| All Blog
|
[Review] Chao Nang perfect bright UV 2 way power foundation SPF20/PA+++
สวัสดีค่า จอยเองค่ะ วันนี้จอยจะมารีวิวแป้งตัวใหม่ที่จอยได้ลองใช้มาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วรู้สึกว่าแป้งเค้าดีจริงๆ ซึ่งก็คือ แป้งพัฟเจ้านาง นั่นเอง เป็นแบรนด์แป้งของคนไทยเรานี่เองค่ะ Chao Nang perfect bright UV 2 way power foundation SPF20/PA+++ (10g/399baht)
ตัวแป้งมีอยู่ด้วยกัน 2 สี ได้แก่ 01 สำหรับผิวขาว และ 02 สำหรับผิวสองสี ซึ่งเบอร์ 01 จะออกขาวอมชมพู และ 02 จะเน้นไปทางโทนเหลืองอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเบอร์ 01 เข้ากับผิวมากกว่า แต่ปัดย้ำหนักๆก็ทำให้หน้าวอกได้ ดังนั้นเลยปัดผสมคู่กับเบอร์ 02 ค่ะ ออกมาเนียนสวยกำลังดีเลย
เทคนิกในการใช้แป้งอัดแข็ง จอยจะแนะนำการใช้แปรงปัดเบาๆทั่วหน้า มากกว่าการใช้ฟองน้ำกดย้ำทั้งหน้าค่ะ เพราะจะได้ลุคที่เนียนใสและบางเบามากกว่า ส่วนบริเวณที่ต้องการเน้นการปกปิด เช่นรอยสิว จุดด่างดำ เน้นเป็นการใช้ฟองน้ำกดย้ำๆ ที่จุดนั้นก็พอค่ะ มาลองเทสลงบนผิวหน้ากันค่ะ (ฺ Before&After )
ระดับการปกปิดค่อนข้างดี แต่รอยสิวหนักๆก็ยังพอเห็นอยู่ ปิดพวกรอยแดงรอยกระได้สนิท
ผลจากการทดลองใช้ สำหรับจอยนะคะ มันคือแป้งที่เนียนมากกก ปกปิดได้ดี (แต่ถ้าย้ำหนักมากๆจะแอบหนา และวอกเล็กน้อย) ปิดรอยแดงระหว่างคิ้วจอยได้สนิท รวมทั้งรอยด่างดำบริเวณแก้ม ส่วนรอยสิวใหญ่ๆหนักๆ ยังพอเห็นอยู่บ้างค่ะ แต่ความเนียนคือเนียนจริงอะไรจริงค่ะ และสิ่งที่ดีอีกอย่างนึง คือมันไม่เป็นคราบ จอยชอบช่วงตอนที่มันเซ็ตเข้ากับผิว พอเหงื่อออกแล้วหน้าจะฉ่ำๆ สวยกำลังดี ไม่มีคราบ เนื้อแป้งละเอียด ไม่มีกลิ่นของน้ำหอม สำหรับคนที่กังวลเรื่องแพ้ ก็หายห่วงได้เลยค่ะ คือลองใช้แล้วไม่มีอาการแพ้หรืออุดตันเลย แป้งตัวนี้ไม่ค่อยคุมความมันสำหรับจอยค่ะ เนียนอยู่ซัก 3-4 ชม. แล้วจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นลุคดิวอี้ ในเวลาต่อมา
( ผิวชัดๆจากการแต่งหน้าตอน 8 โมง ไปทำงาน และกลับมาถึงบ้านตอน 2 ทุ่ม สิริรวม 12ชม.เต็มๆ) ผิวยังสวยงาม แป้งเลือนไปบ้าง ผิวฉ่ำมีความมัน แต่ไม่เป็นคราบ ใครที่ชอบแป้งควบคุมความมัน อาจจะต้องมองหาตัวอื่นต่อไปนะคะ แต่สำหรับจอย ถือว่าโอเคในระดับนึงทีเดียว ซึ่งเทียบกับราคาของแป้งแล้วคือคุ้มค่ะ (ตลับละ 399บาท) จอยยังมี Clip VDO สำหรับใครที่อยากดูเนื้อผลิตภัณฑ์ชัดๆ และขั้นตอนการใช้แป้งตลับนี้นะคะ :)) จิ้มเข้าไปดูกันได้เลยยยย มีจำหน่ายที่ เฟสบุ้ค Chaonangthailand https://www.facebook.com/chaonangthailand
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่เล็งๆ หาซื้อพัฟใหม่ ที่ดีแถมราคาไม่ทำร้ายกระเป๋าตังค์ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า แล้วพบกันใหม่กระทู้น้า love berry joyjee blog
Ettusais Herbal UV Milk SPF 30+ PA+++ กันแดดก็ได้ กันยุงก็ดี
สวัสดีค่า จอยเองค่ะ เมื่อกี้มีความเศร้า นั่งเขียนบล็อกเสร็จ แล้วดันกดปิด บึ้ม ทุกสิ่งหาย... ต้องมาเริ่มใหม่อีกรอบ ฮือๆ ../ดราม่าเฉย/.. เอาล่ะค่ะ มาเริ่มกันใหม่อีกรอบ (ฮา) จากบทความที่แล้ว จอยรีวิวตัว Ettusais Herbal UV spray ไป หากใครสนใจสามารถจิ้มลิ้งนี้ไปดูรีวิวได้เลยจ้า ซึ่งตัวต่อมาที่จอยกำลังจะรีวิวต่อไปนี้ ออกมาพร้อมๆกับรุ่นตัวสเปรย์เลยค่ะ นั่นก็คือ Ettusais Herbal UV Milk SPF 30+ PA+++ (130ml /650฿ )  คุณสมบัติเด่นของมัน จะเหมือนกับรุ่นสเปรย์ทุกประการ ยกเว้นค่า SPF ที่จะมีต่ำกว่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่จอยชอบสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ คือมันได้รวมเอาทุกๆ สิ่งเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กันแดด บำรุงผิว และกลิ่นกันยุง แบบว่า ทาครั้งเดียว ได้ทุกอย่าง ช่างเหมาะกับชีวิตอันเร่งรีบของสาวๆยุคนี้จริงๆ (แค่ครีมบำรุง บางครั้งยังรีบจนไม่มีเวลาจะทาเลย)   ลักษณะขวดฝาปั้ม ใช้งานสะดวกมากๆ มาพร้อมที่ล็อดหัวปั้ม ป้องกันการหกเลอะเทอะ สามารถพกพาไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ สังเกตุดีๆ จะเห็นประโยคที่ติดอยู่ข้างขวด "สารสกัดของคาโมมายและโรสแมรี่ เก็บเกี่ยวจากฟาร์มของ ettusais โดยไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง" ดังนั้นเราจึงรู้ว่าสารสกัดภายในขวดนี้จะต้องปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผิว ของเราอย่างแน่นอน มีส่วนผสมของส่วนผสมของเจอร์ราเนียม พืชที่ยุงและแมลงไม่ชอบกลิ่น จึงช่วยป้องกันยุงและแมลง ไม่มีสารแต่งสี ไม่มีน้ำมัน ไม่มีสารกันบูด ไม่มีพาราเบน ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน มีความอ่อนโยนมากๆ สามารถใช้ได้สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป แน่นอนว่าสามารถใช้ได้กับผิวหน้า รวมทั้งผิวกาย ซึ่งมันดีมากกกกก!!!! คือเวลาไปที่ยุงเยอะๆ แล้วต้องเอายากันยุงมาแปะๆป้ายๆหน้าตัวเอง คือกลัวยุงก็กลัว กลัวสิวก็กลัว จะแพ้ไหมเนี่ย พอมีผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จอยสบายละ ทาหน้าได้แน่นอน ปลอยภัย ปลอดยุง ~ เอ๊อ เอาสิ! ดีอะไรเบอร์นี้ มาเทสเนื้อผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆกันเล้ยย    อย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือกลิ่น หอมมากๆ คือกลิ่นดีกว่ากลิ่นยากันยุงทั่วไปมากๆ คือถ้าเราทายากันยุง แล้วเดินไปเจอเพื่อนๆ ทุกคนก็จะสามารถรับรู้ได้ทันทีเลยว่า อีนี่ทายากันยุงมา ซึ่งเป็นความช้ำใจเล็กๆของจอยมาตลอด // แต่ก็ต้องทาแงะ ดีกว่ายอมโดนยุงกัด กลิ่นหอมแรกๆจะแรงหน่อย พอทิ้งไว้ซักพักกลิ่นจะเริ่มจางลง เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นลักษณะน้ำนมสีขาว เกลี่ยง่ายและลื่นมากๆ ไม่เหนี่ยมเหนอะหน่ะ เมื่อเซ็ตเข้าสู่ผิวแล้ว จะไม่ทิ้งความมันเอาไว้เลย แต่ยังให้ความรู้สึกชุ่มชื่นผิว (เทียบกับตัวสเปรย์ จอยว่าสเปรย์ยังทิ้งความมันไว้มากกว่า) ถึงแม้ค่า SPF จะน้อยกว่าแบบสเปรย์ แต่ถ้าเราทาปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ใช้น้อยเกินไป หรือมากจนเกินไป ก็จะได้ประสิทธิภาพของการป้องกันแสงแดดที่ดีไม่แพ้กันค่ะ หรือจะทาซ้ำทุกๆ 4 ชม. ก็จะยิ่งทำให้ช่วยกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน (แต่ถามว่าทำไหม?... จอยว่าน้อยคนที่ทากันแดดซ้ำระหว่างวัน) สรุปแล้วตัวนี้จอยก็ชอบมากๆเลย ชอบความสารพัดประโยชน์ของตัวครีม กลิ่นหอม ทาง่าย ไม่เหนียวเหนอะน่ะ อ่อนโยนต่อผิว ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์มากๆ เผื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับใครที่กำลังหาผลิตภัณฑ์กันแดดในช่วงหน้าฝนนี้นะคะ คือมีดีงามมากชริงๆ <3 ใครสนใจลองไปหามาเล่นกันดูได้เลย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ ettusais ทุกสาขาค่ะ หรือที่ //www.ettusais.in.th เลยจ้า แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้านะคะ เย้!  *This Product sponsored by Revu*  Ettusais Herbal UV spray SPF 50+ PA++++ สุดยอดสเปรย์ในฝัน
สวัสดีค่า จอยเองค่ะ วันนี้จอยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่จอยปลื้มม๊ากกกกก ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว อากาศร้อนๆชื้นๆ แถมอบอ้าวอีก และแน่นอน คำว่าฝนและน้ำขัง ฤดูนี้จอยเกลียดพอๆกับหน้าร้อน เพราะมันทำให้ยุงเพิ่มปริมาณขึ้นมาอย่างน่าตบๆๆๆ และถ้าใครประสบปัญหา 'แพ้ยุง' แล้วล่ะก็ คงจะต้องหลงรักเจ้าตัวนี้เหมือนกันจอยแน่นอน นั่นก็คือ Ettusais Herbal UV spray SPF 50+ PA++++ (70g / 580 บาท)  มันคือความดีงามที่รวมเอาคุณสมบัติ การกัดแดด และ กันยุงเข้าด้วยกัน โอ้ย มันคือความดีงามมม คือเราควรพบเจอกันเร็วกว่านี้ และด้วยความที่เป็นสเปรย์ ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากๆ ฉีดครั้งเดียวได้ถึง 2 ประหยัดเงินและเวลาไปอี๊กกก!  ขวดสเปรย์สีเขียวมิ้นต์ ขนาดกำลังพอดีมือ จับง่าย สามารถฉีดได้แม้คว่ำขวดก็ตาม (ซึ่งสเปรย์ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นทำออกมาในลักษณะนี้ทั้งนั้น) มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF 50+ PA++++ ซึ่งสูงพอจะต่อกรกับแดดบ้านเราแน่นอน สำหรับคนที่ขี้เกียจทากันแดดตัวนะคะ จอยอยากแนะนำสเปรย์กันแดดมากกกกกก เพราะใช้ง่าย ไม่ต้องเลอะมือ ทากันเถอะนะคะกันแดด เพื่อสุขภาพผิวที่ดีของเรา นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากเจอร์ราเนียม ซึ่งเป็นกลิ่นที่ยุงและแมลงเกลียด (แต่ชั้นรัก โฮ๊ะๆๆ ...ไปไกลๆซะเจ้ายุง ชิ้วๆๆ) นอกจากนั้น ทางแบรนด์ยังเคลมส่วนผสมต่างๆที่ดีต่อผิวอีกดังนี้ ส่วนผสมบำรุงผิวจากพืชธรรมชาติจากฟาร์มเอต์ตูเซ่ส์ คาโมไมล์ โรสแมรี่ ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นและบำรุงจาก ไฮยาลูโรนิค และกลีเซอรีน ส่วนผสมแร่ธาตุจากแหล่งน้ำพุร้อนทัสคานี อิตาลี อันเลื่องชื่อ เราไปดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันเลยดีกว่า วิธีการใช้ คือฉีดห่างจากตัวประมาณ 1 ฟุต หรือ 1 ไม้บรรทัด ไม่ฉีดใกล้หรือไกลไป เพราะจะทำให้ได้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่    เนื้อผลิตภัณฑ์ใส ไม่มีสี ไม่ทิ้งคราบ มีความชุ่มชื่น เมื่อสเปรย์ลงบนผิว ต้องเกลี่ยเล็กน้อย เมื่อผลิตภัณฑ์เซตเข้าสู่ผิว จะไม่ทิ้งความมันเหนอะหน่ะ ได้ผิวที่ชุ่มชื่น พร้อมการปกป้องจากแสงแดดและยุง/แมลง ได้กลิ่นหอมๆทันที กลิ่นไม่ถึงกับแรงมาก แต่ก็พอได้กลิ่นโดยไม่ต้องเอามือใกล้จมูก จอยว่ากลิ่นนี้โอเคนะ (ดีกว่ากลิ่นตะไคร้) ตั้งแต่ลองฉีดมาก็ยังไม่โดนยุงกัดเลย แสดงว่าน่าจะได้ผลอยู่ (เย้!) นอกจากนั้นแบรนด์ยังเคลมว่า เป็นสูตรอ่อนโยน ที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย และผม หรือแม้กระทั่งใช้ได้กับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป เป็นสูตรกันน้ำและกันเหงื่อ สามารถใช้ได้ทุกวัน และล้างออกง่ายด้วยสบู่ สรุปแล้วชอบมากๆ โดนใจตั้งแต่ที่กันแดดและกันยุง แถมเป็นสเปรย์อีกต่างหาก ใครสนใจลองไปหามาเล่นกันดูได้เลย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เคาน์เตอร์ ettusais ทุกสาขาค่ะ หรือที่ //www.ettusais.in.th เลยจ้า สำหรับใครที่สนใจ จอยมีอีกรุ่นนึงที่กำลังจะทำรีวิวตามมา ซึ่งก็คือ Ettusais Herbal UV milk SPF30 PA+++ รอติดตามรีวิวได้เลย :)))  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า แล้วเจอกันค่ะ *This Product sponsored by Revu*  [Haul+แจก] Jill Stuart Layer Blush Compact บลัชออนที่เลอค่ามากกกกกก
สวัสดีค่า จอยเองค่ะ ช่วงนี้รีวิวเครื่องสำอาง Jill Stuart รัวๆ เพราะว่าหลงรักขนาดหนัก!! สำหรับบความที่แล้ว จอยรีวิวเครื่องสำอางของจิลไปหลายตัวมากๆ ใครที่ยังไม่ได้ดู แวะจิ้มไปดูก่อนได้เลยน้า ส่วนบทความนี้ จอยจะมารีวิวเน้นๆ ในส่วนของ Layer Blush Compact ทั้งหมด 6 สีด้วยกัน บอกเลยว่าสวยมากกกก มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ ชั้นต้องไปเหมามาให้ครบทุกสี    บลัชออนรุ่นนี้ จะเข้ามาขายในไทยทั้งหมด 6 สีด้วยกันค่ะ ได้แก่ JILL STUART Layer Blush Compact #01 baby berry JILL STUART Layer Blush Compact #02 pop sorbet JILL STUART Layer Blush Compact #03 relax smile JILL STUART Layer Blush Compact #04 juicy tint JILL STUART Layer Blush Compact #06 old rose JILL STUART Layer Blush Compact #07 fringe flower ( มีใครทันสังเกตบ้าง ว่าเบอร์ 05 หายไป ไม่เข้าไทยนะแจ้ะ ) สนนราคาอยู่ที่ ตลับละ 1,650 บาทถ้วน (ราคาทำร้ายจิตใจพอสมควร ฮือๆ) สำหรับบลัชออนรุ่นนี้ จะมีความวาวฉ่ำมากกว่า รุ่น mix blush compact N ซึ่งตอบโจทย์สำหรับสาวผิวแห้งมากๆ (ความปลื้มส่วนตัวเลย) คือไม่มีชิมเมอร์เป็นเม็ดๆ แต่จะวาวด้วยเนื้อของมันเอง บลัชออนแบบ 4 สีในตลับเดียว สามารถเพิ่มลูกเล่นในการปัดได้ โดยที่เราเน้น ปัดสีใดสีหนึ่งขึ้นมาก็ได้ หรือจะปัดรวมๆก็จะเกิดเป็นสีใหม่ขึ้นมา ออกแบบได้ดั่งใจชอบเลย สีไฮไลท์ด้านซ้ายบน ก็สามารถเอาไปไล้บริเวณที่เราต้องการได้ เกร๋ๆ ตอนใช้แปรงปัดลงไป ไม่จิกเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมามากเกิน คือไม่ทำให้เกิดผงกระจายไปรอบๆ แต่จากที่จอยสังเกตุดู พอใช้ไปซักพักคือมันยุบลงไปค่อนข้างเร็ว ถ้าเทียบกับบลัชออนของ Nars หรือ M.a.c (หรือเพราะชั้นหยิบมันขึ้นมาใช้บ่อยโดยไม่รู้ตัว?) เนื้อเนียนละเอียดมากๆ สัมผัสนุ่มมือ และลื่นๆ ปัดแล้วฟินเฟร่อ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งถ้าใครชอบกลิ่นนี้ จะรักแบรนด์นี้เหมือนจอย เพราะเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของเค้าเลย ใช้กับแทบทุกผลิตภัณฑ์ มาพูดถึงเรื่องความติดทน สำหรับรุ่นนี้จอยว่าติดทนค่อนข้างดีกว่ารุ่น mix blush คงเพราะด้วยความที่มันให้ความรู้สึกคล้ายกับ cream blush มากกว่า เลยยึดติดกับผิวได้ดีกว่าบลัชออนแบบแป้ง คือสีติดทนนาน หน้างี้ฉ่ำวาวไปถึงเย็น โดยไม่ต้องทัชอัพใดๆ แต่วันไหนร้อนมากๆ ช่วงเย็นๆก็จะเริ่มเห็นแล้วว่าสีค่อยๆเลือนไปพอสมควร ไม่แพ้ ไม่อุดตัน แม้จะมีส่วนผสมของน้ำหอม แต่จอยใช้แล้วไม่แพ้หรือมีสิวผดขึ้นใดๆ (คือเคยใช้ของบางยี่ห้อ ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้น ลูบแก้มนี่ เม็ดๆมาเลย) ร่ายกันซะยาว ไปดูสว้อชสีของแต่ละตลับกันดีกว่า เริ่มจากสีแรก JILL STUART Layer Blush Compact #01 baby berry   สีชมพูนมๆ สีนี้ไปตำมาตอนไปเที่ยวฮ่องกง ใช้มาได้ประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว ลายบนตัวบลัชเลือนไปนิดหน่อย ยังพอเหลือเค้าอยู่บ้าง สีนี้ออกโทนชมพูใสๆ ชมพูนม ชมพูแบ้ว เอาเป็นว่า อยากหน้าเด็กลงจัดสีนี้โล้ดดด JILL STUART Layer Blush Compact #02 pop sorbet   เพิ่มดีกรีความส้มมาอีกซักเล็กน้อย สีนี้ก็เป็นอีกสีนึงที่จอยสวยมา อันนี้น่าจะโดนมาจากญี่ปุ่น พอมีสีชมพูแล้ว ก็เริ่มอยากได้สีโทนอื่นบ้าง ส้มๆติ่งชมพูๆแบบนี้นี่แหละ ลองจัดมาก็ไม่ผิดหวัง JILL STUART Layer Blush Compact #03 relax smile   สีนี้เปิดมาแทบกรี้ส นี่มันคือสีที่ชอบมากๆ มีทั้งชมพูอ่อน ชมพูเข้ม และก็ส้มพีชๆในลับเดียวกัน สำหรับใครที่เล็งอยู่ ไม่รู้จะเริ่มที่ตลับไหนดี จอยเชียร์ตลับนี้สุดใจ JILL STUART Layer Blush Compact #04 juicy tint   ความส้มจี๊ดจ๊าด คราวนี้มาแบบส้มเต็มๆ แต่ยังเป็นส้มที่มีความแบ้วๆใสๆอยู่ ใครเบื่อบลัชออนโทนชมพู อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง สีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ JILL STUART Layer Blush Compact #06 old rose   สีนี้มีความพิเศษกว่าสีอื่นๆหน่อย เพราะดึงเอาสีเอิร์ธโทนมาใช้ คือน้ำตาลตุ่นๆ แต่ปัดมาโดยรวมแล้วยังดูใสๆน่ารัก ดูสุภาพเรียบร้อย เอาจริงจอยลองปาดมันดูคู่กับบลัช Nars Orgasm พบว่ามันมีความคล้ายๆกันอยู่ ! แต่สี Nars จะดูตุ่นกว่าเล็กน้อย ของ Jill จะสดใสกว่า และทั้งคู่จะมีสีทองเหลือบๆเหมือนกันเด้ะ มากันที่สีสุดท้าย JILL STUART Layer Blush Compact #07 fringe flower   สีนี้บอกเลยว่ามันเตะตามากกก เพราะเค้าจับคู่เอาไฮไลท์ที่สว่างที่สุด มาอยู่คู่กับ สีชมพูที่เข้มมากที่สุด เกิดความ contrast อย่างแรง จนเราก็รู้สึกแบบว่า เออมันเกร๋อ่ะ จนจอยเลือกสีนี้แหละ มาลองปัดบนแก้มให้ได้ลองดูกัน  ครบหมดทุกสีแล้ววว เย้ๆๆ ใครเบื่อภาพนิ่ง อยากดูภาพเคลื่อนไหวแบบมีเพลงประกอบชิวๆ ก็แวะมาส่องกันได้เลย และเนื่องจากจอยมีบลัชออนสีที่ได้มาซ้ำกับที่จอยซื้อมาเองอยู่แล้ว ดังนั้นจอยเลยเอาบลัชออนที่ได้มาแบ่งเพื่อนๆ ให้ได้ลองกัน ฮุฮุ รายละเอียดอยู่ในคลิป Youtube VDO นะจ้าา หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อบลัชออนอยู่นะค่า แล้วพบกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ^^ |
LoveBerryJoyJee
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?] loveberry joyjee
 |
