงที่เราจะบำรุงต่อไป ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ จอยว่ากลิ่นไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ (5555) สำหรับวันไหนที่ไม่ได้ใช้ หรือลืม จะรู้สึกได้ทันที ว่าผิวจะไม่ค่อย fresh อย่างที่เคย แบบว่าบอกไม่ค่อยถูก แต่รู้สึกได้อ้ะ >___<
Sena Water serum Marine plankton (150ml/1490baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
เซน่าน้ำตบแพลงก์ตอน จากเกาหลีทำให้ผิวสวยสุขภาพดี adenosine ช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิวทำผิวได้รับความชุ่มชื่นอย่างเต็มที่ และกระตุ้นDnaสร้างโปรตีนในเซลล์ และช่วยลดริ้วรอย และสารสกัดจากสาหร่าย4สายพันธ์ ช่วยลดรักษาอาการเสบ ปลอบประโลมผิว ทำผิวขาวกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติจาก Astaxanthin ที่มีอยู่ในสารหร่ายสีแดงทำให้ผิวขาวเป็นสารกัดที่กว่ากลูต้า 10เท่า

ความรู้สึกหลังจากการใช้
สำหรับน้ำตบตัวนี้ อย่างแรกคือชอบกล่ินหอมอ่อนๆ ของมันมากๆ หลังจากได้ลองใช้ติดต่อกันมาซักพัก พบว่ามันโอเคเลย ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของหน้า แต่ไม่รู้สึกเหนอะหน่ะ จอยชอบ texture ของ Sena มากกว่า น้ำตบตัวดังอย่าง Biotherm ด้วยซ้ำ (เพราะมันจะมีความเหนี่ยวๆหนึบๆมือยังไงไม่รู้ แถมกลิ่นก็แรง) ของ Sena จะซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว และไม่ทิ้งความเหนอะหน่ะ รู้สึกบางเบามากๆ เหมาะสำหรับใช้บำรุงในช่วงตอนเช้าก่อนแต่งหน้า ตอนแรกใช้ก็กลัวจะแพ้ แต่เปล่าเลย สิวผดที่บริเวณแก้มค่อยๆลดน้อยลง สิวที่ชอบผุดขึ้นมาทีละเม็ดเป้งๆช่วงนี้ก็ไม่มีเลย หน้าเรียบเนียนขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ส่วนตัวไม่ได้เห็นผลเรื่องลดเลือนริ้วรอยเนื่องจากยังไม่มี นอกจากนั้นน้ำตบ Sena ยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับมาร์กแผ่นได้อีกด้วย วิธีการทำของจอยคือนำเม็ดมาร์ก มาหยดตัวผลิตภัณฑ์ให้ชุ่ม แล้วmask หน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที หน้าก็จะได้รับความชุ่มชื้นแบบสุดๆไปเลย!!

Clinique even better essence lotion สูตร 1,2 ผิวแห้งและผิวผสม (200ml/2,200baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
ให้ความชุ่มชื่นผิวมากเป็นพิเศษ ด้วยส่วนผสมหลากชนิดซึ่งประกอบไปด้วยน้ำมันสควอเลนที่สกัดจากมะกอก, สารสกัดจากข้าวบาร์เล่ย์, สารสกัดจากจมูกข้าว และน้ำมันสกัดจาก Jojoba ช่วยทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื่นเพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื่นยาวนาน

ความรู้สึกหลังจากการใช้
เฮโหลสาวหน้าแห้ง รีบไปจัดมาให้ไว บอกเลยว่าตัวนี้ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นสุดๆ แถมไม่เหนียวเหนอะหน่ะ คือช่วงเช้า ถ้าเราโบกครีมเนื้อหนักๆ แต่งหน้าก็จะไม่ค่อยรอด หน้ามันเร็ว จอยเลยเปลี่ยนมาใช้เป็น essence ที่ให้ความชุ่มชื้นแต่มีความบางเบามากกว่าครีม ไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร่ สำหรับไลน์นี้จะมีอีกตัวที่สำหรับผิวมัน ซึ่งจะเป็นสูตร 3,4 ซึ่งจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ต่างจากรุ่น 1,2 ที่ยังมีความเหลวนิดนึง ส่วนตัวรู้สึกชอบรุ่น 1,2 มากกว่า เพราะใช้ง่าย เทลงฝ่ามือแล้วลูบทั่วใบหน้า แต่รุ่น 3,4 ที่เป็นน้ำนี่ไหลไปไหนต่อไหน ใช้ค่อนข้างยาก (แต่อาจจะถูกใจสาวผิวมัน เพราะบางเบากว่า)

Kiehl's Powerful-Strength line-Reducing Concentrate (50ml/2,745baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
เซรั่มลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของวิชามินซีเข้มข้นนี้ประกอบด้วยวิตามินซีบริสุทธิ์เข้มข้น 10.5% (กรด L-Ascorbic) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยฟื้นฟูผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดริ้วรอยแห่งวัย เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องไปสักระยะ จะช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลง โดยเฉพาะริ้วรอยรอบริมฝีปากและรอบดวงตา รวมทั้งริ้วรอยและร่องลึกอื่นๆ บนใบหน้า นอกจากนี้ ผิวพรรณจะได้รับการปรับปรุงให้ดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่งสดใส

ความรู้สึกหลังจากการใช้
ขาดเธอเหมือนขาดใจ เพิ่งค้นพบสิ่งที่ดีกับใบหน้าตัวเอง คือรักมากจริงๆ (แต่ราคาทำเอาน้ำตาตก ฝากเพื่อนหิ้วมาจากอีกซีกโลกด่วน) เจ้าเซรั่มวิต C ตัวดังของ Kiehl's เค้า คือมันดีสมคำล่ำลือจริงๆ feeling ตอนลงครีมบนหน้าคือดีมากกกก เนื้อมันจะคล้ายๆซิลิโคนหน่อยๆ ทาไปแล้วมันนุ่มๆลื่นๆ และจะรู้สึกอุ่นวูบๆเล็กน้อย เหมือนตัวครีมทำปฎิกิริยาบนใบหน้า (หลายคนอาจตกใจ) แต่มันไม่ใช่อาการแพ้นะคะ ซึ่งข้างขวดก็จะเขียนระบุไว้ว่าเป็นอาการปกติสำหรับครีมตัวนี้ จอยใช้แล้วรู้สึกหน้าเนียนขึ้นมากๆๆ จากหน้าที่เคยลูกแล้วมีเม็ดๆไม่เรียบเนียน พอทาตัวนี้ลงไป ก็จะค่อยๆรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ใช้ไปจนหมดขวดที่ 2 แล้ว ต้องไปตามล่าขวดที่ 3, 4 มาตุนแล้ว ฮือๆๆ เทใจกับแบรนด์นี้ไปเลยค้าา //เรื่องริ้วรอย จอยไม่แน่ใจว่ามันช่วยได้ไหมเพราะส่วนตัวริ้วรอยก็ยังไม่มา แต่เรื่องความเรียบเนียน บอกไปเลยเต็ม 10 ค่ะ!!

Kiehl's Midnight recovery concentrate (30ml/2,040baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงที่เปี่ยมประสิทธิภาพและประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 99.8% นี้จะเข้าทำงานตลอดทั้งคืนเพื่อบำรุง และสร้างเกราะป้องกันผิวพรรณ และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใสในเช้าวันรุ่งขึ้น
ด้วยส่วนผสมอันอุดมคุณค่าจากธรรมชาติรวมถึงน้ำมันจากพฤกษชาติและน้ำมันที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุง เนื้อผลิตภัณฑ์อ่อนเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ทันที จึงช่วยบำรุงผิวให้ดูเปล่งปลั่งมีสุขภาพดีในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนและเปล่งประกายสดใสในเช้าวันรุ่งขึ้น

ความรู้สึกหลังจากการใช้
ตอนนี้รัก skincare จำพวก oil สุดๆๆๆไปเลยค่ะ ตั้งแต่เริ่มใช้เจ้าตัวนี้ ทำให้อยากลองใช้ oil อื่นๆไปซะหมด เพราะเริ่มรู้ว่า หน้าแห้งๆของตัวเอง ไปได้ดีกับผลิตภัณฑ์จำพวก oil (ซึ่งคนหน้ามันอาจจะเกลียด) ยิ่งถ้าเรานอนในห้องแอร์แห้งๆ การที่เราบำรุงหน้าให้ชุ่มชื้นเอาไว้ ตื่นมาจะรู้สึกผิวอิ่มๆ ดูสุขภาพดี สำหรับออยตัวนี้ อย่างแรกเลยจอยชอบกลิ่นมันมากๆ หอมอะโรม่า ทำให้ผ่อนคลายก่อนนอน เนื้อออยบางเบา ค่อนข้างเหลวมากๆ ทาไปแล้วซึมซาบเข้าสู่ผิว ได้ลุคดิวอี้ สังเกตุว่าพอใช้ไปซักพัก หน้านุ่มขึ้น ไม่ค่อยแห้งกร้าน เนียนขึ้น และไม่มีสิวเพิ่มเติม (ไม่เกิดการอุดตัน) เป็นลูกรักสุดๆ จอยใช้ประมาณ 4-5 หยดลงบนฝ่ามือ และถูมือเข้ากันก่อนจะลูบบนใบหน้า มันเลิศอ่ะ

Tarte pure maraca oil (ไม่ทราบราคา)

คำโปรยจากทางแบรนด์
น้ำมันบริสุทธิ์จากทำธรรมชาติ 100% ซึมซามล้ำลึกสู่โครงสร้างผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อผิวที่กระชับ กระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น ด้วยส่วนประกอบจากวิตามินซีธรรมชาติเข้มข้น ทำให้ผิวได้ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วยกรดธรรมชาติ มีกรดไขมันที่สำคัญ (EFAs) ที่เซลผิวต้องการในการฟื้นฟูและร่างกายผลิตเองไม่ได้
แถมยังช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอยแห่งวัยให้เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย ใช้ได้ทุกสภาพผิว ไม่ทำให้ผิวมันขึ้น เพราะเป็นน้ำมันที่สร้างขึ้นจากธรรมชาติ

ความรู้สึกหลังจากการใช้
ตัวนี้จอยซื้อมาเป็นเซตกับบลัชออน จึงได้เป็นไซส์เล็กมา ซึ่งจอยไม่ได้ลงตัวนี้ทั้งหน้า จอยจะใช้ลงบริเวณหน้าผาก(แห้งๆ)ของจอย ซึ่งมันได้ผลดีมากกกกก ใครที่หน้าผากแห้งมักจะมีปัญหาเรื่องริ้วรอยและความแห้งกร้าน ซึ่งจอยว่าออยตัวนี้ตอบโจทย์สุดๆ นอกจากความชุ่มชื่นแล้ว จอยกลับไม่ค่อยชอบกลิ่นมันเท่าไหร่ จอยว่ามันเหม็นๆงะ น่าจะเป็นกลิ่นธรรมชาติ แต่เพื่อหน้าผากเนียนนุ่มแล้ว ยอมค่ะยอม ก่อนนอนก็โบกมันลงไปที่หน้าฝากเลยค่ะ ประมาณ 1 หยด อาจจะรู้สึกมันๆเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเยิ้ม ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราใช้ด้วย ต้องใช้แบบพอดีๆ

Kiehl's Creamy eye treatment with avocado (14ml/1,260baht)

คำโปรยจากทางแบรนด์
อายครีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเรานี้เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดครีมเข้มข้นจากส่วนผสมของน้ำมันอะโวคาโดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตาที่บอบบางได้อย่างอ่อนโยน
โมเลกุลของน้ำในน้ำมันของผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวรอบดวงตาได้โดยทันที ทำให้ผิวพรรณมีชีวิตชีวา ด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นเป็นพิเศษของเราจะไม่ทำให้ดวงตาระคายเคือง ผ่านการทดสอบโดยจักษุแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

ความรู้สึกหลังจากการใช้
เป็นครีมบำรุงรอบดวงตาที่เนื้อเข้มข้นสุดๆ จอยเลยใช้โบกเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนนอน พอตื่นเช้ามารู้สึกเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งแสบ ดวงตาสดใสปิ้งๆ (ตอนนี้เริ่มมาใส่ใจกับการบำรุงรอบดวงตามากยิ่งขึ้น เพราะกลัวริ้วรอยจะมาเยือน) อีกอย่างคือกระปุกใหญ่มาก ใช้มาหลายเดือนแล้วยังไม่ยุบเท่าไหร่เลย คุ้มสุดๆ แต่จอยว่าสำหรับใครที่หวังผลเรื่อง แพนด้า ใต้ตาดำคล้ำ บวมหรือลดเลือนรอยเหี่ยวย่น ครีมตัวนี้อาจจะไม่ใช่เป้าหมาย เพราะมันเน้นคามชุ่มชื่นเป็นหลัก


update my skin ช่วงเดือนที่ผ่านมากับความเปลี่ยนแปลง :))
คือสิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด หน้ากระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย รอยแดงหรือรอยคล้ำจากสิวค่อยๆจางลง แต่ยังพอเห็นอยู่บ้าง รอยแดงที่แก้มก็ยังแดงเหมือนเดิม(เหมือนมีแก้มอมชมพู//ร้องไห้แพร่พ) พอใช้มือลูบจะรู้สึกว่าหน้าเรียบเนียนขึ้น รอยสิวแห้งๆ ค่อยๆหายไป รูขุมขนข้างๆแก้มก็ดูจางลง

สรุปแล้ว ขั้นตอนการบำรุงผิว ก็สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการแต่งหน้าเลย
และเครื่องสำอางที่แพงไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป ขอให้สาวๆ ค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง
จอยเคยอ่านมาว่า เราควรจะเปลี่ยนครีมบำรุงทุกๆ 6 เดือน
เนื่องจากเมื่อเราใช้ครีมตัวใดไปนานๆ ผิวหน้าจะเริ่มปรับสภาพและเกิดความเคยชิน
ดังนั้นเราก็ควรเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ไปบ้าง (แต่ก็ระวัง อย่าใช้มั่วไปหมดนะคะ)

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆนะคะ
แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีจ้าาา
Love Berry Joyjee 'Blog



Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 11:19:42 น.
Counter : 4332 Pageviews.

0 comment
[Swatch] ลิปราคาเบาๆ แต่คุณภาพไม่เบากับ Essence Lipstick <3
สวัสดีค้าาา!! ช่วงนี้เจอกันบ่อย <3
วันนี้จอยจะมาสว้อชสีลิปงามๆ รับวาเลนไทน์กันค่ะ

จอยได้มีโอกาสเข้าร่วม Workshop เปิดตัวของเล่นชิ้นใหม่ๆ มากมายจากทางแบรนด์ Essence
ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางนำเข้าจากประเทศเยอรมัน
นอกจากลิปสติกแล้ว ยังมีของอื่นๆอีกมากมาย เช่น อายแชโดว์ ครีมรองพื้น
ยาทาเล็บ ยาเลือบเล็บ ครีมบำรุงมือและเล็บมือ ฯลฯ คือมันเยอะมากๆๆๆ
สาวๆคงคุ้นหน้าคุ้นตากับแบรนด์ Essence เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเคาเตอร์อยู่มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นตาม superชั้นนำ และร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป คือแบบว่าหาไม่ยากเลยทีเดียว
ลิปสติกที่จอยหยิบมารีวิวนั้น มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
1. Essence Sheer & Shine Lipstick (125 Baht)
2. Essence Liquid Lipstick (165 Baht)

มาดูที่รุ่นแรกกันก่อน นั่นก็คือ Essence Sheer & Shine Lipstick
ลิปสติกรุ่นนี้ จะให้ความชุ่มชื้น บางเบา เนื้อคล้ายกับลิปบาล์มที่มีสี
เรียงลำดับจาก ซ้ายไปขาว ได้แก่
01 My First Love - สีนี้ตอนเปิดมาทีแรกตกใจคือมันดูนู้ดป่วยสุดๆ แต่พอลองปาดดูถึงรู้ว่าเม็ดสีค่อนข้างบางเบา จึงแทบไม่ออกสี เป็นลิปที่ให้ความแวววาว พอดูสุขภาพดี
07 Sparkling Miracle - ลิปสีชมพูออกไปทางบานเย็น ออกสีชมพูระเรื่อ บางเบาใสๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทาปาก จอยแนะนำสีนี้ค่ะ เพราะเป็นสี everyday look ได้ ไม่จัดมาก
09 I Feel Pretty - สีแดงที่มีความแน่นของสีขึ้นมามากกว่า 2 แท่งที่แล้ว แต่ยังไม่ถึงกับสีจัดแบบลิปสติกเนื้อแมท ให้ปากแดงระเรื่อ ดูน่าค้นหา

มาถึงอีกรุ่นหนึ่ง ที่มีความแตกต่างจากรุ่นที่แล้วราวกับคนละขั้ว
Essence Liquid Lipstick ที่มอบเม็ดสีแบบชัดสุดๆ แซ่บสะใจ
04 Show off! - สีชมพูแดงนีออน สีเด่นชัด ระดับปากพุ่งร้อยเมตร
06 Make a statement - สีแดงกลีบกุหลาบ ให้ความรู้สึกสวยหรูดูแพงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

สำหรับคนที่ชอบสีแซ่บๆ จอยแนะนำรุ่นนี้ไปเลย เพราะสีเค้าแน่นมากจริงๆ ปาดรอบเดียวอยู่เลย
ให้ความรู้สึกแบบกลอส ให้ความชุ่มชื่นและมันเงามากๆ
แปรงทาปากเป็นแบบจิ้มจุ่ม ฟองน้ำโค้งมนเข้ากับรูปปาก ทำให้ทาได้สะดวก
สำหรับคนที่ชื่นชอบลิป และชื่นชอบการเก็บสะสมลิปเยอะๆ
อยากแนะนำลิปของ essence เนื่องจากราคาไม่แพง แต่คุณภาพไม่ได้ด้อยเลย
โดยเฉพาะรุ่น liquid lipstick ที่โดนใจจอยมากๆ คือสีมันแซ่บมากจริงๆ
แถมยังไม่มีกลิ่นลิปเหม็นๆมากวนใจ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆนะคะ
ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้า แล้วเจอกันจ้าา
Love Berry Joyjee 'blog





Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 14:58:33 น.
Counter : 2965 Pageviews.

0 comment
[Swatch] วิ้งวาวระดับสิบกับ Becca Shimmering Skin Perfecter Pressed
สวัสดีค่ะ จอยเองค้า วันนี้จะมารีวิว highlighter สุดปลื้มที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ
เอาจริงก็ได้มาซักพักนึงแล้ว ดองมาหลายอาทิตย์กว่าจะได้มารีวิว
นั่นก็คือ Becca Shimmering Skin Perfecter Pressed สี Champagne Pop

หากใครที่ท่องอยู่ในโลก beauty Youtuber คงพอจะรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตา สาวที่อยู่บนกล่อง
"Jaclyn Hill" ซึ่งเธอเป็นคนที่ตลกม๊ากก ครั้งแรกที่จอยดูคลิปของเค้า คือจอยกดสับตะไคร้เลย
คนอะไร น่ารักน่ามอง แถมยังรีวิวได้ชวนอมยิ้มมากๆ แถมตาเธอยังสวยมากๆๆด้วย
ด้วยความที่หลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ บวกกับดูคลิปของเธอไปเรื่อยๆ
จนได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่เธอมีส่วนร่วมกับทางแบรนด์ Becca
จอยถึงกับสั่ง(ฝากญาติ)ซื้อมา โดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันดีจริงหรือไม่
จะวิ้งวาวสวยไปไหนเนี่ย!!! เจอแบบนี้ไป ไม่สั่งได้ไง (ปาดน้ำตาเล็กน้อย ตังค์บินออกไปเรียบร้อย)
คือเจ๊ Jaclyn hill แกปาดจนวิ้งทั่วตัว แล้วผิวสวยมีออร่ามากกก
เห็นแล้วเหมือนนางแบบหลุดออกมาจากcatwalk
นี่มันผิว นางแบบ Victoria's Secret ชัดๆ!!!

หลังจากได้ลองปาดสีแล้ว พบว่า มัน แน่น มาก!! นี่ปาดแค่ครั้งเดียว รู้เรื่อง
วิ้งวาวระดับสิบ ออร่าระดับร้อย โอ้ยยยย อลังการงานสร้างงงง
สวยมากกก มากกก เอามาทาผิวยิ่งดูสวยมากๆ
สีจะออกโทนเหลืองทองอมส้มเล็กๆ เหมือนสีของแชมเปญ
จอยว่ามันเหมาะสำหรับทุกสีผิวเลย ไม่ว่าจะผิวเข้มหรือผิวขาวมากๆ
ด้วยความที่มันไม่ใช่ไฮไลท์สีขาวจัด หรือสีเหลืองจัด
แต่เป็นไฮไลท์สีที่กลางๆ แต่วิ้งแรงงงง และละเอียดมากๆ จอยว่าเจิดทุกสภาพผิวเลย

ปัญหาที่พบเจอ ของคนที่ซื้อไปใช้หลายๆคน คือตัวผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเปราะบางแตกง่าย
ระวังการกระแทกหรือตกหล่นให้ดีนะคะ เดี๋ยวไฮไลท์จะแหว่งได้

ปริมาณที่ให้มาก็เยอะมากๆ คาดว่าตลับเดียวใช้ไปทั้งชีวิต
จอยฝากญาติซื้อที่อเมกา สนนราคาอยู่ที่ 38$ หรือประมาณ 1,350 บาท (+ โค้ดลดราคาไปอีก)
ได้ยินข่าวว่ากำลังจะเข้าที่ sephora ไทย ในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ (ไม่เกินรอ ไม่ต้องพรี อิอิ)
ถ้าจำไม่ผิด สนนราคาที่ไทย อยู่ที่ 1,500 บาท

น่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่สาวก Highlighter addict ได้เกิดกิเลสกันไป
ใครอยากมีไฮไลท์วิ้งๆวาวๆแบบเต็มๆ อยากให้ไปโดนกัน เพราะมันงามมากชริงๆ
แล้วไว้พบกันกระทู้หน้า ขอบคุณสำหรับการติดตามชมค่ะ
Loveberry Joyjee' Blog 







Create Date : 31 มกราคม 2559
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 14:58:47 น.
Counter : 2491 Pageviews.

0 comment
[ DesireNerverEnd ] Fav. of 2015 ของสุดเลิฟแห่งปี
"Desire Never End"
เพราะความสวยไม่มีวันสิ้นสุด

สวัสดีค้า จอยเองค่ะ สวัสดีปีใหม่ 2016 นะคะ ไม่ได้แวะเวียนเข้ามาอัพเดทนานม๊าก
สำหรับกระทู้นี้ ซึ่งเป็นแรกของปี มีหรือจะมาแบบธรรมดา
วันนี้จะพาเพื่อนๆมารู้จักกับบรรดาลูกรักในกรุ ที่หยิบจับขึ้นมาทักทายกันทุกๆเช้า
ไล่ไปตั้งแต่ best skincare ไปจนถึง best Makeup กันเลย

หลายคนอาจจะคุ้นชินกับของบางอย่าง เนื่องจากหลายๆสิ่งที่อยู่ใน Fav. ของจอยนั้น
ก็เป็นของที่ฮิตมากๆของสาวๆ หลายๆ คนเช่นกัน
มาเริ่มกันที่ Skin care กันค่ะ
อยากจะบอกว่าตอนนี้กรี้สผลิตภัณฑ์ของ Kiehl's เอามากๆๆๆ
รู้สึกถูกโฉลก เอ๊ย ถูกกับผิว เริ่มใช้ตั้งแต่ เซรั่มวิต C ตัวดัง
(Powerful-Strength line-Reducing Concentrate)
ที่ใช้มาอย่างต่อเนื่องปีกว่าๆ ตอนนี้ค้นพบลูกรักตัวใหม่ คือ

1. Kiehl's Creamy eye treatment with avocado - เป็นครีมบำรุงรอบดวงตาที่เนื้อเข้มข้นสุดๆ เหมาะสำหรับโบกรอบดวงตาก่อนนอน พอตื่นเช้ามารู้สึกเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งแสบ ดวงตาสดใสปิ้งๆ (ตอนนี้เริ่มมาใส่ใจกับการบำรุงรอบดวงตามากยิ่งขึ้น เพราะกลัวริ้วรอยจะมาเยือน แง้กๆ) อีกอย่างคือกระปุกใหญ่มาก ใช้มาหลายเดือนแล้วยังไม่ยุบเท่าไหร่เลย คุ้มสุดดดค่ะ

2. Kiehl's Midnight recovery concentrate - ด้วยความที่จอยเป้นคนผิวหน้าแห้งมากๆ จอยเลยชอบใช้อะไรที่เข้มข้นหรือมันสุดๆ ซึ่งตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำมัน ค่ะ ฟังไม่ผิด เอาน้ำมันมาโบกหน้า แต่เป็นน้ำมันบริสุทธิ์จากธรรมชาติ กลิ่นหอมอ่อนๆ (แต่บางคนบอกกลิ่นแปลกๆ) ส่วนตัวแล้วชอบกลิ่นนะ ผ่อนคลายดี ความพีคคือเช้าวันต่อมาหลังจากทาน้ำมันตัวนี้ หน้าจะรู้สึกฟูๆอิ่มๆ ฉ่ำน้ำ โอ้ยย ฟินมากๆ คือสาวหน้าแห้งจะเข้าใจว่าผิวแห้งๆกร้านๆจะยิ่งทำให้ดูผิวแก่ แต่เจ้าตัวนี้คือดีมากๆๆ รักสุดๆๆๆ ช่วยทำให้ผิวดูเด็กลง ชุ่มชื่นขึ้น ใช้แล้วไม่ค่อยเป็นสิว (แต่ไม่ได้ช่วยลดรอยด่างดำบนใบหน้า) ทั้งนี้ใช้มาได้ประมาณ 3 เดือน ลดลงไปแค่ 1/3 ของขวด คาดว่าใช้ไปได้อีกยาวนาน // จอยใช้ทุกคืน ครั้งละ 3-4 หยดค่ะ บางวันอยากได้ลุคฉ่ำๆ ก็หยิบมาใช้ทาก่อนลงกันแดด 2-3 หยด ได้ลุคดิวอี้ไปอีกแบบ

มาที่ผลิตภัณฑ์ฉาบหน้าให้เรียบเนียน

1. Chanel Vitalumiere Aqua - ขอบอกเลยว่า เป็นลูกรักหมายเลขหนึ่ง !! ขาดเธอเหมือนขาดใจ เป็นรองพื้นที่บางเบา หอม แต่ปกปิด แถมยังเกลี่ยง่ายที่สู้ดดดด ประทับใจมากๆๆๆ รองพื้นทั่วไปเกลี่ยยาก ต้องใช้ความพยายามในการเบลนให้เนียน แต่เจ้าตัวนี้บีบใส่นิ้วแล้วถูๆ ไปกับหน้าไม่กี่วิก็ยังเนียนสวยได้ เอาใจไปค่ะ!!! ถามว่าสิ่งที่ไม่ชอบมีไหม ก็คงจะเป็น packaging ที่ดูไม่ค่อยแพงสมราคาของนางเท่าไหร่ (เอาจิงแต่ก็พกพาไปเที่ยวสะดวกนะยะ)

2. Mac Mineralize Skinfinish natural - ตลับแมคนี้ ใช้ตั้งแต่รุ่นเก่า ยันเค้าเปลี่ยนเป็น packaging ใหม่แล้ว ไม่ขอนับว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมากี่ตลับ คือ ฉ่ำ สวยงาม เป้ะ เติมระหว่างวันได้ ผิวเหมือนผ่านมา 3 app ไม่ต้องพูดเยอะ ยังไม่ลองก็ไปซื้อมาเลยค่ะ 5555

3. Tom Ford Translucent Finishing Powder 02 Ivory fawn - ของบำเรอกิเลส เนื้อแป้งละเอียดมากกกก นุ่มเนียน หรูหราราคาแพง(จับจิต) ช่วยให้ผิวดูเนียนละเอียด ใช้ set รองพื้นได้ดี เอาจริงก็ใช้ไม่ค่อยบ่อยมาก (ไม่ค่อยกล้าหยิบ) แต่พอหยิบมาใช้แต่ละครั้งรู้สึกผิวมันดีอย่างบอกไม่ถูก (หรือจะคิดไปเอง) สิ่งที่ไม่ชอบ คือแปรงที่เค้าให้มาด้วย มันค่อนข้างแข็งและจิกเนื้อแป้งออกมาฟุ้งไปหมด
1. Lunasol Blush Brush - แปรงปัดแก้มขนกระรอกจาก Lunasol เป็นแปรงที่มีขนที่นุ่มมากๆๆๆ ยิ่งล้างยิ่งนุ่ม ใช้ที ปัดแล้วเคล้มม ใช้ปัดบลัชออนที่สีจัดๆได้อย่างสวยงาม เบลนง่าย ไม่เป็นปื้น แถมยังช่วยให้เราลงสีไม่หนักมือจนเกินไป

2. Mac Mineralize concealer Nc20 - คอนซีลเลอร์แมครุ่นนี้เกลี่ยง่ายมากๆ ไม่หนา และไม่เป็นคราบ ปกปิดได้ปานกลาง ถึงมาก แล้วแต่ว่าเราจะทบไปกี่ชั้น แต่ส่วนตัวชอบเอามาแปะรอบดำจากสิวเล็กๆน้อยๆ และแพนด้าใต้ตา ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นไม่แห้งตึง

3. Mac Fix+ - สเปรย์บำรุงและช่วยเซตผิวหลังแต่งหน้า ให้ฉีดทั่วหน้าบางๆหลังจากแต่งหน้าเสร็จ จะได้ลุคฉ่ำวาว แป้งที่ดูแห้งๆผงๆบนหน้า จะถูกเซตให้เข้ากับหน้า ดูเนียนฉ่ำ ดูธรรมชาติขึ้น สาวๆหลายคนชอบเอามาฉีดใส่แปรงแต่งตา เพื่อใช้ปาดกับ eyeshadow เพื่อสีที่ชัดเจนขึ้น (แต่จอยไม่เคยลองนะ ใช้ฉีดหน้าอย่างเดียว)

4. Eyeko eye do liquid eyeliner - เป็นอายไลน์เนอร์ลูกรักที่ใช้ติดต่อกันแบบ non-stop ใช้ได้ยาวนานมากๆๆๆ วาดทุกวันปาดทุกเช้า ลักษณะหัวเป็นปากกาเมจิกแข็ง เขียนง่ายกว่าหัวแปรงพู่กัน ตอนนี้หมดแล้ว คาดว่าจะไปถอยมาใช้ต่อในเร็วๆนี้ (พอใกล้ๆจะหมด แนะนำให้ใช้ทิชชู่จับที่หัวปากกาแล้วดึงออกมา กลับด้านแล้วใส่ลงไปอีกรอบ จะยืดเวลาการใช้ได้อีก ! )

5. Beauty Buffet Gino McCray Shading - ค่ะ! จอยใช้เฉดดิ้งตัวนี้สำหรับเขียนคิ้ว ! คือสีมันกำลังพอดี เกลี่ยง่าย ติดทน แถมราคาถูกมากกกก และหาซื้อง่าย (ประมาณ200บาท) ใช้มาตลับที่ 3 แล้ว คิ้วปังๆนั่นท่านได้จากที่ใดมา~
1. Majolica Majorca Lash Expander Frame Plus - มาสคาร่าที่ดี้ดี ปัดขนตาสั้นๆ ให้ยาวขึ้นด้วยไฟเบอร์ ติดทนมากกกกก (ไปไหน) ล้างออกค่อนข้างยาก แต่ยอม เพราะปัดแล้วดูเป็นผู้เป็นคน มีขนตาฟรุ้งฟริ้ง อีกอย่างคือไม่ค่อยแสบตา เพราะบางยี่ห้อ (ชื่อย่อ M.) จอยใช้แล้วค่อนข้างแสบตาเหมือนสารเคมีมันระเหยเข้าตา น้ำตาจิไหล

2. Nars Blush สี Desire - บลัชออนสีชมพูบานเย็น ดูแล้วสีปี๊ดกระแทกตา แต่ปัดจริงๆแล้วชมพูกำลังสวย แต่ขอเน้นว่าปัดด้วยแปรงขนอ่อนๆ ให้จิกสีขึ้นมาน้อยๆ ถ้าปาดไปเยอะล่ะคู๊ณ ตูดลิงแน่นอน ปริมาณเยอะแบบใช้ชาตินี้ ชมพูไปถึงชาติหน้า
มาถึงส่วนที่ชอบที่สุด color makeup
1. Mac Lipstick สี Please me - สีกันตาย ใช้ได้ทุกคน เชื่อว่าสาวกแมคหลายๆคนต้องมีสีนี้ ชมพูธรรมชาติ ไม่อ่อนหรือเข้มจนเกินไป และไม่จัดจ้าน ทาแล้วดูชมพูธรรมชาติ สุขภาพดีๆ ใสๆเน้อะ เนื้อค่อนข้างแห้ง แต่ไม่ถึงกับเป็นคราบ กลิ่นไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ คิดว่าจะใช้ไม่ได้บ่อย แต่กลายเป็นว่าหยิบสีนี้มาใช้บ่อยที่สุดซะงั้น (ติดอยู่ในกระเป๋าตลอด)

2. Dior 'Addict Lip Glow' Color Reviver Balm - ลิปบาล์มเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิปาก (เป็นสีชมพูฉ่ำๆ) ใช้ดีที่สุดในโลกกกกก ใช้มามากกว่า 3 แท่ง ทาทุกวัน ทาก่อนลงลิปสีก็ดี ทาเดียวๆก็ได้ลุคใสๆ ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น อมชมพู แถมเนื้อเนียนนุ่มไม่เหนียวเหนอะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่มีรสชาติแปลกๆ เริศมากค่ะ!! อยากให้ได้ลอง แล้วจะรัก มากกก

3. Tarte bling it on amazonian clay blush palette - ไอเท็มที่สาวๆ แทบจะตบตีแย่งชิงกันมา เพราะเป็น holiday limited edition หมดแล้วหมดเลย ก็มันดีสมชื่อ amazonian clay blush!! สีของพาเลตนี้สวยมากกก ออกแนวชมพูบานเย็นไปจนถึงสีพีช coral ถูกใจสาวหวาน แพกเก็จจิ้งกลิตเตอร์สีดำดูไฮโซว บลัชออนเม็ดสีแน่น ปัดง่าย แถมติดทนมากๆๆๆ รักสุดๆๆ แถมกระจกที่มากับตลับใหญ่เบิ้มมากๆ

4. Tom Ford Cheek color 03 Flush - ไอเท็มบำเรอกิเลสอีกชิ้นหนึ่ง ที่ใช้แล้วชอบมากกกกกกกก ชอบสุดๆๆๆ ปัดแบบ non-stop เช่นกัน บลัชออนสีชมพูออกแดงๆส้มๆ ปัดแล้วดูธรรมชาติมาก ดูเหมือนมีเลือดฝาด แบบแก้มเด็กดอย มีชิมเมอร์ละเอียดเป็นประกายเหลือบๆสีทอง เม็ดสีแน่น! ชัด! จัดเต็มมากๆ คือปัดแบบเบามือสุดๆๆ ใช้ได้ยันชาติหน้าเช่นกัน ใครทรัพย์เหลือแล้วรักบลัชอนนแบบจอย ไปเถอะค่ะ ไปโดนมาซัก 2-3 ตลับ มันดีมากชริงๆ *ปาดน้ำตาปิติ


ครั้งนี้มา อัดเนื้อหาแบบจัดเต็มจริงๆ (วาดก็จัดเต็ม) ใช้เวลาไปพอสมควร
ของทั้งหมดเป็นของที่ใช้เอง ซื้อเอง เจ็บเอง และหลงรักเองอย่างหมดหัวใจ
ของบางอย่างอาจจะถูกกับจอยแต่ไม่ถูกกับบางคนก็ได้
ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความชอบของแต่ละคนนะคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์(และกิเลส) ให้เพื่อนๆทุกคนนะคะ

แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าจ้า
loveberry joyjee 'blog




Create Date : 30 มกราคม 2559
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 14:57:18 น.
Counter : 1736 Pageviews.

0 comment
[แนะนำ] App เกร๋ๆที่ช่วย Organize คลังเครื่องสำอางของสาวๆ
สวัสดีค้า จอยค่ะ
กลับมาวันนี้ ไม่ได้มาแชร์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ใดๆ
แต่จะมาแชร์ Beauty Application เจ๋งๆ ที่จอยเพิ่งไปค้นพบมา
นั่นก็คือ myBeautyCache ค้า
ขออภัยสาวๆ เพราะมันไม่ใช่ free app แต่ราคาประมาณ 2.99$ หรือแค่ประมาณ 110 บาทเท่านั้น
ซึ่งจอยคิดว่ามันคุ้มค่ามาก ถ้าทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น ปวดหัวน้อยลง
และลดความเสี่ยงการใช้เครื่องสำอางหมดอายุ
สาวๆที่มีเครื่องสำอางไม่กี่ชิ้นคงคิดว่า เฮอะ app นี่ฟังดูสิ้นเปลืองสำหรับชั้น
แต่สำหรับสาวๆที่ช้อปปิ้งแบบ non-stop เก็บทุก collection และเสียทรัพย์ทุกๆฤดู
มารู้ตัวอีกที คลังแสงของก็เยอะจนจำแทบไม่หมดแล้ว ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
แต่รู้หรือไม่ว่าอากาศร้อนๆบ้านเรา มันทำให้เครื่องสำอางเสียง่ายกว่าประเทศหนาวๆ
เห็นบล็อกเกอร์ต่างประเทศมีคอลเล็กชั่นสะสมอยู่เป็นตู้ๆ เอาจริงจอยก็แอบคิดนะ
ว่ามีเยอะขนาดนั้น เชื่อว่าใช้ไม่ทันวันหมดอายุแน่นอน!
วันเวลาเดี๋ยวนี้มันก็ผ่านไปเร็วเหลือเกิน แป๊ปๆก็เดือน แป๊ปๆก็ปี
จอยมีเครื่องสำอางที่เก็บไว้เกิน 3 ปีแล้วยังรู้สึกเหมือนกับเพิ่งเปิดใช้ได้ไม่กี่เดือนเองด้วยซ้ำ
นอกจากเครื่องสำอาง skin care ก็เป็นอีกอย่างที่เราควรให้ความสำคัญกับวันหมดอายุ
ปกติจอยจะชอบเขียนวันหมดอายุไว้ข้างขวด แต่ก็ลืมบ้าง เลือนบ้าง สุดท้ายก็จำไม่ได้
ใช้การคาดเดาเอาเองว่า เอ่ใกล้หมดอายุรึยัง ใช่ต่อได้รึเปล่านะ สุดท้ายก็ตัดใจโยนทิ้ง
เพราะกลัวหน้าพัง...
Cr. watchoutgorgeous.com
เครื่องสำอางจำพวกฝุ่นจอยยังไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ แต่จำพวกของเหลว หรือครีมนี่สิ
เจออากาศร้อนเข้าไป แยกตัวกันบ้างล่ะ มีกลิ่นบ้างล่ะ ยังไงก็ต้องหมั่นเช็คดูบ่อยๆ
เชื่อว่าสาวๆต้องเคยเจอปัญหาเหล่านี้แน่นอน
มาเข้าเรื่อง app ที่จอยเอามาแชร์สาวๆทุกคนดีกว่า
จอยพยายามหาโหลด app ที่จะช่วยเก็บรายชื่อเครื่องสำอางที่เรามีอยู่
ลองโหลดตัวฟรีมาลองใช้ สุดท้ายมันก็ล็อคและให้เราจ่ายเงินเพิ่มอยู่ดี
จนสุดท้ายมาจบที่ myBeautyCache ซึ่งจอยดูฟังก์ชั่นของมันแล้ว
ทำได้หลากหลายและคุ้มค่ามากทีเดียว
ไปดูหน้าตา app กันเลย
เข้ามาที่หน้าเมนูแรก จะเห็นว่ามีตัวเลือกให้เราหลากหลายมากๆ
หลักๆเลยเราจะเข้าที่ Product เพื่อนดูลิสต์รายการเครื่องสำอางทั้งหมด
นอกจากนั้นยังสามารถ add product ใน shopping list เพื่อลิสต์รายการสิ่งที่เราอยากได้ไว้
ที่สำคัญ app นี้ยังคำนวนรายจ่ายเครื่องสำอางที่เรา spend ออกไปทั้งหมดให้ดูด้วย
(ตาแตกกันไปเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่าเราจ่ายไปทั้งหมดเท่าไหร่)
ถือว่าจะช่วยคุมรายจ่ายในแต่ละเดือนได้ ...รึเปล่านะ 5555+
หน้า product ซึ่งจะเรียงตามตัวอักษรของชื่อ product ที่เราใส่ไว้ สามารถเสิจหาได้
วิธีการเพิ่มเครื่องสำอางลงไปคือ เราแค่ถ่ายรูปเครื่องสำอาง add รายละเอียดต่างๆ
เช่นชื่อ ราคา สี วันที่เปิดใช้และวันหมดอายุลงไป แล้วกดบันทึกไว้ แค่นั้นเอง
เมื่อถึงเวลาที่มีของชิ้นไหมหมดอายุ มันก็จะไปขึ้นเตือนในเมนู Expired Product แล้ว
มันง่ายมากๆเลย ชิบ้ะ~
Tip* เวลาถ่ายรูป จอยจะใช้การ swatch สีให้เห็นกันจะๆไปเลย
เราสามารถเลือกให้มันเรียงลำดับในรูปแบบอื่นๆได้ เช่นเรียงจากชื่อแบรนด์
เรียงจากสี เรียงจากประเภท หรือแม้กระทั่งเรียงจากวันใกล้หมดอายุ
ซึ่งทำให้เราสามารถเห็นได้ว่าอันไหนอยู่มานาน หรืออันไหนเราเพิ่มซื้อมาใหม่
(เราจะได้เห็นเครื่องสำอางที่ใกล้จะต้องสละยานแม่ ฮือๆ)
เลือกตามประเภทของ product ก็จะเห็นเลยว่า
เรามีรองพื้นกี่อัน มีอะไรบ้าง มีไฮไลท์กี่อัน มีลิปกี่แท่ง ฯลฯ
เรายังสามารถ add รายชื่อสิ่งของที่เราใช้อยู่เป็นประจำได้ บน Beauty Routines
ทำให้เราเห็นสิ่งของที่เราชื่นชอบ และใช้บ่อยๆ
ต่อมาคือหน้าตาของ Purchase Report ที่สาวๆไม่ค่อยอยากจะกดเข้ามาดูซักเท่าไหร่
แต่คือมันก็สามารถทำให้เรารู้ว่าเรา spend เงินไปมากน้อยแค่ไหนบ้างแล้ว
เสียเงินให้กับแบรนด์ใดบ้าง หรือเดือนนี้เราใช้เงินไปเท่าไหร่
แล้วปีนึงเราเสียงเงินไปเท่าไหร่ (จ๊าก!)
สำหรับจอยคิดแล้วว่าโอเคมากๆ สำหรับ app นี้
อาจจะลำบากนั่งไล่ add ในช่วงแรกๆ แต่พอทุกอย่างลงตัว
เราก็ได้มีคอลเล็กชั่นเครื่องสำอางเล็กๆ และตัวช่วยบอกเวลาหมดอายุของเครื่องสำอาง
ไม่ต้องมานั่งปวดหัวจำวันเวลา และไม่เสี่ยงต่อการใช้เครื่องสำอางหมดอายุอีกจ้า

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ (ผู้กรุเครื่องสำอางล้นตู้)
พบกันใหม่กระทู้หน้า แล้วเจอกันค้า
loveberry joyjee 'blog 



Create Date : 19 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 14:59:21 น.
Counter : 1954 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

LoveBerryJoyJee
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]



loveberry joyjee
See my Art work, Graphic Design